สวัสดีพี่น้องชาวพันทิพย์คะ. เกริ่นเรื่องกันก่อน
คุณพ่อดิฉันป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบห้องล่างไม่แน่ใจว่าซ้ายหรือขวาคะ ปัจจุบันท่านอายุ64ปี
เราตรวจพบเมื่อปลายปี2559 ปัญหาคือพบว่าเส้นเลือดหลักตันแต่ท่านยังโชคดีที่มีเส้นเลือดฝอยๆมาเลี้ยงบริเวณห้องนั้น
ท่านเป็นโรคเบาหวานและสูบบุหรี่มาตั้งแต่อายุ15 ปี ช่วงหลังๆก็มีหยุดสูบไปบ้าง จนที่มีเรื่องเครียดจึงกลับมาสูบ
อาการของท่านตอนที่ต้องไปหาหมอ คือ แน่นหน้าอก อาเจียนทุกอย่างที่กินไปในวันนั้น
(ตอนแรกคิดว่ากรดไหลย้อนหรือโรคกระเพาะ) เรอเป็นลมๆบ่อย
ตอนแรกจะไม่ไปหาหมอด้วยซ้ำ ต้องขอร้องกับมัดมือชกให้รถของอบต.ที่ใช้รับส่งผู้ป่วยมารับ
เราคิดแค่ให้น้ำเกลือกับฉีดยากันอ๊วก ให้ท่านมีแรงกับหายทรมานกับการอาเจียน
คุณพ่อเคยนอนโรงพยาบาลแค่1-2ครั้ง ตอนผ่าตัด จะมีแต่ไปเฝ้าไข้คนอื่น ท่านจึงชอบละเลยการไปหาหมอ
อยากบอกว่าการไปพบหมอตั้งแต่มีอาการผิดปกติกับร่างกายแม้จะนิดหน่อย
ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่เราคิดว่าเล็กน้อยแต่ร้ายแรงแบบนี้
จนเข้าห้องฉุกเฉินตอนแรกหมอก็คิดเหมือนเรา(กระเพาะ) ก็ฉีดยาไม่ให้อาเจียน แต่ไม่ดีขึ้น
จนมีการตรวจคลื่นหัวใจ นั่นแหละพบสิ่งผิดปกติ
พอซักละเอียดบอกเจ็บจี๊ดๆกลางหน้าอก เป็นๆหายๆ เคยเป็นลมก่อนหน้านั้นแต่ไม่เคยบอกให้ครอบครัวรู้ (น่ากลัวมาก ชอบเก็บเรื่องไว้คนเดียว)
หมอบอกเส้นเลือดหัวใจตีบแต่ไม่รู้เส้นไหนและตีบมากน้อยยังไง ต้องส่งไปฉีดสีที่ศูนย์โรคหัวใจของร.พ.จังหวัด
ก็รักษาประคองอาการกันไปก่อนเพราะแอดมิทเย็นวันศุกร์แล้ว
จนวันเสาร์อาการก็ทรงๆ หมอก็จะทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัด คงอยากให้อยู่ใกล้หมอเฉพาะทาง
แต่คุณพ่อขอไว้เพราะต้องอยู่ห้องรวมรอวันจันทร์จึงจะพบหมอได้ เกิดความเครียดกับท่าน
ก็บอกหมอค่อยส่งวันจันทร์ได้มั๊ย ท่านดีขึ้นบ้างแล้ว สุดท้ายเราก็บอกว่าถ้าแย่ลงส่งได้เลยคะ เข้าใจทั้งคุณหมอทั้งคุณพ่อ
จนคืนนั้นอาการทรุดอยู่ๆก็เหงื่อที่หลังออกจนเสื้อผ้าเปียก ทั้งๆที่เปิดพัดลมใส่หลัง ตัวเย็น เรอ อาเจียน เจ็บหน้าอก
พีคสุดคือความดันตกเรื่อยๆ หมอต้องฉีดยากระตุ้นความดัน. แล้วรีบส่งตัว
ตอนนั้นอยู่คนเดียว จำได้ว่าสติแตก ร้องไห้แบบกลั้นร้อง โดนเรียกไปเซ็นต์เอกสารส่งตัวเพราะมีความเสี่ยงระหว่างเคลื่อนย้าย
"ญาติต้องทำใจไว้บ้าง." เป็นประโยคที่ไม่อยากได้ยินจากหมอและรู้ว่าหมอก็ไม่อยากพูดหรอก
ระหว่างส่งตัวคุณพ่อมีสติตอนเวลา ทั้งๆที่ความดันไม่ถึง50แล้ว ตกลงไปต่ำสุดประมาณ45 (มีแต่คนบอกว่าโชคดีที่ไม่ช็อก หมดสติ)
ต้องรักษาในห้องCCUประมาณ1อาทิตย์ ก็ดีขึ้น
หลังจากได้อ่านน้ำกันไป ก็ถึงเนื้อหาจริงๆกันสักที
ประเด็นคือคุณหมอโรคหัวใจของโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ท่านรักษาอยู่.
มีใบส่งตัวให้มาตรวจกับคุณหมอที่ศิริราชเพื่อขอคำวินิจฉัยว่าจะสามารถทำบอลลูนได้รึเปล่า
พี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์พอจะแนะนำคุณหมอศิริราชเก่งๆได้บ้างมั๊ยคะ
การวินิจฉัยนี้สำคัญมากๆเพราะถ้าทำแล้วจะมีผลต่อความดันเลือดและการทำงานของหัวใจ
แนะนำคุณหมอโรคหัวใจ โรงพยาบาลศิริราช
คุณพ่อดิฉันป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบห้องล่างไม่แน่ใจว่าซ้ายหรือขวาคะ ปัจจุบันท่านอายุ64ปี
เราตรวจพบเมื่อปลายปี2559 ปัญหาคือพบว่าเส้นเลือดหลักตันแต่ท่านยังโชคดีที่มีเส้นเลือดฝอยๆมาเลี้ยงบริเวณห้องนั้น
ท่านเป็นโรคเบาหวานและสูบบุหรี่มาตั้งแต่อายุ15 ปี ช่วงหลังๆก็มีหยุดสูบไปบ้าง จนที่มีเรื่องเครียดจึงกลับมาสูบ
อาการของท่านตอนที่ต้องไปหาหมอ คือ แน่นหน้าอก อาเจียนทุกอย่างที่กินไปในวันนั้น
(ตอนแรกคิดว่ากรดไหลย้อนหรือโรคกระเพาะ) เรอเป็นลมๆบ่อย
ตอนแรกจะไม่ไปหาหมอด้วยซ้ำ ต้องขอร้องกับมัดมือชกให้รถของอบต.ที่ใช้รับส่งผู้ป่วยมารับ
เราคิดแค่ให้น้ำเกลือกับฉีดยากันอ๊วก ให้ท่านมีแรงกับหายทรมานกับการอาเจียน
คุณพ่อเคยนอนโรงพยาบาลแค่1-2ครั้ง ตอนผ่าตัด จะมีแต่ไปเฝ้าไข้คนอื่น ท่านจึงชอบละเลยการไปหาหมอ
อยากบอกว่าการไปพบหมอตั้งแต่มีอาการผิดปกติกับร่างกายแม้จะนิดหน่อย
ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่เราคิดว่าเล็กน้อยแต่ร้ายแรงแบบนี้
จนเข้าห้องฉุกเฉินตอนแรกหมอก็คิดเหมือนเรา(กระเพาะ) ก็ฉีดยาไม่ให้อาเจียน แต่ไม่ดีขึ้น
จนมีการตรวจคลื่นหัวใจ นั่นแหละพบสิ่งผิดปกติ
พอซักละเอียดบอกเจ็บจี๊ดๆกลางหน้าอก เป็นๆหายๆ เคยเป็นลมก่อนหน้านั้นแต่ไม่เคยบอกให้ครอบครัวรู้ (น่ากลัวมาก ชอบเก็บเรื่องไว้คนเดียว)
หมอบอกเส้นเลือดหัวใจตีบแต่ไม่รู้เส้นไหนและตีบมากน้อยยังไง ต้องส่งไปฉีดสีที่ศูนย์โรคหัวใจของร.พ.จังหวัด
ก็รักษาประคองอาการกันไปก่อนเพราะแอดมิทเย็นวันศุกร์แล้ว
จนวันเสาร์อาการก็ทรงๆ หมอก็จะทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัด คงอยากให้อยู่ใกล้หมอเฉพาะทาง
แต่คุณพ่อขอไว้เพราะต้องอยู่ห้องรวมรอวันจันทร์จึงจะพบหมอได้ เกิดความเครียดกับท่าน
ก็บอกหมอค่อยส่งวันจันทร์ได้มั๊ย ท่านดีขึ้นบ้างแล้ว สุดท้ายเราก็บอกว่าถ้าแย่ลงส่งได้เลยคะ เข้าใจทั้งคุณหมอทั้งคุณพ่อ
จนคืนนั้นอาการทรุดอยู่ๆก็เหงื่อที่หลังออกจนเสื้อผ้าเปียก ทั้งๆที่เปิดพัดลมใส่หลัง ตัวเย็น เรอ อาเจียน เจ็บหน้าอก
พีคสุดคือความดันตกเรื่อยๆ หมอต้องฉีดยากระตุ้นความดัน. แล้วรีบส่งตัว
ตอนนั้นอยู่คนเดียว จำได้ว่าสติแตก ร้องไห้แบบกลั้นร้อง โดนเรียกไปเซ็นต์เอกสารส่งตัวเพราะมีความเสี่ยงระหว่างเคลื่อนย้าย
"ญาติต้องทำใจไว้บ้าง." เป็นประโยคที่ไม่อยากได้ยินจากหมอและรู้ว่าหมอก็ไม่อยากพูดหรอก
ระหว่างส่งตัวคุณพ่อมีสติตอนเวลา ทั้งๆที่ความดันไม่ถึง50แล้ว ตกลงไปต่ำสุดประมาณ45 (มีแต่คนบอกว่าโชคดีที่ไม่ช็อก หมดสติ)
ต้องรักษาในห้องCCUประมาณ1อาทิตย์ ก็ดีขึ้น
หลังจากได้อ่านน้ำกันไป ก็ถึงเนื้อหาจริงๆกันสักที
ประเด็นคือคุณหมอโรคหัวใจของโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ท่านรักษาอยู่.
มีใบส่งตัวให้มาตรวจกับคุณหมอที่ศิริราชเพื่อขอคำวินิจฉัยว่าจะสามารถทำบอลลูนได้รึเปล่า
พี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์พอจะแนะนำคุณหมอศิริราชเก่งๆได้บ้างมั๊ยคะ
การวินิจฉัยนี้สำคัญมากๆเพราะถ้าทำแล้วจะมีผลต่อความดันเลือดและการทำงานของหัวใจ