สวัสดีเพื่อนๆชาว PANTIP ทุกคนด้วยครับ เมื่อในงาน Computex ที่ผ่านมาที่ไต้หวันนั้น ทาง ASUS ได้เปิดตัวซีรีย์ VivoBook ตัวใหม่ โดยออกมาหลายรุ่นกันเลยทีเดียวซึ่ง จะมีทั้งตัว ธรรมดา และ ตัว Pro จะเริ่มใช้ CPU ตั้งแต่ i5 – i7 และ จะใช้ การ์ดจอ 940MX ในตัวธรรมดา และ สำหรับรุ่น PRO จะใช้ GTX1050 นั้นเอง จะแตกต่างกันด้านการใช้งาน แล้วแต่ผู้ใช้เลย ซึ่ง สเปคจัดว่าเหมาะสม และจุดเด่นอีกอันคือ ประกัน 2 ปี ทำให้มันน่าสนใจเลยทีเดียว
ซึ่งในรีวิวนี้ จะเป็นตัว ASUS VivoBook S15 ซึ่งจะเป็นรหัส S510UQ ตัวธรรมดาไม่ใช่รุ่น Pro ซึ่ง สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็น Full HD IPS ภาพสวยไม่เพี้ยนแน่นอน ซึ่งตัวนี้จะเปิด ราคา ASUS VivoBook S15 S510UQ สำหรับตัว i5 ราคาอยู่ที่ 22,990 กับ i7 ราคา 25,990 บาทครับ ซึ่งทางเพจเราได้มาจะเป็นตัว i7 นะครับ
Spec Asus Vivobook S15 S510
ขนาดหน้าจอ NanoEdge 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล IPS มุมมองกว้าง 178 องศา
CPU Intel Core i7-7500U ความเร็ว 2.7 GHz สูงสุดได้ถึง 2.9 GHz
RAM 4 GB DDR4
กราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce 940MX DDR5
ฮาร์ดดิสก์ 1 TB 5400 RPM
รองรับด้วย SSD M.2
การเชื่อมต่อ Wireless AC
ไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวปรับได้สามระดับ
น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม บาง 17.9
ราคาอยู่ที่ 25,990 บาท ในรุ่น Core i7 พร้อมการรับประกัน 2 ปีเต็ม
Endless OS
Design
ดีไซน์การออกแบบจุดเด่นของมัน คือ เครื่องขนาดเท่าจอ 14 นิ้วทั่วไป แต่ได้จอถึง 15.6 นิ้วขนาดใหญ่มา ต้องขอบคุณการออกแบบ ขอบจอ NanoEdge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็กเหมาะกับการพกพาซึ่งเมื่อดู ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แกนพับหน้าจอขนาดใหญ่ การดีไซน์ ทั้งตัวเครื่องจะให้อารมณ์ไปทาง Macbook นิดๆครับ
ในส่วนของตัวเครื่องบอดี้จะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งบนฝานั้นจะเป็นอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบาและแข็งแรง แต่ ส่วนบอดี้ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียมธรรมดา ซึ่งวัสดุอัลลูมิเนียมทั้งตัวที่วางมือ และ บริเวณทั้งตัวเครื่อง ทำให้ เป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก แต่ส่วนฝาอัลลอยนั้นจะเป็นลอยนิ้วมือง่ายหน่อยนะ ซึ่งเป็นปกติ ถ้าแลกมากับความสวยก็ต้องรักษากันดีๆหน่อย
ตรงขอบจอ และ ฝาด้านในนั้นจะเป้นพลาสติกสีดำ นะครับ ในส่วนกล้องเว็บแคมก็ติดตั้งให้มาด้วยแบบ HD พร้อมไมค์ 2 ตัวแบบตัดเสียงถือว่าทำมาได้แข็งแรงนะ กดๆดูงานประกอบแน่นใช้ได้เลย
Screen
จากที่ลองนั้น ขอชมว่าเป็นจอ 15.6 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว หน้าจอด้านขนาด 15.6 นิ้ว แบบ NanoEdge ที่มีขอบหน้าจอที่บางมากเพียง 7.8 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS เป็นสัดส่วน 80% มีมุมมองกว้างถึง 178 องศา จอแบบด้านไม่สะท้อนแสงและใช้งานได้ทุกสถานที่เลย มีประโยชน์นะ เวลาไปใช้งานที่อื่นๆไม่ค่อยสะท้อน ซึ่งแอดชอบจอด้านมากๆแม้อาจจะดูไม่สวยเหมือนจอเงาแต่รุ่นนี้ทำออกมาได้ดีมากเลยนะ
Speaker แน่นอน Asus ยังคงใช้เทคโนโลยี ลำโพงคู่ SonicMaster มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก มีมิติมาก โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีนะ ดังและ ชัดเจนมีมิติครับ ไม่แห้งๆเกินไป แต่ดังสุดที่ลองๆมาไหมก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นแต่ เนื่องด้วยขนาดและน้ำหนักมัน ทำให้มันอาจจะเป็นข้อจำกัดนะ
Keyboard การจัดวางตำแหน่งและการออกแบบ โดยรวมของพื้นที่ทั้งหมดทำออกมาได้ดี ปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวให้ปุ่มขนาดใหญ่ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น และ การเว้นพื้นที่ระหว่างปุ่ม การการตอบสนองถือว่าทำได้ดี ทำงานพิมพ์ได้สะดวกไม่ค่อยพลาดครับ แต่จะไม่มีในส่วน Numpad นะครับแม้จะได้จอใหญ่ เพราะขนาดตัวเครื่องนั้นค่อนข้างเล็กนั้นเอง แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ และ ปุ่มปิดเปิดเครื่อง ก็เหมือน MAC BOOK นั้นเอง การวาง Layout ก็คุ้นๆ
Touchpad มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มากกกก เมื่อเทียบกับตัวเครื่อง แต่จริงๆนั้นมันคือขนาดปกติในตัว 15.6นั้นเอง การดีไซน์นั้นไม่มีปุ่มแยกคลิกแล้วนะครับ เป็นแผ่นใหญ่ๆเลยเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา วัสดุการใช้งานด้วยความที่ใหญ่ก็ใช้งานสะดวกขึ้น เวลาพกพาไปไหน ระบบนิ้วก็ใช้งานได้ดีครับ เลื่อนขึ้นลง โดยรวมถือว่าดีเลย และเสียงเวลาคลิกกดลงไปจะไม่ดังมากนัก
Connectorทั้ง 2 ด้านก็เรียกได้ว่าจัดเต็มมาครบทุกพอร์ท ก็จะมี USB 3.0 1 ช่อง USB 2.0 2 ช่อง ที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมี พอร์ท USB 3.1 Type C ซึ่งไว้สำหรับ มือถือ อุปกรณ์ที่สมัยนี้ ใช้แบบนี้กันหมดแล้วนั้นเอง
ก็ยังคงมี HDMI มาให้ แต่ แน่นอนยุคสมัยนี้ พอร์ท VGA หายไปแล้วก็ต้องหา HDMI to VGA มาเอง รูเชื่อมต่อหูฟังนั้นรวม ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เข้าไว้ด้วยกัน และ ส่วนช่องอ่าน SD Card จะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง และไม่มีช่องเสียบ LAN แล้วนะครับ และ ก็ไม่มีช่องใส่ CD แล้วด้วยเหมือนกัน
น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.7 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็กซึ่งเวลาพกด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1.9 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เพราะจากที่ลองดู จอ15.6 นิ้วทั้งหมดมาส่วนใหญ่นั้น น้ำหนักจะขึ้น เลข 2 กันไปหมด เลย และ ขนาดค่อนข้างใหญ่ ยิ่งพวกสายเกมส์ก็หนักไปกันใหญ่ ซึ่งตัวนี้นั้นออกมาตอบโจทย์คนใช้งาน พกพาเยอะ แต่ต้องการจอใหญ่กว่าเดิม โดนที่ไม่หนักมากนัก และ บางเบา แบบตัว 14 นิ้วนั้นเองครับ ซึ่งทำออกมาได้ดีนะ และพอร์ทสำคัญก็ยังเก็บไว้ไม่ตัดทิ้งไปจนเหลือ แค่ 1 ช่องแบบบางรุ่น
เทียบความบางจะพอๆกับกล่อง DVD เลยครับ แต่ถ้าเมื่อเทียบกับ Macbook Air นั้นจะตามขนาดแหละครับ
ENDLESS OS SOFTWARE
Asus VivoBook S15 S510UQ ตัวที่ได้รีวิวจะเป็น Intel Core i7-7500U ซึ่งเป็นชิปประมวลแบบประหยัดพลังงาน เป็น CPU แบบ 2 Core 4 Threads มาพร้อม Ram ภายในขนาด 4 GB Bus 2400 โดยสามารถอัพได้สูงสุด 16 GBด้านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จะมีสองตัวด้วยกัน คือ Onboard และแยกของ Nvidia ซึ่งการ์ดจอออนบอร์ดจะเป็น Intel HD Graphic 620 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก Nvidia GeForce 940MX ขนาด 2 GB DDR5 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงไม่ว่าจะตัดต่อหนังหรือจะเล่นเกม แม้อาจจะไม่แรงมากเทียบเท่าพวก GTX แต่ก็พอเพียงกับการใช้งานเล่นเกมประเภทออนไลน์ได้อยู่ครับ
ด้านของ Endless OS จะเป็น OS ที่มาพร้อมกับเครื่อง เรียบๆง่ายๆ ใช้งานทั่วไป ได้สบาย เลยเอามาพรีวิวให้ชมครับ จะมีแอพพื้นฐานที่ใช้ได้มาครับ เลยทั้ง สามารถเข้าเว็บไซท์ ตัดต่อหนัง Work / Powerpoint / CAD/ STREAM มาครบพอใช้งาน เป็น OS ที่จะพยายามใช้งานแบบ Offline ได้และเรียบง่าย ซึ่ง เหมือน เป็น OS ที่ทุกคนใช้งานได้ เรียบๆและไม่ค่อยยุ่งยากครับ หน้าตาการตั้งค่าก็ปรับได้หมด ถือว่าเป็น OS ที่ดีเลยอันนึง แต่น้อยคนอยู่แล้วที่จะใช้ ส่วนใหญ่ก็จับลง Windows หมดแหละ 555
Battery
แบตเตอรี่มีขนาด 3 Cell แบบฝังไม่สามารถถอดได้ ใช้งานปกติต่อเนื่อง ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนช่องระบายของเจ้าโน้ตบุ๊คตัวนี้จะอยู่ด้านบนบริเวณแกนพับหน้าจอ ซึ่งการระบายแบบนี้จะมีข้อดีคือเมื่อพักจะเนียนไปกับตัวเครื่องและ ไม่เห็นช่องนั้นเองถ้านึกไม่ออกก็ประมาณของ MACBOOK นั้นแหละครับ (อีกแล้ว ? 55 )
ทางด้านอุณหภูมิใช้งานปกติ 45 องศาเซลเซียส แต่ถ้าใช้งานหนักๆก็ปกติแหละครับ ประมาณ 96 องศาเซลเซียส ระบบระบายเครื่องนี้ทำได้ดีในการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าเล่นเกมส์หนักๆ หรือทำงานหนัก เรนเดอร์พวกนี้ ก็ร้อนปกติครับเพราะมันเน้นใช้งานทั่วไปมากกว่า แต่ร้อนก็ไม่ได้ร้อนมากจนวางมือไม่ได้นะ ถือว่าทำได้ดีตรงนี้
ASUS VIVOBOOK S15 S510UQ เอาจริงๆรอบนี้ แอดมองว่าการดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ แตกต่างกับตัวอื่นๆใน แบรนด์ Asus เหมือนทำให้ มันดูดีขึ้นไปเลยอีกระดับนึง ซึ่งเมื่อเรามามองดูราคา และ งานประกอบ สเปคที่ให้มา มันก็จะมี i5 ไปจนถึง i7 รหัส U เริ่มต้นที่ 22,900 บาทขึ้นไป ในรีวิวนี้จะเป็นตัวสูงสุด Core i7 ก็จัดมาที่ ที่ 25,990 บาท แพงไหม ถือว่าไม่แพงนะจริงๆ ทั้งดีไซน์ วัสดุ และ สเปคถือว่าคุ้มนะ และมากับ หน้าจอ 15.6 แต่ขนาดเล็ก และบางเบามาก แต่มันก็มีข้อดีข้อเสียนะ
ข้อดี
จอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว และ ขอบจอบางงงงมากก Nano edge จุดเด่นเลยแหละ
หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD IPS ให้สีสันที่สวยสด งดงามมาก
มีพอร์ท USB 3.1 type C ตามสมัยนิยมอันนี้เจ๋งครับ เสียบ Google pixel ง่ายเลย
มี ไฟ Keyboard และ สามารถปรับความสว่างได้ครับ
น้ำหนักเบา แถม วัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูงทั้งตัวเครื่องเลย
แบตเตอรรี่ใช้งานได้ยาวกว่าที่คิด และ ไม่ร้อนมากนัก
ข้อสังเกต
ไม่มี Windows แท้มาให้ อันนี้น่าเสียดายมากกกกกก
ไม่ได้ให้ SSD มาในตัว ต้องซื้อแยกต่างหาก
อันนี้ไม่น่าใช่ข้อเสียแต่ ดีไซน์ รวมๆ + หน้าตา Endless OS มันเหมือน MAC OSX มากๆเลยแหละ 555
[CR] รีวิว ASUS VIVOBOOK S15 S510UQ โน้ตบุ๊คบางและเบา พร้อมจอ 15.6″ และ I7-7500U+940MX
ซึ่งในรีวิวนี้ จะเป็นตัว ASUS VivoBook S15 ซึ่งจะเป็นรหัส S510UQ ตัวธรรมดาไม่ใช่รุ่น Pro ซึ่ง สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็น Full HD IPS ภาพสวยไม่เพี้ยนแน่นอน ซึ่งตัวนี้จะเปิด ราคา ASUS VivoBook S15 S510UQ สำหรับตัว i5 ราคาอยู่ที่ 22,990 กับ i7 ราคา 25,990 บาทครับ ซึ่งทางเพจเราได้มาจะเป็นตัว i7 นะครับ
Spec Asus Vivobook S15 S510
ขนาดหน้าจอ NanoEdge 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล IPS มุมมองกว้าง 178 องศา
CPU Intel Core i7-7500U ความเร็ว 2.7 GHz สูงสุดได้ถึง 2.9 GHz
RAM 4 GB DDR4
กราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce 940MX DDR5
ฮาร์ดดิสก์ 1 TB 5400 RPM
รองรับด้วย SSD M.2
การเชื่อมต่อ Wireless AC
ไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวปรับได้สามระดับ
น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม บาง 17.9
ราคาอยู่ที่ 25,990 บาท ในรุ่น Core i7 พร้อมการรับประกัน 2 ปีเต็ม
Endless OS
Design
ดีไซน์การออกแบบจุดเด่นของมัน คือ เครื่องขนาดเท่าจอ 14 นิ้วทั่วไป แต่ได้จอถึง 15.6 นิ้วขนาดใหญ่มา ต้องขอบคุณการออกแบบ ขอบจอ NanoEdge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็กเหมาะกับการพกพาซึ่งเมื่อดู ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แกนพับหน้าจอขนาดใหญ่ การดีไซน์ ทั้งตัวเครื่องจะให้อารมณ์ไปทาง Macbook นิดๆครับ
ในส่วนของตัวเครื่องบอดี้จะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งบนฝานั้นจะเป็นอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบาและแข็งแรง แต่ ส่วนบอดี้ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียมธรรมดา ซึ่งวัสดุอัลลูมิเนียมทั้งตัวที่วางมือ และ บริเวณทั้งตัวเครื่อง ทำให้ เป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก แต่ส่วนฝาอัลลอยนั้นจะเป็นลอยนิ้วมือง่ายหน่อยนะ ซึ่งเป็นปกติ ถ้าแลกมากับความสวยก็ต้องรักษากันดีๆหน่อย
ตรงขอบจอ และ ฝาด้านในนั้นจะเป้นพลาสติกสีดำ นะครับ ในส่วนกล้องเว็บแคมก็ติดตั้งให้มาด้วยแบบ HD พร้อมไมค์ 2 ตัวแบบตัดเสียงถือว่าทำมาได้แข็งแรงนะ กดๆดูงานประกอบแน่นใช้ได้เลย
Screen
จากที่ลองนั้น ขอชมว่าเป็นจอ 15.6 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว หน้าจอด้านขนาด 15.6 นิ้ว แบบ NanoEdge ที่มีขอบหน้าจอที่บางมากเพียง 7.8 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS เป็นสัดส่วน 80% มีมุมมองกว้างถึง 178 องศา จอแบบด้านไม่สะท้อนแสงและใช้งานได้ทุกสถานที่เลย มีประโยชน์นะ เวลาไปใช้งานที่อื่นๆไม่ค่อยสะท้อน ซึ่งแอดชอบจอด้านมากๆแม้อาจจะดูไม่สวยเหมือนจอเงาแต่รุ่นนี้ทำออกมาได้ดีมากเลยนะ
Speaker แน่นอน Asus ยังคงใช้เทคโนโลยี ลำโพงคู่ SonicMaster มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก มีมิติมาก โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีนะ ดังและ ชัดเจนมีมิติครับ ไม่แห้งๆเกินไป แต่ดังสุดที่ลองๆมาไหมก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นแต่ เนื่องด้วยขนาดและน้ำหนักมัน ทำให้มันอาจจะเป็นข้อจำกัดนะ
Keyboard การจัดวางตำแหน่งและการออกแบบ โดยรวมของพื้นที่ทั้งหมดทำออกมาได้ดี ปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวให้ปุ่มขนาดใหญ่ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น และ การเว้นพื้นที่ระหว่างปุ่ม การการตอบสนองถือว่าทำได้ดี ทำงานพิมพ์ได้สะดวกไม่ค่อยพลาดครับ แต่จะไม่มีในส่วน Numpad นะครับแม้จะได้จอใหญ่ เพราะขนาดตัวเครื่องนั้นค่อนข้างเล็กนั้นเอง แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ และ ปุ่มปิดเปิดเครื่อง ก็เหมือน MAC BOOK นั้นเอง การวาง Layout ก็คุ้นๆ
Touchpad มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มากกกก เมื่อเทียบกับตัวเครื่อง แต่จริงๆนั้นมันคือขนาดปกติในตัว 15.6นั้นเอง การดีไซน์นั้นไม่มีปุ่มแยกคลิกแล้วนะครับ เป็นแผ่นใหญ่ๆเลยเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา วัสดุการใช้งานด้วยความที่ใหญ่ก็ใช้งานสะดวกขึ้น เวลาพกพาไปไหน ระบบนิ้วก็ใช้งานได้ดีครับ เลื่อนขึ้นลง โดยรวมถือว่าดีเลย และเสียงเวลาคลิกกดลงไปจะไม่ดังมากนัก
Connectorทั้ง 2 ด้านก็เรียกได้ว่าจัดเต็มมาครบทุกพอร์ท ก็จะมี USB 3.0 1 ช่อง USB 2.0 2 ช่อง ที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมี พอร์ท USB 3.1 Type C ซึ่งไว้สำหรับ มือถือ อุปกรณ์ที่สมัยนี้ ใช้แบบนี้กันหมดแล้วนั้นเอง
ก็ยังคงมี HDMI มาให้ แต่ แน่นอนยุคสมัยนี้ พอร์ท VGA หายไปแล้วก็ต้องหา HDMI to VGA มาเอง รูเชื่อมต่อหูฟังนั้นรวม ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เข้าไว้ด้วยกัน และ ส่วนช่องอ่าน SD Card จะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง และไม่มีช่องเสียบ LAN แล้วนะครับ และ ก็ไม่มีช่องใส่ CD แล้วด้วยเหมือนกัน
น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.7 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็กซึ่งเวลาพกด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1.9 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เพราะจากที่ลองดู จอ15.6 นิ้วทั้งหมดมาส่วนใหญ่นั้น น้ำหนักจะขึ้น เลข 2 กันไปหมด เลย และ ขนาดค่อนข้างใหญ่ ยิ่งพวกสายเกมส์ก็หนักไปกันใหญ่ ซึ่งตัวนี้นั้นออกมาตอบโจทย์คนใช้งาน พกพาเยอะ แต่ต้องการจอใหญ่กว่าเดิม โดนที่ไม่หนักมากนัก และ บางเบา แบบตัว 14 นิ้วนั้นเองครับ ซึ่งทำออกมาได้ดีนะ และพอร์ทสำคัญก็ยังเก็บไว้ไม่ตัดทิ้งไปจนเหลือ แค่ 1 ช่องแบบบางรุ่น
เทียบความบางจะพอๆกับกล่อง DVD เลยครับ แต่ถ้าเมื่อเทียบกับ Macbook Air นั้นจะตามขนาดแหละครับ
ENDLESS OS SOFTWARE
Asus VivoBook S15 S510UQ ตัวที่ได้รีวิวจะเป็น Intel Core i7-7500U ซึ่งเป็นชิปประมวลแบบประหยัดพลังงาน เป็น CPU แบบ 2 Core 4 Threads มาพร้อม Ram ภายในขนาด 4 GB Bus 2400 โดยสามารถอัพได้สูงสุด 16 GBด้านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จะมีสองตัวด้วยกัน คือ Onboard และแยกของ Nvidia ซึ่งการ์ดจอออนบอร์ดจะเป็น Intel HD Graphic 620 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก Nvidia GeForce 940MX ขนาด 2 GB DDR5 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงไม่ว่าจะตัดต่อหนังหรือจะเล่นเกม แม้อาจจะไม่แรงมากเทียบเท่าพวก GTX แต่ก็พอเพียงกับการใช้งานเล่นเกมประเภทออนไลน์ได้อยู่ครับ
ด้านของ Endless OS จะเป็น OS ที่มาพร้อมกับเครื่อง เรียบๆง่ายๆ ใช้งานทั่วไป ได้สบาย เลยเอามาพรีวิวให้ชมครับ จะมีแอพพื้นฐานที่ใช้ได้มาครับ เลยทั้ง สามารถเข้าเว็บไซท์ ตัดต่อหนัง Work / Powerpoint / CAD/ STREAM มาครบพอใช้งาน เป็น OS ที่จะพยายามใช้งานแบบ Offline ได้และเรียบง่าย ซึ่ง เหมือน เป็น OS ที่ทุกคนใช้งานได้ เรียบๆและไม่ค่อยยุ่งยากครับ หน้าตาการตั้งค่าก็ปรับได้หมด ถือว่าเป็น OS ที่ดีเลยอันนึง แต่น้อยคนอยู่แล้วที่จะใช้ ส่วนใหญ่ก็จับลง Windows หมดแหละ 555
Battery
แบตเตอรี่มีขนาด 3 Cell แบบฝังไม่สามารถถอดได้ ใช้งานปกติต่อเนื่อง ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนช่องระบายของเจ้าโน้ตบุ๊คตัวนี้จะอยู่ด้านบนบริเวณแกนพับหน้าจอ ซึ่งการระบายแบบนี้จะมีข้อดีคือเมื่อพักจะเนียนไปกับตัวเครื่องและ ไม่เห็นช่องนั้นเองถ้านึกไม่ออกก็ประมาณของ MACBOOK นั้นแหละครับ (อีกแล้ว ? 55 )
ทางด้านอุณหภูมิใช้งานปกติ 45 องศาเซลเซียส แต่ถ้าใช้งานหนักๆก็ปกติแหละครับ ประมาณ 96 องศาเซลเซียส ระบบระบายเครื่องนี้ทำได้ดีในการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าเล่นเกมส์หนักๆ หรือทำงานหนัก เรนเดอร์พวกนี้ ก็ร้อนปกติครับเพราะมันเน้นใช้งานทั่วไปมากกว่า แต่ร้อนก็ไม่ได้ร้อนมากจนวางมือไม่ได้นะ ถือว่าทำได้ดีตรงนี้
ASUS VIVOBOOK S15 S510UQ เอาจริงๆรอบนี้ แอดมองว่าการดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ แตกต่างกับตัวอื่นๆใน แบรนด์ Asus เหมือนทำให้ มันดูดีขึ้นไปเลยอีกระดับนึง ซึ่งเมื่อเรามามองดูราคา และ งานประกอบ สเปคที่ให้มา มันก็จะมี i5 ไปจนถึง i7 รหัส U เริ่มต้นที่ 22,900 บาทขึ้นไป ในรีวิวนี้จะเป็นตัวสูงสุด Core i7 ก็จัดมาที่ ที่ 25,990 บาท แพงไหม ถือว่าไม่แพงนะจริงๆ ทั้งดีไซน์ วัสดุ และ สเปคถือว่าคุ้มนะ และมากับ หน้าจอ 15.6 แต่ขนาดเล็ก และบางเบามาก แต่มันก็มีข้อดีข้อเสียนะ
ข้อดี
จอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว และ ขอบจอบางงงงมากก Nano edge จุดเด่นเลยแหละ
หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD IPS ให้สีสันที่สวยสด งดงามมาก
มีพอร์ท USB 3.1 type C ตามสมัยนิยมอันนี้เจ๋งครับ เสียบ Google pixel ง่ายเลย
มี ไฟ Keyboard และ สามารถปรับความสว่างได้ครับ
น้ำหนักเบา แถม วัสดุอลูมิเนียมคุณภาพสูงทั้งตัวเครื่องเลย
แบตเตอรรี่ใช้งานได้ยาวกว่าที่คิด และ ไม่ร้อนมากนัก
ข้อสังเกต
ไม่มี Windows แท้มาให้ อันนี้น่าเสียดายมากกกกกก
ไม่ได้ให้ SSD มาในตัว ต้องซื้อแยกต่างหาก
อันนี้ไม่น่าใช่ข้อเสียแต่ ดีไซน์ รวมๆ + หน้าตา Endless OS มันเหมือน MAC OSX มากๆเลยแหละ 555