จริงๆก็ดูไปตั้งแต่คืนวันพุธ แล้ว
โดยส่วนตัว ถามว่าชอบมั้ย? ก็ชอบ แต่ก็รู้สึกหนังไม่ได้เพอเฟค
ก็คิดอยู่ว่าจะชวนดูยังไงแบบไม่ให้ ตั้งความคาดหวังสูงเกินไป
ก็เลยอยากให้ชวนให้ตระหนักก่อนว่า
1.หนังเรื่องนี้ สร้างจากการ์ตูนcomic ที่พิมพ์มาเมื่อ60ปีก่อน
เบซง ผู้กำกับอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ
ดังนั้น เนื้อเรื่องจะไม่เข้มข้นปรัชญาลึกซึ้งเท่าไหร่
2. แต่ฉาก
อลังการงานสร้าง ถ้าอยากเสพส่วนนี้ ควรไปดูอย่างยิ่ง***
จากที่เคยดู fifth Element ก็พอเข้าใจได้ครับ ว่า valerian น่าจะมีอิทธิพล เป็นแรงบันดาลใจต่อแกอย่างมาก
ที่แกพึ่งมาทำ เพราะว่า ต้องรอให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำมากพอ ที่จะสร้างตัวละครต่างดาวต่างๆ ที่แสดงบุคลิกได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง
โดยส่วนตัวกับเนื้อเรื่อง ผมค่อนข้างชอบ fifth element มากกว่า
เอาง่ายๆ แค่พระเอก วาเลเรียน ก็คือ ผู้ชายขี้เก๊ก หลงตัวเอง ไม่ใช่วีรบุรุษเต็มขั้นในหนังมหากาพย์อยู่แล้ว
(อารมณ์เหมือน ซาเอบะ เรียว ใน city hunter)
แต่กระนั้น บทหนังก็สนุก ครบรส มีบู๊มันส์ๆ+มุมโรแมนติกหน่อยๆ
แอบขัดใจที่หนังยาว 2 ชม. กว่า แต่ก็รับได้ว่า แกจัดฉากอลังให้ดูอย่างต่อเนื่อง
จะมาเนือยๆ ก็ตอนท้ายๆละ (หักคะแนนตรงนี้)
โดยส่วนตัว ผมมองว่า ใครที่เป็นสาวกของเบซง น่าจะลองไปดูนะครับ
เพราะแก ก็ทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้มาก ในฐานะ
เรื่องบันดาลใจวัยเด็ก
แบบคนที่คลั่งไคล้ เซเลอร์มูน เซนต์เซย่า ดราก้อนบอล โดราเอม่อน
แม้ว่า บทจะตื้นๆ แต่ก็เป็นความทรงจำ ที่จะรีเมคกี่ครั้ง ก็ยังติดตามอยู่เสมอ
(รีวิว)Valerian and the City of a Thousand Planets : ผู้กองหน้าม่อ กับนครพันดารา (8/10) (No Spoil)
โดยส่วนตัว ถามว่าชอบมั้ย? ก็ชอบ แต่ก็รู้สึกหนังไม่ได้เพอเฟค
ก็คิดอยู่ว่าจะชวนดูยังไงแบบไม่ให้ ตั้งความคาดหวังสูงเกินไป
ก็เลยอยากให้ชวนให้ตระหนักก่อนว่า
1.หนังเรื่องนี้ สร้างจากการ์ตูนcomic ที่พิมพ์มาเมื่อ60ปีก่อน
เบซง ผู้กำกับอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ
ดังนั้น เนื้อเรื่องจะไม่เข้มข้นปรัชญาลึกซึ้งเท่าไหร่
2. แต่ฉาก อลังการงานสร้าง ถ้าอยากเสพส่วนนี้ ควรไปดูอย่างยิ่ง***
จากที่เคยดู fifth Element ก็พอเข้าใจได้ครับ ว่า valerian น่าจะมีอิทธิพล เป็นแรงบันดาลใจต่อแกอย่างมาก
ที่แกพึ่งมาทำ เพราะว่า ต้องรอให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำมากพอ ที่จะสร้างตัวละครต่างดาวต่างๆ ที่แสดงบุคลิกได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง
โดยส่วนตัวกับเนื้อเรื่อง ผมค่อนข้างชอบ fifth element มากกว่า
เอาง่ายๆ แค่พระเอก วาเลเรียน ก็คือ ผู้ชายขี้เก๊ก หลงตัวเอง ไม่ใช่วีรบุรุษเต็มขั้นในหนังมหากาพย์อยู่แล้ว
(อารมณ์เหมือน ซาเอบะ เรียว ใน city hunter)
แต่กระนั้น บทหนังก็สนุก ครบรส มีบู๊มันส์ๆ+มุมโรแมนติกหน่อยๆ
แอบขัดใจที่หนังยาว 2 ชม. กว่า แต่ก็รับได้ว่า แกจัดฉากอลังให้ดูอย่างต่อเนื่อง
จะมาเนือยๆ ก็ตอนท้ายๆละ (หักคะแนนตรงนี้)
โดยส่วนตัว ผมมองว่า ใครที่เป็นสาวกของเบซง น่าจะลองไปดูนะครับ
เพราะแก ก็ทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้มาก ในฐานะเรื่องบันดาลใจวัยเด็ก
แบบคนที่คลั่งไคล้ เซเลอร์มูน เซนต์เซย่า ดราก้อนบอล โดราเอม่อน
แม้ว่า บทจะตื้นๆ แต่ก็เป็นความทรงจำ ที่จะรีเมคกี่ครั้ง ก็ยังติดตามอยู่เสมอ