ขอบคุณจขกท.ที่มาตั้งกระทู้
ช่วยทำให้สังคมไทยตื่นเสียทีว่า ลูกหนี้แบบคุณจขกท.คือตัวอย่างที่ดีมากของคนที่ขาดความรู้หนี้สินขั้นรุนแรงสาหัสสากรรจ์
และคนแบบคุณจขกท.มีเยอะมากในสังคม คือ
"ไม่เคยคิดเลขเด็กป.4 ก่อนตัดสินใจเรื่องเงิน มีปัญหาใช้หนี้ไม่ทันก็ใช้วิธีกู้หนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่า"


1. คุณใช้วิธีผิดแสนสาหัสมากที่จะ กดบัตรมาปิดหนี้รถ
- ดอกเบี้ยรถ 2% แต่ไปก่อหนี้ที่ดอกถึง 28% มาปิดหนี้ 2%
- ปิดหนี้รถแต่ไม่ปิดหนี้บัตร ทำให้ รถเป็นกรรมสิทธิ์คุณ
คุณเจอเจ้าหนี้บัตรฟ้องศาลชนะ แล้วคุณไม่ใช้หนี้ เขายึดรถคุณได้เลยนะ

คือพอเจอคุณคิดแบบข้อ 1 ได้นี่ แนะนำแผนกำจัดหนี้ไม่เป็นเลยครับ
เพราะคุณคิดผิดอย่างแรงจนไม่รู้จะว่าจะวางแผนอะไรยังไงให้ได้
จนกว่าคุณจะไปมีความเข้าใจพื้นฐานเรื่องหนี้ก่อน


2. คุณก่อหนี้เกินฐานะมาก คิดได้ไงเงินเดือน 2 หมื่นกว่า ก่อหนี้รถเกินครึ่งของเงินเดือน!!
ขายรถเลยครับ  แล้วเอาเงินไปปิดหนี้รถ
เงินจะเหลือเดือนละหมื่นกว่าเลย
การไปมีหนี้รถเกินครึ่งของเงินเดือนคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้คุณติดหนี้พะรุงพะรังมาก


3. หยุดหมุนหนี้!!!  เลิกเลยครับ
ขายรถไป เหลือเงินหรือไม่ไม่สำคัญ แต่จะหยุดเงินไหลออกจากตัวไปหมื่นกว่าบาท
เอาเงินก้อนนั้นแหละ บริหารจัดการหนี้ที่มี ไปทุกเดือน
ตามข้อ 4


4. เขียนรายการหนี้ทุกตัว เรียงออกมาทุกรายการ ตั้งแต่ยอดหนี้ พร้อมอัตราดอกเบี้ย
แล้วคำนวณว่า "คุณมีหนี้ล้นพ้นตัวหรือยัง"
นั่นคือ ยอดจ่ายเต็มต่อเดือน (ไม่ขั้นต่ำนะ) = 80% ของรายได้ต่อเดือน คือ 18000
ถ้ายอดเท่านี้คุณจบแล้วครับ
ถือว่าเข้าเกณฑ์ "หนี้ล้นพ้นตัวแล้ว" ต้องยอมหยุดส่งครับ แล้วยอมโดนฟ้อง  
เก็บเงินไปรอแฮร์คัตหนี้ทีเดียว
แต่ถ้าต่ำกว่านี้ ยังไม่หนี้ล้นพ้นตัว ให้..

1-หยุดก่อหนี้ใหม่โดยเด็ดขาด ต้องยอมกัดก้อนเกลือกิน
ฝึกนิสัย "หยุดกู้" ซะทีครับ เลิก เลิก เลิก

2-คุมการจ่ายหนี้ห้ามเกิน 50% ของรายได้ คือ 1 หมื่น ตั้งงบไว้เลยครับ อย่าเกิน
แล้วบริหารเงิน 1 หมื่นจ่ายหนี้ทุกรายการ ต่อเดือน
สหกรณ์จ่ายเต็ม  บัตรพลาสติกจ่ายเกินขั้นต่ำสัก 50%  เพื่อให้หนี้หมด  
จ่ายเกินขั้นต่ำหนี้หมดช้าหน่อย แต่หมดหนี้แน่


5. เปลี่ยนนิสัยการเงินและหนี้สินของตัวเองใหม่หมด  หาความรู้เรื่องหนี้สินมากๆ
จะได้ไม่ต้องในวังวนของการบริหารหนี้ผิดพลาดแบบนี้อีก