ด้วยความตระหนักว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่คนส่วนใหญ่ให้ความเคารพนับถือ จึงต้องยอมรับความจริงว่า ในอดีตที่คนไทยมีความเป็นปึกแผ่น มีความรัก ความสามัคคีก็เพราะอาศัยหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และใช้ในการพัฒนาสังคมประเทศชาติสืบมา
เดิมนั้นการบริหารกิจการพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ตามพุทธบัญญัติ แต่ต่อมาด้วยเหตุว่า ทางศาสนจักรกับอาณาจักรต้องมีการประสานงานกัน จึงทำให้เกิดพัฒนาการในการที่ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยดีงาม
เดิมนั้นไม่ได้แยกการศึกษาออกจากวัด จึงมีกระทรวงธรรมการ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นกระทรวงศึกษาธิการ ค่อย ๆ พัฒนากลายมาเป็นกรมการศาสนา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 จึงแยกการบริหารกรมการศาสนาออกเป็น 2 ส่วน คือ กรมการศาสนา สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี
หน้าที่หลัก ๆ ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น คือ ภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานสนองงานคณะสงฆ์และรัฐโดยการทำนุบำรุง ส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ให้การอุปถัมภ์ คุ้มครองและส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนา ดูแล รักษา จัดการศาสนสมบัติ
ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุอะไรที่จะเป็นการก้าวล่วงคณะสงฆ์ เนื่องจากผู้นำในสำนักพุทธฯ ล้วนเคยเป็นศิษย์วัดมาก่อน มีความเข้าใจในการทำงานร่วมกับคณะสงฆ์เป็นอย่างดี
จนกระทั่ง ณ วันนี้ มีการเปลี่ยนผู้ดูแล ซึ่งมาจากหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ลูกหม้อของหน่วยงานนี้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
เพียงเริ่มต้นทำงานก็ทำให้เห็นแล้วว่า ขาดความแม่นยำในการใช้กฎหมาย จนต้องไปรับคำแนะนำจากผู้ที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ใช้แรงกดดันพระมหาเถระ เพื่อให้บรรลุผลตามที่ตนต้องการ
ก็คงจะต้องจับตาดูว่าทิศทางในการทำงานจะเป็นอย่างไรต่อไป จากที่ในอดีตคือ "ลูกศิษย์พระ" วันนี้จะกลายเป็น "นายของพระ" ไปแล้วหรืออย่างไร?
ห้ามกระพริบตานะครับ
ที่มา:
http://hansolo63.blogspot.com/2017/03/blog-post_24.html
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ...ปัจจุบันที่ลืมอดีต
เดิมนั้นการบริหารกิจการพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ตามพุทธบัญญัติ แต่ต่อมาด้วยเหตุว่า ทางศาสนจักรกับอาณาจักรต้องมีการประสานงานกัน จึงทำให้เกิดพัฒนาการในการที่ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยดีงาม
เดิมนั้นไม่ได้แยกการศึกษาออกจากวัด จึงมีกระทรวงธรรมการ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นกระทรวงศึกษาธิการ ค่อย ๆ พัฒนากลายมาเป็นกรมการศาสนา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 จึงแยกการบริหารกรมการศาสนาออกเป็น 2 ส่วน คือ กรมการศาสนา สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี
หน้าที่หลัก ๆ ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น คือ ภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานสนองงานคณะสงฆ์และรัฐโดยการทำนุบำรุง ส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ให้การอุปถัมภ์ คุ้มครองและส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนา ดูแล รักษา จัดการศาสนสมบัติ
ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุอะไรที่จะเป็นการก้าวล่วงคณะสงฆ์ เนื่องจากผู้นำในสำนักพุทธฯ ล้วนเคยเป็นศิษย์วัดมาก่อน มีความเข้าใจในการทำงานร่วมกับคณะสงฆ์เป็นอย่างดี
จนกระทั่ง ณ วันนี้ มีการเปลี่ยนผู้ดูแล ซึ่งมาจากหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ลูกหม้อของหน่วยงานนี้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
เพียงเริ่มต้นทำงานก็ทำให้เห็นแล้วว่า ขาดความแม่นยำในการใช้กฎหมาย จนต้องไปรับคำแนะนำจากผู้ที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ใช้แรงกดดันพระมหาเถระ เพื่อให้บรรลุผลตามที่ตนต้องการ
ก็คงจะต้องจับตาดูว่าทิศทางในการทำงานจะเป็นอย่างไรต่อไป จากที่ในอดีตคือ "ลูกศิษย์พระ" วันนี้จะกลายเป็น "นายของพระ" ไปแล้วหรืออย่างไร?
ห้ามกระพริบตานะครับ
ที่มา:http://hansolo63.blogspot.com/2017/03/blog-post_24.html