เรามาดูเลนส์แบบเลือกจากเสป็คกันนะครับ
ชุด Canon LTM รุ่นแหวนดำนะครับ ทุกตัวที่หน้าตาแบบ dream lens นั่นแหละครับ ไม่ใช่รุ่นแหวนเงินนะ
ผมยกมา 4 ตัวที่เจอกันโดยทั่วไปนะครับคือ 1.8-Workhorse 1.4-Fast 1.2-Artist และ 0.95-Dream
ราคาสมัยนั้น 0.95แพงกว่า 1.8 ราวๆสามเท่า แต่ตอนนี้ต้อง 20เท่าขึ้นไป ถ้าเทียบค่าเงินตอนนี้ 0.95 ควรจะราคาปัจจุบันประมาณสองแสนบาท
สรุปรวมๆให้ง่ายๆนะครับ เป็นการวัดค่าโดยใช้กำลังแยกขยายเส้นเป็นเกณฑ์ฝรั่ง หน่วยเป็น Line Pairs per Millimeter มี 2 ค่าคือตรงกลางและขอบภาพ ยิ่งเยอะก็แสดงว่าแยกเส้นได้ชัดเจน ไม่เบลอ ในยุคเดียวกันนี้ญี่ปุ่นจะใช้เกณฑ์วัดอีกอย่างนะครับ ไม่เหมือนกัน และตอนทดสอบนี้เลนส์พึ่งออกใหม่ๆปี 1968 สภาพ 100% ไม่ใช่เอามาเทสตอนสภาพปัจจุบันเลนส์ช้ำ ฝ้าราก็ไม่ล้างแล้วว่าไปเรื่อยยังกะแกะกล่องเหมือนฝรั่งบางเว็บนะครับ
เปิดสุด - คมพอๆกันหมด คือไม่คม โดยเฉพาะ 1.2 จะนวลกว่าเพื่อนหน่อย
คมสุด ตัว1.8ที่ f/8 ตัวอื่นก็พีคที่ f/8 แต่ไม่คมเท่า นวลที่สุดคือ 0.95 คือทำได้ดีที่สุดที่ f/5.6 และไม่คมไปกว่านี้แล้ว
เริ่มคมใช้งานได้ดี 1.8ที่ f/2 1.4ที่ f/2.8 1.2ที่ f/4 และ0.95ที่f/5.6
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการออกแบบเลนส์ไวแสงมากๆในตอนนั้นเพื่อใช้ในการช่วยโฟกัสหรือได้ภาพในที่แสงน้อยๆโดยให้ความสำคัญกับโอกาสได้ภาพมากกว่าความคมนะครับ ไม่มีกล้องตัวไหนนยุคนั้นที่สปีดเร็วพอจะใช้ฟิล์ม iso400 หรือแม้แต่200 ที่ f/0.95 ในเวลากลางวันได้
แถม: LTM รุ่นแหวนเงินเป็น canon serenar อันนั้นแก้วปกติ ไม่ค่อยมีปัญหา ส่วน LTMรุ่นนี้ฝ้าที่แก้วเพราะใช้แก้วสูตรใหม่
อีกรุ่นถัดมาที่นิยมฝ้าคือ FD อันนั้นมาจากกาวคอมพาวด์สูตรใหม่ครับ
Canon 50mm LTM
ชุด Canon LTM รุ่นแหวนดำนะครับ ทุกตัวที่หน้าตาแบบ dream lens นั่นแหละครับ ไม่ใช่รุ่นแหวนเงินนะ
ผมยกมา 4 ตัวที่เจอกันโดยทั่วไปนะครับคือ 1.8-Workhorse 1.4-Fast 1.2-Artist และ 0.95-Dream
ราคาสมัยนั้น 0.95แพงกว่า 1.8 ราวๆสามเท่า แต่ตอนนี้ต้อง 20เท่าขึ้นไป ถ้าเทียบค่าเงินตอนนี้ 0.95 ควรจะราคาปัจจุบันประมาณสองแสนบาท
สรุปรวมๆให้ง่ายๆนะครับ เป็นการวัดค่าโดยใช้กำลังแยกขยายเส้นเป็นเกณฑ์ฝรั่ง หน่วยเป็น Line Pairs per Millimeter มี 2 ค่าคือตรงกลางและขอบภาพ ยิ่งเยอะก็แสดงว่าแยกเส้นได้ชัดเจน ไม่เบลอ ในยุคเดียวกันนี้ญี่ปุ่นจะใช้เกณฑ์วัดอีกอย่างนะครับ ไม่เหมือนกัน และตอนทดสอบนี้เลนส์พึ่งออกใหม่ๆปี 1968 สภาพ 100% ไม่ใช่เอามาเทสตอนสภาพปัจจุบันเลนส์ช้ำ ฝ้าราก็ไม่ล้างแล้วว่าไปเรื่อยยังกะแกะกล่องเหมือนฝรั่งบางเว็บนะครับ
เปิดสุด - คมพอๆกันหมด คือไม่คม โดยเฉพาะ 1.2 จะนวลกว่าเพื่อนหน่อย
คมสุด ตัว1.8ที่ f/8 ตัวอื่นก็พีคที่ f/8 แต่ไม่คมเท่า นวลที่สุดคือ 0.95 คือทำได้ดีที่สุดที่ f/5.6 และไม่คมไปกว่านี้แล้ว
เริ่มคมใช้งานได้ดี 1.8ที่ f/2 1.4ที่ f/2.8 1.2ที่ f/4 และ0.95ที่f/5.6
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการออกแบบเลนส์ไวแสงมากๆในตอนนั้นเพื่อใช้ในการช่วยโฟกัสหรือได้ภาพในที่แสงน้อยๆโดยให้ความสำคัญกับโอกาสได้ภาพมากกว่าความคมนะครับ ไม่มีกล้องตัวไหนนยุคนั้นที่สปีดเร็วพอจะใช้ฟิล์ม iso400 หรือแม้แต่200 ที่ f/0.95 ในเวลากลางวันได้
แถม: LTM รุ่นแหวนเงินเป็น canon serenar อันนั้นแก้วปกติ ไม่ค่อยมีปัญหา ส่วน LTMรุ่นนี้ฝ้าที่แก้วเพราะใช้แก้วสูตรใหม่
อีกรุ่นถัดมาที่นิยมฝ้าคือ FD อันนั้นมาจากกาวคอมพาวด์สูตรใหม่ครับ