สวัสดีค่ะพี่ๆ ชาวพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลยค่ะ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยไว้ก่อนนะคะ
เราอยากจะมาเล่าเรื่อง แรงบันดาลของเราเพื่อเป็นกำลังใจในแง่บวกให้กับทุกคนนะคะ อาชีพของเราคือLandscape design ( ออกแบบจัดสวน ) มีบริษัทเป็นของเราเองค่ะ ไอเดียนี้มันเริ่มจากเราเห็นพื้นที่ของบ้าน ซึ่งค่อนข้างมีเนื้อที่ค่ะในส่วนตัวเราอยากที่จะออกแบบพื้นที่ให้มันสามารถสร้างธุรกิจที่มันลิงค์กันกับอาชีพของเราค่ะ ความฝันที่ 1 คือ อยากมีร้านต้นไม้ และพื้นที่ส่วนการเรียนรู้ของเด็กๆ เพราะเรามีลูกชาย 1 คน อายุเกือบ 5 ขวบแล้วค่ะ ณ.ปัจจุบัน บ้านเรามีพื้นที่ร่มรื่นค่ะติดคลองเลยเลยชวนกลุ่มผู้ปกครองและเพื่อนๆ มาเล่นและทานอาหารง่ายๆกันที่บ้านวันเสาร์ อาทิตย์ค่ะ
ลูกชายเราชอบเล่นพื้นที่นอกบ้านค่ะ ชอบเล่นดินเล่นทราย เราปลูกฝังให้มีความรักต้นไม้ธรรมชาติค่ะ
กระบะทรายที่เล่นประจำของเขาเลยค่ะ
ฝึกความรักต้นไม้
ให้อยู่กับธรรมชาติกันไป
ความฝันที่ 2 คือมีร้านคาเฟ่เล็กๆเพื่อมีอาหาร มันจะได้ดูครบวงจรเวลามีน้องๆมาเล่นที่นี่และเวลามีลูกค้ามาซื้อต้นไม้ เราก็มีแรงใจจากงานภาพต่างประเทศอ่ะค่ะ แต่พอไปๆมาๆ ฝันที่ 2 เกิดก่อนเลยค่ะ เนื่องจากคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าจะมีรายได้เข้ามาก่อน และ เป็นที่นั่งคุยงานค่ะ.....
.... แต่ความฝันและความเป็นจริงมันไม่ได้ราบเรียบและสวยหรูเลยค่ะ เนื่องจากปัจจัยของเราได้มาจากงานสวนพอเหลือก็นำมาลงทุนทำร้านค่ะ
ซึ่งมันเหนื่อยมากค่ะ เราใช้ระยะเวลาทำ 1 ปีครึ่ง ทำกันเองแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เริ่มจากพื้นที่เดิมเราเคยคิดจะทำออฟฟิตจัดสวนต้องนี้ค่ะ เลยมีโครงเหล็กและส่วนหลังคาขึ้นมาแล้วแต่มันถูกปล่อยให้โทรมมานานเพราะเราไปตั้งออฟฟิตที่ริมน้ำแทนค่ะ บรรยากาศการทำงานมันดีกว่าริมถนนแน่นอนค่ะ
ทิ้งร้างมา 2 -3 ปี เราก็เลยคิดว่าส่วนนี้แหละประหยัดงบไปแล้วกันเพราะมีหลังคาขึ้นอยู่แล้ว
แล้วเราก็ในเวลาในการทำในเรื่องที่ถนัดก่อนเลยคือ การเริ่มลงต้นไม้ เพราะลงแล้วพอร้านเสร็จมันจะสวยฟูค่ะ
ด้วยความเป็น Landscape Design เราจัดเต็มเรื่องสไตล์ของงานสวนที่เราชอบสิคะ ( อันนี้สามีเป็นคนออกแบบไว้ในหัวเลยค่ะ ) ว่าออกมามันจะเป็นสไตล์ไหน เวลาเขาไปในที่ต่างๆ เขาจะชอบ (แอบ)ไปซื้อต้นไม้เก็บๆ ไว้ค่ะ เขาขอบต้นไม้ที่ทรงแปลกๆ หายากๆ ไม่ซ้ำใคร โอกาสที่เขามีมากที่สุด คือต้ได้ไปจัดสวนที่หัวหิน เพื่อนเราแนะนำค่ะว่าแถวบ้านเขา ( ปราณบุรี ) มีต้นไม้แปลกที่เขาอยากได้พอดี....@@ โชคเขาข้าง เลยให้เพื่อนไปถามขอซื้อเขามาจากชาวบ้าน ( คนรู้จักของแม่เพื่อนค่ะ ) ขุดเอาเอง ยกเอาเอง @@ ได้มาสมใจค่ะ
ภูมิใจนำเสนอมากกกกกก
ต้นต่อไปเล่นใหญ่ใจต้องนิ่ง.. นิ่งเลยค่ะเรา 5555
แล้วเขาก็ไปหาเก็บๆ มาเรื่อยๆ ทีละต้น 2 ต้น จากนั้นเราก็ปั่นตังทำมาหากินในการงานของเราต่อไปสักพักค่ะ .... จะบอกว่าถ้าตังหมดเราต้องหยุดงานทำร้าน หรือ ถ้างานสวนเข้าเราก็ต้องเอาเด็กๆ ไปทำงานสวนค่ะ ฉะนั้นการทำกันเองมันยากลำบากมาก ทั้งเรื่องเงินและเวลา ผ่านจุดนี้มาเริ่มก่อกำแพงร้านทีละนิด เกิดงานงอกขึ้นมาอีกเนื่องจากพื้นปูนเดิมต่ำเกินไปต้องเทพื้นใหม่ ก็เลยต้องเทส่วนเพื่อนทั้งหมดถึงทางเดินจะได้เป็นการทำงานทีเดียว เละทีเดียว เรื่องใหญ่เขาซ้ำ นั่นคือเวลาเราเลื่อนออกไปอีก ........
ระยะเวลาผ่านไปน่าจะอีก 2 เดือนถึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นค่ะ
ในความยุ่งยากมันก็เหมือนบททดสอบความพยายามเราไปในตัวนะคะ ถามว่าท้อไม๊....ขอบอกว่ามากค่ะ เราก็เก็บหากำลังใจจากคนรอบๆ ข้างๆเอานะคะ เรื่องความเข้าใจนิหลักที่ 1 เรื่องเงินหลัก ที่ 2 เรากับสามีค่อนข้างแอบเถียงกันทุกวันค่ะ แต่เราก็มองโลกบวกไว้ก่อน งั้นเรามาแบ่งกันเลยเธอถนัดงานด้านนอกตามใจเธอ งานในร้านเดี๊ยนขอนะ ... ไม่งั้นกัดคอกันทุกวัน เพราะงานมันมีรายละเอียดมากค่ะ ถ้าเราจะทำร้านให้มีความแตกต่างจะมีความเป็นตัวเราต้องใส่ใจเข้าไปเยอะๆ ธรรมดาได้สะที่ไหนใช่ไม๊คะ วัสดุทุกอย่างเราก็ประหยัดต้นทุนเอาค่ะ ให้รัดกุมมากที่สุด แต่ไปๆๆมาๆ ไม่รู้อิท่าไหน งบเริ่มบานปลายออกไปค่อนข้างเยอะนะคะ เป็นธรรมดาของคนที่ออกแบบและทำเองค่ะ เห็นอะไรที่มันไม่เข้าตาก็เปลี่ยนมันซะ .. สาแก่ใจเลย เกินงบสิคะ
ด้วยความที่ว่าคุณสามีชอบของเก่า เลยไปหาเอาบานวงกบเก่า สั่งทำบานประตูไม้ให้มันดูสวยเด่น หาบานกระจกมือสองมาใส่ คุมธีมร้านและบรรยากาศภายนอกให้ไปด้วยกัน
มันใกล้จะถึงความเป็นจริงแล้วค่ะ มาถึงครึ่งทางแล้ว ไว้เราจะมีเขียนต่อนะคะ ตานี้ต่อต่อไปเริ่มลงรายละเอียดทางความคิดมากขึ้นค่ะ
ต้องใช้เวลาพิมพ์นิดนึงค่ะ .....ไว้จะรีบให้ไวที่สุดนะคะ ^^
พี่คนไหนอยากมีเรื่องมาแชร์ แบ่งบันได้เลยค่ะ จะได้มีพลังบวกมากขึ้นนะคะ
Prem cafe In The Garden จากแรงบันดาลใจงานสวนสู่ร้านคาเฟ่ในความฝัน : Part 1.
เราอยากจะมาเล่าเรื่อง แรงบันดาลของเราเพื่อเป็นกำลังใจในแง่บวกให้กับทุกคนนะคะ อาชีพของเราคือLandscape design ( ออกแบบจัดสวน ) มีบริษัทเป็นของเราเองค่ะ ไอเดียนี้มันเริ่มจากเราเห็นพื้นที่ของบ้าน ซึ่งค่อนข้างมีเนื้อที่ค่ะในส่วนตัวเราอยากที่จะออกแบบพื้นที่ให้มันสามารถสร้างธุรกิจที่มันลิงค์กันกับอาชีพของเราค่ะ ความฝันที่ 1 คือ อยากมีร้านต้นไม้ และพื้นที่ส่วนการเรียนรู้ของเด็กๆ เพราะเรามีลูกชาย 1 คน อายุเกือบ 5 ขวบแล้วค่ะ ณ.ปัจจุบัน บ้านเรามีพื้นที่ร่มรื่นค่ะติดคลองเลยเลยชวนกลุ่มผู้ปกครองและเพื่อนๆ มาเล่นและทานอาหารง่ายๆกันที่บ้านวันเสาร์ อาทิตย์ค่ะ
ลูกชายเราชอบเล่นพื้นที่นอกบ้านค่ะ ชอบเล่นดินเล่นทราย เราปลูกฝังให้มีความรักต้นไม้ธรรมชาติค่ะ
กระบะทรายที่เล่นประจำของเขาเลยค่ะ
ฝึกความรักต้นไม้
ให้อยู่กับธรรมชาติกันไป
ความฝันที่ 2 คือมีร้านคาเฟ่เล็กๆเพื่อมีอาหาร มันจะได้ดูครบวงจรเวลามีน้องๆมาเล่นที่นี่และเวลามีลูกค้ามาซื้อต้นไม้ เราก็มีแรงใจจากงานภาพต่างประเทศอ่ะค่ะ แต่พอไปๆมาๆ ฝันที่ 2 เกิดก่อนเลยค่ะ เนื่องจากคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าจะมีรายได้เข้ามาก่อน และ เป็นที่นั่งคุยงานค่ะ.....
.... แต่ความฝันและความเป็นจริงมันไม่ได้ราบเรียบและสวยหรูเลยค่ะ เนื่องจากปัจจัยของเราได้มาจากงานสวนพอเหลือก็นำมาลงทุนทำร้านค่ะ
ซึ่งมันเหนื่อยมากค่ะ เราใช้ระยะเวลาทำ 1 ปีครึ่ง ทำกันเองแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เริ่มจากพื้นที่เดิมเราเคยคิดจะทำออฟฟิตจัดสวนต้องนี้ค่ะ เลยมีโครงเหล็กและส่วนหลังคาขึ้นมาแล้วแต่มันถูกปล่อยให้โทรมมานานเพราะเราไปตั้งออฟฟิตที่ริมน้ำแทนค่ะ บรรยากาศการทำงานมันดีกว่าริมถนนแน่นอนค่ะ
ทิ้งร้างมา 2 -3 ปี เราก็เลยคิดว่าส่วนนี้แหละประหยัดงบไปแล้วกันเพราะมีหลังคาขึ้นอยู่แล้ว
แล้วเราก็ในเวลาในการทำในเรื่องที่ถนัดก่อนเลยคือ การเริ่มลงต้นไม้ เพราะลงแล้วพอร้านเสร็จมันจะสวยฟูค่ะ
ด้วยความเป็น Landscape Design เราจัดเต็มเรื่องสไตล์ของงานสวนที่เราชอบสิคะ ( อันนี้สามีเป็นคนออกแบบไว้ในหัวเลยค่ะ ) ว่าออกมามันจะเป็นสไตล์ไหน เวลาเขาไปในที่ต่างๆ เขาจะชอบ (แอบ)ไปซื้อต้นไม้เก็บๆ ไว้ค่ะ เขาขอบต้นไม้ที่ทรงแปลกๆ หายากๆ ไม่ซ้ำใคร โอกาสที่เขามีมากที่สุด คือต้ได้ไปจัดสวนที่หัวหิน เพื่อนเราแนะนำค่ะว่าแถวบ้านเขา ( ปราณบุรี ) มีต้นไม้แปลกที่เขาอยากได้พอดี....@@ โชคเขาข้าง เลยให้เพื่อนไปถามขอซื้อเขามาจากชาวบ้าน ( คนรู้จักของแม่เพื่อนค่ะ ) ขุดเอาเอง ยกเอาเอง @@ ได้มาสมใจค่ะ
ภูมิใจนำเสนอมากกกกกก
ต้นต่อไปเล่นใหญ่ใจต้องนิ่ง.. นิ่งเลยค่ะเรา 5555
แล้วเขาก็ไปหาเก็บๆ มาเรื่อยๆ ทีละต้น 2 ต้น จากนั้นเราก็ปั่นตังทำมาหากินในการงานของเราต่อไปสักพักค่ะ .... จะบอกว่าถ้าตังหมดเราต้องหยุดงานทำร้าน หรือ ถ้างานสวนเข้าเราก็ต้องเอาเด็กๆ ไปทำงานสวนค่ะ ฉะนั้นการทำกันเองมันยากลำบากมาก ทั้งเรื่องเงินและเวลา ผ่านจุดนี้มาเริ่มก่อกำแพงร้านทีละนิด เกิดงานงอกขึ้นมาอีกเนื่องจากพื้นปูนเดิมต่ำเกินไปต้องเทพื้นใหม่ ก็เลยต้องเทส่วนเพื่อนทั้งหมดถึงทางเดินจะได้เป็นการทำงานทีเดียว เละทีเดียว เรื่องใหญ่เขาซ้ำ นั่นคือเวลาเราเลื่อนออกไปอีก ........
ระยะเวลาผ่านไปน่าจะอีก 2 เดือนถึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นค่ะ
ในความยุ่งยากมันก็เหมือนบททดสอบความพยายามเราไปในตัวนะคะ ถามว่าท้อไม๊....ขอบอกว่ามากค่ะ เราก็เก็บหากำลังใจจากคนรอบๆ ข้างๆเอานะคะ เรื่องความเข้าใจนิหลักที่ 1 เรื่องเงินหลัก ที่ 2 เรากับสามีค่อนข้างแอบเถียงกันทุกวันค่ะ แต่เราก็มองโลกบวกไว้ก่อน งั้นเรามาแบ่งกันเลยเธอถนัดงานด้านนอกตามใจเธอ งานในร้านเดี๊ยนขอนะ ... ไม่งั้นกัดคอกันทุกวัน เพราะงานมันมีรายละเอียดมากค่ะ ถ้าเราจะทำร้านให้มีความแตกต่างจะมีความเป็นตัวเราต้องใส่ใจเข้าไปเยอะๆ ธรรมดาได้สะที่ไหนใช่ไม๊คะ วัสดุทุกอย่างเราก็ประหยัดต้นทุนเอาค่ะ ให้รัดกุมมากที่สุด แต่ไปๆๆมาๆ ไม่รู้อิท่าไหน งบเริ่มบานปลายออกไปค่อนข้างเยอะนะคะ เป็นธรรมดาของคนที่ออกแบบและทำเองค่ะ เห็นอะไรที่มันไม่เข้าตาก็เปลี่ยนมันซะ .. สาแก่ใจเลย เกินงบสิคะ
ด้วยความที่ว่าคุณสามีชอบของเก่า เลยไปหาเอาบานวงกบเก่า สั่งทำบานประตูไม้ให้มันดูสวยเด่น หาบานกระจกมือสองมาใส่ คุมธีมร้านและบรรยากาศภายนอกให้ไปด้วยกัน
มันใกล้จะถึงความเป็นจริงแล้วค่ะ มาถึงครึ่งทางแล้ว ไว้เราจะมีเขียนต่อนะคะ ตานี้ต่อต่อไปเริ่มลงรายละเอียดทางความคิดมากขึ้นค่ะ
ต้องใช้เวลาพิมพ์นิดนึงค่ะ .....ไว้จะรีบให้ไวที่สุดนะคะ ^^
พี่คนไหนอยากมีเรื่องมาแชร์ แบ่งบันได้เลยค่ะ จะได้มีพลังบวกมากขึ้นนะคะ