อย่าเพิ่งดราม่านะครับ ขอเล่าสู่กันฟังสำหรับความรู้สึกส่วนตัว
ผมมี iMac ตัว 2011 ใช้แบบเรื่อยเปื่อยไม่ได้ตัดต่ออะไรหรอกครับ ทำงานกับเว็บ แปลงาน เข้าเว็บ ดุยูทูป เล่นเฟส ติดต่องานกับพนักงาน ส่งอีเมล์หาลูกค้า ซึ่งใช้ imac ก็เพราะคอม pc ตั้งโต๊ะจอฟ้าบ่อยๆ ต้องลงวินโดว์ใหม่หลายหน ให้น้องเขยมาซ่อมให้บ้าง บ่อยเข้าก็เกรงใจ นั่นเป็นที่มาของการถอย imac 2011 มาใช้ ครั้งนั้นยอมรับว่ายังใช้ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นักแต่ก็ตัดทิ้งเรื่องปัญหาจุกจิก จอใหญ่สะใจี
แต่พอมาถึงราวปี 2016 มีเหตุต้องเปิดบริษัทก็เลยต้องทำออฟฟิสเยอะขึ้น ติดต่อกับบัญชีทางออนไลน์มากขึ้น มีการส่งเอกสารแก้ไขไปๆมาๆ ต้องมีปรินท์แล้วเซ็นมากขึ้น ก็เลยมาถอย surface pro เพราะชอบตรงที่มันเป็นแท็บเลตด้วยนี่แหละ แต่ด้วยความที่ผมเปิดเกือบทั้งวัน ใช้เกือบทั้งวัน จะมีให้มัน sleep บ้างแต่ก็ถือว่าใช้นาน ใช้มาได้ราว 1 ปีจนตัวคีย์บอร์ดแถวๆที่วางฝ่ามือมันถูมากๆเลยพอง แถมที่น่าตกใจคือหน้าจอด้านข้างเผยอเหมือนกาวหลุด แล้วการทัชหน้าจอด้วยนิ้วมันทำไม่ได้เฉย แอบมึนงงเพราะตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยทำตกครับ เพราะทำงานที่บ้าน ตั้งโต๊ะปกติ ไม่ได้เอาไปใช้นอกบ้านเลย
เป็นคนขี้เกียจออกจากบ้านก็เลยไม่ได้เอาไปซ่อม แล้วประจวบเหมาะพอไม่ค่อยได้ทำเอกสารอะไรแล้ว เลยหันมาดูคอมตัวอื่น ตอนแรกว่าจะสอย surface book ตัวใหม่แต่คิดไปคิดมาเดี๋ยวก็อีหรอบเดิม
จนมาเจอ MacBook Pro 2016 ตอนแรกก็ว่าจะเอาอยู่ ใกล้จะสั่งล่ะ เอ้ามารู้ว่ามีตัว 2017 ก็เลยสั่งจากแอปเปิ้ล ออนไลน์เอา รอของ 2 อาทิตย์ ใช้มาครึ่งเดือนละครับ ผมเคยใช้ imac มาก่อนก็เลยปรับตัวไม่ยาก จะมีก็ trackpad ที่ก่อนซื้อแม็คบุคผมยังคิดเลยว่าคงต้องหาเมาส์มาใช้เพราะติดเมาส์มาทั้งชีวิต แม้จะทำให้ความเทห์จากการใช้แม็คลดลง (imac ตัวเก่าผมก็ใช้เมาส์ของ pc เพราะเมจิกเมาส์ไม่ถนัด และยังต้องมาเปลี่ยนถ่านอีก)
แต่เอาเข้าจริงปรากฏ trackpad ใช้งานง่ายมาก มันฉลาดสุดๆ ฉลาดขนาดรู้ว่าเราวางมือกี่นิ้ว รูดไปกี่นิ้ว คนละเรื่องกับ pad ของ surface เลยครับ การเลื่อนเคอร์เซอร์ใช้นิ้วเดียว เลื่อนจอขึ้นลง ซ้ายขวาใช้สองนิ้ว ส่วนสามนิ้วปาดก็หน้าเดสท็อปกับหน้าแอพ ผมงี้อึ้งเลย ทำให้ผมต้องรักษานิ้วของตัวเองไม่ให้มีแผลหรือต้องแปะปลาสเตอร์มากขึ้นกว่าเดิม 5555
ผมอาจจะไม่ได้ใช้งานหนักตัดต่อเหมือนท่านเทพทั้งหลาย แต่ผมถอยตัว 13 นิ้วมีทัชบาร์ เพิ่มความจุ ssd เป็น 512 อาจจะเวอร์อลังการไปหน่อยเมื่อเทียบกับการใช้งานปกติของผมแต่ผมกะใช้จนพังครับ ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนใดๆอีกแล้ว เพราะอุปกรณ์ของแม็คสมบุกสมบันอยู่แล้วจากที่ใช้มาทั้ง imac,iphone,ipad
ผมอาจจะเป็นคนบ้าเห่อหน่อยๆ แบบเวลาปิดเครื่องจะเข้านอนต้องลูบไล้ตัวเครื่อง พลิกไปมา ดูสี space fray อันสวยงามอยุ่ประมาณ 2-3 นาที ดูความเบาบาง ดูขอบ อันผ้ามาเช็ดทั้งตัวเครื่องและตัวโลโก้ราวกับว่าจะส่งเข้านอน
โชคดีที่ผมไม่ได้เป็นคนออกไปพบปะผู้คน ไม่ต้องไปร้านกาแฟ หรือนั่งทำงานข้างนอก ผมก็เลยชื่นชมมันอยู่คนเดียว เลยมาบ่นๆเพ้อๆฝากทุกคนครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าจะ mac หรือ pc อันนี้อยู่ที่พฤติกรรมการใช้งานจริงๆครับ
ไม่มีอะไรมาก ขอบคุณที่รับฟังครับ
ปล. ผมสงสัยว่าในอนาคตจะมีโอกาสไหมที่พวกการเปิดใช้แก้ไขงาน office ส่งข้ามค่ายมันจะไม่เพี้ยนเลย ถ้ามันทำได้จริงผมว่า apple น่าจะดึงคนจาก pc มาได้อีกเท่าตัว แม้ว่าตอนนี้จะมีออฟฟิสที่ต้องเสียเงินซื้อมาใช้ในmac แต่ก็ยังเพี้ยนอยู่ เพื่อนๆมีความเห็นว่าไงบ้างครับ
macbook แรกในชีวิต ความแตกต่างที่ต้องมาสัมผัสเอง
ผมมี iMac ตัว 2011 ใช้แบบเรื่อยเปื่อยไม่ได้ตัดต่ออะไรหรอกครับ ทำงานกับเว็บ แปลงาน เข้าเว็บ ดุยูทูป เล่นเฟส ติดต่องานกับพนักงาน ส่งอีเมล์หาลูกค้า ซึ่งใช้ imac ก็เพราะคอม pc ตั้งโต๊ะจอฟ้าบ่อยๆ ต้องลงวินโดว์ใหม่หลายหน ให้น้องเขยมาซ่อมให้บ้าง บ่อยเข้าก็เกรงใจ นั่นเป็นที่มาของการถอย imac 2011 มาใช้ ครั้งนั้นยอมรับว่ายังใช้ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นักแต่ก็ตัดทิ้งเรื่องปัญหาจุกจิก จอใหญ่สะใจี
แต่พอมาถึงราวปี 2016 มีเหตุต้องเปิดบริษัทก็เลยต้องทำออฟฟิสเยอะขึ้น ติดต่อกับบัญชีทางออนไลน์มากขึ้น มีการส่งเอกสารแก้ไขไปๆมาๆ ต้องมีปรินท์แล้วเซ็นมากขึ้น ก็เลยมาถอย surface pro เพราะชอบตรงที่มันเป็นแท็บเลตด้วยนี่แหละ แต่ด้วยความที่ผมเปิดเกือบทั้งวัน ใช้เกือบทั้งวัน จะมีให้มัน sleep บ้างแต่ก็ถือว่าใช้นาน ใช้มาได้ราว 1 ปีจนตัวคีย์บอร์ดแถวๆที่วางฝ่ามือมันถูมากๆเลยพอง แถมที่น่าตกใจคือหน้าจอด้านข้างเผยอเหมือนกาวหลุด แล้วการทัชหน้าจอด้วยนิ้วมันทำไม่ได้เฉย แอบมึนงงเพราะตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยทำตกครับ เพราะทำงานที่บ้าน ตั้งโต๊ะปกติ ไม่ได้เอาไปใช้นอกบ้านเลย
เป็นคนขี้เกียจออกจากบ้านก็เลยไม่ได้เอาไปซ่อม แล้วประจวบเหมาะพอไม่ค่อยได้ทำเอกสารอะไรแล้ว เลยหันมาดูคอมตัวอื่น ตอนแรกว่าจะสอย surface book ตัวใหม่แต่คิดไปคิดมาเดี๋ยวก็อีหรอบเดิม
จนมาเจอ MacBook Pro 2016 ตอนแรกก็ว่าจะเอาอยู่ ใกล้จะสั่งล่ะ เอ้ามารู้ว่ามีตัว 2017 ก็เลยสั่งจากแอปเปิ้ล ออนไลน์เอา รอของ 2 อาทิตย์ ใช้มาครึ่งเดือนละครับ ผมเคยใช้ imac มาก่อนก็เลยปรับตัวไม่ยาก จะมีก็ trackpad ที่ก่อนซื้อแม็คบุคผมยังคิดเลยว่าคงต้องหาเมาส์มาใช้เพราะติดเมาส์มาทั้งชีวิต แม้จะทำให้ความเทห์จากการใช้แม็คลดลง (imac ตัวเก่าผมก็ใช้เมาส์ของ pc เพราะเมจิกเมาส์ไม่ถนัด และยังต้องมาเปลี่ยนถ่านอีก)
แต่เอาเข้าจริงปรากฏ trackpad ใช้งานง่ายมาก มันฉลาดสุดๆ ฉลาดขนาดรู้ว่าเราวางมือกี่นิ้ว รูดไปกี่นิ้ว คนละเรื่องกับ pad ของ surface เลยครับ การเลื่อนเคอร์เซอร์ใช้นิ้วเดียว เลื่อนจอขึ้นลง ซ้ายขวาใช้สองนิ้ว ส่วนสามนิ้วปาดก็หน้าเดสท็อปกับหน้าแอพ ผมงี้อึ้งเลย ทำให้ผมต้องรักษานิ้วของตัวเองไม่ให้มีแผลหรือต้องแปะปลาสเตอร์มากขึ้นกว่าเดิม 5555
ผมอาจจะไม่ได้ใช้งานหนักตัดต่อเหมือนท่านเทพทั้งหลาย แต่ผมถอยตัว 13 นิ้วมีทัชบาร์ เพิ่มความจุ ssd เป็น 512 อาจจะเวอร์อลังการไปหน่อยเมื่อเทียบกับการใช้งานปกติของผมแต่ผมกะใช้จนพังครับ ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนใดๆอีกแล้ว เพราะอุปกรณ์ของแม็คสมบุกสมบันอยู่แล้วจากที่ใช้มาทั้ง imac,iphone,ipad
ผมอาจจะเป็นคนบ้าเห่อหน่อยๆ แบบเวลาปิดเครื่องจะเข้านอนต้องลูบไล้ตัวเครื่อง พลิกไปมา ดูสี space fray อันสวยงามอยุ่ประมาณ 2-3 นาที ดูความเบาบาง ดูขอบ อันผ้ามาเช็ดทั้งตัวเครื่องและตัวโลโก้ราวกับว่าจะส่งเข้านอน
โชคดีที่ผมไม่ได้เป็นคนออกไปพบปะผู้คน ไม่ต้องไปร้านกาแฟ หรือนั่งทำงานข้างนอก ผมก็เลยชื่นชมมันอยู่คนเดียว เลยมาบ่นๆเพ้อๆฝากทุกคนครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าจะ mac หรือ pc อันนี้อยู่ที่พฤติกรรมการใช้งานจริงๆครับ
ไม่มีอะไรมาก ขอบคุณที่รับฟังครับ
ปล. ผมสงสัยว่าในอนาคตจะมีโอกาสไหมที่พวกการเปิดใช้แก้ไขงาน office ส่งข้ามค่ายมันจะไม่เพี้ยนเลย ถ้ามันทำได้จริงผมว่า apple น่าจะดึงคนจาก pc มาได้อีกเท่าตัว แม้ว่าตอนนี้จะมีออฟฟิสที่ต้องเสียเงินซื้อมาใช้ในmac แต่ก็ยังเพี้ยนอยู่ เพื่อนๆมีความเห็นว่าไงบ้างครับ