สวัสดีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2560 ที่ผ่านมา เราขับมอเตอร์ไซค์จากคอนโด ไปทำงานที่เขตดุสิต ถ.พระรามที่ 5
ช่วงเวลาประมาณ 9.00 น. เราขับมาถึงแยกราชวิถี ฝั่งซ้ายจะเป็นสวนสัตว์ดุสิต ฝั่งขวาจะเป็นวังสวนจิตรลดา มุ่งหน้าไปสะพานแดง
ตอนที่เราขับมาถึงแยกนั้น มันเป็นช่วงไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลือง ตรงข้างหน้าเรามีมอไซค์จอดคร่อมเลนอยู่ตรงกลาง และมอไซค์คันนั้นจอดเลยตรงที่ให้จอดและเลยตรงทางม้าลายให้คนข้าม พอช่วงไฟเปลี่ยน เราก็ถึงตรงนั้นพอดี จังหวะเดียวกับที่มอไซค์หันหัวรถมา ณ ตอนนั้นเราเองก็หลบไม่ทัน เลยชนกับทางมอไซค์ โดยที่เรากระแทกกับมอไซค์คู่กรณีทางฝั่งช่วงตัวขวา หลังจากกระแทกแล้ว เราก็ไปกับมอไซค์ ประคองรถไปจนถึงตรงช่วงหัวสะพานแล้วเราก็ล้มไปกับรถ ตอนนั้นมีพี่คนนึงเดินมาช่วยจอดรถให้เพราะเราจุกและชาช่วงขวาไปทั้งตัวจากแรงปะทะ มีตำรวจจราจรเดินมายึดใบขับขี่เราไป เราเห็นคู่กรณีอยู่ตรงที่เกิดเหตุ โดยมีกู้ภัยมาดำเนินการ มีตำรวจเดินมา เราก็ถามตำรวจว่าจะต้องเรียกประกันไหม เพราะเราทำประกันรถไว้ ตำรวจบอกว่า ค่อยเรียกประกันมา และทางตำรวจจะนำรถไปไว้ที่สน.ดุสิต หลังจากนั้นทางกู้ภัยส่งเราและมอไซค์วินไปที่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลเนื่องจากเห็นว่ารถมอไซค์ทั้งของเราและคู่กรณีมี พรบ.ทั้งคู่ (ซึ่งเรามีสิทธิประกันสังคมอยู่ที่ รพ.กลางค่ะ) พอถึงรพ. ก็ทำการ X Ray ทุกอย่าง ผลออกมาเราไม่เป็นไรค่ะ แต่คู่กรณีมีต้องเย็บที่ขาตรงน่อง และจากการแสกนกระดูกร้าว ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าร้าวมากหรือร้าวน้อยค่ะ รู้ว่าแค่ร้าว
ในตอนแรกคิดในใจว่าจะช่วยค่าทำขวัญ เนื่องจากเราเห็นว่าเขาเจ็บกว่าเรา เราก็เจ็บค่ะแต่เป็นพวกฟกช้ำ
แต่พอทางเจ้าหน้าที่ส่งมาที่นิติเวช มอไซค์เขาพูดขึ้นมาว่า เขาจะให้เราจ่ายค่ารักษาของเขาแล้วเราให้ไปเบิกทีหลัง ให้จ่ายของเขาให้หมด ....
(แต่เราสงสัยว่าทำไมให้เราไปจ่ายแล้วเบิกทีหลัง เบิกได้ใช่ไหมคะ?) พยาบาลก็เข้ามาอธิบายว่าให้ใช้สิทธิ์พรบ.ไป ซึ่งต้องสำรองจ่ายแล้วค่อยเอาใบเสร็จไปเบิก (เท่าที่เราเข้าใจคือเราต้องต่างคนต่างใช้พรบ.ให้เต็มวงเงิน 30,000 บาทก่อนใช่ไหมคะ คู่กรณีถึงมาใช้ในส่วนของเราได้ ) ซึ่งพอถึงตรงนี้ เราพูดขึ้นมาว่า พี่คะรถหนูมีประกัน ให้ประกันมาเคลึยร์ไหมคะ? เขาก็โวยวาย บอกไม่ต้องโทรเรียกประกันหรอก ใช้พรบ.ก็จบ ....(ซึ่งเราก็คิดว่าทำไมเราไม่ต้องเรียกประกันในเมื่อเราเสียเงินทำประกันแล้ว) และเขาให้เรายอมรับผิดที่นิติเวช ให้จบๆไป เราก็บอกว่า พี่คะ มีอะไรให้ไปเคลียร์ที่สน.นะคะ เพราะเราก็คิดว่าเราขี่มาตรงเลยและเราจำได้ว่าเขาเลี้ยวหัวมาในจังหวะนั้นพอดี จะผิดจะถูกให้ไปว่ากันที่กล้อง CCTV และตามที่ตำรวจจะชี้ละกัน
ซึ่งตอนที่เขาไม่ให้เราโทรหาประกันเราก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว เราก็เลยโทรปรึษาพ่อ พ่อก็บอกให้โทรแจ้งประกัน เราก็เลยโทรไป ทางประกันก็รับเรื่องแล้วมีเจ้าหน้าที่ไปที่ สน.ดุสิต และจะไปรอถ่ายรูปรถที่เกิดเหตุชนกันที่โรงพัก ซึ่งทางของเราล่าช้าเพราะรอคิว ติดช่วงเที่ยง มอเตอร์ไซค์วินคนเจ็บเขาเสร็จก่อนเพราะพยาบาลดำเนินการให้ แต่ของเราเขาให้เราดำเนินการเอง ซึ่งในขณะนั้นเราเองก็ยังมีอาการเจ็บและชาช่วงขวาอยุ่ สรุปว่าตอนนั้นเรายังไม่เสร็จแต่มอเตอร์ไซค์คนเจ็บล่วงหน้าไป สน.แล้ว ซึ่งเราก็แจ้งแล้วว่าเราจะไปที่ รพ. แน่นอนเพราะรถเรากุญแจเราก็อยู่ที่ รพ.เช่นกัน เราก็ต้องรออยู่ประมาณเกือบบ่ายถึงจะเสร็จ ช่วงนั้นพี่ประกันเราก็ไปรอที่สน.แล้ว และวินมอไซค์คนนั้นไม่ทราบว่าเอาเบอร์เราจากไหน (น่าจะจากพี่ประกันของเรา) โทรมาหาเราว่า เขารออยู่ที่ สน. ให้รีบมา เราก็ตอบไปว่า เรารอจ่ายเงินอยู่ และพอหลังจากเสร็จสิ้นการจ่ายเงินและรับยา เราก็มุ่งหน้าไปที่ สน.ดุสิต
พอเราไปถึงสน. เราก็แจ้งพี่ประกันว่าเราขับมาเลนเซ้ายพอมาถึงแยกนั้น เราเห็นมอเตอร์ไซค์คร่อมเลย เลยทางข้ามม้าลายและตอนนั้นเป็นจังหวะไฟเขียว เปลี่ยนเหลืองพอดีแล้วมอไซค์คันนี้หักหัวมาทางเรา เราก็บอกไปตามจริง พี่ประกันก็รับทราบและก็บอกว่ารอตำรวจดำเนินเรื่องละกัน
ในช่วงตอนที่อยู่ที่สน. ตอนที่ผู้กองยังไม่มาดำเนินเรื่องทางมอไซค์ก็เริ่มโวยวาย บอกว่าเขาไม่ได้ทำผิด จอดถูกต้องตามกฏจราจร น้องขับมาไม่ระวังมาชนผมลั่นโรงพักเลยนะ เราก็ไม่พูดอะไรเพราะเราเองก็พูดไปตามที่เราจำได้ จนผู้กองมาดำเนินเรื่อง หลังจากนั้นผู้กองก็ถามว่า ถ้าวันนี้ชี้ผิดชี้ถูก ประกันจบเลยไหม ประกันเราก็แจ้งว่าได้ ตำรวจก็เลยบอกว่าถ้าจบวันนี้ค่าเสียหายก็เอากระดาษไปตกลงกันเอง
เขาก็เลยเปิด CCTV ให้ดู ซึ่งในคลิปก็เป็นไปตามที่เราพูดทุกอย่าง ว่าเรามาเลนซ้าย เป็นในช่วงไฟเขียวเปลี่ยนเหลือง และมอไซค์จอดล้ำเส้นคร่อมเลนจริง และหักหัวมาไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ซึ่งตรงนี้ตำรวจแจ้งเป็น ฝ่าไฟแดงทั้งคู่ (ซึ่งในคลิปมันก็ไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลืองจริง แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรไป) แล้วในส่วนของเรา ตำรวจแจ้งว่าเราผิดตรงที่ไม่เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า (ซึ่งเราไม่ได้ขับรถตามหลังคันนี้ แต่คันนี้จอดอยู่คร่อมเลน) โดยตำรวจชี้ว่าฝั่งเราผิด ซึ่งประกันก็รับทราบในส่วนนี้เรียบร้อย และลงไปในบันทึกประจำวัน ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และลงว่าเราขี่ตามหลังรถมอเตอร์ไซค์คันนี้และจะแซงรถคันนี้ในเลนซ้าย (ในกล้องเราขี่มาตรงเลยไม่มีการเลี้ยวหักรถใดๆที่เป็นเจตนาในการแซง)
โดยตำรวจได้เปรียบเทียบปรับทางมอเตอร์ไซค์ 100 บาท ข้อหาฝ่าไฟแดง เปรียบเทียบปรับเรา 500 บาท ในข้อหาฝ่าไฟแดงและขับรถโดยประมาท
และหลังจากนั้น ประกันเราก็ไปตรวจสอบดูรถว่าเสียหายมากไหม
รถเรา มีแค่ตรงเบรกที่สะดุ้งขึ้น แล้วก็รอยถลอกตรงหน้ากาก และแฮนด์เสียทรง
รถของมอไซค์วิน ตรงหน้ากากแตก ครัชหักครึ่ง
ประกันเราก็ชี้แจงออกใบเคลมให้เขานำรถเข้าไปซ่อมที่อู่ ส่วนเรื่องสินไหม พรบ. ก็ได้แจ้งทางมอไซค์ให้ไปดำเนินการเองในชื่อของเขา (ซึ่งตั้งแต่ร.พ.ยันโรงพักเขาจะให้เราไปดำเนินการให้เขา และเราคิดว่ามันทำไม่ได้เพราะมันเป็นภายใต้ชื่อของเขา) โดยทางเราก็ได้ให้เอกสารพรบ. สำเนามอเตอร์ไซค์ และสำเนาบัตรประชาชนให้เขาเรียบร้อย และให้เบอร์ประกันฝั่งเราไปในกรณีที่เขาหากดำเนินการหรือต้องการประสานงานอะไรเพิ่มเติม
พอวันถัดมา มอไซค์โทรมา เขาแจ้งว่าเขาจะตั้งเบิกวันละ 500 บาท ถ้าเขาไม่ได้ตามที่เขาต้องการ เราจะต้องจ่ายให้เขาเพิ่ม
เราก็ถามเขาว่า พี่ตั้งเรื่องไปหรือยัง? เขาบอกยัง เราก็บอกว่าพี่ดำเนินการไปก่อน ถ้ามันเกินมีอะไรพี่คุยกับประกันหนูได้เลย
เขาก็บอกว่า ถ้าเขาไม่ได้เขาจะไปคุยกับตำรวจ หรือไม่ก็ส่งฟ้องศาล เราก็ตอบเงียบแต่ก้บอกเขาไปว่า ให้พี่ดำเนินเรื่องก่อนขาดเหลือยังไงก็คุยกับประกันได้เลย แต่ถ้าหากพี่ไม่พอใจพี่ต้องการฟ้องร้องก็แล้วแต่พี่จะดำเนินการเลยค่ะ ซึ่งเราก็สอบถามประกัน ประกันก็แจ้งว่าเราใช้สิทธิ์ประกัน ไม่ได้ใช้สิทธิ์พรบ. ถ้าเขาต้องการฟ้องก็ให้เขาฟ้องไป
ในกรณีนี้อยากสอบถามว่า
#ในเมื่อเราไม่ได้หนี และก็ให้ประกันภัยดูแล และในส่วนพรบ. เขาก็เบิกสินไหมได้ จำเป็นไหมคะที่จะต้องให้ค่าอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ไป
#ทางเขาสามารถยื่นเรื่องฟ้องศาลได้หรือไม่คะ? แล้วถ้าเขาคุยกับตำรวจมันจะด้วยเนื่องในข้อหาอะไรคะ?
#ในเรื่องของเงินที่เขาต้องการเพิ่มจากทางเรา เขามาแจ้งภายหลังโดยไม่ใช่ในสถานีตำรวจ ตรงนี้เขาดำเนินการได้หรือไม่? เพราะที่คุยกับทางประกันคือ ค่ารักษาพยาบาลที่ตามบิล พรบ.ก็จ่ายตามจริง ซึ่งไม่น่าจะเกิน 30,000 บาทและถ้าเกินเราก็คิดว่าไม่น่าจะเกิน 80,000 บาท และถ้าเกินทางประกันก็จะออกค่าใช้จ่ายให้หมด ถูกต้องไหมคะ? และเราควรจะต้องกังวลกับตรงนี้ไหมคะ
#ในใบประกันหากเราเป็นฝ่ายผิดเราต้องเสียเพิ่ม 1000 บาทก่อนส่งซ่อม ทำไมเราไม่ต้องเสียเพิ่ม 1000 บาท
ป.ล. นี่เป็นอุบัติเหตุกับรถมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในชีวิตของเราค่ะ
ป.ล. ใจจริงเราจะช่วยเงินให้เขายอด 5,000 บาทค่ะ แต่จากที่เรารู้สึกกับคำพูดของมอเตอร์ไซค์ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่โรงพยาบาล โรงพัก จนที่เขาโทรมา เรารู้สึกไม่ดีมากค่ะ และมีความรู้สึกบางอย่างว่ามอเตอร์ไซค์หัวหมอ ในนี้เราถ่ายทอดคำพูดได้ไม่หมดหรอกค่ะ แต่เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเขาไม่พูดแบบหัวหมอเราให้เขาแน่นอนค่ะ
รบกวนพี่ๆ ที่มีประสบการณ์ช่วยชี้แจงให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ปรึกษาคดีอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ชนกัน ตำรวจชี้เราเป็นฝ่ายผิด แต่รู้สึกว่ามอไซค์คู่กรณีหัวหมอ อยากปรึกษาค่ะ
ช่วงเวลาประมาณ 9.00 น. เราขับมาถึงแยกราชวิถี ฝั่งซ้ายจะเป็นสวนสัตว์ดุสิต ฝั่งขวาจะเป็นวังสวนจิตรลดา มุ่งหน้าไปสะพานแดง
ตอนที่เราขับมาถึงแยกนั้น มันเป็นช่วงไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลือง ตรงข้างหน้าเรามีมอไซค์จอดคร่อมเลนอยู่ตรงกลาง และมอไซค์คันนั้นจอดเลยตรงที่ให้จอดและเลยตรงทางม้าลายให้คนข้าม พอช่วงไฟเปลี่ยน เราก็ถึงตรงนั้นพอดี จังหวะเดียวกับที่มอไซค์หันหัวรถมา ณ ตอนนั้นเราเองก็หลบไม่ทัน เลยชนกับทางมอไซค์ โดยที่เรากระแทกกับมอไซค์คู่กรณีทางฝั่งช่วงตัวขวา หลังจากกระแทกแล้ว เราก็ไปกับมอไซค์ ประคองรถไปจนถึงตรงช่วงหัวสะพานแล้วเราก็ล้มไปกับรถ ตอนนั้นมีพี่คนนึงเดินมาช่วยจอดรถให้เพราะเราจุกและชาช่วงขวาไปทั้งตัวจากแรงปะทะ มีตำรวจจราจรเดินมายึดใบขับขี่เราไป เราเห็นคู่กรณีอยู่ตรงที่เกิดเหตุ โดยมีกู้ภัยมาดำเนินการ มีตำรวจเดินมา เราก็ถามตำรวจว่าจะต้องเรียกประกันไหม เพราะเราทำประกันรถไว้ ตำรวจบอกว่า ค่อยเรียกประกันมา และทางตำรวจจะนำรถไปไว้ที่สน.ดุสิต หลังจากนั้นทางกู้ภัยส่งเราและมอไซค์วินไปที่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลเนื่องจากเห็นว่ารถมอไซค์ทั้งของเราและคู่กรณีมี พรบ.ทั้งคู่ (ซึ่งเรามีสิทธิประกันสังคมอยู่ที่ รพ.กลางค่ะ) พอถึงรพ. ก็ทำการ X Ray ทุกอย่าง ผลออกมาเราไม่เป็นไรค่ะ แต่คู่กรณีมีต้องเย็บที่ขาตรงน่อง และจากการแสกนกระดูกร้าว ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าร้าวมากหรือร้าวน้อยค่ะ รู้ว่าแค่ร้าว
ในตอนแรกคิดในใจว่าจะช่วยค่าทำขวัญ เนื่องจากเราเห็นว่าเขาเจ็บกว่าเรา เราก็เจ็บค่ะแต่เป็นพวกฟกช้ำ
แต่พอทางเจ้าหน้าที่ส่งมาที่นิติเวช มอไซค์เขาพูดขึ้นมาว่า เขาจะให้เราจ่ายค่ารักษาของเขาแล้วเราให้ไปเบิกทีหลัง ให้จ่ายของเขาให้หมด ....
(แต่เราสงสัยว่าทำไมให้เราไปจ่ายแล้วเบิกทีหลัง เบิกได้ใช่ไหมคะ?) พยาบาลก็เข้ามาอธิบายว่าให้ใช้สิทธิ์พรบ.ไป ซึ่งต้องสำรองจ่ายแล้วค่อยเอาใบเสร็จไปเบิก (เท่าที่เราเข้าใจคือเราต้องต่างคนต่างใช้พรบ.ให้เต็มวงเงิน 30,000 บาทก่อนใช่ไหมคะ คู่กรณีถึงมาใช้ในส่วนของเราได้ ) ซึ่งพอถึงตรงนี้ เราพูดขึ้นมาว่า พี่คะรถหนูมีประกัน ให้ประกันมาเคลึยร์ไหมคะ? เขาก็โวยวาย บอกไม่ต้องโทรเรียกประกันหรอก ใช้พรบ.ก็จบ ....(ซึ่งเราก็คิดว่าทำไมเราไม่ต้องเรียกประกันในเมื่อเราเสียเงินทำประกันแล้ว) และเขาให้เรายอมรับผิดที่นิติเวช ให้จบๆไป เราก็บอกว่า พี่คะ มีอะไรให้ไปเคลียร์ที่สน.นะคะ เพราะเราก็คิดว่าเราขี่มาตรงเลยและเราจำได้ว่าเขาเลี้ยวหัวมาในจังหวะนั้นพอดี จะผิดจะถูกให้ไปว่ากันที่กล้อง CCTV และตามที่ตำรวจจะชี้ละกัน
ซึ่งตอนที่เขาไม่ให้เราโทรหาประกันเราก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว เราก็เลยโทรปรึษาพ่อ พ่อก็บอกให้โทรแจ้งประกัน เราก็เลยโทรไป ทางประกันก็รับเรื่องแล้วมีเจ้าหน้าที่ไปที่ สน.ดุสิต และจะไปรอถ่ายรูปรถที่เกิดเหตุชนกันที่โรงพัก ซึ่งทางของเราล่าช้าเพราะรอคิว ติดช่วงเที่ยง มอเตอร์ไซค์วินคนเจ็บเขาเสร็จก่อนเพราะพยาบาลดำเนินการให้ แต่ของเราเขาให้เราดำเนินการเอง ซึ่งในขณะนั้นเราเองก็ยังมีอาการเจ็บและชาช่วงขวาอยุ่ สรุปว่าตอนนั้นเรายังไม่เสร็จแต่มอเตอร์ไซค์คนเจ็บล่วงหน้าไป สน.แล้ว ซึ่งเราก็แจ้งแล้วว่าเราจะไปที่ รพ. แน่นอนเพราะรถเรากุญแจเราก็อยู่ที่ รพ.เช่นกัน เราก็ต้องรออยู่ประมาณเกือบบ่ายถึงจะเสร็จ ช่วงนั้นพี่ประกันเราก็ไปรอที่สน.แล้ว และวินมอไซค์คนนั้นไม่ทราบว่าเอาเบอร์เราจากไหน (น่าจะจากพี่ประกันของเรา) โทรมาหาเราว่า เขารออยู่ที่ สน. ให้รีบมา เราก็ตอบไปว่า เรารอจ่ายเงินอยู่ และพอหลังจากเสร็จสิ้นการจ่ายเงินและรับยา เราก็มุ่งหน้าไปที่ สน.ดุสิต
พอเราไปถึงสน. เราก็แจ้งพี่ประกันว่าเราขับมาเลนเซ้ายพอมาถึงแยกนั้น เราเห็นมอเตอร์ไซค์คร่อมเลย เลยทางข้ามม้าลายและตอนนั้นเป็นจังหวะไฟเขียว เปลี่ยนเหลืองพอดีแล้วมอไซค์คันนี้หักหัวมาทางเรา เราก็บอกไปตามจริง พี่ประกันก็รับทราบและก็บอกว่ารอตำรวจดำเนินเรื่องละกัน
ในช่วงตอนที่อยู่ที่สน. ตอนที่ผู้กองยังไม่มาดำเนินเรื่องทางมอไซค์ก็เริ่มโวยวาย บอกว่าเขาไม่ได้ทำผิด จอดถูกต้องตามกฏจราจร น้องขับมาไม่ระวังมาชนผมลั่นโรงพักเลยนะ เราก็ไม่พูดอะไรเพราะเราเองก็พูดไปตามที่เราจำได้ จนผู้กองมาดำเนินเรื่อง หลังจากนั้นผู้กองก็ถามว่า ถ้าวันนี้ชี้ผิดชี้ถูก ประกันจบเลยไหม ประกันเราก็แจ้งว่าได้ ตำรวจก็เลยบอกว่าถ้าจบวันนี้ค่าเสียหายก็เอากระดาษไปตกลงกันเอง
เขาก็เลยเปิด CCTV ให้ดู ซึ่งในคลิปก็เป็นไปตามที่เราพูดทุกอย่าง ว่าเรามาเลนซ้าย เป็นในช่วงไฟเขียวเปลี่ยนเหลือง และมอไซค์จอดล้ำเส้นคร่อมเลนจริง และหักหัวมาไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ซึ่งตรงนี้ตำรวจแจ้งเป็น ฝ่าไฟแดงทั้งคู่ (ซึ่งในคลิปมันก็ไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลืองจริง แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรไป) แล้วในส่วนของเรา ตำรวจแจ้งว่าเราผิดตรงที่ไม่เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า (ซึ่งเราไม่ได้ขับรถตามหลังคันนี้ แต่คันนี้จอดอยู่คร่อมเลน) โดยตำรวจชี้ว่าฝั่งเราผิด ซึ่งประกันก็รับทราบในส่วนนี้เรียบร้อย และลงไปในบันทึกประจำวัน ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และลงว่าเราขี่ตามหลังรถมอเตอร์ไซค์คันนี้และจะแซงรถคันนี้ในเลนซ้าย (ในกล้องเราขี่มาตรงเลยไม่มีการเลี้ยวหักรถใดๆที่เป็นเจตนาในการแซง)
โดยตำรวจได้เปรียบเทียบปรับทางมอเตอร์ไซค์ 100 บาท ข้อหาฝ่าไฟแดง เปรียบเทียบปรับเรา 500 บาท ในข้อหาฝ่าไฟแดงและขับรถโดยประมาท
และหลังจากนั้น ประกันเราก็ไปตรวจสอบดูรถว่าเสียหายมากไหม
รถเรา มีแค่ตรงเบรกที่สะดุ้งขึ้น แล้วก็รอยถลอกตรงหน้ากาก และแฮนด์เสียทรง
รถของมอไซค์วิน ตรงหน้ากากแตก ครัชหักครึ่ง
ประกันเราก็ชี้แจงออกใบเคลมให้เขานำรถเข้าไปซ่อมที่อู่ ส่วนเรื่องสินไหม พรบ. ก็ได้แจ้งทางมอไซค์ให้ไปดำเนินการเองในชื่อของเขา (ซึ่งตั้งแต่ร.พ.ยันโรงพักเขาจะให้เราไปดำเนินการให้เขา และเราคิดว่ามันทำไม่ได้เพราะมันเป็นภายใต้ชื่อของเขา) โดยทางเราก็ได้ให้เอกสารพรบ. สำเนามอเตอร์ไซค์ และสำเนาบัตรประชาชนให้เขาเรียบร้อย และให้เบอร์ประกันฝั่งเราไปในกรณีที่เขาหากดำเนินการหรือต้องการประสานงานอะไรเพิ่มเติม
พอวันถัดมา มอไซค์โทรมา เขาแจ้งว่าเขาจะตั้งเบิกวันละ 500 บาท ถ้าเขาไม่ได้ตามที่เขาต้องการ เราจะต้องจ่ายให้เขาเพิ่ม
เราก็ถามเขาว่า พี่ตั้งเรื่องไปหรือยัง? เขาบอกยัง เราก็บอกว่าพี่ดำเนินการไปก่อน ถ้ามันเกินมีอะไรพี่คุยกับประกันหนูได้เลย
เขาก็บอกว่า ถ้าเขาไม่ได้เขาจะไปคุยกับตำรวจ หรือไม่ก็ส่งฟ้องศาล เราก็ตอบเงียบแต่ก้บอกเขาไปว่า ให้พี่ดำเนินเรื่องก่อนขาดเหลือยังไงก็คุยกับประกันได้เลย แต่ถ้าหากพี่ไม่พอใจพี่ต้องการฟ้องร้องก็แล้วแต่พี่จะดำเนินการเลยค่ะ ซึ่งเราก็สอบถามประกัน ประกันก็แจ้งว่าเราใช้สิทธิ์ประกัน ไม่ได้ใช้สิทธิ์พรบ. ถ้าเขาต้องการฟ้องก็ให้เขาฟ้องไป
ในกรณีนี้อยากสอบถามว่า
#ในเมื่อเราไม่ได้หนี และก็ให้ประกันภัยดูแล และในส่วนพรบ. เขาก็เบิกสินไหมได้ จำเป็นไหมคะที่จะต้องให้ค่าอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ไป
#ทางเขาสามารถยื่นเรื่องฟ้องศาลได้หรือไม่คะ? แล้วถ้าเขาคุยกับตำรวจมันจะด้วยเนื่องในข้อหาอะไรคะ?
#ในเรื่องของเงินที่เขาต้องการเพิ่มจากทางเรา เขามาแจ้งภายหลังโดยไม่ใช่ในสถานีตำรวจ ตรงนี้เขาดำเนินการได้หรือไม่? เพราะที่คุยกับทางประกันคือ ค่ารักษาพยาบาลที่ตามบิล พรบ.ก็จ่ายตามจริง ซึ่งไม่น่าจะเกิน 30,000 บาทและถ้าเกินเราก็คิดว่าไม่น่าจะเกิน 80,000 บาท และถ้าเกินทางประกันก็จะออกค่าใช้จ่ายให้หมด ถูกต้องไหมคะ? และเราควรจะต้องกังวลกับตรงนี้ไหมคะ
#ในใบประกันหากเราเป็นฝ่ายผิดเราต้องเสียเพิ่ม 1000 บาทก่อนส่งซ่อม ทำไมเราไม่ต้องเสียเพิ่ม 1000 บาท
ป.ล. นี่เป็นอุบัติเหตุกับรถมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในชีวิตของเราค่ะ
ป.ล. ใจจริงเราจะช่วยเงินให้เขายอด 5,000 บาทค่ะ แต่จากที่เรารู้สึกกับคำพูดของมอเตอร์ไซค์ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่โรงพยาบาล โรงพัก จนที่เขาโทรมา เรารู้สึกไม่ดีมากค่ะ และมีความรู้สึกบางอย่างว่ามอเตอร์ไซค์หัวหมอ ในนี้เราถ่ายทอดคำพูดได้ไม่หมดหรอกค่ะ แต่เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเขาไม่พูดแบบหัวหมอเราให้เขาแน่นอนค่ะ
รบกวนพี่ๆ ที่มีประสบการณ์ช่วยชี้แจงให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ