ทริปนี้เริ่มต้นจากการลงวิ่งของผมและกลุ่มเพื่อน ซึ่งรายการนี้จัดแข่งกันที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ครับ ลงสมัครกันทิ้งไว้ล่วงหน้าพอสมควร เมื่อใกล้ถึงวันงานผมที่ชอบเที่ยวก็เกิดเสียดายอุตส่าห์ได้ไปถึงเชียงรายจะให้ไปวิ่งอย่างเดียวก็กระไรอยู่ คิดได้ก็ไม่รอช้ารีบหาแนวร่วมก่อนเลยฮ่าๆๆ เหลือเวลาไม่เยอะล่ะรีบโทรรบเร้าสมาชิกร่วมวิ่ง สรุปลากกันมาได้ 5 นายที่เหลืออีก 2 นายนัดแนะกันไปเจอวันงานเลย ไม่ว่างจริงๆไม่เป็นไรๆได้พวกล่ะ หุหุ
เนื่องจากเราเป็นคนต้นคิดเพื่อนเลยให้เครดิตเต็มที่จัดแพลนมาเลย ผมสรุปที่จะขับรถกันไปเองแวะเก็บไปเรื่อยๆเวลาเยอะไม่รีบจะได้ไม่เหนื่อย (วันงานเป็นวันอาทิตย์ แต่เราออกเดินทางกันตั้งแต่คืนวันพุธ) จริงๆผมอยากแบกเป้ขึ้นเขา แต่ต้องหยุดความคิดไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวเราจะต้องมีวิ่ง 21k กันเดี๋ยวจะแย่ งั้นเปลี่ยนเป็นภูเขาเหมือนเดิม เอาแบบเดินไม่ต้องเยอะเน้นชิวๆดีก่า คำนวนเส้นทางเรียบร้อยคืนแรกเราจะไปนอนกันที่ " ภูลังกา " ล่ะเก็บวัดในตัวเมืองเชียงรายค่อยมุ่งขึ้นไปนอนที่ล่าง " ภูชี้ดาว " เสร็จอีกคืนก็จะไปนอนโรงแรมที่ " เชียของ " จองไว้ล่วงหน้าติดกับสนามวิ่ง แล้วค่อยตีกลับแวะมานอนคิดว่าน่าจะแถวๆ " พิษณุโลก เพชรบูรณ์ " ประมาณนั้น แล้วจึงตีกลับกันสบายๆคงแพลนนี้ไปก่อนค่อยปรับเปลี่ยนกันหน้างาน ใกล้วันก็นับถอยหลัง 10 9 8 ...... 3 2 1 Goๆๆ ถึงวันแล้วออกเดินทางกันจร้าาาาา
วันออกเดินทาง : คืน 5 ก.ค. 60
เรานัดรวมตัวกันประมาณทุ่มเศษๆ ซึงปกติผมจะใช้การเดินทางในช่วงเวลากลางคืนประจำ เพราะจะช่วยประหยัดเวลาทำให้เราไปเที่ยวได้ไกลในเวลาที่จำกัดด้วย แต่ส่วนมากก็จะแวะนอนกันแถวๆตี 1-2 แล้วค่อยเดินทางต่อกันในตอนเช้า......สรุปคืนนี้ขับกันไปกันมาเรามากันได้ถึง " จ.อุตรดิตถ์ " ก็พอสมควรกับเวลาหาโรงแรมเข้าพักผ่อนกันครับ
ถึงห้องทีมงานก็ทิ้งตัวนอนกันเลยส่วนผมขอเติมพลังงานซักนิดก่อน หุหุหุ
ค่าใช้จ่ายรวม
- ค่าน้ำมัน 1,040 บาท
- ค่าโรงแรม 1,100 บาท
เฉลี่ยคนล่ะ 428 บาท
Day 1 : 6 ก.ค. 60 " อุตรดิตถ์-พะเยา "
เช้านี้เรานัดกันตื่นสายๆ ไม่รีบร้อนทริปนี้ระหว่างทางเราจะไม่ได้กำหนดมาเลยว่าจะแวะที่ไหนดูตามทางผ่านว่าไม่อ้อมเยอะ ล่ะก็ดูตามเวลาเป็นพอ เช้านี้เรากินมื้อเช้ากันที่โรงแรมเลย อาหารก็ง่ายๆ แต่ถือว่าโอเครกับราคา 220 ต่อคนได้ทั้งที่พักทั้งอาหารครับ
อันนี้ที่พักคืนแรกครับผม
กินอิ่ม...เก็บของเรียบร้อยพร้อม ไม่ให้เสียเวลาออกเดินทางกันดีกว่าขึ้นรถขับกันมาได้ไม่นานเราก็หาที่แวะเอาที่ไหนดีๆช่วยกันหน่อย เปิดไปเปิดมาก็สะดุดตากับ " วัดนันตาราม " เค้าว่ากันว่าคิดอันดับว่าสวยงามไม่รอช้าตรงไปกันเลย กำหนดเป้าหมายแรกได้ไม่นานเป้าหมายใหม่ก็งอก 1 ในทีมงานหางตาแวปไปเห็นป้าย " วัดพระธาตุช่อแฮ " เอ้า!!...ไม่ใช่ปัญหาแวะก่อนสิ ฮ่าๆๆ กดจีพีเอสกันใหม่ ขับตามแมพมาไม่นานก็ถึงที่หมายแรกกันล่ะจร้า ลงไปนมัสการกราบขอพรกันซักหน่อยครับ
กราบองค์พระธาตุกันแล้วไปเข้าไปในโบสถ์กันมั่งครับ
ก่อนกลับเก็บภาพมาฝากกันอีกหน่อยครับ
ใช้เวลาอยู่ที่ " วัดพระธาตุช่อแฮ " กันพักใหญ่ๆ เราก็เดินทางกันต่อมุ่งหน้าตรงกันไปที่ " วัดนันตาราม " กันแต่มาดูเวลากันก็เกือบจะเที่ยงซะแล้วสมาชิกเราเริ่มบ่นหิวกัน บ่นกันยังไม่ทันขาดคำก็เห็นป้ายร้านอาหารตามสั่งไม่รอช้าหักเลี้ยวเข้ากันไปเลยครับ
อิ่มท้องกันก็เดินทางกันต่อได้ จะได้ชมกันซักที " วัดนันตาราม " เลี้ยวนั่น แวะนี่กันมาตลอดบ่ายๆเราก็มาถึงล่ะครับ ทางเข้าวัดต้องสังเกตกันดีๆหน่อยเพราะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ วัดนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็สวยงามตามคำเล่า เงียบสงบมากกก เดินเก็บภาพ ทำบุญ ไหว้พระกันเพลินเลยครับพวกเรา
เดินข้างนอกแล้วก็เช่นเคยไปดูข้างในกันบ้างครับ ข้างในจะมีองค์พระประธานทำจากไม้สักสวยงาม และยังมีส่วนที่เป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ของเก่า ล่ะต้องขอขอบคุณและชื่นชมพี่ๆที่ประจำข้างในที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติต่างๆกับเราด้วยครับ
เราเก็บบรรยากาศภายใน ภายนอกวัดกันมาเต็มที่ แถมยังได้คำแนะนำจากคุณพี่ข้างในว่าเรามาถึง อ.เชียงคำ แล้วควรที่จะแวะนมัสการที่ " วัดพระนั่งดิน " ด้วยเราก็ไม่พลาดที่จะแวะกันซักหน่อยเพื่อเป็นสิริมงคลกันครับ ขับรถออกจากวัดนันตารามไม่นานก็ถึงครับไม่ไกลกัน มาชมบรรยากาศกันครับผม
องค์พระนั่งดินองค์จริงจะถูกกั้นด้วยกระจกไว้ครับ แต่ทางวัดก็มีการสร้างองค์จำลองไว้เพื่อนให้ถ่ายรูปและนมัสการกันด้วยครับผม
พอดีวันที่เราไปทางวัดก็มีงานกันพอดีเราก็เลยได้ใช้บริการขนม น้ำ จากร้านที่มาออกงานกันด้วยครับ
เสร็จจาก " วัดพระนั่งดิน " เราก็จะตรงไปที่จุดหมายหลักและเป็นที่พักของเราในคืนนี้ด้วยนั่นก็คือที่ " ภูลังการีสอร์ท " ครับผมก่อนมาเราจะโทรจองก่อนแต่ทางรีสอร์ทบอกว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น จึงสามารถวอร์คอินกันเข้าไปได้เลยครับ ขับรถกันมาอีกซักพักใหญ่ๆก็มาถึงที่หมายกันแล้วครับ
มาถึงก็ช่วงเย็นกันแล้วพอจะเก็บบรรยากาศยามเย็นมาได้นิดหน่อยครับ
นี่ห้องพักคืนนี้ของเราครับ
เก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นกันแล้วสิครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
- มื้อเที่ยงร้านตามสั่ง 340 บาท
- น้ำมัน 1,300 บาท
- ที่พักภูลังการีสอร์ท 1,600 บาท
- ร้านค้า(น้ำ+ขนม) 214 บาท
- มื้อเย็น 760 บาท
เฉลี่ยคนล่ะ 843 บาท
ขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับเดี๋ยวมาต่อกันครับผม
[CR] " ภูลังกา ภูชี้ดาว ดอยผาตั้ง วิ่งข้ามฝั่งไทย-ลาว ล่องแก่งลำน้ำเข็ก "..เดี๋ยววิ่ง..เดี๋ยวเที่ยว มั่วซั่วกันเลยจร้า
ทริปนี้เริ่มต้นจากการลงวิ่งของผมและกลุ่มเพื่อน ซึ่งรายการนี้จัดแข่งกันที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ครับ ลงสมัครกันทิ้งไว้ล่วงหน้าพอสมควร เมื่อใกล้ถึงวันงานผมที่ชอบเที่ยวก็เกิดเสียดายอุตส่าห์ได้ไปถึงเชียงรายจะให้ไปวิ่งอย่างเดียวก็กระไรอยู่ คิดได้ก็ไม่รอช้ารีบหาแนวร่วมก่อนเลยฮ่าๆๆ เหลือเวลาไม่เยอะล่ะรีบโทรรบเร้าสมาชิกร่วมวิ่ง สรุปลากกันมาได้ 5 นายที่เหลืออีก 2 นายนัดแนะกันไปเจอวันงานเลย ไม่ว่างจริงๆไม่เป็นไรๆได้พวกล่ะ หุหุ
เนื่องจากเราเป็นคนต้นคิดเพื่อนเลยให้เครดิตเต็มที่จัดแพลนมาเลย ผมสรุปที่จะขับรถกันไปเองแวะเก็บไปเรื่อยๆเวลาเยอะไม่รีบจะได้ไม่เหนื่อย (วันงานเป็นวันอาทิตย์ แต่เราออกเดินทางกันตั้งแต่คืนวันพุธ) จริงๆผมอยากแบกเป้ขึ้นเขา แต่ต้องหยุดความคิดไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวเราจะต้องมีวิ่ง 21k กันเดี๋ยวจะแย่ งั้นเปลี่ยนเป็นภูเขาเหมือนเดิม เอาแบบเดินไม่ต้องเยอะเน้นชิวๆดีก่า คำนวนเส้นทางเรียบร้อยคืนแรกเราจะไปนอนกันที่ " ภูลังกา " ล่ะเก็บวัดในตัวเมืองเชียงรายค่อยมุ่งขึ้นไปนอนที่ล่าง " ภูชี้ดาว " เสร็จอีกคืนก็จะไปนอนโรงแรมที่ " เชียของ " จองไว้ล่วงหน้าติดกับสนามวิ่ง แล้วค่อยตีกลับแวะมานอนคิดว่าน่าจะแถวๆ " พิษณุโลก เพชรบูรณ์ " ประมาณนั้น แล้วจึงตีกลับกันสบายๆคงแพลนนี้ไปก่อนค่อยปรับเปลี่ยนกันหน้างาน ใกล้วันก็นับถอยหลัง 10 9 8 ...... 3 2 1 Goๆๆ ถึงวันแล้วออกเดินทางกันจร้าาาาา
วันออกเดินทาง : คืน 5 ก.ค. 60
เรานัดรวมตัวกันประมาณทุ่มเศษๆ ซึงปกติผมจะใช้การเดินทางในช่วงเวลากลางคืนประจำ เพราะจะช่วยประหยัดเวลาทำให้เราไปเที่ยวได้ไกลในเวลาที่จำกัดด้วย แต่ส่วนมากก็จะแวะนอนกันแถวๆตี 1-2 แล้วค่อยเดินทางต่อกันในตอนเช้า......สรุปคืนนี้ขับกันไปกันมาเรามากันได้ถึง " จ.อุตรดิตถ์ " ก็พอสมควรกับเวลาหาโรงแรมเข้าพักผ่อนกันครับ
ถึงห้องทีมงานก็ทิ้งตัวนอนกันเลยส่วนผมขอเติมพลังงานซักนิดก่อน หุหุหุ
ค่าใช้จ่ายรวม
- ค่าน้ำมัน 1,040 บาท
- ค่าโรงแรม 1,100 บาท
เฉลี่ยคนล่ะ 428 บาท
Day 1 : 6 ก.ค. 60 " อุตรดิตถ์-พะเยา "
เช้านี้เรานัดกันตื่นสายๆ ไม่รีบร้อนทริปนี้ระหว่างทางเราจะไม่ได้กำหนดมาเลยว่าจะแวะที่ไหนดูตามทางผ่านว่าไม่อ้อมเยอะ ล่ะก็ดูตามเวลาเป็นพอ เช้านี้เรากินมื้อเช้ากันที่โรงแรมเลย อาหารก็ง่ายๆ แต่ถือว่าโอเครกับราคา 220 ต่อคนได้ทั้งที่พักทั้งอาหารครับ
อันนี้ที่พักคืนแรกครับผม
กินอิ่ม...เก็บของเรียบร้อยพร้อม ไม่ให้เสียเวลาออกเดินทางกันดีกว่าขึ้นรถขับกันมาได้ไม่นานเราก็หาที่แวะเอาที่ไหนดีๆช่วยกันหน่อย เปิดไปเปิดมาก็สะดุดตากับ " วัดนันตาราม " เค้าว่ากันว่าคิดอันดับว่าสวยงามไม่รอช้าตรงไปกันเลย กำหนดเป้าหมายแรกได้ไม่นานเป้าหมายใหม่ก็งอก 1 ในทีมงานหางตาแวปไปเห็นป้าย " วัดพระธาตุช่อแฮ " เอ้า!!...ไม่ใช่ปัญหาแวะก่อนสิ ฮ่าๆๆ กดจีพีเอสกันใหม่ ขับตามแมพมาไม่นานก็ถึงที่หมายแรกกันล่ะจร้า ลงไปนมัสการกราบขอพรกันซักหน่อยครับ
กราบองค์พระธาตุกันแล้วไปเข้าไปในโบสถ์กันมั่งครับ
ก่อนกลับเก็บภาพมาฝากกันอีกหน่อยครับ
ใช้เวลาอยู่ที่ " วัดพระธาตุช่อแฮ " กันพักใหญ่ๆ เราก็เดินทางกันต่อมุ่งหน้าตรงกันไปที่ " วัดนันตาราม " กันแต่มาดูเวลากันก็เกือบจะเที่ยงซะแล้วสมาชิกเราเริ่มบ่นหิวกัน บ่นกันยังไม่ทันขาดคำก็เห็นป้ายร้านอาหารตามสั่งไม่รอช้าหักเลี้ยวเข้ากันไปเลยครับ
อิ่มท้องกันก็เดินทางกันต่อได้ จะได้ชมกันซักที " วัดนันตาราม " เลี้ยวนั่น แวะนี่กันมาตลอดบ่ายๆเราก็มาถึงล่ะครับ ทางเข้าวัดต้องสังเกตกันดีๆหน่อยเพราะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ วัดนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็สวยงามตามคำเล่า เงียบสงบมากกก เดินเก็บภาพ ทำบุญ ไหว้พระกันเพลินเลยครับพวกเรา
เดินข้างนอกแล้วก็เช่นเคยไปดูข้างในกันบ้างครับ ข้างในจะมีองค์พระประธานทำจากไม้สักสวยงาม และยังมีส่วนที่เป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ของเก่า ล่ะต้องขอขอบคุณและชื่นชมพี่ๆที่ประจำข้างในที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติต่างๆกับเราด้วยครับ
เราเก็บบรรยากาศภายใน ภายนอกวัดกันมาเต็มที่ แถมยังได้คำแนะนำจากคุณพี่ข้างในว่าเรามาถึง อ.เชียงคำ แล้วควรที่จะแวะนมัสการที่ " วัดพระนั่งดิน " ด้วยเราก็ไม่พลาดที่จะแวะกันซักหน่อยเพื่อเป็นสิริมงคลกันครับ ขับรถออกจากวัดนันตารามไม่นานก็ถึงครับไม่ไกลกัน มาชมบรรยากาศกันครับผม
องค์พระนั่งดินองค์จริงจะถูกกั้นด้วยกระจกไว้ครับ แต่ทางวัดก็มีการสร้างองค์จำลองไว้เพื่อนให้ถ่ายรูปและนมัสการกันด้วยครับผม
พอดีวันที่เราไปทางวัดก็มีงานกันพอดีเราก็เลยได้ใช้บริการขนม น้ำ จากร้านที่มาออกงานกันด้วยครับ
เสร็จจาก " วัดพระนั่งดิน " เราก็จะตรงไปที่จุดหมายหลักและเป็นที่พักของเราในคืนนี้ด้วยนั่นก็คือที่ " ภูลังการีสอร์ท " ครับผมก่อนมาเราจะโทรจองก่อนแต่ทางรีสอร์ทบอกว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น จึงสามารถวอร์คอินกันเข้าไปได้เลยครับ ขับรถกันมาอีกซักพักใหญ่ๆก็มาถึงที่หมายกันแล้วครับ
มาถึงก็ช่วงเย็นกันแล้วพอจะเก็บบรรยากาศยามเย็นมาได้นิดหน่อยครับ
นี่ห้องพักคืนนี้ของเราครับ
เก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นกันแล้วสิครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
- มื้อเที่ยงร้านตามสั่ง 340 บาท
- น้ำมัน 1,300 บาท
- ที่พักภูลังการีสอร์ท 1,600 บาท
- ร้านค้า(น้ำ+ขนม) 214 บาท
- มื้อเย็น 760 บาท
เฉลี่ยคนล่ะ 843 บาท
ขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับเดี๋ยวมาต่อกันครับผม