ลุค เบสซง ผู้กำกับ/เขียนบทชาวฝรั่งเศส เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นตัวจริง ผลงานการกำกับและอำนวยการสร้างของเขาล้วนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นระดับตำนานอย่าง The Fifth Element , The Transporter ทั้ง 3 ภาคแรก, ภาพยนตร์แอ็คชั่นล้างแค้นสุดมันอย่างไตรภาค Taken รวมถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นคอนเซ็ปต์ล้ำอย่าง Lucy และในครั้งนี้เขาจะเขียนบทและกำกับและกำกับที่ดัดแปลงจากซีรีย์ที่เขารักด้วยตัวเอง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนไซไฟระดับตำนานของฝรั่งเศสที่มอบแรงบันดาลใจให้กับโลกไซไฟไม่เว้นแม้แต่ภาพยนตร์เฟรนไชส์ขึ้นหิ้งอย่าง Star Wars หนังสือการ์ตูนเรื่อง Valerian and Laureline ซีรีย์นี้สร้างโดย ปิแอร์ กิสแสตง และ จอง โคลด เมซิแอร์ เปิดตัวครั้งแรกในนิตยสารการ์ตูน PILOTE ในปี 1967 การ์ตูนเรื่องนี้เกี่ยวกับ จักรวรรดิดวงดาวที่ก่อตั้งขึ้นมาในศตวรรษที่ 28 มีจุดประสงค์เพื่อรักษาความสงบให้จักรวาลและห้วงเวลา สองตัวละครนำ วาเลเรียน และ ลอเรลลีน เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่ต้องเป็นคู่หูกันเพื่อปกป้องจักรวาล ทั้งคู่ต้องพบเจอวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาวอันหลากหลายและอันตรายมากมายระหว่างการผจญภัย โดย เมซิแอร์ เป็นคนวาดภาพประกอบทั้งหมด มันมียอดขายกว่า 10 ล้านเล่มทั่วโลก และได้รับการแปลกว่า 21 ภาษา มีการตีพิมพ์ยาวนานเริ่มตั้งแต่ปี 1967 จนจบบริบูรณ์เมื่อปี 2010 รวมแล้ว Valerian and Laureline ถูกตีพิมพ์รวมทั้งหมด 21 ฉบับ

Valerian and the City of a Thousand Planets (2017) เริ่มฉายบ้านเรา พฤหัส 20 กรกฎาคม

ในหนังส่วนใหญ่ที่คนดูจะได้เห็นดัดแปลงมาจาก Ambassador of the Shadows ซึ่งเป็นการ์ตูนเล่มที่ 6 ของซีรีย์ เนื้อเรื่องนั้นเริ่มด้วยสองคู่หูที่ต้องปกปกป้องราชทูตของโลกจากงานประชุมผู้นำการเมืองระดับจักรวาล ก่อนจะลงเอยด้วยการลักพาตัวที่มีผลต่อความสงบสุขของทุกสายพันธุ์ โดย ลุค เบสซง กล่าวว่า ”ถ้าคุณได้อ่าน Ambassador of the Shadows จะรู้ว่ามันเล่าเรื่องเหมือนหนังมาก มันเป็นช่วงสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่าง วาเลเรียน กับ ลอเรลลีน แถมเนื้อเรื่องยังเปิดให้คุณได้ใช้จินตนาการมากที่สุด มีเอเลี่ยนจำนวนนับไม่ถ้วนผมเลยคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี”
ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อนตอนที่ ลุค เบสซง ยังเป็นแค่เด็กชาย “ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบตอนได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ มันออกทุกวันพุธแต่มันมีแค่สองหน้าเอง ผมเลยต้องรอถึง 6 วันกว่าจะได้อ่านตอนใหม่ เด็กทุกวันนี้แค่เข้าอินเทอร์เน็ตพวกเขาก็มีทุกอย่างในโลกนี้ให้อ่าน แต่ผมต้องรออาทิตย์นึงเพื่อได้อ่านแค่สองหน้า นั่นแหละที่ทำให้ผมหลงใหลในเรื่องนี้” เบสซง กล่าวถึงความหลังพร้อมดวงตาที่เปล่งประกาย “ผู้หญิงคนแรกที่ผมตกหลุมรักน่าจะเป็น ลอเรลลีน เธอเก๋าและมีอิสระมาก เป็นฮีโร่สาวที่ทันสมัยมากในเวลานั้น ผมคลั่งเธอมาก ส่วน วาเลเรียน ก็เจ๋งเหมือนกัน แต่ขี้เก๊กไปหน่อย เขามักคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุดแล้ว แต่เธอจะคอยพูดว่า 'เหรอ ใจเย็นนะ' ผมชอบความสัมพันธ์ของสองคนนี้ตั้งแต่แรก นั่นเป็นแรงผลักดันให้ผมยิ่งกว่ายานอวกาศหรือเอเลี่ยนต่างดาวซะอีก มันเหมือน Mr. & Mrs. Smith เวอร์ชั่นอวกาศ คุณรู้ว่าพวกเขาล้อกันเล่น จิกกัดกัน ผมรักทีมนี้มาก”
จริงๆ แล้ว  โคลด เมซิแอร์ ผู้วาดภาพลายเส้นของหนังสือการ์ตูน Valerian. ต้นฉบับเคยร่วมงานกับ เบสซง ใน The Fifth Element  อีกหนึ่งผลงานไซไฟขึ้นหิ้งของเขา “เขาถามผมมาตลอดว่า ‘ทำไมคุณไม่สร้าง Valerian. สักทีล่ะ?’ ผมก็ได้แต่ตอบกลับไปว่า ‘ผมยังสร้างไม่ได้หรอก เพราะมันมีตัวละครที่เป็นมนุษย์แค่ไม่กี่คน ส่วนที่เหลือล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นๆ ตั้งกว่า 1,000 ตัวหมดเลย ... ดังนั้นเราจึงต้องรอคอยเวลา แต่หลังจากที่ Avatar ออกมาผมคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ จนในที่สุดวันนี้เราก็สร้างมันขึ้นมาได้อย่างสำเร็จ




เครดิต ข้อมูลและรูปภาพ มงคลเมเจอร์ https://www.facebook.com/sahamongkolmajor/   และ เพจสนทนาไซไฟ
https://www.facebook.com/TalkSciFi

***** มีต่อ *****