หลังจากการทะยานขึ้นอย่างรุนแรงของ Bitcoin และ Cryptocurrency ตัวอื่นๆทั้งหลาย ในช่วง หลายเดือนที่ผ่านมาที่ ราคาปรับตัวกันขึ้น มาหลายสิบเท่า
ตัวอย่างกร๊าฟ รายวัน ในช่วงที่ผ่านมาสังเกตุ ดูราคาทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้ว แต่ระยะ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการปรับตัว ติดต่อกัน อย่างรวดเร็ว
Bitcoin
Ethereum (ETH) เหรียญหมายเลข 2 รองจาก Bitcoin}
อันนี้เป็นกร๊าฟ ระยะสั้นในช่วงการปรับตัว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่าแม้ว่า กร๊าฟระยะสั้นใน ตอนนี้จะดูเหมือนทั้งสองตัว รวมทั้ง Cryptocurrency อื่นๆ จะเริ่มจะยืนได้ และแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามา
แต่ ก็ต้องเตือน คนที่เข้าเก็งกำไรด้วยว่า กร๊าฟ ในภาพกว้าง อาจจะยังลงได้ ต่อ เพราะว่า คนที่มีต้นทุนต่ำมาก มีจำนวนมากและพร้อมที่จะขายออกมาได้ ทุกเวลา
ส่วนอนาคตข้างหน้าระยะยาว หลังการปรับตัว ระบบจะล่มสลายไป คนเลิกใช้ หรือปรับตัวแล้ว จะกลับมาเดินต่อ
ส่วนตัวผมเอง ยังเชื่อว่า ถึงนาทีนี้ ระบบ Blockchain และ เทคโนโลยี่ของมันที่ ต้องใช้เงิน Digital หรือ Cryptocurrency เป็นตัว Run ระบบ มันได้เกิดขึ้นแล้ว และจะเติบโตต่อไปแน่นอน โดยมีการพัฒนาแก้ไขจุดบกพร่องที่ พบไปเรื่อยๆ
แต่ปัญหา ของมัน ที่ผ่านมา คนที่ศึกษาติดตามมา ดีๆ ไม่ใช่ แค่เข้าใจว่า เงินดิจิตัล มีแต่ Bitcoin จะรู้ว่า ตอนนี้มีเหรียญเกิดใหม่สร้างระบบใหม่ของมันขึ้นมา เองมากหลายเจ้า แข่งกันพัฒนาเทคโลยี่แข่งกัน ว่าใครตอบสนองความต้องการของคนได้ดีกว่ากัน ซึ่งแน่นอน ระบบที่ดี จะได้รับการยอมรับ และนำไปใช้ รวมทั้งนำไปปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมดียิ่งขึ้น เพราะว่า Blockchain เป็นระบบ Open Source เปิดโค้ดให้คนนำไปแก้ไขปรับปรุงใช้ได้อิสระ
แต่ปัญหาสำคัญตอนนี้ ก็คือ ความที่กระแสมาแรง ความสนใจสูง ตลาดตื่นตัว เหรียญราคาเพิ่มขึ้น ทำให้มีหลายเหรียญใหม่ที่เกิดขึ้น ออกระดมทุน ICO (Initial Coin Opening ) อย่างบ้าคลั่งตามกระแส จนเกิด ทั้งToken หรือเหรียญที่ผูกติดกับ Smartcontact ของเหรียญอื่น โดยไม่ได้สร้าง ระบบ ของตัวเอง กันเยอะแยะ พวกนี้ ก็ระดมทุนกันเหมือน หุ้น IPO กัน แต่ต่างกันที่พวกนี้นำเสนอเทคโนโลยี่ และ แนวคิด มาขอระดมทุนต่างกับ หุ้นที่เจ้าของแต่งบัญชีบริษัท เอามาระดมทุนเพิ่ม
อย่างเช่น Ethereum นี่ มีหลาย เหรียญใหม่ระดมทุน ออก Token ใหม่โดยใช้ ETH ซื้อ ทำให้ความต้องการ ETH ของตลาดสูง ปั่นราคา ETH ขึ้นไปสูงลิ่ว (กว่า 20 เท่า หรือ 2 พันกว่า % ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา)
แต่ถ้าวันใดพวกเหรียญพวกนี้ มันไม่เจ๋งจริง มันก็ เกิดเป็นฟองสบู่แตกได้ ซึ่งแน่นอน ก็จะทำให้ มีการปรับตัวรุนแรงกันทั้งตลาด
ส่วนสาเหตุการปรับตัวรุนแรง ในช่วง สองสัปดาห์นี้ นอกจาก การขายทำกำไรออกมาของคนที่ถือมาก่อน มีกำไร มากแล้ว ฅ
ก็เป็นเรื่องความไม่แน่นอนและ ข่าวที่ออกมากระทบวงการนี้
เอาข่าวใหญ่ๆสองข่าวก่อน ข่าวแรกมี ผู้ตั้งข้อสังเกตุ ว่า Token ออกใหม่ EOS ที่ เปิด ICO ระดมทุนไป ได้ ราวๆ 1 ล้าน ETH (ราวๆ 6-8 พันล้านบาท) แล้ว แทนที่จะเก็บ ETHไว้ เหมือนคนอื่นเค้า แล้ว ค่อยๆปล่อยออกมาแลกเปลี่ยน US Dollar เอาไปใช้ ดำเนินการ แต่ดันโอนไปเข้า ตลาดซื้อ เงิน Cryto จำนวนมากทำให้ คิดกันว่า น่าจะมีการ เอาไปขายเทขายออกมาเป็นดอลล่าร์ จำนวมากๆ ทีเดียว เล่นเอา ราคา ETH ไหลรูดกันลงมา เกือบ ครึ่ง เพิ่งจะเริ่มทรงตัวได้ และตีกลับ
กับอีกข่าวคือ ความไม่แน่ใจ ในการปรับตัวของ ยักษ์ใหญ่ Bitcoin ที่ ระบบตัวเองออกมาก่อนเค้าล้าหลังโอนเงินได้ช้า โดนน้องใหม่แย่งตลาดไปเยอะ เลย
จะปรับตัว เตรียมใช้ SegWit2X ขยายขนาด Block จาก 1 MB ไปเป็น 2 MB เพื่อรองรับการเติบโตของระบบ และ เพิ่มความเร็วในการโอน เพื่อปรับปรุงระบบให้สู้กับเหรียญใหม่ๆเค้าได้ แต่อาจจะทำให้มี Soft fork หรือ การแตกแยกของระบบเดิม ออกมาเป็นระบบคู่ขนาน เหมือนที่ เคยเกิดกับ Ethereum ที่แยกเป็น ETC และ ETH มาแล้ว ตอนนี้เลยหน้าห่วงกลัวปัญหาต่างๆตามมา หลายคนเลยไม่กล้าถือเงินเหล่านี้ เลยชิงขายออกมากันทำให้ราคาปรับตัวลดลง (แต่ทาง Bitcoin ได้ออกมาเตือนแล้ว ให้งดการทำธุรกรรมใน การ โอนเงินด้วย Bitcoin ในช่วงรอยต่อวันที่ 31 กค. -1 สค.ไปก่อน ) และ เชื่อกันว่าระบบน่าจะเสถียรและเดินต่อไปได้ ความกังวลก็ลดมาระดับนึง
ความไม่แน่นอนต่างๆเลยส่งผลให้ราคาไหลรูดตามๆกัน มาหมด
อย่างที่เคยบอกตลาดนี้ กระแสมาแรง การเก็งกำไรสูง ความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น ใครเข้ามาเก็งกำไรต้องระมัดระวังตามข่าวให้ทัน ประเมินข่าวให้ดี
เอาข้อมูลมาฝากพิจารณา หลายๆด้าน
ด้วยความเป็นห่วง ครับ
== การปรับตัวลดลง ครั้งสำคัญ อีกครั้ง ของ Cryptocurrency และ Bitcoin ==
ตัวอย่างกร๊าฟ รายวัน ในช่วงที่ผ่านมาสังเกตุ ดูราคาทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้ว แต่ระยะ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการปรับตัว ติดต่อกัน อย่างรวดเร็ว
Bitcoin
Ethereum (ETH) เหรียญหมายเลข 2 รองจาก Bitcoin}
อันนี้เป็นกร๊าฟ ระยะสั้นในช่วงการปรับตัว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่าแม้ว่า กร๊าฟระยะสั้นใน ตอนนี้จะดูเหมือนทั้งสองตัว รวมทั้ง Cryptocurrency อื่นๆ จะเริ่มจะยืนได้ และแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามา
แต่ ก็ต้องเตือน คนที่เข้าเก็งกำไรด้วยว่า กร๊าฟ ในภาพกว้าง อาจจะยังลงได้ ต่อ เพราะว่า คนที่มีต้นทุนต่ำมาก มีจำนวนมากและพร้อมที่จะขายออกมาได้ ทุกเวลา
ส่วนอนาคตข้างหน้าระยะยาว หลังการปรับตัว ระบบจะล่มสลายไป คนเลิกใช้ หรือปรับตัวแล้ว จะกลับมาเดินต่อ
ส่วนตัวผมเอง ยังเชื่อว่า ถึงนาทีนี้ ระบบ Blockchain และ เทคโนโลยี่ของมันที่ ต้องใช้เงิน Digital หรือ Cryptocurrency เป็นตัว Run ระบบ มันได้เกิดขึ้นแล้ว และจะเติบโตต่อไปแน่นอน โดยมีการพัฒนาแก้ไขจุดบกพร่องที่ พบไปเรื่อยๆ
แต่ปัญหา ของมัน ที่ผ่านมา คนที่ศึกษาติดตามมา ดีๆ ไม่ใช่ แค่เข้าใจว่า เงินดิจิตัล มีแต่ Bitcoin จะรู้ว่า ตอนนี้มีเหรียญเกิดใหม่สร้างระบบใหม่ของมันขึ้นมา เองมากหลายเจ้า แข่งกันพัฒนาเทคโลยี่แข่งกัน ว่าใครตอบสนองความต้องการของคนได้ดีกว่ากัน ซึ่งแน่นอน ระบบที่ดี จะได้รับการยอมรับ และนำไปใช้ รวมทั้งนำไปปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมดียิ่งขึ้น เพราะว่า Blockchain เป็นระบบ Open Source เปิดโค้ดให้คนนำไปแก้ไขปรับปรุงใช้ได้อิสระ
แต่ปัญหาสำคัญตอนนี้ ก็คือ ความที่กระแสมาแรง ความสนใจสูง ตลาดตื่นตัว เหรียญราคาเพิ่มขึ้น ทำให้มีหลายเหรียญใหม่ที่เกิดขึ้น ออกระดมทุน ICO (Initial Coin Opening ) อย่างบ้าคลั่งตามกระแส จนเกิด ทั้งToken หรือเหรียญที่ผูกติดกับ Smartcontact ของเหรียญอื่น โดยไม่ได้สร้าง ระบบ ของตัวเอง กันเยอะแยะ พวกนี้ ก็ระดมทุนกันเหมือน หุ้น IPO กัน แต่ต่างกันที่พวกนี้นำเสนอเทคโนโลยี่ และ แนวคิด มาขอระดมทุนต่างกับ หุ้นที่เจ้าของแต่งบัญชีบริษัท เอามาระดมทุนเพิ่ม
อย่างเช่น Ethereum นี่ มีหลาย เหรียญใหม่ระดมทุน ออก Token ใหม่โดยใช้ ETH ซื้อ ทำให้ความต้องการ ETH ของตลาดสูง ปั่นราคา ETH ขึ้นไปสูงลิ่ว (กว่า 20 เท่า หรือ 2 พันกว่า % ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา)
แต่ถ้าวันใดพวกเหรียญพวกนี้ มันไม่เจ๋งจริง มันก็ เกิดเป็นฟองสบู่แตกได้ ซึ่งแน่นอน ก็จะทำให้ มีการปรับตัวรุนแรงกันทั้งตลาด
ส่วนสาเหตุการปรับตัวรุนแรง ในช่วง สองสัปดาห์นี้ นอกจาก การขายทำกำไรออกมาของคนที่ถือมาก่อน มีกำไร มากแล้ว ฅ
ก็เป็นเรื่องความไม่แน่นอนและ ข่าวที่ออกมากระทบวงการนี้
เอาข่าวใหญ่ๆสองข่าวก่อน ข่าวแรกมี ผู้ตั้งข้อสังเกตุ ว่า Token ออกใหม่ EOS ที่ เปิด ICO ระดมทุนไป ได้ ราวๆ 1 ล้าน ETH (ราวๆ 6-8 พันล้านบาท) แล้ว แทนที่จะเก็บ ETHไว้ เหมือนคนอื่นเค้า แล้ว ค่อยๆปล่อยออกมาแลกเปลี่ยน US Dollar เอาไปใช้ ดำเนินการ แต่ดันโอนไปเข้า ตลาดซื้อ เงิน Cryto จำนวนมากทำให้ คิดกันว่า น่าจะมีการ เอาไปขายเทขายออกมาเป็นดอลล่าร์ จำนวมากๆ ทีเดียว เล่นเอา ราคา ETH ไหลรูดกันลงมา เกือบ ครึ่ง เพิ่งจะเริ่มทรงตัวได้ และตีกลับ
กับอีกข่าวคือ ความไม่แน่ใจ ในการปรับตัวของ ยักษ์ใหญ่ Bitcoin ที่ ระบบตัวเองออกมาก่อนเค้าล้าหลังโอนเงินได้ช้า โดนน้องใหม่แย่งตลาดไปเยอะ เลย
จะปรับตัว เตรียมใช้ SegWit2X ขยายขนาด Block จาก 1 MB ไปเป็น 2 MB เพื่อรองรับการเติบโตของระบบ และ เพิ่มความเร็วในการโอน เพื่อปรับปรุงระบบให้สู้กับเหรียญใหม่ๆเค้าได้ แต่อาจจะทำให้มี Soft fork หรือ การแตกแยกของระบบเดิม ออกมาเป็นระบบคู่ขนาน เหมือนที่ เคยเกิดกับ Ethereum ที่แยกเป็น ETC และ ETH มาแล้ว ตอนนี้เลยหน้าห่วงกลัวปัญหาต่างๆตามมา หลายคนเลยไม่กล้าถือเงินเหล่านี้ เลยชิงขายออกมากันทำให้ราคาปรับตัวลดลง (แต่ทาง Bitcoin ได้ออกมาเตือนแล้ว ให้งดการทำธุรกรรมใน การ โอนเงินด้วย Bitcoin ในช่วงรอยต่อวันที่ 31 กค. -1 สค.ไปก่อน ) และ เชื่อกันว่าระบบน่าจะเสถียรและเดินต่อไปได้ ความกังวลก็ลดมาระดับนึง
ความไม่แน่นอนต่างๆเลยส่งผลให้ราคาไหลรูดตามๆกัน มาหมด
อย่างที่เคยบอกตลาดนี้ กระแสมาแรง การเก็งกำไรสูง ความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น ใครเข้ามาเก็งกำไรต้องระมัดระวังตามข่าวให้ทัน ประเมินข่าวให้ดี
เอาข้อมูลมาฝากพิจารณา หลายๆด้าน
ด้วยความเป็นห่วง ครับ