ใครหลายคน...คงมีสถานที่ในฝัน...ที่สักวันต้องไปให้ได้
เราเองก็เช่นกัน มีความฝันว่าอยากพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ต่างๆ ให้ทั่วประเทศไทย
และวันหนึ่งก็มีคนมาชวนไปเที่ยว "พะเยา" จังหวัดที่เราไม่ค่อยรู้จัก
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวประทับใจครั้งนี้
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน เราได้เห็นรูปสถานที่นี้ผ่านทางอินเตอร์เน็ท มันช่างดูแปลกตา
เป็นเขารูปร่างประหลาด ตั้งตะหง่านอยู่กลางที่โล่ง ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ เรียงสลับกันไปมา
มีสายหมอกปกคลุมจางๆ พร้อมแสงอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ในยามเช้า
ที่แห่งนี้ช่างชวนฝัน และทำให้เราอยากเก็บกระเป๋าออกเดินทาง
เราเริ่มหาที่พัก และเราก็ได้พบรีสอร์ทเล็กๆ น่ารักอบอุ่น ชื่อ "ภูลังกา รีสอร์ท"
ที่พักหลักร้อย วิวหลักร้าน แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ อ.ปง จ.พะเยา ที่นี่ถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ
สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และถ้าโชคดีก็จะมีทะเลหมอกปกคลุมตอนเช้า
เรามาถึงที่พักช่วงบ่ายๆ และนี่คือระเบียงหน้าห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้เลย
เรานั่งเล่น อ่านหนังสือ ชมวิวเพลินๆ สักพัก ก็ออกมาเดินเล่นรอบรีสอร์ท เพื่อไปดูวิวที่อลังการแบบสุดๆ ที่ "ลานช่างภาพ"
ซึ่งเป็นจุดที่ตอนเช้าจะเห็นตากล้องหลายคนมาตั้งกล้องรอเก็บแสงเช้าที่นี่ แต่เราว่าตอนกลางวันก็สวยไปอีกแบบนะ
พอเริ่มเย็น เรามาเก็บแสงเย็นกันต่อ ที่ด้านในรีสอร์ท จุดนี้จะเห็นพระอาทิตย์ค่อยๆ ตกและลับไปทางหลังแนวสันเขา
พอตอนเช้า เราตื่นตั้งแต่ตีห้าแล้วรีบเดินไปที่ลานช่างภาพ เพื่อรอเก็บแสงเช้า และภูลังกาก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง
เราได้ภาพแสงสีทองอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ที่ซ่อนอยู่หลังเมฆหมอก เหมาะแก่การนั่งดูหมอกค่อยๆ ลอยผ่านไปผ่านมาช้าๆ
ถึงแม้ว่า วันที่เราไปจะไม่เจอทะเลหมอกและท้องฟ้าไม่เคลีย เพราะฝนตกช่วงกลางคืน แต่ที่นี่ก็ทำให้เราประทับใจไม่รู้ลืม
และทั้งหมดคือความงดงามของที่นี่ สถานที่ชวนฝันที่เรายังคงคิดถึง
ที่แห่งนี้ยังรอให้ทุกคนไปสัมผัสอยู่นะ และเราจะกลับไปอีกแน่นอน
แวะทักทาย พูดคุยกับเราได้ที่ Page
https://www.facebook.com/fulltimebackpacker/
ถ้าชอบเรื่องราวที่เราเขียน เรามาเป็นเพื่อน แลกเปลี่ยนที่เที่ยวกันนะ ( :
ป.ล. เราไปมาเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีร้านกาแฟชื่อดัง "Magic mountain" มาเปิด แต่พึ่งค้นรูปเจอ เลยเอามาเขียนรีวิว
ถ้าใครได้ไป ลองแวะไปชิมกันนะ เห็นวิวจากร้านนี้แล้ว อลังการน่าจิบกาแฟ เคล้าสายหมอกมากๆ ( :
สำหรับผู้ที่สนใจจะไป เราแนะนำว่า ตั้งแต่ช่วงฤดูฝนไปจบช่วงหน้าหนาว ดีงามทั้งคู่เพราะจะได้เห็นทะเลหมอกและอากาศกำลังเย็นสบาย
การเดินทาง
หากขับรถมาจากกรุงเทพใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง
แนะนำให้นั่งเครื่องบินมาลงเชียงราย หรือ น่าน แล้วขับรถต่อมาใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
ที่พักที่เราไปชื่อว่า "ภูลังการีสอร์ท" ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น "ภูลังกาบ้านสวน" ราคาน่าคบหาแบบสุดๆ
ราคาเริ่มต้นแบบบ้านพักห้องละ 700 บาท พักได้ 2 คน
และมีห้องขนาดใหญ่รองรับได้สูงสุด 9 คน ราคา 2,700 บาท
และหากที่พักเต็มก็มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะนำมาเองก็ได้เช่นกัน ราคาเริ่มต้น 160 บาท
[CR] หลงสเน่ห์ "ภูลังกา" ความงดงามที่ตราตรึงใจ
เราเองก็เช่นกัน มีความฝันว่าอยากพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ต่างๆ ให้ทั่วประเทศไทย
และวันหนึ่งก็มีคนมาชวนไปเที่ยว "พะเยา" จังหวัดที่เราไม่ค่อยรู้จัก
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวประทับใจครั้งนี้
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน เราได้เห็นรูปสถานที่นี้ผ่านทางอินเตอร์เน็ท มันช่างดูแปลกตา
เป็นเขารูปร่างประหลาด ตั้งตะหง่านอยู่กลางที่โล่ง ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ เรียงสลับกันไปมา
มีสายหมอกปกคลุมจางๆ พร้อมแสงอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ในยามเช้า
ที่แห่งนี้ช่างชวนฝัน และทำให้เราอยากเก็บกระเป๋าออกเดินทาง
เราเริ่มหาที่พัก และเราก็ได้พบรีสอร์ทเล็กๆ น่ารักอบอุ่น ชื่อ "ภูลังกา รีสอร์ท"
ที่พักหลักร้อย วิวหลักร้าน แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ อ.ปง จ.พะเยา ที่นี่ถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ
สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และถ้าโชคดีก็จะมีทะเลหมอกปกคลุมตอนเช้า
เรามาถึงที่พักช่วงบ่ายๆ และนี่คือระเบียงหน้าห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้เลย
เรานั่งเล่น อ่านหนังสือ ชมวิวเพลินๆ สักพัก ก็ออกมาเดินเล่นรอบรีสอร์ท เพื่อไปดูวิวที่อลังการแบบสุดๆ ที่ "ลานช่างภาพ"
ซึ่งเป็นจุดที่ตอนเช้าจะเห็นตากล้องหลายคนมาตั้งกล้องรอเก็บแสงเช้าที่นี่ แต่เราว่าตอนกลางวันก็สวยไปอีกแบบนะ
พอเริ่มเย็น เรามาเก็บแสงเย็นกันต่อ ที่ด้านในรีสอร์ท จุดนี้จะเห็นพระอาทิตย์ค่อยๆ ตกและลับไปทางหลังแนวสันเขา
พอตอนเช้า เราตื่นตั้งแต่ตีห้าแล้วรีบเดินไปที่ลานช่างภาพ เพื่อรอเก็บแสงเช้า และภูลังกาก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง
เราได้ภาพแสงสีทองอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ที่ซ่อนอยู่หลังเมฆหมอก เหมาะแก่การนั่งดูหมอกค่อยๆ ลอยผ่านไปผ่านมาช้าๆ
ถึงแม้ว่า วันที่เราไปจะไม่เจอทะเลหมอกและท้องฟ้าไม่เคลีย เพราะฝนตกช่วงกลางคืน แต่ที่นี่ก็ทำให้เราประทับใจไม่รู้ลืม
และทั้งหมดคือความงดงามของที่นี่ สถานที่ชวนฝันที่เรายังคงคิดถึง
ที่แห่งนี้ยังรอให้ทุกคนไปสัมผัสอยู่นะ และเราจะกลับไปอีกแน่นอน
แวะทักทาย พูดคุยกับเราได้ที่ Page https://www.facebook.com/fulltimebackpacker/
ถ้าชอบเรื่องราวที่เราเขียน เรามาเป็นเพื่อน แลกเปลี่ยนที่เที่ยวกันนะ ( :
ป.ล. เราไปมาเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีร้านกาแฟชื่อดัง "Magic mountain" มาเปิด แต่พึ่งค้นรูปเจอ เลยเอามาเขียนรีวิว
ถ้าใครได้ไป ลองแวะไปชิมกันนะ เห็นวิวจากร้านนี้แล้ว อลังการน่าจิบกาแฟ เคล้าสายหมอกมากๆ ( :
สำหรับผู้ที่สนใจจะไป เราแนะนำว่า ตั้งแต่ช่วงฤดูฝนไปจบช่วงหน้าหนาว ดีงามทั้งคู่เพราะจะได้เห็นทะเลหมอกและอากาศกำลังเย็นสบาย
การเดินทาง
หากขับรถมาจากกรุงเทพใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง
แนะนำให้นั่งเครื่องบินมาลงเชียงราย หรือ น่าน แล้วขับรถต่อมาใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
ที่พักที่เราไปชื่อว่า "ภูลังการีสอร์ท" ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น "ภูลังกาบ้านสวน" ราคาน่าคบหาแบบสุดๆ
ราคาเริ่มต้นแบบบ้านพักห้องละ 700 บาท พักได้ 2 คน
และมีห้องขนาดใหญ่รองรับได้สูงสุด 9 คน ราคา 2,700 บาท
และหากที่พักเต็มก็มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะนำมาเองก็ได้เช่นกัน ราคาเริ่มต้น 160 บาท
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น