เรื่องราวเดิมๆ ครับ ลืม tablet ไว้ในรถแท็กซี่หัวค่ำวันนี้ (18/7/60) เอง
ราคาตอนนี้ก็ไม่ได้สูงนัก เอาไปขายก็ได้ไม่กี่พันหรอก แต่รายละเอียดมันทำให้รู้สึกว่า ไม่อยากจะปล่อยไปเฉยๆ
น้องผู้โดยสารเป็นหญิง เรียกรถจากย่านหมู่บ้านเศรษฐกิจ เพชรเกษม ปลายทางเป็นถนนบรมราชชนนี เข้าซอยไปถึงหน้าบ้าน น่าจะเวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ
จ่ายค่าโดยสาร 125 บาท น้องมีแบงค์ย่อยไม่พอ ให้แบงค์ 500 แท็กซี่บอกไม่มีเงินทอน น้องเลยรีบลงหิ้วของพะรุงพะรังเพราะเกรงใจที่คนขับรถต้องรอ เข้าไปเอาเงินในบ้านมาให้ (เป็นเหรียญ 10 ที่ใส่กล่องไว้) มาให้จนครบ ตรงนี้ละครับ น่าจะเป็นเวลาที่ผมผู้ตั้งกระทู้ได้โทรติดต่อเข้าไปที่เครื่อง tab พอดี บันทึกเป็นเวลา 19.45 ไม่มีผู้รับสาย ทั้งที่น้องบอกว่าตั้งเสียงดังไว้ แสดงว่าตอนนี้เครื่องไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้โดยสารแล้ว แต่แท็กซี่ต้องได้ยินแน่ๆ เมื่อจ่ายเงินค่าโดยสารแล้วแท็กซี่ก็ไป น้องเค้าเข้าบ้าน ทำธุระส่วนตัวครู่เดียว เมื่อมาดูของก็รู้ว่าลืม tablet ก็รีบโทรเข้า เวลา 19.53 เรื่องก็เป็นที่คาดเดาได้นะครับ ไม่รับสาย เมื่อส่งข้อความไปขอดีๆ ว่า เครื่องมันมีข้อมูลค่อนข้างสำคัญที่ต้องใช้งานอยู่ ติดต่อส่งคืนก็จะให้ค่าเสียเวลาที่เอามาคืนให้ แต่สุดท้ายก็ปิดเครื่อง
ด้วยเงื่อนไขของเวลา เป็นไปได้ยากครับ ที่จะเป็นผู้โดยสารที่ขึ้นมาใหม่จะเป็นคนเก็บไป เพราะกว่ารถจะออกจากซอย และถนนบรมราชชนนีก็ไม่ใช่จะมีผู้โดยสารเรียกรถแท็กซี่กันง่ายๆ โอเค เป็นความผิดของน้องที่ไม่ระมัดระวังทรัพย์สินของตัวเอง ผิดที่ไม่จดจำเลขประจำรถที่นั่งมา จำได้แค่สีรถ แต่ แสดงว่าคนขับแท็กซี่หรือใครก็ตามที่ได้เครื่องนี้ไปให้หลังจากที่น้องลงรถไม่กี่นาที คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการเอาของของคนอื่นมาเป็นของตัวเองหรือครับ
สิ่งที่ผมทำก็คือผมพาน้องไปลงบันทึกประจำวัน และจะนำบันทึกประจำวันไปติดต่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของ กทม.ที่มีอยู่ในซอยหมู่บ้าน
ประเด็นคือไม่ได้ต้องการได้ของคืนเป็นหลัก แต่อยากได้ทะเบียนของรถแท็กซี่ แล้วจะใช้ช่องทางเว็บพันธุ์ทิพย์นี้ และ social media เพื่อให้คนขับแท็กซี่คันนี้ อย่างน้อยก็ติดต่อมายืนยันความบริสุทธิ์ใจครับ แต่พี่ตำรวจที่รับลงบันทึกประจำวันให้ก็ยังบอกว่าอยากให้ผมตามแท็กซี่คันนี้ให้เจอ พาไปพบพี่ตำรวจเค้าจะถามให้เอง อย่างที่บอกมันก็มีช่องว่างของการที่อาจจะเป็นผู้โดยสารที่ขึ้นมาทีหลังเอาไป แต่ถ้ายืนยันช่วงเวลาที่รถอยู่ในซอยได้จากภาพกล้องวงจรปิดและบันทึกเวลาการโทรเข้าเครื่อง tab ที่ไม่มีคนรับ แล้วสรุปได้ว่าเป็นคนขับแท็กซี่เอาไปละก็ มันก็จะเป็นคดีอาญา กับแค่การอยากได้ของคนอื่นราคาไม่กี่พันบาทแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องราวที่ยอมความไม่ได้ตามกฎหมายไปอีก
ผมผิดไหมที่ไม่ปล่อยผ่าน? ไม่คิดว่าของแค่ไม่กี่บาทเอง ช่างมันเถอะ
ผมว่ามันเป็นเรื่องของความถูกต้องมากกว่าครับ หรือเพื่อนในพันธุ์ทิพย์คิดว่าอย่างไรครับ?
ลืมของในแท็กซี่ ความผิดของคนลืมหรือเปล่า ถ้าผมทำแบบนี้จะผิดไหม?
ราคาตอนนี้ก็ไม่ได้สูงนัก เอาไปขายก็ได้ไม่กี่พันหรอก แต่รายละเอียดมันทำให้รู้สึกว่า ไม่อยากจะปล่อยไปเฉยๆ
น้องผู้โดยสารเป็นหญิง เรียกรถจากย่านหมู่บ้านเศรษฐกิจ เพชรเกษม ปลายทางเป็นถนนบรมราชชนนี เข้าซอยไปถึงหน้าบ้าน น่าจะเวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ
จ่ายค่าโดยสาร 125 บาท น้องมีแบงค์ย่อยไม่พอ ให้แบงค์ 500 แท็กซี่บอกไม่มีเงินทอน น้องเลยรีบลงหิ้วของพะรุงพะรังเพราะเกรงใจที่คนขับรถต้องรอ เข้าไปเอาเงินในบ้านมาให้ (เป็นเหรียญ 10 ที่ใส่กล่องไว้) มาให้จนครบ ตรงนี้ละครับ น่าจะเป็นเวลาที่ผมผู้ตั้งกระทู้ได้โทรติดต่อเข้าไปที่เครื่อง tab พอดี บันทึกเป็นเวลา 19.45 ไม่มีผู้รับสาย ทั้งที่น้องบอกว่าตั้งเสียงดังไว้ แสดงว่าตอนนี้เครื่องไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้โดยสารแล้ว แต่แท็กซี่ต้องได้ยินแน่ๆ เมื่อจ่ายเงินค่าโดยสารแล้วแท็กซี่ก็ไป น้องเค้าเข้าบ้าน ทำธุระส่วนตัวครู่เดียว เมื่อมาดูของก็รู้ว่าลืม tablet ก็รีบโทรเข้า เวลา 19.53 เรื่องก็เป็นที่คาดเดาได้นะครับ ไม่รับสาย เมื่อส่งข้อความไปขอดีๆ ว่า เครื่องมันมีข้อมูลค่อนข้างสำคัญที่ต้องใช้งานอยู่ ติดต่อส่งคืนก็จะให้ค่าเสียเวลาที่เอามาคืนให้ แต่สุดท้ายก็ปิดเครื่อง
ด้วยเงื่อนไขของเวลา เป็นไปได้ยากครับ ที่จะเป็นผู้โดยสารที่ขึ้นมาใหม่จะเป็นคนเก็บไป เพราะกว่ารถจะออกจากซอย และถนนบรมราชชนนีก็ไม่ใช่จะมีผู้โดยสารเรียกรถแท็กซี่กันง่ายๆ โอเค เป็นความผิดของน้องที่ไม่ระมัดระวังทรัพย์สินของตัวเอง ผิดที่ไม่จดจำเลขประจำรถที่นั่งมา จำได้แค่สีรถ แต่ แสดงว่าคนขับแท็กซี่หรือใครก็ตามที่ได้เครื่องนี้ไปให้หลังจากที่น้องลงรถไม่กี่นาที คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการเอาของของคนอื่นมาเป็นของตัวเองหรือครับ
สิ่งที่ผมทำก็คือผมพาน้องไปลงบันทึกประจำวัน และจะนำบันทึกประจำวันไปติดต่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของ กทม.ที่มีอยู่ในซอยหมู่บ้าน
ประเด็นคือไม่ได้ต้องการได้ของคืนเป็นหลัก แต่อยากได้ทะเบียนของรถแท็กซี่ แล้วจะใช้ช่องทางเว็บพันธุ์ทิพย์นี้ และ social media เพื่อให้คนขับแท็กซี่คันนี้ อย่างน้อยก็ติดต่อมายืนยันความบริสุทธิ์ใจครับ แต่พี่ตำรวจที่รับลงบันทึกประจำวันให้ก็ยังบอกว่าอยากให้ผมตามแท็กซี่คันนี้ให้เจอ พาไปพบพี่ตำรวจเค้าจะถามให้เอง อย่างที่บอกมันก็มีช่องว่างของการที่อาจจะเป็นผู้โดยสารที่ขึ้นมาทีหลังเอาไป แต่ถ้ายืนยันช่วงเวลาที่รถอยู่ในซอยได้จากภาพกล้องวงจรปิดและบันทึกเวลาการโทรเข้าเครื่อง tab ที่ไม่มีคนรับ แล้วสรุปได้ว่าเป็นคนขับแท็กซี่เอาไปละก็ มันก็จะเป็นคดีอาญา กับแค่การอยากได้ของคนอื่นราคาไม่กี่พันบาทแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องราวที่ยอมความไม่ได้ตามกฎหมายไปอีก
ผมผิดไหมที่ไม่ปล่อยผ่าน? ไม่คิดว่าของแค่ไม่กี่บาทเอง ช่างมันเถอะ
ผมว่ามันเป็นเรื่องของความถูกต้องมากกว่าครับ หรือเพื่อนในพันธุ์ทิพย์คิดว่าอย่างไรครับ?