หนูเล็กเคยผ่านวันวัยของการมีสมุดสะสมแสตมป์มาแล้ว ถ้าจะให้ย้อนนึกก็คงเป็นเหมือนเด็กทั่วไปที่พ่อแม่ปลูกฝังให้ทำกิจกรรมบางอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป และเริ่มค้นพบความสนใจของตัวเองมากขึ้น ความสนใจในเรื่องแสตมป์ก็ค่อยๆ ห่างหาย ไม่ได้ติดตามในรูปแบบการสะสม มานึกขึ้นได้อีกทีว่า ครั้งหนึ่งเคยมีสมุดสะสมแสตมป์ก็เมื่อคิดอยากหยิบมาดูและลองเริ่มสะสมใหม่ แต่ก็หาไม่เจอเสียแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก
     อย่างไรก็ตาม ความทรงจำในวัยเด็กยังพอมีอยู่บ้าง จำได้เมื่อครั้งที่พ่อเอาแสตมป์มาให้สะสมจะมีแสตมป์หลายแบบ ทั้งที่เป็นรูปพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9  แสตมป์ที่ระลึกพวกเหตุการณ์วันสำคัญต่างๆ  กับแสตมป์ประชาสัมพันธ์สิ่งที่น่าสนใจ อย่างรูปผัก ผลไม้ สัตว์ป่าหายาก อะไรทำนองนี้ ซึ่งพอหวนคิดขึ้นมา ก็นึกถึงความสุขวัยเยาว์เมื่อครั้งที่สนุกกับการอยู่ในโลกของแสตมป์ที่มีรูปแบบต่างๆ ที่สวยงามหลากหลายมากมายให้ได้สะสม
     ล่าสุดเมื่อได้ข่าวว่า บริษัทไปรษณีย์ไทย ได้จัดกิจกรรม เชิญชวนประชาชนร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ่านนิทรรศการ "แสตมป์ของพ่อ 2493 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านแสตมป์รัชกาลที่ 9 ที่บันทึกไว้ในดวงตราไปรษณียากรณ์ 79 ชุด 353 แบบ ตลอดช่วงระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ หนูเล็กก็หูผึ่งทันที เมื่อความสุขสองสิ่งมาบรรจบพบกันเช่นนี้ จะพลาดได้อย่างไร ทางหนึ่งคือการได้ไปร่วมน้อมรำลึกถึงองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระผู้สถิตย์ในดวงใจราษฏรอย่างหนูเล็กมาตั้งแต่จำความได้ผ่านโลกของแสตมป์ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นที่สุด เพราะตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ มีเหตุการณ์และเรื่องราวสำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย และเหตุการณ์เหล่านั้นล้วนถูกนำมาจัดพิมพ์เป็นแสตมป์ และอีกทางหนึ่งนั้น หนูเล็กจะได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในโลกความสุขเมื่อครั้งวัยเยาว์ที่หล่นหายไปกับกาลเวลา ไม่รอช้า หาวันว่าง ไปชมอย่างไว ไม่ใช่อะไรค่ะ กลัวลืม





     งานนิทรรศการ “แสตมป์ของพ่อ 2493 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เป็นการรวบรวม เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ผ่านดวงแสตมป์ ตลอดช่วงระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ซึ่งหนูเล็กว่าเป็นการนำเสนอที่น่าสนใจมาก เพราะเขานำเสนอได้แตกต่างจากนิทรรศการอื่นๆ  ทำให้ผู้เข้าชมสามารถจดจำและเข้าถึงเรื่องราวต่างๆ  เกี่ยวกับพระองค์ได้ง่าย การเข้าชมจะมีเป็นรอบๆ และจะมีวิทยากรบรรยายเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กระจ่างชัด โดยจัดเป็นห้องจัดแสดงแยกเป็นแต่ละโซน เล่าเรื่องผ่านวิดีทัศน์ แอนิเมชั่น และแสตมป์ แบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมนิทรรศการกันดีกว่าค่ะ
โซนที่ 1 “5 พฤษภาคม 2493 ปฐมบทแห่งความสุขของคนไทย”

    เป็นบทเกริ่นนำของนิทรรศการจะเริ่มต้นด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ซึ่งเปรียบเป็นดั่งคำมั่นสัญญาที่พระองค์พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยและตลอด 70 ปี พวกเราก็คงประจักษ์กันดีอยู่แล้วว่าทรงรักษาไว้ตลอดพระชนม์ชีพ ในนิทรรศการได้นำแสตมป์ที่บันทึกเรื่องราวภาพประวัติศาสตร์ที่สำคัญของคนไทย ที่หาชมได้ยากมาจัดแสดงไว้ในห้องดังกล่าวอย่างสมพระเกียรติ



โซนที่ 2 “2 พระองค์ คู่พระบารมี”


    ถ่ายทอดเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส โดยจัดแกลอรี่ภาพแสตมป์ของทั้ง 2 พระองค์ และวิดีโอ ที่ทั้งสองพระองค์ประทับเคียงคู่กันในทุกๆ แห่ง ทุกๆ สถานการณ์ ทุกๆ สถานที่ ดังที่พวกเราเห็นกันเสมอมา ภาพทุกภาพเห็นแล้วรู้สึกได้ถึงความรักที่ทั้งสองพระองค์มีต่อกัน และรู้สึกได้เลยว่าทั้งสอง พระองค์ทรงเป็นคู่พระบารมีที่กันอย่างแท้จริง






โซนที่ 3 “4 ภาค เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร”

    ในโซนนี้จะนำเสนอให้เห็นตั้งแต่การเสด็จเยี่ยมราษฎรทั่วประเทศครั้งแรก ทรงทอดพระเนตรเห็นชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน  นำมาซึ่งพระราชปณิธานที่ทรงมุ่งมั่นทรงงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ พื้นที่เพื่อให้พ้นจากความอดอยาก แร้นแค้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถเลี้ยงดูตนเองได้  ในโซนนี้จะมีไฮไลต์ที่ผนังคือการนำเอาภาพที่ทั้งสองประทับบนรถไฟพระที่นั่งมาเป็นฉาก เพื่อให้ผู้เข้าชมได้มีโอกาสถ่ายภาพตนเองเป็นที่ระลึกกับภาพประวัติศาสตร์ภาพนี้  นอกจากนี้ยังมีภาพทั้งสองพระองค์ เสด็จฯ ท่ามกลางราษฎรในภูมิภาคต่างๆ ในโซนนี้จะจัดแสดงแสตมป์ที่จัดทำขึ้นเป็นที่ระลึกจากการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในที่ต่างๆ ของประเทศไทย


โซนที่ 4 “9 ทำ เพื่อพสกนิกร”

    เมื่อเข้ามาในโซนนี้ วิทยากรจะให้เราชมภาพกราฟฟิคแทรกไปกับภาพแสตมป์เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริที่ทรงพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะโครงการสำคัญ 9 โครงการอันเป็นประจักษ์พยานในการ “ครองแผ่นดินโดยธรรม” เพื่อสร้าง “ประโยชน์” และ “ความสุข” ให้แก่ “มหาชนชาวสยาม” โดยแท้  ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงการทรงงานเพื่อพสกนิกรของพระองค์ทั้งสิ้น แสตมป์ในโซนนี้จะจัดแสดงแสตมป์ที่จัดทำเป็นที่ระลึกเกี่ยวกับโครงการต่างๆ โดยเฉพาะแสตมป์โครงการฝนหลวงซึ่งใช้เทคนิคพิเศษงดงามมาก นอกจากนั้นก็ยังมี แสตมป์โครงการชั่งหัวมัน แสตมป์โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา เป็นต้น





โซนที่ 5 “3 คำสอน ศาสตร์พระราชา”
    ในโซนนี้เป็นยึดหลักคำสอนของพระองค์ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว นั่นคือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” อันเป็นหลักการที่ผู้พระองค์ทรงสอนให้พวกเราสามารถน้อมนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การงาน เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริ “ตามรอยพ่อ” ห้องนิทรรศการนี้ จัดแสดงแสตมป์ที่เกี่ยวกับการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้สอดคล้องกับ “หลักคำสอนของศาสตร์พระราชา”








    และเมื่อผ่านโซนนี้ไปจะเป็นห้องก่อนสุดท้ายคือ “มรดกจากพ่อ” เป็นการจัดแสดงแสตมป์พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมฉายาสาทิศลักษณ์เนื่องในวโรกาสต่างๆ เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษา หรือวันสำคัญๆ ซึ่งมักเป็นแสตมป์ชุด แต่ละชุดควรค่าแก่การสะสม เดินชมอย่างมีความสุขจริงๆ ค่ะ











    และเมื่อถึงห้องสุดท้ายก็จะมีภาพที่ทำมาจากดวงแสตมป์พระบรมฉายาสาทิศลักษณ์ของทั้งสองพระองค์ขนาดใหญ่ให้พวกเราได้เซลฟี่กลับมาเป็นที่ระลึกด้วย


    และก่อนออกจากการชมทางเจ้าหน้าที่ยังได้แจกโปสการ์ดที่นำพระบรมฉายาลักษณ์ที่ปรากฏบนดวงแสตมป์มาแจกให้เป็นที่ระลึก แต่เขามีแจกอยู่ 5 แบบ ถ้าไปมากกว่า 1 ครั้ง ก็สามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ค่ะว่าแบบไหนได้แล้ว จะได้ไม่ซ้ำแบบกัน

    นับเป็นการมาชมนิทรรศการที่เมื่อออกมามีแต่ความอิ่มใจจริงๆ  ใครสนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่  31 ตุลาคม 2560 ทุกวันอังคาร – อาทิตย์  เวลา 9.00 – 19.00 น. ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก กรุงเทพฯ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้