เมื่อช่วงกลางปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เดินทางไปตะลอนทัวร์ภาคเหนือและไปท่องเที่ยวตามรอยโครงการในพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่9 เป็นครั้งแรกที่ได้ขับรถตะลุยกันแบบสุดๆ 4448 โค้ง (อันนี้เรานับถึงบ้านรักไทย) ทริปนี้เราเดินทางกัน 7วัน 6 คืน ดังนี้เลยค่ะ
วันที่ 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ เที่ยง+นอนพักเชียงใหม่
วันที่2 เชียงใหม่ – โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ เที่ยวป่าสน พักบ้านพักกรมป่าไม้
วันที่3 โครงการหลวงวัดจันทร์-แม่ฮ่องสอน
วันที่4 เที่ยวสะพานซูตองเป้ พักผ่อนที่บ้านลีไวน์รักไทย
วันที่5 เที่ยวพระตำหนักปางตอง –ปาย
วันที่6 ไปแม่กำปอง พักที่โครงการหลวงตีนตก
วันที่7 กลับกรุงเทพค่ะ
ดูจากแพลนแล้วขับรถได้มันส์มาก คนขับจะมันส์มั้ย แต่คนนั่งนี้โยกตามโค้งไปมา จนเอวแทบเคล็ดเลยค่ะ
มาม๊ะไม่อยากเกริ่นยาวเกินเราไปเที่ยวกันเลยนะคะ
เริ่มต้นทริปนี้เราออกจากกรุงเทพ ประมาณ 6 โมงเช้าคะ เราเดินทางกันวันอาทิตย์รถเลยโล่งมาก เราใช้เส้นทาง อยุธยา สิงหบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก มาจนถึงเชียงใหม่ ประมาณ บ่าย2โมง
เดิมทีเราตั้งใจว่าจะแค่แวะพักเชียงใหม่ เพื่อรอขึ้นไปทางเส้นม่ฮ่องสอนเท่านั้น แต่ไหนๆก็มาถึงเชียงใหม่แล้ว ขอไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อน
จุดแรกที่เราไปทันทีที่เข้าจังหวัดเชียงใหม่คือวัดพระธาตุดอยคำ เพื่อกราบหลวงพ่อทันใจ
เป็นวัดที่มีความสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์
ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดดอยคำ"
ศักดิ์สิทธิ์มั้ย ดูได้จากจำนวนดอกมะลิแก้บนค่ะ เยอะมากมาย
ออกจากวัดพระธาตุดอยคำ เราไปต่อที่เวียงกุมกามค่ะ เดินเล่นบริเวณเวียง
ครั้งนี้เราตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อขาว ที่วัดธาตุขาว ค่ะ เนื่องจากพี่ที่ทำงานเคยมาและเราร่วมทำบุญสร้างฉัตรใหม่ถวายท่าน มาถึงเชียงใหม่จึงแวะกราบท่าน
วัดนี้ในเขตพื้นที่ทางด้านตะวันตกของเวียงกุมกาม สภาพปัจจุบันเป็นวัดร้าง และขึ้นบัญชีเป็นวัดร้างของกรมการศาสนา
หลังจากกราบพระเสร็จ เหนื่อยพอสมควร แวะพักผ่อนกันก่อนที่รร.ที่จองไว้ค่ะ คืนนี้เราเลือกพักที่ BP Chiang Mai City Hotel เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนคนเดินวันอาทิตย์ เราจะได้ไม่ต้องขับรถไป และรร.นี้มีที่จอดรถสะดวกสบายค่ะ
รูปจากเว็บรร.นะคะ เนื่องจากลืมถ่ายมา รร.และห้องใช้ได้เลยค่ะ กว้างขวาง ราคาไม่แพง
คืนนี้เราจะเดินไปถนนคนเดินกันและพักที่นี่ค่ะ เด่วพรุ่งนี้เราจะเริ่มออกเดินทางกันต่อนะคะ
รุ่งเช้าจุดหมายแรกของทริปนี้ เราจะไปตามรอยโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่9กันก่อนเลยค่ะ
ที่เราจะไปกันวันนี้คือโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ ค่ะ
บ้านวัดจันทร์ใช้เส้นทางเดียวกับทางมาปายนะคะ เส้นที่สะดวกก็คือ เส้นแรกทางหมายเลข 107 ตรงตลาดแม่มาลัยเลี้ยวซ้าย หรือ ใช้เส้นทางหลักหมายเลข 1095 (ตลาดแม่มาลัย - ปาย)
และก่อนถึงอำเภอปายประมาณ 13 กิโลเมตรตรงด่านป่าไม้ก็เลี้ยวซ้ายไปตามทางเลยคะตลอดเส้นทางท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ของป่าสนระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร แต่เราไปเริ่มจะเข้าหน้าร้อนแล้ว ก็เลยค่อนข้างแล้งๆไปนิด ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
แต่ถนนลาดยางดีเลยนะคะ ทางไปไม่มีรถผ่านเลยทีแรกก็กลัวๆแต่ขับไปดูวิวไปก็เพลินอยู่ค่ะ
ระหว่างทางมีน้ำพุร้อนอยู่ริมถนนใหญ่ด้วยค่ะ ลงไปต้มไข่ทานได้นะคะ ถ้าถึงจุดนี้ก็ใกล้ถึงแล้วค่ะ
โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จ. เชียงใหม่ เกิดขึ้นหลังจากที่ในหลวงร.9 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเขาในเขตหมู่บ้านวัดจันทร์ ทรงทราบถึง ความยากลำบากของชาวเขาใน พื้นที่ จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์และหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อก่อตั้ง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์” ขึ้น เพื่อช่วยให้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ราษฎร เค้าว่ากันว่าที่นี่จะอากาศเย็นสบายทั้งปีนะคะ
ที่บ้านวัดจันทร์มีที่พักอยู่2แห่งคือของโครงการหลวง และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เราเลือกพักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ค่ะค่อนข้างสวยกว่า
เข้ามาในโครงการค่ะ พระบรมฉายาลักษณ์อยู่เบื่องหน้า
ขับขึ้นมาตามทางลาดด้านบนนี่เป็นจุดcheck in นะคะ ส่วนบ้านพักเราอยู่ด้านล่าง
บ้านพักเราคืนนี้ค่ะ บ้านฉางข้าวค่ะ สวยมาก
ข้างในห้องตกแต่งแบบเรียบง่ายนะคะ ไม่มีทีวีแต่ wifi แรงใช้ได้เลยคะ ที่พักไม่มีแอร์นะคะ ขอบอกว่าขนาดไปช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์อากาศตอนค่ำเย็นมากๆเลยคะดีที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ที่นี่เสียอย่างเนื่องจากเป็นป่าสนกลางคืนมีสะดุ้งนิดหน่อยจากเสียงลูกสนตกใส่หลังคา มึดๆ บรรยากาศเงียบๆยิ่งเราไปช่วงวันธรรมดายิ่งไม่มีคนเลย แอบหยองๆนิดๆเหมือนกัน
พักสักพัก เราเริ่มออกไปสำรวจบ้านวัดจันทร์กันคะ จุดท่องเที่ยวที่นี่แห่งนึงคือวิหารแว่นตาดำ วัดจันทร์
วัดนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่อำเภอหนึ่งมีวิหารที่แปลกจากวิหารทั่วไป เรียกว่า วิหารแว่นตาดำ หรือวิหารเรย์แบรนด์
เห็นมั้ยล่ะคะ เท่ห์เลย ที่เป็นแบบนี้เพราะช่างได้เอากระจกกรองแสงสีดำมาติดตรง ช่องลมเพื่อป้องกันโจรที่เข้ามาขโมยพระประธาน ซึ่งเป็นพระสิงห์สามอายุกว่า 300 ปี
หลังได้กราบพระกันแล้วเริ่มเย็น เรากลับมาเที่ยวในที่พักเราต่อก่อนจะค่ำ
ในที่พักจุดเด่นเลยคืออ่างเก็บน้ำคะ เค้าว่ากันว่าตอนเช้าๆหมอกจะลงจัดสวยมากเป็นปางอุ๋งเชียงใหม่ เด่วพรุ่งนี้เช้าเราจะมาดูกัน แต่ตอนนี้ไม่มีหมอกยังสวยจิงค่ะ
ป่าสนที่นี่ยังเขียวชอุ่มดีจริงค่ะ แม้ระหว่างทางเข้ามาป่าด้านนอกจะแห้งแล้งไปหมดแล้ว คุณชายขี่จักรยานเที่ยวเพลินเลย
ภายในที่นี่มีพื้นที่ให้เราเดินเล่นกว้างมากคะ
มีใบเมเปิ้ลสวยๆ เข้าว่ากันว่าช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ใบไม้ที่นี่จะเป็นสีเหลืองสวยและซากุระเมืองไทยค่ะ เรามาช่วงปลายๆแล้วค่ะ มันเลยออกจะเป็นสีเขียวบ้างและแต่ก็ยังพอเห็นใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระอยู่บ้างคะ
มื้อเย็นเราทานอาหารของที่นี่นะคะ แนะนำว่าทานที่นี่ดีกว่านะคะ ข้างนอกหาของทานยากอยู่ อาหารที่นี่ต้องสั่งล่วงหน้าตอนจองที่พักนะคะ และจะเป็นเมนูของเค้าเลยจะไม่มีทำตามสั่งให้ อาหารเช้า ท่านละ 100 บาท (ข้าวต้ม ชา กาแฟ)
อาหารกลางวัน ท่านละ 120 บาท (อาหาร 3-4 อย่าง + ผลไม้) อาหารเย็นท่านละ 150 บาท (อาหาร 4-5 อย่าง + ผลไม้)
รูปห้องอาหารค่ะ
ชุดอาหารเย็น ดูเรียบง่ายแต่เยอะและรสชาติโอเคเลยค่ะ
พระอาทิตย์ตกแล้วค่ะ คืนนี้เราพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เราจะมาดูซิว่าจะมีหมอกมั้ย
เช้าแล้วค่ะ อากาศยังเย็นมากจนต้องใส่เสื้อหนาวกันเลย แค่มองนอกหน้าต่างห้องก็เห็นหมอกจางๆ พูดออกมานี่เป็นควันกันเลยทีเดียวคะ เรารีบไปที่อ่างเก็บน้ำกัน
หมอกค่ะ หมอกจัดเต็มมาก ปางอุ๋งเชียงใหม่จริงด้วย
สายๆหมอกเริ่มจางเราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่าค่ะ มื้อเช้าเป็นข้าวต้ม กับหลายอย่างเหมือนเคย จัดข้าวต้มอุ่นๆกับกาแฟแก้หนาวหน่อย
หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว เราไปเที่ยวศูนย์พัฒนาโครงการหลวงกันสักนิด เมื่อวานไปไม่ทันปิด
ที่จริงที่นี่ก้มีที่พักนะคะแต่เราชอบที่ของป่าไม้มากกว่า ข้างในศูนย์ก็ร่มรื่นไปด้วยป่าสนเหมือนกันนะคะ
มีแปลงผักต่างๆที่ชาวบ้านปลูกกันตามโครงการหลวงค่ะ สามารถขอเค้าเข้าไปเดินดูได้นะคะ
หลังจากเดินดูโครงการสักพัก เราต้องขอบอกลาบ้านวัดจันทร์แล้ว จุดหมายต่อไปของเราเย็นนี้คือ แม่ฮ่องสอนกันคะ เด่วไปต่อกันนะคะ
[CR] 4448 โค้ง กรุงเทพ-เชียงใหม่-บ้านลีไวน์รักไทย แม่ฮ่องสอน กับตามรอยโครงการพระราชดำริ
เมื่อช่วงกลางปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เดินทางไปตะลอนทัวร์ภาคเหนือและไปท่องเที่ยวตามรอยโครงการในพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่9 เป็นครั้งแรกที่ได้ขับรถตะลุยกันแบบสุดๆ 4448 โค้ง (อันนี้เรานับถึงบ้านรักไทย) ทริปนี้เราเดินทางกัน 7วัน 6 คืน ดังนี้เลยค่ะ
วันที่ 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ เที่ยง+นอนพักเชียงใหม่
วันที่2 เชียงใหม่ – โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ เที่ยวป่าสน พักบ้านพักกรมป่าไม้
วันที่3 โครงการหลวงวัดจันทร์-แม่ฮ่องสอน
วันที่4 เที่ยวสะพานซูตองเป้ พักผ่อนที่บ้านลีไวน์รักไทย
วันที่5 เที่ยวพระตำหนักปางตอง –ปาย
วันที่6 ไปแม่กำปอง พักที่โครงการหลวงตีนตก
วันที่7 กลับกรุงเทพค่ะ
ดูจากแพลนแล้วขับรถได้มันส์มาก คนขับจะมันส์มั้ย แต่คนนั่งนี้โยกตามโค้งไปมา จนเอวแทบเคล็ดเลยค่ะ
มาม๊ะไม่อยากเกริ่นยาวเกินเราไปเที่ยวกันเลยนะคะ
เริ่มต้นทริปนี้เราออกจากกรุงเทพ ประมาณ 6 โมงเช้าคะ เราเดินทางกันวันอาทิตย์รถเลยโล่งมาก เราใช้เส้นทาง อยุธยา สิงหบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก มาจนถึงเชียงใหม่ ประมาณ บ่าย2โมง
เดิมทีเราตั้งใจว่าจะแค่แวะพักเชียงใหม่ เพื่อรอขึ้นไปทางเส้นม่ฮ่องสอนเท่านั้น แต่ไหนๆก็มาถึงเชียงใหม่แล้ว ขอไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อน
จุดแรกที่เราไปทันทีที่เข้าจังหวัดเชียงใหม่คือวัดพระธาตุดอยคำ เพื่อกราบหลวงพ่อทันใจ
เป็นวัดที่มีความสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์
ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดดอยคำ"
ศักดิ์สิทธิ์มั้ย ดูได้จากจำนวนดอกมะลิแก้บนค่ะ เยอะมากมาย
ออกจากวัดพระธาตุดอยคำ เราไปต่อที่เวียงกุมกามค่ะ เดินเล่นบริเวณเวียง
ครั้งนี้เราตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อขาว ที่วัดธาตุขาว ค่ะ เนื่องจากพี่ที่ทำงานเคยมาและเราร่วมทำบุญสร้างฉัตรใหม่ถวายท่าน มาถึงเชียงใหม่จึงแวะกราบท่าน
วัดนี้ในเขตพื้นที่ทางด้านตะวันตกของเวียงกุมกาม สภาพปัจจุบันเป็นวัดร้าง และขึ้นบัญชีเป็นวัดร้างของกรมการศาสนา
หลังจากกราบพระเสร็จ เหนื่อยพอสมควร แวะพักผ่อนกันก่อนที่รร.ที่จองไว้ค่ะ คืนนี้เราเลือกพักที่ BP Chiang Mai City Hotel เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนคนเดินวันอาทิตย์ เราจะได้ไม่ต้องขับรถไป และรร.นี้มีที่จอดรถสะดวกสบายค่ะ
รูปจากเว็บรร.นะคะ เนื่องจากลืมถ่ายมา รร.และห้องใช้ได้เลยค่ะ กว้างขวาง ราคาไม่แพง
คืนนี้เราจะเดินไปถนนคนเดินกันและพักที่นี่ค่ะ เด่วพรุ่งนี้เราจะเริ่มออกเดินทางกันต่อนะคะ
รุ่งเช้าจุดหมายแรกของทริปนี้ เราจะไปตามรอยโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่9กันก่อนเลยค่ะ
ที่เราจะไปกันวันนี้คือโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ ค่ะ
บ้านวัดจันทร์ใช้เส้นทางเดียวกับทางมาปายนะคะ เส้นที่สะดวกก็คือ เส้นแรกทางหมายเลข 107 ตรงตลาดแม่มาลัยเลี้ยวซ้าย หรือ ใช้เส้นทางหลักหมายเลข 1095 (ตลาดแม่มาลัย - ปาย)
และก่อนถึงอำเภอปายประมาณ 13 กิโลเมตรตรงด่านป่าไม้ก็เลี้ยวซ้ายไปตามทางเลยคะตลอดเส้นทางท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ของป่าสนระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร แต่เราไปเริ่มจะเข้าหน้าร้อนแล้ว ก็เลยค่อนข้างแล้งๆไปนิด ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
แต่ถนนลาดยางดีเลยนะคะ ทางไปไม่มีรถผ่านเลยทีแรกก็กลัวๆแต่ขับไปดูวิวไปก็เพลินอยู่ค่ะ
ระหว่างทางมีน้ำพุร้อนอยู่ริมถนนใหญ่ด้วยค่ะ ลงไปต้มไข่ทานได้นะคะ ถ้าถึงจุดนี้ก็ใกล้ถึงแล้วค่ะ
โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จ. เชียงใหม่ เกิดขึ้นหลังจากที่ในหลวงร.9 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเขาในเขตหมู่บ้านวัดจันทร์ ทรงทราบถึง ความยากลำบากของชาวเขาใน พื้นที่ จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์และหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อก่อตั้ง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์” ขึ้น เพื่อช่วยให้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ราษฎร เค้าว่ากันว่าที่นี่จะอากาศเย็นสบายทั้งปีนะคะ
ที่บ้านวัดจันทร์มีที่พักอยู่2แห่งคือของโครงการหลวง และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เราเลือกพักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ค่ะค่อนข้างสวยกว่า
เข้ามาในโครงการค่ะ พระบรมฉายาลักษณ์อยู่เบื่องหน้า
ขับขึ้นมาตามทางลาดด้านบนนี่เป็นจุดcheck in นะคะ ส่วนบ้านพักเราอยู่ด้านล่าง
บ้านพักเราคืนนี้ค่ะ บ้านฉางข้าวค่ะ สวยมาก
ข้างในห้องตกแต่งแบบเรียบง่ายนะคะ ไม่มีทีวีแต่ wifi แรงใช้ได้เลยคะ ที่พักไม่มีแอร์นะคะ ขอบอกว่าขนาดไปช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์อากาศตอนค่ำเย็นมากๆเลยคะดีที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ที่นี่เสียอย่างเนื่องจากเป็นป่าสนกลางคืนมีสะดุ้งนิดหน่อยจากเสียงลูกสนตกใส่หลังคา มึดๆ บรรยากาศเงียบๆยิ่งเราไปช่วงวันธรรมดายิ่งไม่มีคนเลย แอบหยองๆนิดๆเหมือนกัน
พักสักพัก เราเริ่มออกไปสำรวจบ้านวัดจันทร์กันคะ จุดท่องเที่ยวที่นี่แห่งนึงคือวิหารแว่นตาดำ วัดจันทร์
วัดนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่อำเภอหนึ่งมีวิหารที่แปลกจากวิหารทั่วไป เรียกว่า วิหารแว่นตาดำ หรือวิหารเรย์แบรนด์
เห็นมั้ยล่ะคะ เท่ห์เลย ที่เป็นแบบนี้เพราะช่างได้เอากระจกกรองแสงสีดำมาติดตรง ช่องลมเพื่อป้องกันโจรที่เข้ามาขโมยพระประธาน ซึ่งเป็นพระสิงห์สามอายุกว่า 300 ปี
หลังได้กราบพระกันแล้วเริ่มเย็น เรากลับมาเที่ยวในที่พักเราต่อก่อนจะค่ำ
ในที่พักจุดเด่นเลยคืออ่างเก็บน้ำคะ เค้าว่ากันว่าตอนเช้าๆหมอกจะลงจัดสวยมากเป็นปางอุ๋งเชียงใหม่ เด่วพรุ่งนี้เช้าเราจะมาดูกัน แต่ตอนนี้ไม่มีหมอกยังสวยจิงค่ะ
ป่าสนที่นี่ยังเขียวชอุ่มดีจริงค่ะ แม้ระหว่างทางเข้ามาป่าด้านนอกจะแห้งแล้งไปหมดแล้ว คุณชายขี่จักรยานเที่ยวเพลินเลย
ภายในที่นี่มีพื้นที่ให้เราเดินเล่นกว้างมากคะ
มีใบเมเปิ้ลสวยๆ เข้าว่ากันว่าช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ใบไม้ที่นี่จะเป็นสีเหลืองสวยและซากุระเมืองไทยค่ะ เรามาช่วงปลายๆแล้วค่ะ มันเลยออกจะเป็นสีเขียวบ้างและแต่ก็ยังพอเห็นใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระอยู่บ้างคะ
มื้อเย็นเราทานอาหารของที่นี่นะคะ แนะนำว่าทานที่นี่ดีกว่านะคะ ข้างนอกหาของทานยากอยู่ อาหารที่นี่ต้องสั่งล่วงหน้าตอนจองที่พักนะคะ และจะเป็นเมนูของเค้าเลยจะไม่มีทำตามสั่งให้ อาหารเช้า ท่านละ 100 บาท (ข้าวต้ม ชา กาแฟ)
อาหารกลางวัน ท่านละ 120 บาท (อาหาร 3-4 อย่าง + ผลไม้) อาหารเย็นท่านละ 150 บาท (อาหาร 4-5 อย่าง + ผลไม้)
รูปห้องอาหารค่ะ
ชุดอาหารเย็น ดูเรียบง่ายแต่เยอะและรสชาติโอเคเลยค่ะ
พระอาทิตย์ตกแล้วค่ะ คืนนี้เราพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เราจะมาดูซิว่าจะมีหมอกมั้ย
เช้าแล้วค่ะ อากาศยังเย็นมากจนต้องใส่เสื้อหนาวกันเลย แค่มองนอกหน้าต่างห้องก็เห็นหมอกจางๆ พูดออกมานี่เป็นควันกันเลยทีเดียวคะ เรารีบไปที่อ่างเก็บน้ำกัน
หมอกค่ะ หมอกจัดเต็มมาก ปางอุ๋งเชียงใหม่จริงด้วย
สายๆหมอกเริ่มจางเราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่าค่ะ มื้อเช้าเป็นข้าวต้ม กับหลายอย่างเหมือนเคย จัดข้าวต้มอุ่นๆกับกาแฟแก้หนาวหน่อย
หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว เราไปเที่ยวศูนย์พัฒนาโครงการหลวงกันสักนิด เมื่อวานไปไม่ทันปิด
ที่จริงที่นี่ก้มีที่พักนะคะแต่เราชอบที่ของป่าไม้มากกว่า ข้างในศูนย์ก็ร่มรื่นไปด้วยป่าสนเหมือนกันนะคะ
มีแปลงผักต่างๆที่ชาวบ้านปลูกกันตามโครงการหลวงค่ะ สามารถขอเค้าเข้าไปเดินดูได้นะคะ
หลังจากเดินดูโครงการสักพัก เราต้องขอบอกลาบ้านวัดจันทร์แล้ว จุดหมายต่อไปของเราเย็นนี้คือ แม่ฮ่องสอนกันคะ เด่วไปต่อกันนะคะ