ถามเพื่อนๆ ดาราไทยในดวงใจของแต่ละท่านมีใครบ้างครับ ของผมมี 5 ท่าน

อันดับ 1 มานพ อัศวเทพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มานพ อัศวเทพ มีชื่อจริงคือ ว่า วิริยะ จุลมกร เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2480 [1] จบการศึกษาจากโรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบ รับราชการเป็นทหารเรืออยู่ที่กองบัญชาการทหารสูงสุดและเป็นพลขับประจำตัวของจอมพลถนอม กิตติขจร โดยได้รับตำแห่น่งยศพันจ่าเอก ก่อนเข้าสู่วงการโดยบังเอิญในปี พ.ศ. 2505 ด้วยการพบกับ สนาน คราประยูร เจ้าของนครพิงค์ภาพยนตร์ ที่ร้านตัดผม โดยใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า นาวิน เทพโยธี ก่อนที่จะมีผลงานทางจอเงินครั้งแรกในปี พ.ศ. 2506 เรื่อง นางสมิงพราย ประกบกับ มิตร ชัยบัญชา และ ตรึงใจ วลัยลักษณ์ ต่อมาจึงได้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกในปี พ.ศ. 2507 คือ พิชิตทรชน คู่กับ อมรา อัศวนนท์ ต่อด้วย เพชรน้ำผึ้ง (2508), สุดแผ่นดิน (2510), หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512) ประกบกับ สมบัติ เมทะนี และ เพชรา เชาวราษฎร์ ขณะนั้นรับงานแสดงได้ไม่เต็มที่เพราะยังรับราชการเป็นทหารเรือไปด้วย จนกระทั่งหม่อมปริม ยุคล ณ อยุธยา (บุนนาค) ซึ่งหม่อมของ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้ติดต่อให้เป็นพระเอกภาพยนตร์ของของอัศวินภาพยนตร์เรื่อง ละครเร่ คู่กับ สุทิศา พัฒนุช ร่วมด้วยดาราใหม่ในสมัยนั้น คือ สายัณห์ จันทรวิบูลย์, จารุวรรณ ปัญโญภาส และ กนกวรรณ ด่านอุดม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลชมเชยกำกับศิลป์ จากงานมหกรรมภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 15 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในปีเดียวกัน จากนั้นเขาได้เปลี่ยนชื่อในวงการเป็น มานพ อัศวเทพ จนถึงปัจจุบัน ต่อมาจึงมีผลงานตามมาอย่างต่อเนื่องทั้ง พระรอง และตัวร้าย จนได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง เงาราหู ที่กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2519

อันดับ 2 ดาม ดัสกร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดามพ์ ดัสกร นักแสดงผู้รู้จักกันดีในบทของดาวร้ายในอดีต มีชื่อจริงว่า ดามพ์ เผด็จดัสกร (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น "ธนฤกษ์ ธัญมงคล") มีชื่อเล่นว่า "เบิ้ม" เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2488 ที่บ้านควนขี้แรด ตำบลนาหว้า อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยเกริก และปริญญาโทนิเทศศาสตร์ สาขาธุรกิจการท่องเที่ยวและบันเทิง จากมหาวิทยาลัยเกริก
เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นพนักงานต้อนรับชาวต่างประเทศ ที่สนามมวยราชดำเนิน จนกระทั่ง หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ไปพบถึงชวนเข้าสู่วงการบันเทิง โดยให้รับบทดาวร้ายครั้งแรกใน ภาพยนตร์ 16 มิลลิเมตร เรื่อง "หญิงก็มีหัวใจ" ฉายทางช่อง 7 สี ในปี พ.ศ. 2513 หลังจากนั้นได้เป็น พระเอกในละครโทรทัศน์เรื่อง "ปิง วัง ยม น่าน" โดยประกบกับ นางเอก ศิรินธร ศรอนงค์
มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก "มันมากับความมืด" (ซึ่งเป็นเรื่องแรกของ สรพงษ์ ชาตรี และ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ด้วย) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ "ทอง ภาค 1" นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังเป็นอำนวยการสร้างภาพยนตร์และกำกับภาพยนตร์เรื่อง "ดาวพระเสาร์" ในปี พ.ศ. 2525 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในระยะหลังได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง โดยการชักนำของ ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก แห่ง บริษัทกันตนา และไพรัช สังวริบุตร แห่ง บริษัทดาราวิดีโอ ให้มารับบทดาวร้ายในละครโทรทัศน์ของช่อง 7 หลายเรื่อง เช่น เมืองโพล้เพล้, ผมอาถรรพ์, มนต์รักลูกทุ่ง, แม่นาคพระนคร, ปะการังสีดำ, สื่อกามเทพ, ขุนเดช, นางแมวป่า, ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว และจวบจนถึงปัจจุบัน
เคยได้รับรางวัลดาวร้ายยอดเยี่ยม จากการประกวดรางวัลผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ เมขลา ปี พ.ศ. 2538 จากบท "เศรษฐีจอม" ในละครโทรทัศน์เรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง"
นอกจากนี้แล้ว ยังมีญาติผู้น้องของเจ้าตัวหลายคนก็ได้เป็นนักแสดงในบทร้ายตามมาอีกด้วย เช่น กิตติ ดัสกร, ภิญโญ ปานนุ้ย, ยุพข่าน เป็

อันดับ 3 ฤทธิ์ ฤาชา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฤทธิ์ ลือชา ดารานักแสดงอาวุโส ผู้ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีกับบทดาวร้ายจากภาพยนตร์ไทยในอดีต เช่นเดียวกับ ดามพ์ ดัสกร และ เกชา เปลี่ยนวิถี
ฤทธิ์ ลือชา มีชื่อจริงว่า ฤทธิ์ลือชา คุ้มแพรวพรรณ (ชื่อเดิม: ชรินทร์ คุ้มแพรวพรรณ) เป็นชาวไทยมุสลิม เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2487 ที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เมื่ออายุ 16 ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอินทรศึกษา เมื่อจบการศึกษาแล้ว จะสอบเอ็นทรานซ์ ในตอนอายุ 18 แต่ทว่าสอบไม่ติด จึงย้ายไปอยู่ที่จังหวัดสระบุรีเพื่อดูแลน้องสาวและช่วยดูแลกิจการครอบครัวน้องสาว ซึ่งเป็นฟาร์มปศุสัตว์
เข้าสู่วงการการแสดงด้วยการได้รับการติดต่อจากกองถ่ายภาพยนตร์ให้ช่วยจัดหาสถานที่และอุปกรณ์ในการถ่ายทำที่จังหวัดสระบุรี จึงถูกชักชวนให้เข้าวงการจาก พร ไพโรจน์ เริ่มต้นด้วยการเป็นดาวร้ายจากภาพยนตร์เรื่อง ข้ามาคนเดียว ในปี พ.ศ. 2521 และเคยได้รับรางวัลเมขลามากถึง 8 รางวัลด้วยกันจากละครโทรทัศน์เรื่องต่าง ๆ
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต และปริญญาเอก รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ชีวิตครอบครัว สมรสตั้งแต่ก่อนเข้าวงการบันเทิง มีบุตรด้วยกันทั้งสิ้น 5 คน เป็นลูกสาว 4 คน โดยมีบุตรสาวคนหนึ่ง คือ ประดับดาว คุ้มแพรวพรรณ (ไจแอนท์) ซึ่งเคยติด 1 ใน 10 ผู้เข้าประกวดร้องเพลงจากรายการ The Singer ทางช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ. 2550 ปัจจุบันนอกจากการเป็นนักแสดงแล้ว ยังมีกิจการร้านอาหารที่จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
ผลงานในระยะหลังได้แก่ กษัตริยา ทางช่อง 5 และเริ่มเปลี่ยนบทบาทไปรับบทที่อาวุโสและสุขุมขึ้น เช่น บทพ่อ ในซิทคอมชุด รักแปดพันเก้า ทางช่อง 9 เป็นต้น
ในทางสังคม เป็นนายกสมาพันธ์ไก่ชนไทย ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ชน ในทางการเมืองเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ของกรุงเทพมหานครด้วย เมื่อเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2549 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และเป็นผู้ที่สนิทสนมกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง[1] เคยมีโปรโมเตอร์บางคนเชิญไปร้องเพลงชาติไทยให้นักมวยสากลเวลามีการป้องกันแชมป์

อันดับ 4 สรพงษ์ ชาตรี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ. 2512
สรพงษ์ ชาตรี มีบุตรทั้งหมด 4 คน คือ พิมพ์อัปสร (ขวัญ), พิศุทธินี (เอิง), พิศรุตม์ (เอม) และพิทธกฤต เทียมเศวต (อั้ม) ซึ่งพิมพ์อัปสร บุตรคนแรกเกิดแต่ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ส่วนบุตรคนที่สองถึงสี่เกิดแต่พิมพ์จันทร์ ใจวงศ์ (แอ๊ด)[3][4] ปัจจุบันสมรสกับ ดวงเดือน จิไธสงค์ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ. 2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530
เมื่ออายุได้ 19 ปี และได้พบกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วังละโว้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
สรพงษ์ เริ่มงานแสดงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2512 เป็นตัวประกอบ และเป็นเด็กยกของในกองถ่ายละครเรื่อง นางไพรตานี ฉายทางช่อง 7 และเล่นเป็นตัวประกอบในละคร ห้องสีชมพู และ หมอผี ซึ่งหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้กำกับหลังจากเดินทางกลับจากเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา
ชื่อ สรพงษ์ ชาตรี ที่ใช้ในการแสดง ผู้ตั้งให้คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา โดยคำว่า "สร" มาจาก อนุสรมงคลการ, "พงศ์" มาจาก สุรพงศ์ โปร่งมณี (ผู้พามาฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม) และ "ชาตรี" มาจาก ชาตรีเฉลิม
สรพงษ์ ชาตรี รับบทพระเอกครั้งแรก ในภาพยนตร์เรื่อง มันมากับความมืด (พ.ศ. 2514) ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม จากนั้นได้รับบทในภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม แทบทุกเรื่อง ทั้งบทพระเอก พระรอง ตัวประกอบ และเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในบางครั้ง มีผลงานแสดงกว่า 500 เรื่อง ได้รางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกจากเรื่อง ชีวิตบัดซบ และ สัตว์มนุษย์ สองปีติดต่อกัน และมีชื่อเสียงในต่างประเทศจากเรื่อง แผลเก่า (พ.ศ. 2520) กำกับโดยเชิด ทรงศรี นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุด
สรพงษ์ ได้รับรางวัลทางการแสดงจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี ดารานำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง สัตว์มนุษย์ ชีวิตบัดซบ มือปืน มือปืน 2 สาละวิน เสียดาย 2 รางวัลสุพรรณหงส์ ดารานำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ถ้าเธอยังมีรัก มือปืน และนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง องค์บาก 2 ส่วนรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง นักแสดงชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง มือปืน 2 สาละวิน

อันดับ 5 สมบัติ เมทะนี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมบัติ เมทะนี (เกิด: 26 มิถุนายน พ.ศ. 2480; ชื่อเล่น แอ๊ด) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และครโทรทัศน์) ประจำปี 2559 นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย ผู้ชนะเลิศรางวัลตุ๊กตาทองและรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง นอกจากนี้กินเนสบุ๊คยังบันทึกไว้ว่าเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นพระเอกมากที่สุดในโลก โดยแสดงเป็นพระเอกถึง 617 เรื่อง
สมบัติ เมทะนี เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นถิ่นฐานเดิมของแม่ แต่เมื่ออายุได้เพียง 7 วัน ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่แยกสะพานอ่อน ใกล้แยกปทุมวัน ตามพ่อซึ่งเป็นข้าราชการกรมรถไฟ[1]
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ จากนั้นจึงทำงานครั้งแรกที่บริษัทเอส ซี จี เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแทน แต่เมื่อฐานะการเงินของบริษัทไม่ดี จึงลาออกมาเพื่อหางานอื่นทำ ระหว่างนี้จึงได้เข้าศึกษาต่อระดับอนุปริญญาที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายและเข้าเกณฑ์ทหาร 6 เดือน พ้นเกณฑ์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2502 จึงออกหางานทำ โดยตั้งใจว่าจะรับราชการ ระหว่างที่เดินหางานอยู่นั้น ได้เข้าสู่วงการบันเทิงโดยบังเอิญ เมื่อเป็นที่ถูกตาของแมวมองแถวโรงภาพยนตร์คิงส์-ควีนส์ ย่านวังบูรพา เพราะมีรูปร่างสูงใหญ่ โดยเป็นพระเอกละครโทรทัศน์ทันทีทางช่อง 7 ขาวดำ (ช่อง 5 ในปัจจุบัน) คู่กับวิไลวรรณ วัฒนพานิช ซึ่งเป็นนางเอกภาพยนตร์ชื่อดังก่อนแล้ว โดยมีสุพรรณ บูรณะพิมพ์ นักแสดงรุ่นพี่เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการแสดง[1]
ในส่วนชีวิตครอบครัวของสมบัติ เมทะนีสมรสกับกาญจนา เมทะนี (ตุ๊) เมื่อปี พ.ศ. 2502[2] มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 5 คน เป็นบุตรชาย 5 คน ธิดา 1 คน คือ สิรคุปต์ เมทะนี (อั๋น), สุรินทร์ เมทะนี (เอิร์ธ) เกียรติศักดิ์ เมทะนี (อั้ม), ศตวรรษ เมทะนี (เอ้), พรรษวุฒิ เมทะนี (อุ้ม) และ สุดหทัย เมทะนี (เอ๋ย)
ซึ่งสมบัติกับกาญจนา ทั้งคู่รู้จักกันในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านกันและสมรสกันก่อนที่สมบัติจะเข้าสู่วงการบันเทิงเสียอีก[3][1]
ต่อมาสมบัติ เมทะนีได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โปรแกรมวิชาบริหารธุรกิจ จากสถาบันราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ และระดับปริญญาโท-เอก สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย[4]
นอกจากนี้แล้ว สมบัติ เมทะนี ยังเป็นนักแสดงที่รับรู้กันเป็นอย่างดีว่า เป็นผู้ที่นิยมเล่นเพาะกาย โดยเล่นมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เนื่องจากมีพ่อเป็นนักกีฬา ชอบเล่นกีฬาหลายประเภททั้ง รักบี้, ฟุตบอล, มวย[1]
ปัจจุบัน สมบัติ เมทะนี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เนื่องจากเป็นผู้ที่รักษาสุขภาพด้วยการเล่นกีฬา ออกกำลังกายอยู่เสมอ เพียงแต่มีปัญหาด้านสายตา ซึ่งไม่สามารถที่มองเห็นในเวลากลางคืน และแพ้แสงจ้า จึงทำให้ไม่สามารถที่จะขับรถด้วยตนเองมาได้นานกว่า 30 ปีแล้ว[1]
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและคณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติได้มติคัดเลือกศิลปินแห่งชาติประจำปี 2559 ซึ่งสมบัติได้รับการเสนอชื่อให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์-ละครโทรทัศน์)
ของเพื่อนๆชอบใครครับ ^^
เครดิตข้อมูล. th.wikipedia.org







ดาราไทยในดวงใจ
อันดับ 1 มานพ อัศวเทพ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันดับ 2 ดาม ดัสกร [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันดับ 3 ฤทธิ์ ฤาชา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันดับ 4 สรพงษ์ ชาตรี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันดับ 5 สมบัติ เมทะนี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ของเพื่อนๆชอบใครครับ ^^
เครดิตข้อมูล. th.wikipedia.org