สวัสดีค่าสมาชิก Pantip ห่างหายไปนานกับการมารีวิวแบบงูๆ ปลาๆ ที่อยากแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวให้เพื่อนได้อ่าน กลับมาคราวนี้เรากับเพื่อนๆ รวม 9 ชีวิต ได้ใช้ช่วงวันหยุดวันที่ 7-10 ก.ค. 2560 ไปเที่ยวฮอยอัน ดานังกัน เราใช้บริการของสารการบินแอร์เอเชียที่เพิ่งเปิดเส้นทางไปดานังสดๆ ร้อนๆ บินตรงลงดานัง 1.20 ชม. ก็ถึงแล้วสบายแฮ....
เนื่องจากว่าทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 9 คน เราเลยเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับของบริษัท VM travel เป็นรถเช่า 16 ที่นั่งค่ะ ติดต่อกันผ่าน email ส่วนตัวเราคิดว่าราคาโอเคเลยนะ ไม่ต้องกลัวโดนหลอกฟันค่ารถ เพื่อนๆ คนไหนสนใจลองติดต่อไปดูนะคะ
วันแรก Linh Ung pagoda+Marble Mountain+Hoi An Ancient Town
ประมาณเที่ยงๆ พวกเราก็บินมาถึงสนามบินดานัง ที่ประเทศเวียดนามเครื่องดีเลย์นิดนึงเนื่องจากจอดเติมน้ำมัน - -'ไม่ต้องใช้วีซ่าแถมยังไม่ต้องเขียนใบ ตม. ด้วย ผ่าน ตม. มาอย่างรวดเร็ว ออกมาก็เจอคนขับรถของเราถือป้ายรอพวกเราอยู่
วันแรกพวกเราแวะเที่ยว Linh Ung pagoda เป็นวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในดานัง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะ โดยรวมเราว่าสวยเลย แต่แดดร้อนมากค่ะ ติดอุปกรณ์กันแดดไปด้วยนะคะ ที่นี่จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองดานังได้ทั้งเมืองเลยค่ะ เป็นตัวเมืองกับวัดบนเขา คั่นด้วยทะเล อารมณ์คล้ายๆ พัทยาบ้านเรา
จากนั้นพวกเราก็ไปต่อกันที่ Marble Mountain เป็นภูเขาหินอ่อน ดานังนี่เป็นเมื่อขึ้นชื่อเรื่องหินอ่อนเลยค่ะ ขายเยอะมาก แต่เราไม่อินกับพวกนี้เราเลยไม่ได้สนใจมากนัก กลับมาที่ Marble Mountain มีค่าเข้าคนละ 40000 ดอง แล้วก็มีค่าลิฟท์ที่เอาไว้โดยสารขึ้นไปด้านบน 15000 ดองต่อคนต่อเที่ยวนะคะ เราใช้เวลาที่นี่ไม่มากค่ะ ไม่ค่อยมีรูป 555 แต่มาให้ข้อมูลเผื่อมีเพื่อนๆ คนไหนอยากไปเที่ยวที่นี่
จากนั้นเราก็เดินทางไปที่ฮอยอันเราวางแผนนอนที่นี่กัน 2 คืน ที่พักของเราคือ Hai Au Boutique Hotel อยู่ห่างจากเมืองเก่าประมาณ 700 เมตร เดินไปประมาณ 10 นาทีก็จะถึงเมืองเก่าแล้วค่ะ ซึ่งวันที่เราไปถึง เป็นวันพระจันทร์เต็มดวงที่จะมีการจัดเทศกาลโคมไฟพอดีบริเวณจัดงานก็แถวเมืองเก่าค่ะ แต่จังหวะแรกที่เดินเข้าไปในเขตเมืองเก่า ทำไมเมืองมันดูมืดๆ เราเลยมารู้ทีหลังว่าถ้าเป็นงานเทศกาลโคมไฟเค้าจะปิดไฟทั้งเขตเมืองเก่า แล้วก็จะมีการลอยกระทงด้วยนะคะ เดินๆ ไปก็จะมีคนมาขายกระทง เป็นกระทงกระดาษแล้วเทียนอยู่ตรงกลาง แล้ววิธีการลอยคือลงเรือไปลอยกลางแม่น้ำค่ะ แต่เราไม่ได้ลอยนะคะเราเดินดูเฉยๆ แถวนี้นักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร เดินเบียดๆ กันไป
วันที่สอง My Son+Hoi An Ancient Town
วันถัดมาเราซื้อ Local Tour จากโรงแรมที่เราพักไปที่ My Son อ่านว่าหมี่เซินเป็นเป็นโบราณสถานสมัยอาณาจักรจามปา เป็นมรดกโลกค่ะ ทางโรงแรมจะนัดเวลาที่รถบัสมารับตอนเช้าแล้วก็ไปรวมกับคนอื่นๆ เรามีสองทางเลือกในการเดินทางนะคะ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชม.ตลอดทริป
1. ไป-กลับรถบัส ราคา $7 ต่อคน
2. ไปรถบัสกลับเรือ มี mini lunch(ข้าวราดผัดผักพอได้รองท้อง)+แวะเกาะกลางน้ำเป็นหมู่บ้านที่เค้าทำงานแกะสลักค่ะ ราคา $9 ต่อคน
ในส่วนของทริปวันนี้ค่าบริการที่จ่ายไปจะร่วมไกด์ด้วยนะคะ ไกด์พูดภาษาอังกฤษได้ดีเลย เค้าจะค่อยแนะนำเล่าประวัติของที่ My Son ให้ฟังด้วย
พอไปถึงไกด์ก็จะรวมเงินไปซื้อบัตรค่าเข้าคนละ 120,000 ดอง แล้วก็ไปต่อรถกอล์ฟนั่งเข้าไปประมาณ 2 กม. ก็เดินเท้าต่อสักหน่อยค่ะ ก็จะถึงจุดชมแรก เนื่องอากาศที่ร้อนมากพวกเราซื้องอบใส่กัน บังแดดได้ดีทีเดียว สถานที่ของข้างกว้าง ใช้เวลาพอสมควรเลยค่ะ
หลังจากไกด์พาชมครบถ้วนแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ พวกเราเลือกเดินทางแบบข้อ 2 ค่ะ ไกด์จะพาไปส่งที่ท่าเรือแล้วนั่งเรือกลับค่ะ วิวสองข้างแม่น้ำก็คล้ายๆ เจ้าพระยาบ้านเรา แต่ไม่ค่อยมีบ้านคน โดยเรือจะไปส่งพวกเราที่ท่าเรือบริเวณเมืองเก่าฮอยอัน แล้วอย่างที่บอกไปตอนแรกถ้ากลับมาเรือเค้าจะพาแวะหมู่บ้านทำงานไม้แกะสลัก
พวกเราก็วางแผนกันไว้แล้วว่าจะมาเดินเล่นรอบเมืองเก่ากันต่อ ค่าเข้าเมืองเก่าคนละ 120000 ดองต่อคน ตามโบว์ชัวร์จะมีสถานที่โบราณอยู่ 22 ที่นะคะเราเลือกชมได้ 5 ที่ฟรี เพื่อนที่จะไปควรเผื่อเวลาเดินเล่นถ่ายรูปหน่อยนะคะ มีมุมสวยๆ เยอะเลย ถ้าให้เราแนะนำให้มาถ่ายรูปตอนเช้าค่ะไม่มีคนผลุกผล่าน ส่วนเรื่องของราคาของต่อลงสัก 60% เลยค่ะ แล้วจะได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด 555 บางร้านก็รับเงินไทยนะคะ แต่อาจจะแพงกว่าถ้าจ่ายเป็นดอง
วันที่สาม Ba Na Hills กระเช้าลอยฟ้า หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศส
วันนี้ต้องลาแล้วฮอยอัน นัดรถตู้มารับตอน 8 โมงเช้าออกเดินทางสู่ Ba Na Hills ที่ได้ชื่อว่าเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดเลยทีเดียว ตามมาจากรีวิวเพื่อนๆ หลายคนแล้วคิดว่าต้องไปให้ได้ น่าจะเป็นไฮไลท์ของดานังเลยก็ว่าได้ ค่าเข้า+เครื่องเล่นสวนสนุก 650000 ดองเกือบพันบาทไทย ราคาพอสมควรเลย แต่เราว่าสวยคุ้มค่าราคามากๆ แค่นั่งกระเช้าเราว่าก็ฟินแล้วล่ะ วันนี้น่าจะเป็นวันเดียวในทริปที่เรารู้สึกว่าอากาศไม่ร้อน อากาศด้านบนอากาศเย็นสบายดีค่ะคงเพราะว่าอยู่บนเขา ด้านบนมีโรงแรมด้วยนะคะ ราคาไม่ได้แพงมากเท่าไร ถ้าใครอยากดูวิวตอนกลางคืนลองดูนะคะมีหลายโรงแรมให้เลือกเลย
พวกเราใช้เวลาบน Ba Na hills 6 ชม. ก็กลับเข้าเมือง เราว่าก็ยังไม่พอเพราะกว้างและมุมสวยๆ เยอะเลย แอบเสียดายนิดนึง คืนนี้พวกเรานอนที่ Happy Day in Danang ริมแม่น้ำฮัน มองเห็นสะพานมังกรได้เลยค่ะ สะพานมังกรนี่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดานังก็ว่าได้ ตอนสามทุ่มจะมีการโชว์มังกรพ่นไฟกับพ่นน้ำ
วันที่สี่ เช้าสุดท้ายที่ดานังเราตื่นเช้าไปโบสต์คาทอลิค เดินจากโรงแรมไม่ไกลค่ะ แล้วปิดท้ายด้วยตลาดฮานไปซื้อของฝาก
ดานังกับฮอยอันเป็นสองเมืองที่อยู่ใกล้กันมาก ห่างกันแค่ 30-40 กม. แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฮอยอันเป็นเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้ ร้านอะไรก็ไม่มีแอร์ให้นั่งเหมือนบ้านเรา คนใช้มอเตอร์ไซด์กับจักรยานเดินทางกันส่วนใหญ่ ในขณะที่ดานังเป็นเมืองท่าที่เจริญด้านวัตถุมากกว่าฮอยอัน ผับบาร์ค่อนข้างเยอะตอนเรากลับมาที่ดานังดีใจกันมากที่เวลาไปนั่งร้านอะไรก็ตามก็มีแอร์ เพราะที่ฮอยอันหาไม่ได้เลย อากาศก็ร้อนมากๆ 555 โดยส่วนตัวเราชอบเมืองแบบฮอยอันมากกว่าค่ะ มีโอกาสจะกลับไปช่วงหน้าหนาวอีกรอบ
ในส่วนของอากาศที่ฮอยอัน ดานังนั้น ก่อนไปเราเช็คสภาพอากาศแล้ว เค้าบอกว่าฝนจะตก แต่ปรากฏว่าพอไปถึงจริงๆ เราไม่เจอฝนเลยสักวันค่ะ แถมอากาศร้อนมากๆ เราว่าแดดแรงกว่าบ้านเราอีกนะ เพื่อนคนไหนไปก็อย่าลืมอุปกรณ์กันแดดไปละกัน พกพัดไว้ด้วยก็ดีนะคะ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเรื่องอาหารการละ สำหรับเราเราชอบนะเราว่าอร่อยเลยทีเดียว เน้นผักหน่อย เราจะรีวิวที่พวกเราลงความเห็นว่าอร่อยแล้วกันนะคะ
ร้านแรก
Bale Well ที่ฮอยอันอยู่ใกล้กับเมืองเก่า เราก็หาร้านนี้มาจากรีวิวนี่แหละค่ะ ใครอยากไป search หาใน TripAdvisor ได้เลย เป็นร้านอยู่ในซอยอีกที หน้าซอยจะมีคนโบกเรียกแขก เป็นร้านขายแหนมเนืองแบบเวียดนามหน้าตาไม่เหมือนแหนมเนืองบ้านเรา ร้านนี้จะจัดอาหารมาเป็นเซตให้ตามจำนวนคนเพราะฉะนั้นไปถึงก็นั่งแล้วเค้าจะยกมาเสิร์ฟให้ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะน้อยนะคะเพราะเยอะมากๆ จากนั้นจะมีพนักงานมาสาธิตวิธีการทาน
ต่อมาร้าน
Banh Mi Phoung ร้านนี้ก็ฮอยอันค่ะ อยู่ใกล้กับร้าน Bale Well เลย ร้านนี้ที่ดังคือขนมปังญวณ เราว่าที่เด็ดคือน้ำซอสเค้าอะคะ เราก็ไปตาม TripAdvisor เหมือนกัน วันแรกที่ไปถึงตกใจมากคิวยาวสุดๆ นั่งท่องเที่ยวมารอกัยแต่รอไม่นานนะคะ แป๊บเดียวก็ได้ทานแล้ว อันนี้กลุ่มเราติดใจกันมาก ทานทุกวันเลย ร้านเปิด 6.30-23.00
มาที่ร้านกาแฟกันบ้างเราลองหลายร้านเหมือนกันแต่ยกให้ร้านนี้ละกันค่ะ
HOA CHAMPA เป็นร้านที่ขายกาแฟ ชา หลากหลายประเภทมากๆ เป็นร้านเล็กๆ ร้านอยู่ตรงข้ามซอย Bale Well เราคิดว่าเส้นนี้มีแต่ของอร่อย
แต่ที่เราลงความเห็นแล้วว่าเด็ดสุดๆ คือช๊อตโกแลตเย็นค่ะ ต้องลองเลย อร่อยจริงๆ เพิ่มเติมนิดนึงนะคะ ที่ฮอยอันดานังเห็นว่าร้อนแบบนี้แต่พวกเครื่องดื่มเย็นเค้าไม่ได้ใส่น้ำแข็งเยอะแบบบ้านเรานะ มันจะมาแบบเย็นไม่สุด คนบ้านเราไม่น่าจะชอบเท่าไร
สุดท้ายขอแนะนำเมนูรถเข็นที่ดานังทานแกล้มกับเบียร์ใช้ได้เลย เราไม่รู้จักชื่อ เพื่อนคนไหนรู้บอกมาเลยนะคะ เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวยังไม่สุกมาผัดเนยใส่หอมแดงหอมใหญ่ เราว่าเด็ดเช่นกัน แนะนำให้ลอง
ปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ของเวียดนาม 'มอเตอร์ไซด์'
และ....เบียร์เวียดนาม
รูปที่เอามาลงเป็นของเพื่อนที่ไปด้วยกัน ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ l3ankadi, Toptap, Golf ( -/|\-)
[CR] ฮอยอัน ดานัง หนึ่งทริปกับความแตกต่าง
เนื่องจากว่าทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 9 คน เราเลยเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับของบริษัท VM travel เป็นรถเช่า 16 ที่นั่งค่ะ ติดต่อกันผ่าน email ส่วนตัวเราคิดว่าราคาโอเคเลยนะ ไม่ต้องกลัวโดนหลอกฟันค่ารถ เพื่อนๆ คนไหนสนใจลองติดต่อไปดูนะคะ
วันแรก Linh Ung pagoda+Marble Mountain+Hoi An Ancient Town
ประมาณเที่ยงๆ พวกเราก็บินมาถึงสนามบินดานัง ที่ประเทศเวียดนามเครื่องดีเลย์นิดนึงเนื่องจากจอดเติมน้ำมัน - -'ไม่ต้องใช้วีซ่าแถมยังไม่ต้องเขียนใบ ตม. ด้วย ผ่าน ตม. มาอย่างรวดเร็ว ออกมาก็เจอคนขับรถของเราถือป้ายรอพวกเราอยู่
วันแรกพวกเราแวะเที่ยว Linh Ung pagoda เป็นวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในดานัง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะ โดยรวมเราว่าสวยเลย แต่แดดร้อนมากค่ะ ติดอุปกรณ์กันแดดไปด้วยนะคะ ที่นี่จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองดานังได้ทั้งเมืองเลยค่ะ เป็นตัวเมืองกับวัดบนเขา คั่นด้วยทะเล อารมณ์คล้ายๆ พัทยาบ้านเรา
จากนั้นพวกเราก็ไปต่อกันที่ Marble Mountain เป็นภูเขาหินอ่อน ดานังนี่เป็นเมื่อขึ้นชื่อเรื่องหินอ่อนเลยค่ะ ขายเยอะมาก แต่เราไม่อินกับพวกนี้เราเลยไม่ได้สนใจมากนัก กลับมาที่ Marble Mountain มีค่าเข้าคนละ 40000 ดอง แล้วก็มีค่าลิฟท์ที่เอาไว้โดยสารขึ้นไปด้านบน 15000 ดองต่อคนต่อเที่ยวนะคะ เราใช้เวลาที่นี่ไม่มากค่ะ ไม่ค่อยมีรูป 555 แต่มาให้ข้อมูลเผื่อมีเพื่อนๆ คนไหนอยากไปเที่ยวที่นี่
จากนั้นเราก็เดินทางไปที่ฮอยอันเราวางแผนนอนที่นี่กัน 2 คืน ที่พักของเราคือ Hai Au Boutique Hotel อยู่ห่างจากเมืองเก่าประมาณ 700 เมตร เดินไปประมาณ 10 นาทีก็จะถึงเมืองเก่าแล้วค่ะ ซึ่งวันที่เราไปถึง เป็นวันพระจันทร์เต็มดวงที่จะมีการจัดเทศกาลโคมไฟพอดีบริเวณจัดงานก็แถวเมืองเก่าค่ะ แต่จังหวะแรกที่เดินเข้าไปในเขตเมืองเก่า ทำไมเมืองมันดูมืดๆ เราเลยมารู้ทีหลังว่าถ้าเป็นงานเทศกาลโคมไฟเค้าจะปิดไฟทั้งเขตเมืองเก่า แล้วก็จะมีการลอยกระทงด้วยนะคะ เดินๆ ไปก็จะมีคนมาขายกระทง เป็นกระทงกระดาษแล้วเทียนอยู่ตรงกลาง แล้ววิธีการลอยคือลงเรือไปลอยกลางแม่น้ำค่ะ แต่เราไม่ได้ลอยนะคะเราเดินดูเฉยๆ แถวนี้นักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร เดินเบียดๆ กันไป
วันที่สอง My Son+Hoi An Ancient Town
วันถัดมาเราซื้อ Local Tour จากโรงแรมที่เราพักไปที่ My Son อ่านว่าหมี่เซินเป็นเป็นโบราณสถานสมัยอาณาจักรจามปา เป็นมรดกโลกค่ะ ทางโรงแรมจะนัดเวลาที่รถบัสมารับตอนเช้าแล้วก็ไปรวมกับคนอื่นๆ เรามีสองทางเลือกในการเดินทางนะคะ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชม.ตลอดทริป
1. ไป-กลับรถบัส ราคา $7 ต่อคน
2. ไปรถบัสกลับเรือ มี mini lunch(ข้าวราดผัดผักพอได้รองท้อง)+แวะเกาะกลางน้ำเป็นหมู่บ้านที่เค้าทำงานแกะสลักค่ะ ราคา $9 ต่อคน
ในส่วนของทริปวันนี้ค่าบริการที่จ่ายไปจะร่วมไกด์ด้วยนะคะ ไกด์พูดภาษาอังกฤษได้ดีเลย เค้าจะค่อยแนะนำเล่าประวัติของที่ My Son ให้ฟังด้วย
พอไปถึงไกด์ก็จะรวมเงินไปซื้อบัตรค่าเข้าคนละ 120,000 ดอง แล้วก็ไปต่อรถกอล์ฟนั่งเข้าไปประมาณ 2 กม. ก็เดินเท้าต่อสักหน่อยค่ะ ก็จะถึงจุดชมแรก เนื่องอากาศที่ร้อนมากพวกเราซื้องอบใส่กัน บังแดดได้ดีทีเดียว สถานที่ของข้างกว้าง ใช้เวลาพอสมควรเลยค่ะ
หลังจากไกด์พาชมครบถ้วนแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ พวกเราเลือกเดินทางแบบข้อ 2 ค่ะ ไกด์จะพาไปส่งที่ท่าเรือแล้วนั่งเรือกลับค่ะ วิวสองข้างแม่น้ำก็คล้ายๆ เจ้าพระยาบ้านเรา แต่ไม่ค่อยมีบ้านคน โดยเรือจะไปส่งพวกเราที่ท่าเรือบริเวณเมืองเก่าฮอยอัน แล้วอย่างที่บอกไปตอนแรกถ้ากลับมาเรือเค้าจะพาแวะหมู่บ้านทำงานไม้แกะสลัก
พวกเราก็วางแผนกันไว้แล้วว่าจะมาเดินเล่นรอบเมืองเก่ากันต่อ ค่าเข้าเมืองเก่าคนละ 120000 ดองต่อคน ตามโบว์ชัวร์จะมีสถานที่โบราณอยู่ 22 ที่นะคะเราเลือกชมได้ 5 ที่ฟรี เพื่อนที่จะไปควรเผื่อเวลาเดินเล่นถ่ายรูปหน่อยนะคะ มีมุมสวยๆ เยอะเลย ถ้าให้เราแนะนำให้มาถ่ายรูปตอนเช้าค่ะไม่มีคนผลุกผล่าน ส่วนเรื่องของราคาของต่อลงสัก 60% เลยค่ะ แล้วจะได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด 555 บางร้านก็รับเงินไทยนะคะ แต่อาจจะแพงกว่าถ้าจ่ายเป็นดอง
วันที่สาม Ba Na Hills กระเช้าลอยฟ้า หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศส
วันนี้ต้องลาแล้วฮอยอัน นัดรถตู้มารับตอน 8 โมงเช้าออกเดินทางสู่ Ba Na Hills ที่ได้ชื่อว่าเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดเลยทีเดียว ตามมาจากรีวิวเพื่อนๆ หลายคนแล้วคิดว่าต้องไปให้ได้ น่าจะเป็นไฮไลท์ของดานังเลยก็ว่าได้ ค่าเข้า+เครื่องเล่นสวนสนุก 650000 ดองเกือบพันบาทไทย ราคาพอสมควรเลย แต่เราว่าสวยคุ้มค่าราคามากๆ แค่นั่งกระเช้าเราว่าก็ฟินแล้วล่ะ วันนี้น่าจะเป็นวันเดียวในทริปที่เรารู้สึกว่าอากาศไม่ร้อน อากาศด้านบนอากาศเย็นสบายดีค่ะคงเพราะว่าอยู่บนเขา ด้านบนมีโรงแรมด้วยนะคะ ราคาไม่ได้แพงมากเท่าไร ถ้าใครอยากดูวิวตอนกลางคืนลองดูนะคะมีหลายโรงแรมให้เลือกเลย
พวกเราใช้เวลาบน Ba Na hills 6 ชม. ก็กลับเข้าเมือง เราว่าก็ยังไม่พอเพราะกว้างและมุมสวยๆ เยอะเลย แอบเสียดายนิดนึง คืนนี้พวกเรานอนที่ Happy Day in Danang ริมแม่น้ำฮัน มองเห็นสะพานมังกรได้เลยค่ะ สะพานมังกรนี่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดานังก็ว่าได้ ตอนสามทุ่มจะมีการโชว์มังกรพ่นไฟกับพ่นน้ำ
วันที่สี่ เช้าสุดท้ายที่ดานังเราตื่นเช้าไปโบสต์คาทอลิค เดินจากโรงแรมไม่ไกลค่ะ แล้วปิดท้ายด้วยตลาดฮานไปซื้อของฝาก
ดานังกับฮอยอันเป็นสองเมืองที่อยู่ใกล้กันมาก ห่างกันแค่ 30-40 กม. แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฮอยอันเป็นเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้ ร้านอะไรก็ไม่มีแอร์ให้นั่งเหมือนบ้านเรา คนใช้มอเตอร์ไซด์กับจักรยานเดินทางกันส่วนใหญ่ ในขณะที่ดานังเป็นเมืองท่าที่เจริญด้านวัตถุมากกว่าฮอยอัน ผับบาร์ค่อนข้างเยอะตอนเรากลับมาที่ดานังดีใจกันมากที่เวลาไปนั่งร้านอะไรก็ตามก็มีแอร์ เพราะที่ฮอยอันหาไม่ได้เลย อากาศก็ร้อนมากๆ 555 โดยส่วนตัวเราชอบเมืองแบบฮอยอันมากกว่าค่ะ มีโอกาสจะกลับไปช่วงหน้าหนาวอีกรอบ
ในส่วนของอากาศที่ฮอยอัน ดานังนั้น ก่อนไปเราเช็คสภาพอากาศแล้ว เค้าบอกว่าฝนจะตก แต่ปรากฏว่าพอไปถึงจริงๆ เราไม่เจอฝนเลยสักวันค่ะ แถมอากาศร้อนมากๆ เราว่าแดดแรงกว่าบ้านเราอีกนะ เพื่อนคนไหนไปก็อย่าลืมอุปกรณ์กันแดดไปละกัน พกพัดไว้ด้วยก็ดีนะคะ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเรื่องอาหารการละ สำหรับเราเราชอบนะเราว่าอร่อยเลยทีเดียว เน้นผักหน่อย เราจะรีวิวที่พวกเราลงความเห็นว่าอร่อยแล้วกันนะคะ
ร้านแรก Bale Well ที่ฮอยอันอยู่ใกล้กับเมืองเก่า เราก็หาร้านนี้มาจากรีวิวนี่แหละค่ะ ใครอยากไป search หาใน TripAdvisor ได้เลย เป็นร้านอยู่ในซอยอีกที หน้าซอยจะมีคนโบกเรียกแขก เป็นร้านขายแหนมเนืองแบบเวียดนามหน้าตาไม่เหมือนแหนมเนืองบ้านเรา ร้านนี้จะจัดอาหารมาเป็นเซตให้ตามจำนวนคนเพราะฉะนั้นไปถึงก็นั่งแล้วเค้าจะยกมาเสิร์ฟให้ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะน้อยนะคะเพราะเยอะมากๆ จากนั้นจะมีพนักงานมาสาธิตวิธีการทาน
ต่อมาร้าน Banh Mi Phoung ร้านนี้ก็ฮอยอันค่ะ อยู่ใกล้กับร้าน Bale Well เลย ร้านนี้ที่ดังคือขนมปังญวณ เราว่าที่เด็ดคือน้ำซอสเค้าอะคะ เราก็ไปตาม TripAdvisor เหมือนกัน วันแรกที่ไปถึงตกใจมากคิวยาวสุดๆ นั่งท่องเที่ยวมารอกัยแต่รอไม่นานนะคะ แป๊บเดียวก็ได้ทานแล้ว อันนี้กลุ่มเราติดใจกันมาก ทานทุกวันเลย ร้านเปิด 6.30-23.00
มาที่ร้านกาแฟกันบ้างเราลองหลายร้านเหมือนกันแต่ยกให้ร้านนี้ละกันค่ะ HOA CHAMPA เป็นร้านที่ขายกาแฟ ชา หลากหลายประเภทมากๆ เป็นร้านเล็กๆ ร้านอยู่ตรงข้ามซอย Bale Well เราคิดว่าเส้นนี้มีแต่ของอร่อย แต่ที่เราลงความเห็นแล้วว่าเด็ดสุดๆ คือช๊อตโกแลตเย็นค่ะ ต้องลองเลย อร่อยจริงๆ เพิ่มเติมนิดนึงนะคะ ที่ฮอยอันดานังเห็นว่าร้อนแบบนี้แต่พวกเครื่องดื่มเย็นเค้าไม่ได้ใส่น้ำแข็งเยอะแบบบ้านเรานะ มันจะมาแบบเย็นไม่สุด คนบ้านเราไม่น่าจะชอบเท่าไร
สุดท้ายขอแนะนำเมนูรถเข็นที่ดานังทานแกล้มกับเบียร์ใช้ได้เลย เราไม่รู้จักชื่อ เพื่อนคนไหนรู้บอกมาเลยนะคะ เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวยังไม่สุกมาผัดเนยใส่หอมแดงหอมใหญ่ เราว่าเด็ดเช่นกัน แนะนำให้ลอง
ปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ของเวียดนาม 'มอเตอร์ไซด์'
และ....เบียร์เวียดนาม
รูปที่เอามาลงเป็นของเพื่อนที่ไปด้วยกัน ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ l3ankadi, Toptap, Golf ( -/|\-)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น