เรื่องลี้ลับ ที่เคยพบ ณ ภูกระดึง (และคิดถึงไม้เท้านักเดินทาง)

อยากเล่ามั่งอะ อันนี้ตามความเชื่อนะ..

พอดีอ่านกระทู้ที่คนแชร์เรื่องนักศึกษาหลงป่าที่ภูกระดึง พยามเค้นเอาประสบการณ์ที่เคยไปมาเล่า

ผมเคยไปภูกระดึงสมัยอยู่ ม.6 ไปกับโรงเรียน และขึ้นภูพร้อมๆกัน แต่แก๊งเพื่อนผมมันดีดกีต้าร์พักตลอดทาง ผมเลยไม่รอ เดินดุ่มๆไปคนเดียว..

เป็นความบ้าบิ่นของวัยรุ่นเลยละ ถึงจะเป็นตอนกลางวัน แต่สองข้างทางก็เป็นป่า และบ้างช่วงดูวิเวกวังเวงมาก ระหว่างทางมีคนสวนมา มีกลุ่มฝรั่งเดินสวนมา บอกผมว่า ให้รีบขึ้นไป เพราะคุณคือคนแรกของวันนี้ มันก็เหมือนกับปีนเขาทั่วไป แต่ลำบากมากกว่าเขาที่เคยขึ้น..

จนผมมาถึงบนภู ตรงป้ายผู้พิชิตภูกระดึง ผมก็ได้สบถออกมา "ถ้าเป็นไปได้ กูจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว" คึกคะนองมากไอ้หนุ่ม..

แต่หนทางยังไม่จบ ผมต้องเดินเท้าไปที่ลานกางเต็นซ์อีก ระหว่างทางหอบลูกสนไปเยอะมาก เพราะตื่นเต้นไม่เห็น ก่อนจะนึกได้ว่า อ้าว!! กูบ้าหอบฟางมาทำไม สุดท้ายก็โยนทิ้งหมด และผมคนแรกที่มาถึงจุดกางเต๊นซ์ ผมแวะพักศาลาและหลับไป รอเพื่อนคนอื่นๆ

แค่งีบเล็กๆ ผมฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทย มาอยู่ใกล้ เหมือนมาคอเฝ้า ผมตื่นอีกทีก็บ่ายกว่าๆ เพื่อนก็มากันครบ ทั้งวันก็สำรวจรอบๆที่พัก สนุกดี

คืนแรกผ่านไปด้วยดี ผมโดนกวางเจ้าถิ่น ขโมยขนมปังไป และเล่นไพ่ต่อจนดึก เช้าตื่นไม่ไหว อดดูพระอาทิตย์ตก ในคืนแรก

กิจกรรมวันต่อไปคือ เดินไปชมผาต่างๆ และเราได้แวะที่ด่านแรก คือไหว้พระที่ลานพระ (ไม่แน่ใจชื่อ) ก็รู้สึกอุ่นใจ ก็ได้เดินต่อไป (จริงๆผมมากับแก๊งเพือนที่สนิทกันโคตรๆ แต่ถึงเวลาผมลุยเดินคนเดียว)

ผมจำทางเดินได้เลือนลางมาก แต่ผมจำได้ว่า เดินผ่านทุ่งหญ้า เหมือนทุ่งสะวันนาในสารคดี ผ่านป่ารกทึบ เดินลัดผ่านทุ่งเป็นทางที่คนส่วนน้อยไป (แปลกใจจนวันนี้ ผ่านมาได้ไง) ระหว่างทาง ผมเก็บไม้อันหนึ่งมา เป็นไม้เหมือนโดนฉีกหักเพราะลมแรง (ผมเรียกว่าไม้เท้านักเดินทาง ผมบอกกับเพือนๆผมตอนเอาไม้กลับมาเต๊นซ์ด้วย) ขนาดกำลังพอดีมาก ช่วยเวลาเดินในทางลาดได้ดีเยี่ยม ประจวบจนเวลาเย็นละ มาทันดูพระอาทิตย์ตกในผาสุดท้าย (จำชื่อไม่ได้) จากนั้นก็ได้เดินกลับที่พัก พร้อมนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เยอะทีเดียว อบอุ่น ไม่หลง

แต่คืนที่สองแปลกมาก ผมกับเพื่อนๆเล่นไพ่อยู่ในเต๊นซ์เหมือนเดิม และผมปวดฉี่ เลยเดินไปฉี่ อากาศกำลังหนาวเลย แต่ไม่มากเท่าไร นั้นรือที่ผมจำได้ เพราะผมตื่นมาอีกที ผมนอนอยู่บนเตียงของศูนย์พยาบาลของภูกระดึง

ผมตื่นมาเจอเพื่อนสองคน นั่งจ้องหน้าอยู่ ผมก็งง มันก็งง สรุปได้ใจความว่า เมื่อคืนตอนผมไปฉี่ ผมเป็นลมฟุบ และหายใจหอบ  มีนักเที่ยวไปเจอผม และวิ่งตะโกนตกใจลั่น เพื่อนเลยวิ่งมาดู ผมไม่รู้สึกตัว แต่แขนขากระตุกเหมือนละเมอ สุดท้ายเจ้าหน้าที่อุทยานเลยให้เพื่อนแบกผมไปที่ศูนย์พยาบาล (ตอนนั้ยหุ่นดี แบกได้)

แต่คำถามคือ? ผมเป็นอะไร จนวันนี้ยังงงอยู่..

แต่มันก็ทำให้ผมไม่ต้องเก็บกระเป๋าเอง เพื่อนจัดการให้ เพราะเป็นวันที่ต้องกลับละ แต่ไม้เท้านักเดินทาง ที่ผมเอามาตอนเดินไปชมผา ยังพิงอยู่ข้างเต๊นซ์ จะกลับแล้ว ผมเลยหยิบติดมือมาด้วย

ทุกอย่างโอเค ราบเรียบระหว่างทางลงเขา ซัมก่อนถึงลานจอดรถค่อนข้างชัน ผมก็ได้เห็นเพื่อนลื่นไถลสี่ห้าคน เป็นเรื่องขำ

ผมกับเพื่อน มาถึงเป็นกลุ่มแรก (เพื่อนมันรีบตามผมลงมา เพราะจะคอยดู กลัวผมกลิ้งตกเขา)เลยนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนข้างรถทัวน์ พวกรุ่นน้องก็ทยอยกันมา นั่งในรถบ้างในลานบ้าง ตอนแรกผมก็นั่งมองคนเพลินๆ จนพวกเพื่อนๆน้องๆ วิ่งกรูกันลงมาจากรถ ผมก็งง

ปรากฎว่า น้องคนหนึ่ง ที่เป็นร่างทรง จู่ๆก็ลุกขึ้นมารำ ฟ้อน ตาขวางไม่สบตาใคร กว่าจะหยุดรำได้ก็สักพัก ระหว่างนั้นคนอื่นๆก็กลัวกันไป..

พอมากันครบ ก็ได้เวลากลับ ผมยังถือไม้เท้าที่เอามาอยู่ จนรถวิ่งเกือบจะพ้นเขตอุทยานละ จะถึงทางออกละ จู่ๆก็อยากปาไม้เท้าทิ้ง ผมก็ปามันทิ้งไปข้างทางตอนที่รถยังวิ่งอยู่

จบแค่นี้..

ประเด็นที่น่าสงสัยคือ

1. ผมเป็นคนที่ความจำดี จำเหตุการณ์หลายๆอย่างได้แม่น แต่ความทรงจำบนภูกระดึง หายไปหลายส่วนมาก บางอย่างเลือนลางมาก โดยเฉพาะ เหตุการณ์เส้นทางที่เดินไปสำรวจผาต่างๆ
2. ทำไมจู่ๆผมเป็นลมไม่รู้สึกตัว
3. ขนมปังปิ้ง 2 แผ่น 20 บาท แพงมาก ทำไมกวางเจ้าถิ่นต้องมาแย่งผมกินด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่