สวัส่ดีค่ะ
คือปกติแล้วเราจะมีสิวอุดตันเยอะที่หน้าผาก คางบ้าง แก้มนานๆจะมีทีตอนเป็นประจำเดือนค่ะ และปกติเป็นคนผิวผสม บริเวณทีโซนปกติที่ไม่ทาครีมบำรุงก็มันอยู่พอสมควรเลยตัดสินใจซื้อdifferinกับbenzac มาใช้ โดยวิธีใช้คือ
เช้า: ทาbenzac 5% (ทิ้งไว้ 7 วันแรก 10 น.ก่อนล้างหน้าหลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 15,20จนถึง 30 น. โดยที่ตอนเพิ่มเป็น 30 น. มีอาการแสบหน้าเลยลดเวลาเป็น
10 น. ซึ่งทาแล้วไม่แสบ) +ล้างหน้า+ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น (ตอนแรกใช้ezerra พอหมดแล้วไม่ได้ซื้อต่อแต่ใช้ครีมเพิ่มความชุ่มชื่นของ Aboriginal gold (ของบริษัทunicityที่ซื้อมาค่ะ ซึ่งใช้แล้วไม่แพ้เพราะรู้สึกว่าสิวไม่ได้เพิ่มขึ้นจากตอนที่ใช้ Ezerra)+ครีมกันแดด ของลาโรช spf 50
เย็น: ทา benzac+ล้างหน้า+ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น (aboriginal gold) +differin
ใช้แบบนี้ครบเดือนกว่าโดยใช้ ezerra ประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยเปลี่ยนมาใช้ aboriginal gold
ผลคือ สัปดาห์แรก แก้มสองข้างเริ่มมีสิวขึ้นเกือบทั้งแก้มแต่ต้องมองใกล้ๆถึงจะเห็นว่ามีสิวที่แก้มสิวที่คางมากขึ้น สิวอักเสบขึ้นทั้งหน้าผากและจมูก สิวอุดตันที่หน้าผากมีจำนวนเท่าเดิม
ผ่านไปเดือนกว่า สิวอักเสบทุกจุดน้อยลงมีบ้างเวลาเป็นประจำเดือน แต่สิวอุดตันที่หน้าผากเท่าเดิม บางเม็ดก็ไม่มีหัว สิวอุดตันที่ขี้นมามี่แก้มยังคงมีจำนวนเท่าเดิมและไม่มีหัวเหมือนเดิม สิวที่คางและจมูกดีขึ้น หน้าแห้งจนลอก รู้สึกแสบในช่วงแรกแต่พอทา moisturizer ก็ดีขึ้นจนตอนนี้ไม่แสบหน้าแต่แก้มสองข้างยังลอกอยู่ค่ะ
ลืมบอกไปค่ะ ว่า2ปีก่อนหน้านี้ เราเคยใช้benzacกับdifferin วิธีการใช้เหมือนกันแต่ตอนนั้นใช้ไปแค่ประมาณเดือนนึงซึ่งใช้บ้างหยุดบ้างไม่ได้ต่อเนื่อง (แต่รอบปัจจุบันใช้ต่อเนื่องทุกวัน)ตอนนั้นสิวเห่อกว่าเห่อเยอะมากทั้งหน้าเลยนี้พอสิวเห่อเราก้เลิกใช้แล้วเข้าคลินิกหมอหน้าก็ดีขึ้นค่ะแต่เหลือสิวอุดตันที่หน้าผากมันยังเยอะเหมือนเดิมแล้วเราก้ใช้อต่ครีมบำรุงอะไรปกติไป จนวันนึงอยากหน้าใสเลยกลับมาใช้benzacกับdiferrinอีกรอบค่ะ
คือสงสัยว่าแบบนี้เรียกว่าไม่ได้ผลรึเปล่าคะ คือเข้าใจว่าใช่diferrinกับ benzac แล้วมันจะดันให้สิวอุดตันมีหัวและแห้งแต่อันนี้ก็ไม่เลย เป็นเพราะเคยใช้มาแล้วแต่ไม่ต่อเนื่องเลยดื้อยารึเปล่าคะ หรือต้องใช้เวลานานกว่าหรือควรใช้ตัวไหนเพิ่มรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ใช้differinกับbenzacเดือนกว่าสิวไม่เห่อและไม่ดีขึ้น
คือปกติแล้วเราจะมีสิวอุดตันเยอะที่หน้าผาก คางบ้าง แก้มนานๆจะมีทีตอนเป็นประจำเดือนค่ะ และปกติเป็นคนผิวผสม บริเวณทีโซนปกติที่ไม่ทาครีมบำรุงก็มันอยู่พอสมควรเลยตัดสินใจซื้อdifferinกับbenzac มาใช้ โดยวิธีใช้คือ
เช้า: ทาbenzac 5% (ทิ้งไว้ 7 วันแรก 10 น.ก่อนล้างหน้าหลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 15,20จนถึง 30 น. โดยที่ตอนเพิ่มเป็น 30 น. มีอาการแสบหน้าเลยลดเวลาเป็น
10 น. ซึ่งทาแล้วไม่แสบ) +ล้างหน้า+ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น (ตอนแรกใช้ezerra พอหมดแล้วไม่ได้ซื้อต่อแต่ใช้ครีมเพิ่มความชุ่มชื่นของ Aboriginal gold (ของบริษัทunicityที่ซื้อมาค่ะ ซึ่งใช้แล้วไม่แพ้เพราะรู้สึกว่าสิวไม่ได้เพิ่มขึ้นจากตอนที่ใช้ Ezerra)+ครีมกันแดด ของลาโรช spf 50
เย็น: ทา benzac+ล้างหน้า+ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น (aboriginal gold) +differin
ใช้แบบนี้ครบเดือนกว่าโดยใช้ ezerra ประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยเปลี่ยนมาใช้ aboriginal gold
ผลคือ สัปดาห์แรก แก้มสองข้างเริ่มมีสิวขึ้นเกือบทั้งแก้มแต่ต้องมองใกล้ๆถึงจะเห็นว่ามีสิวที่แก้มสิวที่คางมากขึ้น สิวอักเสบขึ้นทั้งหน้าผากและจมูก สิวอุดตันที่หน้าผากมีจำนวนเท่าเดิม
ผ่านไปเดือนกว่า สิวอักเสบทุกจุดน้อยลงมีบ้างเวลาเป็นประจำเดือน แต่สิวอุดตันที่หน้าผากเท่าเดิม บางเม็ดก็ไม่มีหัว สิวอุดตันที่ขี้นมามี่แก้มยังคงมีจำนวนเท่าเดิมและไม่มีหัวเหมือนเดิม สิวที่คางและจมูกดีขึ้น หน้าแห้งจนลอก รู้สึกแสบในช่วงแรกแต่พอทา moisturizer ก็ดีขึ้นจนตอนนี้ไม่แสบหน้าแต่แก้มสองข้างยังลอกอยู่ค่ะ
ลืมบอกไปค่ะ ว่า2ปีก่อนหน้านี้ เราเคยใช้benzacกับdifferin วิธีการใช้เหมือนกันแต่ตอนนั้นใช้ไปแค่ประมาณเดือนนึงซึ่งใช้บ้างหยุดบ้างไม่ได้ต่อเนื่อง (แต่รอบปัจจุบันใช้ต่อเนื่องทุกวัน)ตอนนั้นสิวเห่อกว่าเห่อเยอะมากทั้งหน้าเลยนี้พอสิวเห่อเราก้เลิกใช้แล้วเข้าคลินิกหมอหน้าก็ดีขึ้นค่ะแต่เหลือสิวอุดตันที่หน้าผากมันยังเยอะเหมือนเดิมแล้วเราก้ใช้อต่ครีมบำรุงอะไรปกติไป จนวันนึงอยากหน้าใสเลยกลับมาใช้benzacกับdiferrinอีกรอบค่ะ
คือสงสัยว่าแบบนี้เรียกว่าไม่ได้ผลรึเปล่าคะ คือเข้าใจว่าใช่diferrinกับ benzac แล้วมันจะดันให้สิวอุดตันมีหัวและแห้งแต่อันนี้ก็ไม่เลย เป็นเพราะเคยใช้มาแล้วแต่ไม่ต่อเนื่องเลยดื้อยารึเปล่าคะ หรือต้องใช้เวลานานกว่าหรือควรใช้ตัวไหนเพิ่มรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ