#ขออนุญาติระบายนะคะ
#กระทู้นี้งี้เง้าใครกลัวเสียเวลาอ่านกดปิดไปเลยนะคะ
เราแค่อยากมาระบาย #ความอัดอั้น
เราแอบคนๆ นึง มา 14 ปี (ดูอมตะเนอะ)
คือ เราได้แค่แอบชอบ ไม่กล้า และปล่อยระยะเวลาให้เนินนาน โดยที่เขาไม่เคยรู้แม้แต่นิดเดียว
ได้แต่ตามด่อมๆ มองๆ อย่างกับตัวเองเป็นหัวขโมย
จากการแอบชอบ แอบปลื้ม แบบเด็กๆ มันเริ่มทวีคูณความรู้สึกขึ้นเรื่อยๆ
จนไม่สามารถเลิกคิดถึงได้
แล้ววันนึง หลังจากที่เรียนจบ จนทำงาน ห่างไกลมานาน
เราก็พยายามขวนขวายหาประวัติของเขา ดูว่าเขาพอจะมีช่องทางใด
ที่เราพอจะเห็นชีวิต เขาได้บ้าง
แล้วเราก็เจอ ทวิตเตอร์เขา facebook เขา
เมื่อ 3 ปีก่อน เราแอดเฟรนไปทันที
แล่วก็รอ รอให้เขากดรับเพื่อนเรา จนเวลาผ่านไป
เราได้แค่นั่งส่องรูปโปรไฟล์เขา และแอบดูรูปเขาจากเพื่อนๆ ของเขาที่เราไล่แอดเฟรนทุกคน เพียงเพื่ออยากเป็นความเป็นไปของเขา
แต่สุดท้าย เราก็ได้แต่ แอด แล้ว ก็ อัน อยู่สามสี่รอบ
หวังว่าเขาจะเห็น และจำเราได้ ตอบรับเราเป็นเพื่อน
(เราดูโรคจิตมาก) คือ ถ้าเราเห็นเขากดถูกใจรูปภาพของเพื่อนคนไหน เราจะไปกดตาม แค่หวังให้เขาเห็นเรา
จนเมื่อ เดือนก่อน เรารู้สึกอึดอัดใจมาก
มันเหมือนคนที่สะสมแผ่นหินทีละน้อยจนเป็นภูเขา
เราคิดอยู่เป็นอาทิตย์ ว่าจะทำอย่างไรกับควมมรู้สึกนี้ดี
เราไม่มีทางติดต่ออื่น นอกจากทาง face ที่พอจะเชื่อมต่อกันได้
แล้วเราก็ทำในสิ่งที่เราน่าจะทำมาตั้งนาน
เรากดสติกเกอร์ไปใน inbox เขา
รอให้เขาตอบกลับมา
คือ คิดแค่ว่า เราน่าจะได้ คำถาม? ใดกลับมาบ้างเป็นการที่จะได้เริ่มต้นสนทนาอย่างดูไม่น่าเกลียด
แต่สุดท้าย มันก็เหมือนเดิม
เขาเงียบ ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว
แล้วหลังจากวันนั้น เราก็ใช้ชีวิตแบบเบลอๆ มาตลอด
เหมือนลูกโป่งอัดแก๊ซ แบบเรามีแต่ความหวัง
เรามากับความเชื่อ
ว่าอย่างน้อย เราน่าจะได้รับข้อความใดกลับมาบ้าง
(แม้เราจะเผื่อใจไว้แล้วก็ตาม)
แต่ท้ายที่สุด เราก็พบแต่ความว่างเปล่า
เอาจริงๆ ใจเราตอนนี้ #โครตเคว้งคว้าง เลย
เพราะเราเคยอยู่แต่ในโลกของความรู้สึกสวยๆ ของเรามาตลอด
พอมาเจอความจริง เราก็สะตั้นไปเหมือนกัน
น้ำตาเราไหลได้ตลอดอ่ะ แบบอยู่เฉยๆ ก็ไหล
เราไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเปิดใจให้ใคร
เราเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต โชคชะตา เราได้แค่รอ
และวนเวียนอยู่แบบนี้ซ้ำๆ เราอยู่กับตัวเราเองและความรู้สึกนี้มาโดยตลอด เหมือนแบบ #หลอกตัวเองมาตลอด ว่าสักวันมันจะมี #โอกาส ให้เรา
สุดท้าย เราก็ยืนอยู่จุดเดิม
#เสียดายเราน่าจะกล้ามากกว่านี้
เราก็แค่ต้องการบอกความรู้สึก แค่อยากได้รับโอกาสนั้น แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม #เราเจียมตัวเราดี
#เรารู้จุดยืนของเรา #แต่ก็ยังคิดว่ามีหวัง
สุดท้าย มันก็ว่างเปล่า
เราไม่กล้าพิมพ์ไปเป็นประโยคให้เขาอ่าน
เพราะแค่สติกเกอร์อันเดียวเขายังไม่สนใจเลย
จะว่าเราบ้า เราบ๊อง ก็ได้นะ แต่เราแค่แบบ หนึ่งชีวิตเกิดมาจะไม่คิดทำอะไรเลยหรอ เรารวบรวมความกล้าเต็มที่ที่เรามี หวังจะสานต่อไปเป็นประโยค แต่ก็เหมือนเดิม เรายังต้องเข้าไป #กดยกเลิกการเพิ่มเพื่อน อีกครั้ง แบบเดิม เดิมๆ
เราเบื่อที่เราจะ วนๆ อยู่แบบเดิม
แต่เราก็เลิกคิดถึงเขาไม่ได้
คือแบบ เหมือนเรายืนอยู่หน้าบ้านเขา
กดออดเรียก เคาะประตู ก็รู้นะว่ามีคนอยู่ข้างใน
แต่เขากลับไม่เปิดรับผู้มาเยือน เท่านั้นเอง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ
ประโยคอาจจดูมั่วๆ หน่อย ไม่ได้เล่าอะไรละเอียด
เพราะเราแค่อยากระบายมันออกมาบ้าง
#เรามันไม่เอาไหนแค่หัวใจตัวเองยังรักษาไว้ได้ไม่ดี
ยืนอยู่หน้าบ้านเขา แต่เขาไม่เปิดประตูรับ
#กระทู้นี้งี้เง้าใครกลัวเสียเวลาอ่านกดปิดไปเลยนะคะ
เราแค่อยากมาระบาย #ความอัดอั้น
เราแอบคนๆ นึง มา 14 ปี (ดูอมตะเนอะ)
คือ เราได้แค่แอบชอบ ไม่กล้า และปล่อยระยะเวลาให้เนินนาน โดยที่เขาไม่เคยรู้แม้แต่นิดเดียว
ได้แต่ตามด่อมๆ มองๆ อย่างกับตัวเองเป็นหัวขโมย
จากการแอบชอบ แอบปลื้ม แบบเด็กๆ มันเริ่มทวีคูณความรู้สึกขึ้นเรื่อยๆ
จนไม่สามารถเลิกคิดถึงได้
แล้ววันนึง หลังจากที่เรียนจบ จนทำงาน ห่างไกลมานาน
เราก็พยายามขวนขวายหาประวัติของเขา ดูว่าเขาพอจะมีช่องทางใด
ที่เราพอจะเห็นชีวิต เขาได้บ้าง
แล้วเราก็เจอ ทวิตเตอร์เขา facebook เขา
เมื่อ 3 ปีก่อน เราแอดเฟรนไปทันที
แล่วก็รอ รอให้เขากดรับเพื่อนเรา จนเวลาผ่านไป
เราได้แค่นั่งส่องรูปโปรไฟล์เขา และแอบดูรูปเขาจากเพื่อนๆ ของเขาที่เราไล่แอดเฟรนทุกคน เพียงเพื่ออยากเป็นความเป็นไปของเขา
แต่สุดท้าย เราก็ได้แต่ แอด แล้ว ก็ อัน อยู่สามสี่รอบ
หวังว่าเขาจะเห็น และจำเราได้ ตอบรับเราเป็นเพื่อน
(เราดูโรคจิตมาก) คือ ถ้าเราเห็นเขากดถูกใจรูปภาพของเพื่อนคนไหน เราจะไปกดตาม แค่หวังให้เขาเห็นเรา
จนเมื่อ เดือนก่อน เรารู้สึกอึดอัดใจมาก
มันเหมือนคนที่สะสมแผ่นหินทีละน้อยจนเป็นภูเขา
เราคิดอยู่เป็นอาทิตย์ ว่าจะทำอย่างไรกับควมมรู้สึกนี้ดี
เราไม่มีทางติดต่ออื่น นอกจากทาง face ที่พอจะเชื่อมต่อกันได้
แล้วเราก็ทำในสิ่งที่เราน่าจะทำมาตั้งนาน
เรากดสติกเกอร์ไปใน inbox เขา
รอให้เขาตอบกลับมา
คือ คิดแค่ว่า เราน่าจะได้ คำถาม? ใดกลับมาบ้างเป็นการที่จะได้เริ่มต้นสนทนาอย่างดูไม่น่าเกลียด
แต่สุดท้าย มันก็เหมือนเดิม
เขาเงียบ ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว
แล้วหลังจากวันนั้น เราก็ใช้ชีวิตแบบเบลอๆ มาตลอด
เหมือนลูกโป่งอัดแก๊ซ แบบเรามีแต่ความหวัง
เรามากับความเชื่อ
ว่าอย่างน้อย เราน่าจะได้รับข้อความใดกลับมาบ้าง
(แม้เราจะเผื่อใจไว้แล้วก็ตาม)
แต่ท้ายที่สุด เราก็พบแต่ความว่างเปล่า
เอาจริงๆ ใจเราตอนนี้ #โครตเคว้งคว้าง เลย
เพราะเราเคยอยู่แต่ในโลกของความรู้สึกสวยๆ ของเรามาตลอด
พอมาเจอความจริง เราก็สะตั้นไปเหมือนกัน
น้ำตาเราไหลได้ตลอดอ่ะ แบบอยู่เฉยๆ ก็ไหล
เราไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเปิดใจให้ใคร
เราเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต โชคชะตา เราได้แค่รอ
และวนเวียนอยู่แบบนี้ซ้ำๆ เราอยู่กับตัวเราเองและความรู้สึกนี้มาโดยตลอด เหมือนแบบ #หลอกตัวเองมาตลอด ว่าสักวันมันจะมี #โอกาส ให้เรา
สุดท้าย เราก็ยืนอยู่จุดเดิม
#เสียดายเราน่าจะกล้ามากกว่านี้
เราก็แค่ต้องการบอกความรู้สึก แค่อยากได้รับโอกาสนั้น แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม #เราเจียมตัวเราดี
#เรารู้จุดยืนของเรา #แต่ก็ยังคิดว่ามีหวัง
สุดท้าย มันก็ว่างเปล่า
เราไม่กล้าพิมพ์ไปเป็นประโยคให้เขาอ่าน
เพราะแค่สติกเกอร์อันเดียวเขายังไม่สนใจเลย
จะว่าเราบ้า เราบ๊อง ก็ได้นะ แต่เราแค่แบบ หนึ่งชีวิตเกิดมาจะไม่คิดทำอะไรเลยหรอ เรารวบรวมความกล้าเต็มที่ที่เรามี หวังจะสานต่อไปเป็นประโยค แต่ก็เหมือนเดิม เรายังต้องเข้าไป #กดยกเลิกการเพิ่มเพื่อน อีกครั้ง แบบเดิม เดิมๆ
เราเบื่อที่เราจะ วนๆ อยู่แบบเดิม
แต่เราก็เลิกคิดถึงเขาไม่ได้
คือแบบ เหมือนเรายืนอยู่หน้าบ้านเขา
กดออดเรียก เคาะประตู ก็รู้นะว่ามีคนอยู่ข้างใน
แต่เขากลับไม่เปิดรับผู้มาเยือน เท่านั้นเอง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ
ประโยคอาจจดูมั่วๆ หน่อย ไม่ได้เล่าอะไรละเอียด
เพราะเราแค่อยากระบายมันออกมาบ้าง
#เรามันไม่เอาไหนแค่หัวใจตัวเองยังรักษาไว้ได้ไม่ดี