ก่อนจะเริ่มเรื่องกันเราอยากแนะนำตัวอย่างเป็นทางการสักนิดนึง เราชื่อ บอลลี่ เราเป็นช่างภาพตัวเล็กๆคนหนึ่ง เราชื่นชอบการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพ Portrait สวัสดีและฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ
เราชอบหาคอนเซ็ปต์หรือคิดโปรเจกต์ส่วนตัวขึ้นมาเพื่อตอบสนองความชอบส่วนตัว ก็คิดว่าเราตามคนอื่นมาเยอะละให้คนอื่นตามเราบ้าง อิอิ เลยเป็นที่มาที่ไปของการคิดคอนเซ็ปต์ต่างๆ ขึ้นมาค่ะ ภายใต้สโลแกน ‘ความอยากลำบากเพื่อน’ 5555 ส่วนมากแบบที่หามาก็จะเป็นรุ่นน้องบ้าง เพื่อนบ้าง พี่บ้างตามวาระโอกาส ความว่างของนาง, นายแบบและตามความเหมาะสมของคอนเซ็ปต์ค่ะ (หรือตามความชอบส่วนตัว 5555 ล้อเล่น !)
เคยมาตั้งกระทู้เมื่อปีกว่าๆ ได้แล้วค่ะ ชื่อกระทู้ว่า ‘ผู้ชายคนนี้มีรอยยิ้มเป็นอาวุธ’
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/34923626
ห่างหายไปนานวันนี้เราเลยมีโปรเจกต์พิเศษขึ้น เป็นโปรเจกต์ที่อยากทำให้สองบุคคลที่เรารัก...
ถ่ายโน่น ถ่ายนี่มาก็เยอะแล้ว ก็คิดอยากจะมีโปรเจกต์ถ่ายภาพ “คู่” แบบที่ไม่เคยถ่ายมาก่อนสักครั้ง ก็ค่อยๆ เขียนสิ่งที่รู้สึก จดบันทึกเอาไว้ในสมุดประจำตัว เสพภาพทุกช่องทางที่เป็นแหล่งรวมภาพสวยๆ อย่างบ้าคลั่ง จนมาเกิดไฟปิ๊งป่องตอนที่เราได้ไปร่วมงานแต่งงานของอาเฮียญาติของเรามา วันนั้นเราจับพ่อกับแม่เรามาถ่ายรูปด้วยกัน เราบอกให้พวกเขาโพสต์ท่าสวมกอดกันพร้อมกับให้มองหน้ากัน เรากลับมามองรูปใบนั้นอีกครั้งรูปที่เราถ่ายไป ความรู้สึกแรกหลังจากเห็นรูปเราอุทานในใจดังๆ ว่า “เจ๋งว่ะ” เราถ่ายมุมธรรมดามากๆ แต่สิ่งที่สื่อออกมาจากในรูปมันมีมากกว่านั้น
มันคือความรู้สึกที่เราสัมผัสได้และตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาอยู่วงการนี้ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสที่จะถ่ายรูปให้ป๊ากับม๊าเลย ก็จะมีม๊าที่ให้ความร่วมมือ เพราะป๊าแกก็จะทำงานยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลาว่างและมีอยู่วันหนึ่งฝนตกหนักมากๆ วันนั้นเราตื่นมาพบว่ามีรูปถ่ายอยู่ที่พื้นบ้านเต็มไปหมดเพราะว่าน้ำฝนซึมเข้าบ้านเลยทำให้รูปถ่ายเหล่านั้นเปียกชื้น หม่าม๊าจึงนำภาพถ่ายเหล่านั้นมาตากแห้งกับพัดลม แล้วเราก็นั่งหยิบมาดูทีละใบ ภาพถ่ายเหล่านั้นเป็นภาพถ่าย Pre wedding กับงานแต่งงานของพวกแก เรามองภาพเหล่านั้นแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะถ่ายให้ใหม่ นี่ล่ะ...ที่มาของ Refreshing Marriage ที่เราจะค่อยๆ ถ่ายทอดออกมาเป็น “ภาพ” ให้ได้ดูกัน และคู่รักที่เราเล็งไว้ก็คือ “ป๊ากับม๊า” ของเราเอง
ไอเดียมาแล้ว ทีนี้เหลืออุปกรณ์...
อุปกรณ์ที่เราใช้ถ่ายทอดภาพคู่รักรุ่นใหญ่ เพื่อสื่อถึงความรักที่ไม่มีวันละลาย คือ
เลนส์ EF-M 22mm ที่มาพร้อม f/2 (ละลายแค่ไหน แค่ไหนที่ละลายเดี๋ยวต้องตามดูกันต่อ) ซึ่งมาพร้อมกับกล้อง
Mirrorless ของ Canon รุ่น EOS M10
ที่ท้าทายไม่แพ้การเก็บมวลความรักที่ไม่มีวันละลาย คือ ปกติเราจะใช้แต่กล้องตัวใหญ่ในการถ่ายภาพซะส่วนใหญ่... คราวนี้มาลองกดชัตเตอร์โดยการดูมุมที่ชอบ รอยยิ้มที่ใช่จากจอภาพ (ลาชั่วคราวนะ viewfinder)
โอกาสนี้ล่ะ เหมาะที่จะ Refresh ความรักของป๊ากับม๊า และบันทึกภาพป๊ากับม๊าเก็บไว้เป็นอัลบั้มที่ดีต่อใจ ละลายทั้งพฤติกรรมและละลายทั้งคนในภาพซะเลย
เหตุผลที่ว่าทำไมต้องมาถ่ายภาพกันที่สวนสยาม??
เรามองว่าสวนสยามเป็นตัวแทนของความสนุก เพราะว่าเราอยากสร้างความสนุกของทั้งสองคนขึ้นมาค่ะ อยากให้ป๊ากับม๊าและรวมทั้งเราได้ไปเที่ยวด้วยกัน สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข refresh ความรักและเพิ่มความทรงจำให้กันและกัน อยากทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นมาและทั้งสองก็ผ่านช่วงข้าวใหม่ปลามันกันมาก็เนิ่นนาน เราจึงอยากนำช่วงเวลาเก่าๆ ที่ทั้งสองเคยมีร่วมกันกลับมา
ไปพักทานน้ำกัน อากาศร้อนๆ ดื่มน้ำอัดลมให้กระชุ่มกระชวยหน่อยดีกว่า
วันนี้เราจะอนุญาตให้ป๊ากับม๊าดื่มน้ำอัดลมได้ 5555 ปกติแล้วเราจะไม่ให้ป๊ากับม๊าดื่ม สั่งงดค่ะ แต่เนื่องจากเราอยากดื่มด้วย
งั้นจัดไป 55555
บ้าจริง...มันละลายหลังได้ดีมากๆ ต่อให้เป็นการถ่ายภาพกว้างก็ยังละลายอยู่เลย ถึงจะเล็กแต่คุณภาพไม่เล็กเลยจริงๆ เราเปิด ISOตามความเหมาะสมของแสง เวลาอยู่ indoor เราชอบใช้ iso ที่ 400 ถ้าเจอแดดจ้าซะเหลือเกินก็จัดไป iso 100 ค่ะ และใช้ F/2 ตลอดช่วงจะเปิด iso ไหนๆ ก็ยังคมชัดอยู่
สั่งโพสต์ท่าให้หนุ่มสาวเขาหน่อย
งานเลี้ยงมักจะขาดซึ่งเสียงเพลงก็ไม่ได้ เราเลยจำลองงานเต้นรำขึ้นมาโดยให้ทั้งสองคนนั้นฟังเพลงจากโทรศัพท์จากนั้นก็ชวนป๊ากับม๊าให้เต้นรำกันค่ะ
หลังจากเต้นรำฟังเพลงชิวมาประมาณหนึ่ง ได้เวลาเล่นสนุกกับกล้องและเลนส์ละลายตัวนี้กันบ้าง ได้เวลา...เซลฟี่กันแล้วจ้า
ในตอนแรกที่ได้กล้องและเลนส์ละลายตัวนี้มาเราก็มาลองเล่นดู ลองเซลฟี่ตัวเองดู ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยได้ถ่ายเซลฟี่ตัวเองเท่าไหร่ วันนั้นนึกครึ้มเลยลองเซลฟี่กับกล้องและเลนส์ตัวนี้กับป๊าม๊าดูสักหน่อยว่าจะได้มุมที่ละลายในแบบไหนกันนะ !
เริ่มจากสอนรุ่นใหญ่ใช้กล้องเซลฟี่กัน !
เป็นใบหน้าที่อาจจะเบลอๆ หน่อย นั่นเราเอง 5555 ขออภัยสำหรับใบหน้าที่อึนสุดๆค่ะ 55555
เริ่มจากหาเหลี่ยมหามุมลองกล้องของม๊าก่อนค่ะ ก็จะได้ประมาณนี้ 55555 หลังจากนั้นป๊าก็เข้ามาช่วยอีกแรง (ป๊าเป็นช่างภาพเก่าค่ะ ห่างหายไปจากวงการไปนาน น่าจะช่วยกันได้อยู่บ้าง...)
ตรงนี้สิๆ ไหนๆลองอันนี้ๆ (ขำ 5555)
ทำความเข้าใจมาประมาณหนึ่งจากนั้นเริ่มเซลฟี่ได้ !
ลองผิดลองถูกกันไปเรื่อยๆ
และรูปที่ดีที่สุดในเคมเปญเซลฟี่ละลายใจ ได้แก่...
ขนลุกแล้วววววว
จากนั้นเราเลยให้ทั้งคู่ผลัดกันถ่ายภาพกันและกัน เมื่อก่อนป๊าเคยเป็นช่างภาพและไว้วางใจใน Canon เสมอมา ซื้อกล้องตัวแรกป๊าก็แนะนำให้ใช้ Canon เลยเหมือนเป็นการจุดประกายและปลุกความเป็นช่างภาพในตัวเราขึ้นมา ม๊าเองก็เคยเล่าให้ฟังว่าอยากมีร้านให้ป๊าเล็กๆ สักร้านเป็นร้านถ่ายรูป เราว่ามันดีและน่ารักมากๆ เลยนะ การที่เราเห็นความฝันของคู่ชีวิตของเราเป็นความฝันร่วมกัน มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ อ้อ..แล้วเราก็มีทฤษฎีในใจเราอย่างหนึ่งคือ เมื่อผู้ชายยิ่งเป็นช่างภาพด้วยแล้ว 2 สิ่งส่วนใหญ่ที่เขาจะถ่ายเลยนั่นก็คือ ลูกและเมีย เมื่อก่อนตอนจำความได้สมัยอนุบาลป๊าถ่ายรูปเรากับม๊าไว้เยอะมากๆ ป๊าแกเองก็เลยไม่ค่อยมีรูปตัวเองสักเท่าไหร่ เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราอยากจะถ่ายรูปป๊ากับม๊าไว้ด้วยล่ะ
เอาล่ะ เรามาดูผลงานที่ทั้งสองท่านผลัดกันกดชัตเตอร์กันดีกว่าและผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ..
เริ่มจากผลงานจากฝั่งม๊ากันค่ะ..
ละลายจับใจเลยค่ะ 5555
มาดูทางฝั่งป๊ากันบ้างค่ะ ช่างภาพเก่าของเรา
น้อวว นางมีมุมนะ จากเอียงๆ หน่อยๆ 5555
เราได้เตรียมคำถามมา 2 ข้อเพื่อถามป๊ากับม๊า เราอยากได้ Moment ในการรำลึกความทรงจำของทั้งสองแล้วบันทึกลงเป็นภาพถ่าย เรามาเริ่มคำถามแรกกันเลยดีกว่าค่ะ
[SR] [SR] ภาพคู่...คู่ชื่นคู่ชีวิต เติมความสดชื่นของคู่รักรุ่นใหญ่ไปกับเลนส์ละลาย
เราชอบหาคอนเซ็ปต์หรือคิดโปรเจกต์ส่วนตัวขึ้นมาเพื่อตอบสนองความชอบส่วนตัว ก็คิดว่าเราตามคนอื่นมาเยอะละให้คนอื่นตามเราบ้าง อิอิ เลยเป็นที่มาที่ไปของการคิดคอนเซ็ปต์ต่างๆ ขึ้นมาค่ะ ภายใต้สโลแกน ‘ความอยากลำบากเพื่อน’ 5555 ส่วนมากแบบที่หามาก็จะเป็นรุ่นน้องบ้าง เพื่อนบ้าง พี่บ้างตามวาระโอกาส ความว่างของนาง, นายแบบและตามความเหมาะสมของคอนเซ็ปต์ค่ะ (หรือตามความชอบส่วนตัว 5555 ล้อเล่น !)
เคยมาตั้งกระทู้เมื่อปีกว่าๆ ได้แล้วค่ะ ชื่อกระทู้ว่า ‘ผู้ชายคนนี้มีรอยยิ้มเป็นอาวุธ’
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ห่างหายไปนานวันนี้เราเลยมีโปรเจกต์พิเศษขึ้น เป็นโปรเจกต์ที่อยากทำให้สองบุคคลที่เรารัก...
ถ่ายโน่น ถ่ายนี่มาก็เยอะแล้ว ก็คิดอยากจะมีโปรเจกต์ถ่ายภาพ “คู่” แบบที่ไม่เคยถ่ายมาก่อนสักครั้ง ก็ค่อยๆ เขียนสิ่งที่รู้สึก จดบันทึกเอาไว้ในสมุดประจำตัว เสพภาพทุกช่องทางที่เป็นแหล่งรวมภาพสวยๆ อย่างบ้าคลั่ง จนมาเกิดไฟปิ๊งป่องตอนที่เราได้ไปร่วมงานแต่งงานของอาเฮียญาติของเรามา วันนั้นเราจับพ่อกับแม่เรามาถ่ายรูปด้วยกัน เราบอกให้พวกเขาโพสต์ท่าสวมกอดกันพร้อมกับให้มองหน้ากัน เรากลับมามองรูปใบนั้นอีกครั้งรูปที่เราถ่ายไป ความรู้สึกแรกหลังจากเห็นรูปเราอุทานในใจดังๆ ว่า “เจ๋งว่ะ” เราถ่ายมุมธรรมดามากๆ แต่สิ่งที่สื่อออกมาจากในรูปมันมีมากกว่านั้น
มันคือความรู้สึกที่เราสัมผัสได้และตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาอยู่วงการนี้ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสที่จะถ่ายรูปให้ป๊ากับม๊าเลย ก็จะมีม๊าที่ให้ความร่วมมือ เพราะป๊าแกก็จะทำงานยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลาว่างและมีอยู่วันหนึ่งฝนตกหนักมากๆ วันนั้นเราตื่นมาพบว่ามีรูปถ่ายอยู่ที่พื้นบ้านเต็มไปหมดเพราะว่าน้ำฝนซึมเข้าบ้านเลยทำให้รูปถ่ายเหล่านั้นเปียกชื้น หม่าม๊าจึงนำภาพถ่ายเหล่านั้นมาตากแห้งกับพัดลม แล้วเราก็นั่งหยิบมาดูทีละใบ ภาพถ่ายเหล่านั้นเป็นภาพถ่าย Pre wedding กับงานแต่งงานของพวกแก เรามองภาพเหล่านั้นแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะถ่ายให้ใหม่ นี่ล่ะ...ที่มาของ Refreshing Marriage ที่เราจะค่อยๆ ถ่ายทอดออกมาเป็น “ภาพ” ให้ได้ดูกัน และคู่รักที่เราเล็งไว้ก็คือ “ป๊ากับม๊า” ของเราเอง
ไอเดียมาแล้ว ทีนี้เหลืออุปกรณ์...
อุปกรณ์ที่เราใช้ถ่ายทอดภาพคู่รักรุ่นใหญ่ เพื่อสื่อถึงความรักที่ไม่มีวันละลาย คือ เลนส์ EF-M 22mm ที่มาพร้อม f/2 (ละลายแค่ไหน แค่ไหนที่ละลายเดี๋ยวต้องตามดูกันต่อ) ซึ่งมาพร้อมกับกล้อง Mirrorless ของ Canon รุ่น EOS M10
ที่ท้าทายไม่แพ้การเก็บมวลความรักที่ไม่มีวันละลาย คือ ปกติเราจะใช้แต่กล้องตัวใหญ่ในการถ่ายภาพซะส่วนใหญ่... คราวนี้มาลองกดชัตเตอร์โดยการดูมุมที่ชอบ รอยยิ้มที่ใช่จากจอภาพ (ลาชั่วคราวนะ viewfinder)
โอกาสนี้ล่ะ เหมาะที่จะ Refresh ความรักของป๊ากับม๊า และบันทึกภาพป๊ากับม๊าเก็บไว้เป็นอัลบั้มที่ดีต่อใจ ละลายทั้งพฤติกรรมและละลายทั้งคนในภาพซะเลย
เหตุผลที่ว่าทำไมต้องมาถ่ายภาพกันที่สวนสยาม??
เรามองว่าสวนสยามเป็นตัวแทนของความสนุก เพราะว่าเราอยากสร้างความสนุกของทั้งสองคนขึ้นมาค่ะ อยากให้ป๊ากับม๊าและรวมทั้งเราได้ไปเที่ยวด้วยกัน สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข refresh ความรักและเพิ่มความทรงจำให้กันและกัน อยากทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นมาและทั้งสองก็ผ่านช่วงข้าวใหม่ปลามันกันมาก็เนิ่นนาน เราจึงอยากนำช่วงเวลาเก่าๆ ที่ทั้งสองเคยมีร่วมกันกลับมา
ไปพักทานน้ำกัน อากาศร้อนๆ ดื่มน้ำอัดลมให้กระชุ่มกระชวยหน่อยดีกว่า
วันนี้เราจะอนุญาตให้ป๊ากับม๊าดื่มน้ำอัดลมได้ 5555 ปกติแล้วเราจะไม่ให้ป๊ากับม๊าดื่ม สั่งงดค่ะ แต่เนื่องจากเราอยากดื่มด้วย
งั้นจัดไป 55555
บ้าจริง...มันละลายหลังได้ดีมากๆ ต่อให้เป็นการถ่ายภาพกว้างก็ยังละลายอยู่เลย ถึงจะเล็กแต่คุณภาพไม่เล็กเลยจริงๆ เราเปิด ISOตามความเหมาะสมของแสง เวลาอยู่ indoor เราชอบใช้ iso ที่ 400 ถ้าเจอแดดจ้าซะเหลือเกินก็จัดไป iso 100 ค่ะ และใช้ F/2 ตลอดช่วงจะเปิด iso ไหนๆ ก็ยังคมชัดอยู่
งานเลี้ยงมักจะขาดซึ่งเสียงเพลงก็ไม่ได้ เราเลยจำลองงานเต้นรำขึ้นมาโดยให้ทั้งสองคนนั้นฟังเพลงจากโทรศัพท์จากนั้นก็ชวนป๊ากับม๊าให้เต้นรำกันค่ะ
หลังจากเต้นรำฟังเพลงชิวมาประมาณหนึ่ง ได้เวลาเล่นสนุกกับกล้องและเลนส์ละลายตัวนี้กันบ้าง ได้เวลา...เซลฟี่กันแล้วจ้า
ในตอนแรกที่ได้กล้องและเลนส์ละลายตัวนี้มาเราก็มาลองเล่นดู ลองเซลฟี่ตัวเองดู ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยได้ถ่ายเซลฟี่ตัวเองเท่าไหร่ วันนั้นนึกครึ้มเลยลองเซลฟี่กับกล้องและเลนส์ตัวนี้กับป๊าม๊าดูสักหน่อยว่าจะได้มุมที่ละลายในแบบไหนกันนะ !
เริ่มจากสอนรุ่นใหญ่ใช้กล้องเซลฟี่กัน !
เป็นใบหน้าที่อาจจะเบลอๆ หน่อย นั่นเราเอง 5555 ขออภัยสำหรับใบหน้าที่อึนสุดๆค่ะ 55555
เริ่มจากหาเหลี่ยมหามุมลองกล้องของม๊าก่อนค่ะ ก็จะได้ประมาณนี้ 55555 หลังจากนั้นป๊าก็เข้ามาช่วยอีกแรง (ป๊าเป็นช่างภาพเก่าค่ะ ห่างหายไปจากวงการไปนาน น่าจะช่วยกันได้อยู่บ้าง...)
ตรงนี้สิๆ ไหนๆลองอันนี้ๆ (ขำ 5555)
ทำความเข้าใจมาประมาณหนึ่งจากนั้นเริ่มเซลฟี่ได้ !
ลองผิดลองถูกกันไปเรื่อยๆ
จากนั้นเราเลยให้ทั้งคู่ผลัดกันถ่ายภาพกันและกัน เมื่อก่อนป๊าเคยเป็นช่างภาพและไว้วางใจใน Canon เสมอมา ซื้อกล้องตัวแรกป๊าก็แนะนำให้ใช้ Canon เลยเหมือนเป็นการจุดประกายและปลุกความเป็นช่างภาพในตัวเราขึ้นมา ม๊าเองก็เคยเล่าให้ฟังว่าอยากมีร้านให้ป๊าเล็กๆ สักร้านเป็นร้านถ่ายรูป เราว่ามันดีและน่ารักมากๆ เลยนะ การที่เราเห็นความฝันของคู่ชีวิตของเราเป็นความฝันร่วมกัน มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ อ้อ..แล้วเราก็มีทฤษฎีในใจเราอย่างหนึ่งคือ เมื่อผู้ชายยิ่งเป็นช่างภาพด้วยแล้ว 2 สิ่งส่วนใหญ่ที่เขาจะถ่ายเลยนั่นก็คือ ลูกและเมีย เมื่อก่อนตอนจำความได้สมัยอนุบาลป๊าถ่ายรูปเรากับม๊าไว้เยอะมากๆ ป๊าแกเองก็เลยไม่ค่อยมีรูปตัวเองสักเท่าไหร่ เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราอยากจะถ่ายรูปป๊ากับม๊าไว้ด้วยล่ะ
เริ่มจากผลงานจากฝั่งม๊ากันค่ะ..
มาดูทางฝั่งป๊ากันบ้างค่ะ ช่างภาพเก่าของเรา
เราได้เตรียมคำถามมา 2 ข้อเพื่อถามป๊ากับม๊า เราอยากได้ Moment ในการรำลึกความทรงจำของทั้งสองแล้วบันทึกลงเป็นภาพถ่าย เรามาเริ่มคำถามแรกกันเลยดีกว่าค่ะ
- ครั้งแรกที่ป๊าบอกรักม๊า ม๊ารู้สึกอย่างไร?
ความฮาของคำตอบนี้คือ ม๊าลั่นขึ้นมาว่า... จำไม่ได้ ! 5555 แล้วแกก็หยอกล้อขำกัน 55555