ใครว่าเค้าเป็นลองเข้าไปอ่านดูครับ แมร่ง badboy หัวโจกชัดๆ มีตรงไหนเหลือให้เกย์อีก จบนะคับประเด็นนี้ อ่านยังไงมันก็ไม่ใช่อะ
อ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆที่นี่นะครับ
https://thestandard.co/culture-music-peck-palitchoke/?platform=hootsuite
ที่นั่งประจำในห้องเรียนของเด็กชายเป๊กคือตรงไหน
"หลังห้อง ตรงประตูทางออกอย่างเดียวเท่านั้น พร้อมที่จะลุกออกจากห้องได้ทุกเมื่อ (หัวเราะ) เลยโดดเรียนบ่อย แต่แก๊งผมจะมีความบ้าบออยู่ที่ไม่ได้โดดเรียนไปเที่ยวห้าง หรือที่ที่วัยรุ่นชอบไปกัน แต่จะพากันไปพระที่นั่งวิมานเมฆ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ อะไรพวกนั้น ไม่ได้ไปสํามะเลเทเมาที่ไหน นั่งรถเมล์ไปกันเป็นกลุ่มสนุกมาก
พอเลิกเรียน ถ้าไม่ใช่ช่วงเป็นศิลปินฝึกหัดที่แกรมมี่ ตอนเย็นต้องไปเรียนเทควันโดทุกวัน เล่นจนเก่งเลยนะ สายดำ เห็นแบบนี้ไปแข่งรายการใหญ่ๆ ได้เหรียญทองมาหมดแล้วนะครับ (หัวเราะ) ก็เลยเริ่มรู้ว่าตัวเองเป็นสายบู๊ ชอบกีฬาทางนี้ เทควันโด ต่อยมวย ได้หมด"
พูดจริงๆ นึกภาพตอนเป๊กเป็นสายบู๊ไม่ออกเลยนะ บู๊ถึงขนาดมีเรื่องกับคนอื่นแบบนั้นเลยไหม
" มีเยอะเลย ถ้าเห็นรอยที่หน้าของผมทุกวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสมัยมัธยมทั้งนั้นแหละครับ แต่ผมจะไม่ได้ลงไปบู๊มากขนาดนั้น ชอบเป็นสายบอสใหญ่ นั่งชี้นิ้วสั่งการมากกว่า (หัวเราะ) แต่ถ้าต้องสู้ ต้องประชิดตัวจริงๆ ก็ได้อยู่ สนุกดี ชีวิตช่วงนั้น โอเค การมีเรื่องมันไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอก แต่ถือว่าเป็นสีสันชีวิตในช่วงนั้นที่สนุกดีเหมือนกัน
เรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากคือตอนม.6 ผมไปเรียนพิเศษที่สยาม แล้วมีผู้หญิงมาชอบผม ซื้อขนมมาให้ทุกวัน แต่เขามีแฟนอยู่แล้ว พอแฟนรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาชอบผม เขาโทรมาหาเลย บอกว่าจะพาพวกบุกมาที่โรงเรียน ผมก็บอกเพื่อนให้รวมแก๊งเตรียมรับมืออย่างดี แต่พอมาถึงได้คุยกัน สุดท้ายเลยเข้าใจ ไม่มีเรื่องอะไรกัน แถมผมกับคนนั้นยังกลายเป็นเพื่อนกันไปอีก บทที่ควรจะมีเรื่องแต่ดันได้เพื่อนมาแทน แต่บางทีเดินๆ อยู่ เห็นเพื่อนโดนรุม ไม่ได้คิดจะมีเรื่อง ก็ต้องกระโดดเข้าไปช่วยไว้ก่อน อยู่ที่สถานการณ์ด้วย ถ้าเรื่องไหนที่คิดว่าผมหรือเพื่อนผมไม่ผิด อันนี้ไม่มีทางยอม กระจุยแน่นอน สู้จนถึงที่สุดล่ะครับ แต่จะมีเส้นคือ ใช้แค่หมัดกับเท้านะครับ พวกผมจะไม่ไปถึงขั้นใช้อาวุธเด็ดขาด"
ใครที่ว่าผลิตโชคเป็นเกย์ อ่านตรงนี้แล้วจบซะทีนะครับมันไม่ใช่พฤติกรรมของคนที่เป็นเกย์เลยสักนิด ผมเป็นเกย์ผมรู้ดี
อ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆที่นี่นะครับ
https://thestandard.co/culture-music-peck-palitchoke/?platform=hootsuite
ที่นั่งประจำในห้องเรียนของเด็กชายเป๊กคือตรงไหน
"หลังห้อง ตรงประตูทางออกอย่างเดียวเท่านั้น พร้อมที่จะลุกออกจากห้องได้ทุกเมื่อ (หัวเราะ) เลยโดดเรียนบ่อย แต่แก๊งผมจะมีความบ้าบออยู่ที่ไม่ได้โดดเรียนไปเที่ยวห้าง หรือที่ที่วัยรุ่นชอบไปกัน แต่จะพากันไปพระที่นั่งวิมานเมฆ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ อะไรพวกนั้น ไม่ได้ไปสํามะเลเทเมาที่ไหน นั่งรถเมล์ไปกันเป็นกลุ่มสนุกมาก
พอเลิกเรียน ถ้าไม่ใช่ช่วงเป็นศิลปินฝึกหัดที่แกรมมี่ ตอนเย็นต้องไปเรียนเทควันโดทุกวัน เล่นจนเก่งเลยนะ สายดำ เห็นแบบนี้ไปแข่งรายการใหญ่ๆ ได้เหรียญทองมาหมดแล้วนะครับ (หัวเราะ) ก็เลยเริ่มรู้ว่าตัวเองเป็นสายบู๊ ชอบกีฬาทางนี้ เทควันโด ต่อยมวย ได้หมด"
พูดจริงๆ นึกภาพตอนเป๊กเป็นสายบู๊ไม่ออกเลยนะ บู๊ถึงขนาดมีเรื่องกับคนอื่นแบบนั้นเลยไหม
" มีเยอะเลย ถ้าเห็นรอยที่หน้าของผมทุกวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสมัยมัธยมทั้งนั้นแหละครับ แต่ผมจะไม่ได้ลงไปบู๊มากขนาดนั้น ชอบเป็นสายบอสใหญ่ นั่งชี้นิ้วสั่งการมากกว่า (หัวเราะ) แต่ถ้าต้องสู้ ต้องประชิดตัวจริงๆ ก็ได้อยู่ สนุกดี ชีวิตช่วงนั้น โอเค การมีเรื่องมันไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอก แต่ถือว่าเป็นสีสันชีวิตในช่วงนั้นที่สนุกดีเหมือนกัน
เรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากคือตอนม.6 ผมไปเรียนพิเศษที่สยาม แล้วมีผู้หญิงมาชอบผม ซื้อขนมมาให้ทุกวัน แต่เขามีแฟนอยู่แล้ว พอแฟนรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาชอบผม เขาโทรมาหาเลย บอกว่าจะพาพวกบุกมาที่โรงเรียน ผมก็บอกเพื่อนให้รวมแก๊งเตรียมรับมืออย่างดี แต่พอมาถึงได้คุยกัน สุดท้ายเลยเข้าใจ ไม่มีเรื่องอะไรกัน แถมผมกับคนนั้นยังกลายเป็นเพื่อนกันไปอีก บทที่ควรจะมีเรื่องแต่ดันได้เพื่อนมาแทน แต่บางทีเดินๆ อยู่ เห็นเพื่อนโดนรุม ไม่ได้คิดจะมีเรื่อง ก็ต้องกระโดดเข้าไปช่วยไว้ก่อน อยู่ที่สถานการณ์ด้วย ถ้าเรื่องไหนที่คิดว่าผมหรือเพื่อนผมไม่ผิด อันนี้ไม่มีทางยอม กระจุยแน่นอน สู้จนถึงที่สุดล่ะครับ แต่จะมีเส้นคือ ใช้แค่หมัดกับเท้านะครับ พวกผมจะไม่ไปถึงขั้นใช้อาวุธเด็ดขาด"