สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน เราเพิ่งกลับมาจากทริปเกาะล้านไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาและคันไม้คันมืออยากจะเขียนเล่าให้ได้อ่านกัน กระทู้นี้จึงเหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย งบน้อย ไปเที่ยวได้แค่ไม่กี่วัน แต่คืออยากเที่ยว อยากไปพักผ่อน ถ่ายรูปชิคๆ นั่งรับประทานอาหารริมทะเล เอาเท้าจุ่มน้ำเบาๆ เพราะเราไม่เน้นไปทำกิจกรรมทางน้ำอย่างการดำน้ำหรือเล่นน้ำซักเท่าไหร่ค่ะ และสถานที่ที่เราเลือกไปก็คือ "เกาะล้าน" นั่นเอง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯแล้วยังเดินทางสะดวกอีกต่างหาก


และอย่างที่ชื่อกระทู้บอกค่ะ ทริปนี้เราใช้งบแค่คนละ 1500 บาท แต่ว่าเราไปกับเพื่อนอีก 3 คน รวมเราคือ 4 คนนะคะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องไปกัน 4 คนเท่านั้นถึงจะได้ราคานี้นะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การจองที่พักผ่าน booking แบบราคาถู๊ก ถูก เป็นครั้งแรกให้เพื่อนๆได้นำไปปรับใช้กัน

(อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาหรือได้รับผลประโยชน์ใดๆจาก booking เลยนะ)

ก่อนอื่นเลยเพื่อนๆต้องโหลดแอพ Booking และทำการลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบกันก่อนค่า

พอเปิดแอพมาแล้วหน้าตาจะประมาณนี้ค่ะ สามารถเลือกวันเช็คอิน-เช็คเอาท์ สถานที่ๆจะไป เพื่อหาโรงแรมและราคาที่อยากได้ อย่างของเราเสิร์ชไปเรื่อยๆ ก็เจอที่พักห้องใหญ่สำหรับนอน 4 คนเลยเลือก the castello resort หรือเดอะคาสเทลโล่รีสอร์ท ตอนเราจองราคาห้องห้องละ 2200 บาทค่ะ (หาร 4 คนละ 550 บาทเอง)

อะ อะ แต่เราจะไม่ยอมจ่ายคนละ 550 บาทเพราะเราจะใช้เทคนิคต่อไปนี้ 555555


พอเลื่อนลงมาจะเจอกับสิ่งนี้ค่ะ ชวนเพื่อนๆให้จองผ่าน booking รับเงินสมนาคุณ 550 บาท ตอนแรกเข้าใจว่าคนที่ชวนจะได้ 550 บาทแค่คนเดียว


พอคลิ๊กเข้าไปเค้าจะให้ลิงค์มาเพื่อส่งต่อให้เพื่อนจอง ซึ่งหมายความว่าเพื่อนเราต้องมี 1 แอค เราอีก 1 แอค พอจองเสร็จ คือได้ยอดสมนาคุณคนละ 550 บาท ได้ทั้งคู่ค่ะ กลายเป็นว่าเราจะเสียเงินค่าที่พักแค่ 1100บาทเท่านั้นนนน

(แต่ว่าเงินสมนาคุณคนละ 550 บาทนี้จะได้หลังจากเช็คอินและเช็คเอาท์ผ่านไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะ)
ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเราจองที่พักสำหรับ 4 คนได้ในราคาเพียง 1100 บาท หารกันก็คนละ 275 บาทเองเด้อ ถูกและคุ้มมากๆ

พอจองที่พักเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเก็บกระเป๋าออกเดินทาง
สำหรับการเดินทางนะคะพวกเรานั่งรถตู้จากสถานีขนส่งเอกมัยเพราะว่าสะดวกแล้วก็ใกล้บ้านมากที่สุด ค่าโดยสารจากเอกมัย-แหลมบาลีฮายคนละ 150 บาทค่ะ เราเริ่มออกเดินทางประมาณ 10 โมง ถึงแหลมบาลีฮายเกือบๆบ่ายโมง เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมงเอง พอถึงแหลมบาลีฮายแล้วก็เดินไปตามทางที่คนเยอะๆเลย มันจะเป็นท่าเรือค่ะ ไม่ต้องกลัวหลงเพราะรู้สึกว่าคนไปเที่ยวเกาะล้านกันทั้งปีเลย

ทางเดินจะหน้าตาประมาณนี้นะคะ สำหรับแลนมาร์กของที่นี่เราว่าน่าจะเป็นป้าย PATTAYA CITY ที่ใครๆมาถึงก็ต้องถ่ายรูปซึ่งไม่รู้ทำไมเหมือนกัน5555



รูปพวกนี้ถ่ายจากแหลมบาลีฮายค่ะ วิวข้างๆเป็นแบบนี้เลย คือมีเรือเยอะมาก

พอถ่ายรูปแถวๆนี้กันจนพอใจแล้วก็ถึงเวลานั่งเรือข้ามฟากไปเกาะล้าน ค่าโดยสารเรือคนละ 30บาทเองเด้อ นั่งเรือประมาณ 30-45 นาทีก็ถึงท่าเรือหน้าบ้านแล้ว หน้าตาเรือที่จะต้องขึ้นก็เป็นประมาณนี้ค่าา

หลังจากนั่งเรือเวียนหัวกันไปแล้วก็ถึงท่าหน้าบ้านแล้ว

สำหรับเดอะคาสเทลโล่รีสอร์ทที่พวกเราจะเข้าพักนั้นมีบริการรถรับส่งจากท่าเรือไปที่พักทั้งขาไปและขากลับเลยค่ะ พอถึงท่าหน้าบ้านพวกเราก็โทรหาที่พักเพื่อให้เค้ามารับได้เลย พอมาถึงก็เข้าเช็คอินได้ตามปกติไม่มีปัญหาใดใด แล้วคือที่พักตกแต่งสวยมากทั้งข้างในและสวนด้านนอก


อันนี้เป็นส่วนของห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งเดอะคาสเทลโล่นั้นเป็นผู้ใหญ่ใจดีให้เราได้กินบุฟเฟ่ต์ในมื้อเช้า อิอิ นี่แหละค่ะคือบุฟเฟ่ต์ที่เราบอกในชื่อกระทู้ คือมันคุ้มมาก ลองคิดดูนะคะว่าได้มานอนเกาะล้านราคาคนละ 275 บาทแล้ว ยังได้ทานบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอีก คุ้มฝุดๆ


และนี่ก็คือสภาพห้องพักของพวกเรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เยอะมากๆ คือไม่ต้องเอาแชมพู คอนดิชันเนอร์ ครีมอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวมาเลยอะ เอามาแค่เสื้อผ้าก็พอ55555

อันนี้ถ่ายผ่านหน้าต่างห้องเราไป สวนข้างนอกเค้าก็จัดแบบสวยงามนะคะ

พอเข้ามาเก็บข้าวของแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราควรจะออกไปหาอะไรกิน และหน้ารีสอร์ทคือมีร้านเช่ามอไซค์พอดี ค่าเช่ามอไซค์คันละ 300 บาทค่ะ พวกเรา 4 คนก็เลยเช่า 2 คัน จากนั้นก็เปิด google map หาร้าน "ครัวเฉลียงลม" และให้แผนที่นำทางเราไปเล้ยย

คือที่เราเลือกมาทานอาหารที่ครัวเฉลียงลมเพราะว่าเราอ่านรีวิวจากกระทู้อื่นๆมาแล้วเจอร้านนี้บ่อยมากเลยมาตามรอยซะหน่อย อิอิ พอขับรถมาถึงหน้าร้าน เรากับเพื่อนก็หันหน้ามามองหน้ากันแล้วทำหน้าฟินๆใส่กัน อารมณ์แบบกรี๊ดอยู่ข้างในเพระร้านมันน่ารักมากค่ะคุณผู้โช้มม

มันเป็นร้านอาหารติดชายทะเล มีทั้งกลางแจ้งแล้วก็ส่วนที่มีหลังคาเลยค่ะ พอเข้าไปในร้านจะมีพนักงานมารับออเดอร์ ราคาอาหารแบบเป็นกับข้าวก็มีตั้งแต่ 70 บาทขึ้นไป แต่ถ้าเป็นอาหารทะเลที่มีเนื้อปลาหอยกุ้งปลาหมึกอะไรแบบนี้จะอยู่ที่ราคา 100+ ค่ะ และพวกเราก็สั่งแต่กับข้าวที่มีเนื้อสัตว์ทะเล เพราะนี่มาทะเล ก็ต้องกินอาหารทะเลสิถึงจะเรียกว่ามาถึง






ระหว่างรออาหารสามารถมาถ่ายรูปเล่นได้ด้วย ดีามพระรามแปดมาก เรากับเพื่อนได้รูปจากวิวตรงนี้กันไปเยอะมากๆๆ คือแค่ออกมากินข้าวก็มีรูปลงชิคๆไปอีกหลายรูปเลยอะ พอถ่ายรูปไปสักพัก อาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะแล้วค่ะ

อันนี้เป็นต้มยำกุ้ง รู้สึกว่าจะ 150 บาท รสชาติก็อร่อยดีค่ะ แซ่บ จัดจ้านมาก แต่เปรี้ยวไปนิดสำหรับคนไม่กินเปรี้ยวอย่างเรา

ส่วนอันนี้เป็นปูอะไรสักอย่างผัดพริกไทยดำ อันนี้อร่อยมากๆๆๆๆ เพื่อนนี่แย่งกันตัก

อันนี้เป็นหอยสดๆเลย คือเพิ่งเคยกินหอยกับชะอมเพื่อลดคาว เป็นการเปิดมิติใหม่แห่งการกินหอยสำหรับเราเลยแหละ(เพื่อนสอนวิธีกินให้)

นี่ก็เป็นกับข้าวสำหรับเมนูนี้นะคะ อีกจานที่สั่งคือกุ้งชุบแป้งทอด จากนั้นก็สั่งน้ำ น้ำแข็ง ข้าวเปล่าเป็นโถมาทานค่ะ

คือกับข้าวที่นี่รสชาติดีเลยแหละ บวกกับบรรยากาศดีๆ ได้นั่งคุยกับเพื่อนเราว่ามันดีเลยนะ ระหว่างทานข้าวไปก็คุยกันว่าไปไหนต่อดี ทริปเราจะเอายังไง และระหว่างนี้ก็คือถ่ายรูปถ่ายสแนปแชทไปด้วย จอยๆดีค่ะ พอทานเสร็จก็เรียบพี่เค้ามาเก็บเงิน หมดไปประมาณ 800 กว่าบาทสำหรับมื้อนี้ (หาร 4 ตกประมาณคนละ 200+ นิดๆ) พอทานเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวทะเลกันเลยย

หาดแรกที่พวกเราไปก็คือ "หาดตายาย" นะคะ หาดนี้เป็นหาดที่ค่อนข้างสงบ คนไม่เยอะมาก ไม่มีอาหารขายตามชายหาด ไม่มีของเล่นให้เล่นเลย แต่บรรยากาศดี วิวสวย ทรายก็สวย เหมาะกับการมานั่งดูพระอาทิตย์ตกเพราะว่าเส้นขอบฟ้าจรดกับทะเลเลยค่ะ







คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็คือเล่นน้ำชิวๆ ไม่ก็ถ่ายรูปเล่นกันค่ะ เรากับเพื่อนก็ได้รูปสวยๆจากตรงนี้เยอะเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรูปพวกเราเองนี่แหละค่ะเลยไม่กล้าลงกลัวเพื่อนๆที่อ่านรีวิวนี้อยู่จะเลื่อนผ่านรัวๆ 5555555555

หลังจากอยู่หาดนี้ไปสักพักก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ อยากลองไปหาดอื่นด้วยเลยเปิดแมปหาหาดต่อไป ซึ่งหาดต่อไปที่เราจะไปก็คือ "หาดตาแหวน" ซึ่งเป็นหาดที่เค้าบอกว่าคนเยอะที่สุด มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะที่สุด มีร้านค้า มีของให้เล่นเยอะที่สุด แต่ระหว่างทางไปนั้นก็จะมีจุดชมวิว ซึ่งพวกเราก็แวะถ่ายรูปที่จุดชมวิวซักกะนิดจ้าา




โชคดีที่เอาเลนส์ซูมมาด้วย อยากถ่ายอยากซูมอะไรก็ถ่ายโลดด

เดี๋ยวรออ่านต่อที่คอมเม้นท์ด้านล่างนะคะ ตอนนี้พื้นที่โพสต์เต็มแล้วค่าา