"เสน่ห์การท่องเที่ยวสมัยนี้ ดูเหมือนจะเป็นรีสอร์ทหรือที่พักไปแล้ว... สถานที่ท่องเที่ยวเป็นแค่ไม้ประดับ"
คือ แบบว่า งง และสงสัยว่าทำไมทุกครั้งที่ใครต่อใครจะไปเที่ยว มักจะพูดถึงที่จะไปว่า "มีที่พักไหม ที่พักดีไหม สวยหรือป่าว ช่วยกันหารีวิวหน่อย"
แถบจะไม่มีการพูดถึงสถานที่ที่จะไปเลย หรือบางครั้งถึงกลับเปลี่ยนที่เที่ยวเพราะไม่มีที่พักถูกใจ
ผมยกตัวอย่างที่เที่ยวที่ผมชอบและไปบ่อยที่สุด แน่นอนผมอยู่ที่นั้นเลย จะว่าเป็นเจ้าถิ่นก็ได้ แต่ผมไม่ใช่คนที่นั้นนะ
ที่ที่ผมว่านั้นคือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ถ้าคุณค้นหาข้อมูลใน Internet คุณจะแทบไม่เจออะไรที่เป็น "เขาใหญ่" จริงๆ หรอก เขาใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเน้นที่ธรรมชาติ
การไปที่นี้นั้นหลายท่านคงไปเที่ยวเที่ยวเชิงอนุรักษ์และธรรมชาติ หรืออาจเพียงแค่ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ ดื่มด่ำกับความสงบเงียบ .... ฯลฯ
แต่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักใช้เวลากับเขาใหญ่จริงๆ ไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ ก่อนจะเข้าอยู่ในที่พักที่อยู่เชิงเขานอกเขตอุทยานและใช้ชีวิตสุดหรูจากเงินทุนคนเมือง (ว่าไปเรื่องนี้จะยาวได้ อิอิ)
เพื่อนผมหลายคน อยากจะเที่ยวเขาใหญ่ จะถามผมถึงที่พักที่ดีดี มีแน่ะนำไหม แต่ผมก็แน่ะนำอะไรไม่ได้มากนักเพราะไม่เคยได้พักเลย คือผมมีบ้านเองที่นั้น หลายคนจะถามว่าที่เที่ยวหละ มีอะไรที่ไหน ผมเลยบอกว่าใน internet มีเพียบ ที่เที่ยวที่มุษย์นายทุนสร้างขึ้น แน่นอนผมไม่เคยไปตามที่ใน Internet บอก เพราะ
โค ตะ ระ แพงและถ้าเดินทางไกลจาก กท. เพื่อมาเสียเงินแบบนี้ สำหรับผม ใน กท. ก็มีนะ ผมเลยได้แค่ดูผ่านๆ
มันเลยดูเหมือนว่า เสน่ห์การท่องเที่ยว มันขึ้นกับ รีสอร์ทหรือที่พักไปแล้ว แล้วเน้นที่เที่ยวของมุษย์นายทุน ผมกลัวว่าต่อไปเราจะไม่สนใจที่ท่องเที่ยว ไม่สนใจที่จะอนุรักษ์สิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริง แต่จะทำลายสิ่งมีค่าเหล่านี้ด้วย รีสอร์ทหรือที่พักของมุษย์นายทุนนั้นเอง ซึ่งเราเห็นอยู่ทั่วไปในหลายที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ผมสงสัยจริงๆ และเป็นห่วงจริงๆ ไม่อย่างออกทะเลนะครับเดี๋ยวหลงประเด็นกันได้
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
เสน่ห์การท่องเที่ยวสมัยนี้ ดูเหมือนจะเป็นรีสอร์ทหรือที่พักไปแล้ว .. สถานที่ท่องเที่ยวเป็นแค่ไม้ประดับ จริงหรือไม่?
คือ แบบว่า งง และสงสัยว่าทำไมทุกครั้งที่ใครต่อใครจะไปเที่ยว มักจะพูดถึงที่จะไปว่า "มีที่พักไหม ที่พักดีไหม สวยหรือป่าว ช่วยกันหารีวิวหน่อย"
แถบจะไม่มีการพูดถึงสถานที่ที่จะไปเลย หรือบางครั้งถึงกลับเปลี่ยนที่เที่ยวเพราะไม่มีที่พักถูกใจ
ผมยกตัวอย่างที่เที่ยวที่ผมชอบและไปบ่อยที่สุด แน่นอนผมอยู่ที่นั้นเลย จะว่าเป็นเจ้าถิ่นก็ได้ แต่ผมไม่ใช่คนที่นั้นนะ
ที่ที่ผมว่านั้นคือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ถ้าคุณค้นหาข้อมูลใน Internet คุณจะแทบไม่เจออะไรที่เป็น "เขาใหญ่" จริงๆ หรอก เขาใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเน้นที่ธรรมชาติ
การไปที่นี้นั้นหลายท่านคงไปเที่ยวเที่ยวเชิงอนุรักษ์และธรรมชาติ หรืออาจเพียงแค่ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ ดื่มด่ำกับความสงบเงียบ .... ฯลฯ
แต่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักใช้เวลากับเขาใหญ่จริงๆ ไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ ก่อนจะเข้าอยู่ในที่พักที่อยู่เชิงเขานอกเขตอุทยานและใช้ชีวิตสุดหรูจากเงินทุนคนเมือง (ว่าไปเรื่องนี้จะยาวได้ อิอิ)
เพื่อนผมหลายคน อยากจะเที่ยวเขาใหญ่ จะถามผมถึงที่พักที่ดีดี มีแน่ะนำไหม แต่ผมก็แน่ะนำอะไรไม่ได้มากนักเพราะไม่เคยได้พักเลย คือผมมีบ้านเองที่นั้น หลายคนจะถามว่าที่เที่ยวหละ มีอะไรที่ไหน ผมเลยบอกว่าใน internet มีเพียบ ที่เที่ยวที่มุษย์นายทุนสร้างขึ้น แน่นอนผมไม่เคยไปตามที่ใน Internet บอก เพราะ โค ตะ ระ แพงและถ้าเดินทางไกลจาก กท. เพื่อมาเสียเงินแบบนี้ สำหรับผม ใน กท. ก็มีนะ ผมเลยได้แค่ดูผ่านๆ
มันเลยดูเหมือนว่า เสน่ห์การท่องเที่ยว มันขึ้นกับ รีสอร์ทหรือที่พักไปแล้ว แล้วเน้นที่เที่ยวของมุษย์นายทุน ผมกลัวว่าต่อไปเราจะไม่สนใจที่ท่องเที่ยว ไม่สนใจที่จะอนุรักษ์สิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริง แต่จะทำลายสิ่งมีค่าเหล่านี้ด้วย รีสอร์ทหรือที่พักของมุษย์นายทุนนั้นเอง ซึ่งเราเห็นอยู่ทั่วไปในหลายที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ผมสงสัยจริงๆ และเป็นห่วงจริงๆ ไม่อย่างออกทะเลนะครับเดี๋ยวหลงประเด็นกันได้
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ