ชีวิตเด็กที่เรียนไม่ได้เรื่อง แต่อยากไปแลกเปลี่ยน

(ยืมบัญชีพี่ชายมาเขียนคราบ)
        ชื่อกรครับ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นม.6 รร.เซนต์คาเบรียล  เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนสหรัฐอเมริกา 2016-2017  
และกำลังจะเดินทางเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกครั้งที่ประเทศสวีเดน 2017-2018  ผมเคยเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง สอบตกภาษาอังกฤษตลอด วิชาอื่นก็ตกด้วย ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมทำเต็มที่แล้วแต่เรียนไม่เข้าหัวซักที ภาษาอังกฤษก็เรียนมาเป็น10ปีแต่พูดไม่ได้ แต่มีวันนึงผมติดรถไปทำงานกับพี่ชาย เห็นพี่ชายทำงานเก่ง คล่องเคร่ว แก้ปัญหาเก่ง ผมก็เลยอยากเก่งเหมือนพี่ชายบ้าง สิ่งแรกที่คิดตอนนั้นก็คือพี่ชายเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ก็เลยคิดว่าการเป็นแลกเปลี่ยนเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ  จากนั้นก็หาข้อมูลเพื่อสอบแลกเปลี่ยนหลายๆที่  จนพบว่าหลายๆที่ใช้เกรดในการสมัครซึ่งตอนนั้นผมมีเกรดเฉลี่ยแค่ 2.30 ตอนนั้นไม่ว่าผมจะพยายามหรือตั้งใจแค่ไหนก็ไม่มีสิทธิแม้แต่จะสมัครสอบ แต่ผมก็เจอโอกาสกับ YES ที่ไม่ได้ใช้เกรดเป็นตัววัด ผมเลยเริ่มตั้งใจเรียนและฝึกภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เรียนทุกสัปดาห์  สุดท้ายผมก็สอบได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน YES สหรัฐอเมริกา  ผมคงไม่สามารถไปแก้ไขเกรดได้ แต่ผมสมารถตั้งใจที่จะสอบได้ ผมก็ขอบคุณ YES มากที่ไม่ตัดโอกาสเด็กที่เรียนไม่เก่งอย่างผม ให้ได้มีโอกาสที่ดี
       ขณะอยู่อเมริกาผมทำทุกอย่างที่เราทำได้ ตั้งใจเรียน เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทักทายเพื่อนๆ  ทำให้ผมรู้จักและเป็นเพื่อนเกือบทุกคนในรร. ผมเล่นกีฬาไม่ได้เก่งก็เหมือนกับเด็กไทยทั่วๆไป แต่ผมก็เริ่มเล่น American footballs ผมซ้อมหนักมาก เริ่มเรียนตั้งแต่ 7โมง เลิกเรียนบ่าย2 ซ้อมกีฬาต่อถึงสองทุ่ม จากนั้นก็มาทำการบ้านต่ออีก  กีฬาถึงแม้ว่าเล่นไม่เก่งก็ไม่เป็นไรแต่ผมก็พยายามฝึกซ้อม และทำให้ผมได้เพื่อนมากมาย หลังจากหมดช่วงกีฬาผมก็ได้ไปช่วยทำงานใน students councils (สภานักเรียน) ทำให้ผมรู้จักการทำงานเพื่อส่วนรวม และยิ่งทำให้ผมมีเพื่อนเยอะมากขึ้นไปอีก  ผมก็ยังเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือกเด็กกำพร้าที่ประเทศเม็กซิโก   เรื่องการเรียนตอนอยู่เมืองไทยผมเรียนไม่เก่งแต่อเมริกาทำระบบให้เห็นคะแนนและเกรดตลอดเวลา ทำให้ผมเริ่มแข่งกับตัวเองเพื่อทำให้ได้เกรดที่ดีที่สุด พอแข่งกับตัวเองไปเรื่อยๆ พอเราเรียนดีขึ้นก็เริ่มภูมิใจในตัวเอง มีความมั่นใจมากขึ้นสุดท้ายก็ได้เหรียญรางวัลทางด้านการเรียนถึง 4วิชา 1เหรียญทอง 2เหรียญเงิน และ 1เหรียญทองแดง
     แน่นอนอยู่แล้วว่าชีวิตคงไม่ได้ดีเสมอไป ก็เจอปัญหาบ้าง  ช่วงแรกๆที่ไปก็ไม่ค่อยมีเพื่อนและยังพูดไม่ค่อยได้อีก แต่ผมก็พยายามที่จะเข้าหาเพื่อนก่อน  พยายามพูดและคุย ทำกิจกรรมในโรงเรียนก็ทำให้เราได้เพื่อนมากขึ้น  ช่วงท้ายโฮสก็มีปัญหาทำให้ผมต้องเปลี่ยนโฮส ถามว่าเสียใจมั๊ย ก็เสียใจแต่ผมก็ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนโฮสกลับทำให้ผมเจอโฮสใหม่ที่ยังวัยรุ่นได้ทำกิจกกรมเยอะมาก และยังมีฟิตเนสที่ใกล้ที่พักอีก ทำให้ผมได้รู้ว่าปัญหาไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป ถ้าเราควบคุมไม่ได้ก็ยอมรับมัน บางทีเราอาจจะเจอสิ่งที่ดีขึ้นก็ได้
     วันนี้ผมกลับมาที่ประเทศไทย หลายๆคนคิดว่าไปแลกเปลี่ยนจะเสียเวลาถึง1ปี แต่ผมมองว่าสิ่งที่ผมได้มาเปลี่ยนชีวิตผม ทำให้ผมเรียนดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น มีความมั่นใจที่ดีขึ้น มีสิ่งที่ผมคิดว่าผมทำไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่ได้ลองทำเราจะรู้ได้ยังไงว่าทำได้หรือไม่ การไปอเมริกาทำให้ผมไม่ปฎิเสธโอกาสที่ได้รับ และทำให้ผมกล้าลองทำในสิ่งใหม่ๆมากขึ้น ไม่กลัวกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น
  
     สิ่งที่อยากจะฝากเพื่อนๆ คือ ไปแลกเปลี่ยนไม่ได้เสียเวลา1ปี แต่เป็น1ปีที่ทำให้ผมได้เรียนรู้และปรับตัว อยากให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้แบบผม ไม่อยากให้กลัวถ้าเรายังไม่ได้ลอง การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทำได้แค่ช่วง ม.4-ม.6 เท่านั้นถ้าเราผ่านช่วงนี้ไปเราก็ไม่สามารถกลับมาทำได้อีก   สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะไปพอไปแล้วให้เปิดใจที่จะเรียนรู้และรับเพื่อนใหม่ วัฒนธรรมใหม่ๆ เอาสิ่งที่ดีของเขาและของเรามาใช้  และ1ปีที่เราไปจะเป็นอีกปีที่เรามีความสุขที่สุด   จะได้ไม่ต้องตอบตัวเองหรือคนอื่นว่า “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะแก้ไขอะไร” เพราะเราทำให้ดีที่สุดแล้ว  สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้คนที่สอบยังไม่ได้ให้พยายามไปเรื่อยๆ ส่วนคนที่ได้แล้วอย่าหมดเวลาไปกับโทรศัพท์นะครับ ใช้เวลาให้คุ้มนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่