ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ถ้าใครเข้าปั๊มน้ำมันบางจาก อาจจะคงพอคุ้นๆ ตากับตู้น้ำมันสีม่วงสดใสอยู่บ้าง หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคือน้ำมันอะไร วันนี้เราจะพามาหาคำตอบด้วยกัน
ตู้น้ำมันสีม่วงที่ว่าก็คือ Hi-Premium Diesel S น้ำมันเกรดพรีเมี่ยมใหม่จากบางจากที่สร้างขึ้นเพื่อความแตกต่างจากน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมที่มีในตลาด หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าการเติมน้ำมันที่มีคุณภาพสูงแต่ละครั้งมีส่วนช่วยยืดอายุและเพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์รถได้ นอกเหนือไปจากการดูแลบำรุงรักษาตามระยะ
แล้วทำไมถึงต้องเลือกน้ำมัน Hi-Premium Diesel S ทั้งๆ ที่น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมทั่วไปก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งราคาที่ถูกกว่าด้วย บางครั้งการจ่ายเพิ่มขึ้นอีกนิดแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ได้ยาวขึ้น มันก็น่าคุ้มนะ
หลายคนที่เติมน้ำมัน อาจจะไม่ได้สนใจเรื่องค่าซีเทน มองเรื่องราคาหรือความสะดวกเป็นหลัก แต่บอกเลยว่ามันคือตัวเลขสำคัญที่ส่งผลต่อเรื่องของการสตาร์ทรถติดง่าย เครื่องยนต์เดินเรียบ และอัตราเร่งตอบสนองที่ทันใจเลยทีเดียว
ค่าซีเทนคืออะไร? แล้วทำไมยิ่งมีค่าซีเทนที่สูงถึงเป็นน้ำมันดีเซลที่ดี เพราะซีเทนคือตัวเลขที่แสดงถึงเวลาหน่วงการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลไม่ได้ใช้หัวเทียนในการจุดระเบิด โดยตามมาตรฐานแล้วค่าซีเทนในน้ำมันจะต้องอยู่ที่ขั้นต่ำ 50 ยิ่งค่าซีเทนสูงเท่าไหร่ยิ่งแปลว่า เวลาหน่วงการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้จะสั้น ทำให้จุดระเบิดได้ง่าย แม่นยำ ไม่เกิดการสะสมของเชื้อเพลิง และเขม่าในห้องเผาไหม้ ดังนั้นการที่น้ำมัน Hi-Premium Diesel S มีค่าซีเทนสูงสุดถึง 70 เท่ากับมั่นใจได้ว่ารถจะมีอัตราเร่งที่ดีขึ้นทั้งทางเรียบและทางชัน
ปัจจุบันเครื่องยนต์ดีเซลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีสมรรถนะสูงขึ้น ดังนั้นหัวฉีดจึงต้องการน้ำมันที่มีประสิทธิภาพเพื่อชะล้างทำความสะอาดสูง ถึงแม้ว่าน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมที่มีอยู่ในตลาดจะตอบโจทย์เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ดีพอเท่ากับน้ำมัน Hi-Premium Diesel S ที่มีสาร Hi Active Cleansing ที่ช่วยทำความสะอาดหัวฉีดได้มากถึง 70%* ทำให้เผาไหม้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมที่สำคัญประหยัดน้ำมันได้ถึง 4.3%*
* จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
เรื่องนี้ดูเผินๆ อาจจะไกลตัวแต่ถ้าบอกว่าเป็นมาตรฐานที่ช่วยเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อมน่าสนใจขึ้นมาทันที Euro 5 เป็นมาตรฐานที่กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปได้วางระเบียบเอาไว้เพื่อป้องกันและควบคุมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะที่ผลิตจำหน่ายออกมาเพื่อให้ปล่อยไอเสียได้ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งจากการตั้งมาตรฐานนี่เองเป็นผลทำให้น้ำมันเบนซินและดีเซลได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อก่อให้มลพิษน้อยลงด้วย
ปัจจุบันมาตรฐานน้ำมันดีเซลในบ้านเราอยู่ในระดับ Euro 4 หรือมีกำมะถัน 50 PPM แต่สำหรับ Hi-Premium Diesel S ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้ได้เนื้อน้ำมันใสบริสุทธิ์ มีกำมะถันเหลือเพียง 10 PPM หรือลดลงกว่า 5 เท่าทำให้ Hi-Premium Diesel S กลายเป็นน้ำมันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งหมดคือ ความแตกต่างที่ทำให้ Hi-Premium Diesel S ไม่เหมือนใคร ถ้าอยากสัมผัสอัตราเร่งทันใจสตาร์ทติดง่าย เครื่องยนต์เดินเรียบ ควันไม่ดำ และเสียงไม่ดัง เติมน้ำมันครั้งหน้าอย่าลืมเลือกเติมน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมใหม่ที่ ‘ตู้สีม่วง’ ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก 70 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่อีก 200 สาขาภายในสิ้นปีนี้
ข่าวดี!! สำหรับสมาชิกบางจากดีเซลคลับที่เติม Hi-Premium Diesel S ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2560 รับคะแนนสะสม 6 เท่าหรือมูลค่าสูงสุด 30 สตางค์ต่อลิตร
ที่มา
Bangchak Gasohol Club
[Advertorial]
3 เหตุผลที่ทำให้ Hi-Premium Diesel S เหนือกว่าน้ำมันพรีเมี่ยมดีเซลทั่วไป
ตู้น้ำมันสีม่วงที่ว่าก็คือ Hi-Premium Diesel S น้ำมันเกรดพรีเมี่ยมใหม่จากบางจากที่สร้างขึ้นเพื่อความแตกต่างจากน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมที่มีในตลาด หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าการเติมน้ำมันที่มีคุณภาพสูงแต่ละครั้งมีส่วนช่วยยืดอายุและเพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์รถได้ นอกเหนือไปจากการดูแลบำรุงรักษาตามระยะ
แล้วทำไมถึงต้องเลือกน้ำมัน Hi-Premium Diesel S ทั้งๆ ที่น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมทั่วไปก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งราคาที่ถูกกว่าด้วย บางครั้งการจ่ายเพิ่มขึ้นอีกนิดแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ได้ยาวขึ้น มันก็น่าคุ้มนะ
หลายคนที่เติมน้ำมัน อาจจะไม่ได้สนใจเรื่องค่าซีเทน มองเรื่องราคาหรือความสะดวกเป็นหลัก แต่บอกเลยว่ามันคือตัวเลขสำคัญที่ส่งผลต่อเรื่องของการสตาร์ทรถติดง่าย เครื่องยนต์เดินเรียบ และอัตราเร่งตอบสนองที่ทันใจเลยทีเดียว
ค่าซีเทนคืออะไร? แล้วทำไมยิ่งมีค่าซีเทนที่สูงถึงเป็นน้ำมันดีเซลที่ดี เพราะซีเทนคือตัวเลขที่แสดงถึงเวลาหน่วงการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลไม่ได้ใช้หัวเทียนในการจุดระเบิด โดยตามมาตรฐานแล้วค่าซีเทนในน้ำมันจะต้องอยู่ที่ขั้นต่ำ 50 ยิ่งค่าซีเทนสูงเท่าไหร่ยิ่งแปลว่า เวลาหน่วงการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้จะสั้น ทำให้จุดระเบิดได้ง่าย แม่นยำ ไม่เกิดการสะสมของเชื้อเพลิง และเขม่าในห้องเผาไหม้ ดังนั้นการที่น้ำมัน Hi-Premium Diesel S มีค่าซีเทนสูงสุดถึง 70 เท่ากับมั่นใจได้ว่ารถจะมีอัตราเร่งที่ดีขึ้นทั้งทางเรียบและทางชัน
ปัจจุบันเครื่องยนต์ดีเซลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีสมรรถนะสูงขึ้น ดังนั้นหัวฉีดจึงต้องการน้ำมันที่มีประสิทธิภาพเพื่อชะล้างทำความสะอาดสูง ถึงแม้ว่าน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมที่มีอยู่ในตลาดจะตอบโจทย์เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ดีพอเท่ากับน้ำมัน Hi-Premium Diesel S ที่มีสาร Hi Active Cleansing ที่ช่วยทำความสะอาดหัวฉีดได้มากถึง 70%* ทำให้เผาไหม้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมที่สำคัญประหยัดน้ำมันได้ถึง 4.3%*
* จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
เรื่องนี้ดูเผินๆ อาจจะไกลตัวแต่ถ้าบอกว่าเป็นมาตรฐานที่ช่วยเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อมน่าสนใจขึ้นมาทันที Euro 5 เป็นมาตรฐานที่กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปได้วางระเบียบเอาไว้เพื่อป้องกันและควบคุมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะที่ผลิตจำหน่ายออกมาเพื่อให้ปล่อยไอเสียได้ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งจากการตั้งมาตรฐานนี่เองเป็นผลทำให้น้ำมันเบนซินและดีเซลได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อก่อให้มลพิษน้อยลงด้วย
ปัจจุบันมาตรฐานน้ำมันดีเซลในบ้านเราอยู่ในระดับ Euro 4 หรือมีกำมะถัน 50 PPM แต่สำหรับ Hi-Premium Diesel S ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้ได้เนื้อน้ำมันใสบริสุทธิ์ มีกำมะถันเหลือเพียง 10 PPM หรือลดลงกว่า 5 เท่าทำให้ Hi-Premium Diesel S กลายเป็นน้ำมันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งหมดคือ ความแตกต่างที่ทำให้ Hi-Premium Diesel S ไม่เหมือนใคร ถ้าอยากสัมผัสอัตราเร่งทันใจสตาร์ทติดง่าย เครื่องยนต์เดินเรียบ ควันไม่ดำ และเสียงไม่ดัง เติมน้ำมันครั้งหน้าอย่าลืมเลือกเติมน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมใหม่ที่ ‘ตู้สีม่วง’ ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก 70 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่อีก 200 สาขาภายในสิ้นปีนี้
ข่าวดี!! สำหรับสมาชิกบางจากดีเซลคลับที่เติม Hi-Premium Diesel S ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2560 รับคะแนนสะสม 6 เท่าหรือมูลค่าสูงสุด 30 สตางค์ต่อลิตร
ที่มา Bangchak Gasohol Club
[Advertorial]