หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิวพม่า สักการะ 3 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชเวดากอง-ชเวมอดอร์-พระธาตุไจทีโย #นอกใจไทยแลนด์3D/2N #alongtheway
กระทู้รีวิว
สายการบิน
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยววัด
ประเทศพม่า
เที่ยวต่างประเทศ
การเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมอบให้ แต่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องยึดครองเอง
หลังจากการเปิดประเทศของพม่า หรือเมียนมาร์เมื่อกลางทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ชาวต่างชาติเข้าไปเที่ยวพม่าเพิ่มขึ้น และยังเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบก และทางทะเลในเชิงอุตสาหกรรมปิโตรเลียม รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โดยจุดขายสำคัญของประเทศนี้คือ สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นประเทศที่เคร่งในเรื่องศาสนามากประเทศหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็คือการถอดเกิบเข้าวัด
การเตรียมตัวเราก็จองที่พักไว้ทั้งสองคืนทั้งในย่างกุ้ง และบนไจทีโย รวมถึงติดต่อรถเช่าพร้อมผู้นำทางท้องถิ่น
การแลกเงินต้องเป็นแบงค์ใหม่เท่านั้น รอบนี้ไปแลกบริษัทสีเขียวที่สเปลล์-ฟิวเจอร์ใกล้ประตู B5 ที่จริงจะแลกเป็นเงินจ๊าด Ks ด้วยแต่สาขานี้ไม่มีต้องติดต่อก่อนล่วงหน้า เมื่อถึงคิวเลงแนะนำว่าให้แลกแบงค์ $100 เท่านั้น แต่เอาเข้าจริงขอให้เป็นแบงค์ใหม่รับหมด (ก็แบงค์ใหญ่ $50,$100 เรตแพงกว่า $10,$20 ถึง 10 สต.)
Day 1/3 ตื่นเช้ามาก็มุ่งหน้าไปดอนเมือง ผ่านตม.มาได้ก็หาเสบียงติดมือไปนิดหน่อยแล้วไปนั่งรอหน้าเกท ได้เวลาทะยานผ่านน่านฟ้าฝั่งตะวันตกของประเทศ ระหว่างนั้นก็กรอกฟอร์มตม.ขาเข้าประเทศพม่ารวมใบถึงฟอร์มเช็คทรัพย์สินเข้าประเทศอย่างเช่น อัญมณี หรือนำเงินมาเกิน $10,000 ต้องชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่ด่านตม.
จากนั้นเหล็กลอยฟ้าก็ค่อยๆลดระดับเพดานบินลงมาจอดยังสนามบินมิงกาลาดง ณ.กรุงย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศพม่า ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาในการบินมาที่นี่พอๆกับยืนเข้าแถวรอตรวจเอกสารเข้าประเทศเลยทีเดียว เชื่อเหอะ! และเวลาที่พม่าจะช้ากว่าเมืองไทย 0.5 ชม.
เมื่อผ่านตม.มาได้ก็เจอไกด์ของเราชื่ออังกอร์ (AK) คนๆนี้เป็นที่รู้จักของคนไทยเพราะใช้บริการกันเยอะเท่าที่ดูในรีวิว บ้างก็เรียกอังโกะ จากนั้นก็ไปแลกตังค์จาก USD เป็น Ks เราลองยื่น $50 ก็แลกได้ต่างกับที่บริษัทแลกเงินที่สเปลล์บอกไว้ แล้วต่อด้วยซื้อซิม ที่พม่ามี 3 ค่ายหลัก คือ Ooredoo Telenor MPT แต่เราเลือก Ooredoo เพราะ AK แนะนำมา
จากนั้นก็เริ่มทริปนี้โดยจุดหมายแรกคือ เจดีย์เยเลพญา ที่ Thanlyin หรือ สิเรียมห่างจากย่างกุ้ง 45 km อดีตเคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิรวดี
โดย AK พาเราไปที่นั่นโดยน้องแต๊กของเค้าใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไปสิเรียมชั่วโมงกว่าก็มาถึงหน้าท่าเรือ ซื้อดอกไม้ ซื้อตั๋วลงเรือ
แล้วก็มาถึงเกาะกลางแม่น้ำเด็กเรือจะให้ถอดแตะไว้ในเรือ แล้วลงเรือไปไหว้สักการะพระจกบาตร หรือพระอุปคุป และชมบรรยากาศโดยรอบ
นั่งเรือลำเดิมกลับมาฝั่งท่าเรือ แล้วมุ่งหน้ากลับมาในเมืองย่างกุ้ง
ก่อนข้ามฝั่งกลับมายังตัวเมืองย่างกุ้งก็ต้องข้ามแม่น้ำบาโกกันหน่อย
เพื่อไปเจดีย์โบตาทาวน์ โดยทุกครั้งที่เข้ามายังบูชาสถานที่พม่าต้องถอดรองเท้า และจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมบูชาสถานสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่เจดีย์โบตาทาวน์แห่งนี้มี่โกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุ ประดิษฐานสถานไว้ใจกลางเจดีย์
หากเข้าไปด้านในตัวเจดีย์จะมีทางเดินทางเดียวเพื่อความเป็นระเบียบ ระหว่างทางจะมีผนังแผ่นทองคำกั้นด้วยกระจก และมีมุมนั่งฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
ทว่าเจดีย์แห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นที่รู้จักคือ นัตโบโบยี หรือเทพทันใจนั่นเอง
วิธีการไหว้เทพทันใจจะถวายด้วยมะพร้าว หรือกล้วยนากสีแดงและเงินบริจาค จากนั้นยกพานเครื่องไหว้อธิฐานแล้วนำธนบัตร 2 ใบม้วนแล้วใส่ไปที่อุ้งมือท่าน แล้วเข้าไปยืนให้หน้าผากของเราแตะกับนิ้วมือของท่าน แล้วอธิฐานขอพรเพียงข้อเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วก็ดึงธนบัตรกลับมา 1 ใบไว้เป็นเงินขวัญถุงโดยพับเก็บไว้ และAK ก็นำใบไม้มาให้เราเก็บไว้ร่วมกับธนบัตร ซึ่งAK บอกว่าเป็นใบไม้มงคลที่ชื่อ “ใบไม้แห่งชัยชนะ” ซึ่งท่านอองซานจะนำมาเหน็บที่เส้นผมด้วย
หากข้ามมาอีกฟากของถนนก็จะเป็น"เทพกระซิบ"
สังเกตเห็นบางอย่างสีแดงๆ บนผิวถนนเมื่อจอดติดไฟแดงอยู่ที่แยกซึ่งนั่นก็คือ “น้ำหมาก” นั่นเอง
ระหว่างทางก็เจอรถบัสคันซึ่งไม่จอดรับผู้โดยสารเหมือนแท็กซี่ไทยที่บอกว่าแก๊สจะหมด จะรีบไปส่งรถ แต่ต่างคนก็มีเหตุผลในสิ่งที่ทำลงไปเสมอ!
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เจดีย์สุเล่ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้งคล้ายกับจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ศูนย์เหมือนอนุสาวรีย์ชัยฯบ้านเรา บริเวณใกล้กันก็มีอนุสรณ์สถานกลางสวนอีกด้วย รวมถึงโบสถ์คริสตจักร และอาคารสถานที่ราชการในแบบอังกฤษ และที่ย่างกุ้งอดีตเมืองหลวงแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้ขับมอเตอร์ไซด์ในเมืองนี้เลย
อากาศวันนี้ร้อนมากสถานีต่อไปเลยให้พี่อังกอร์พาไปนั่งกินกาแฟเย็นที่ทะเลสาบกันดอร์จี
แล้วไปสักการะพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตยี หรือพระตาหวาน ดวงตาของท่านเป็นแก้ว โดยเฉพาะเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ จึงกลายเป็นพระนอนที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในพม่า และบริเวณพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ
แล้วแวะมาอีกฟากถนนไม่ห่างกันมากจะเป็นหลวงพ่องาทัตยี แกะสลักจากหินอ่อนขนาดใหญ่ ประดับด้วยเครื่องประดับที่ทำมาจากโลหะสีทองลวดลายละเอียดงดงาม มีฉากหลังเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ตั้งอยู่ภายในอาคารโครงเหล็กในวัดงาทัตยี
ตกเย็นหลังจาก CI เข้าที่พักเสร็จก็เดินไปสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า โดยเชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมพระมหาเจดีย์แห่งนี้คือช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก
รวมถึงไฮไลท์การชมจากดาดฟ้าที่พักก็สวยไปอีกแบบ
Day 2/3 พี่อังกอร์ก็มารับที่โรงแรมตามเวลานัดหมายเพื่อเดินทางขึ้นเหนือไปเมืองบาโก ที่เรารู้จักกันอีกชื่อคือ เมืองหงสาวดี
และปลายทางของวันนี้อยู่ที่หมู่บ้านบนเขาที่ชื่อ “ไจทีโย” ระหว่างทางก็แวะที่สุสานของทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
อีกที่ซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกลกำลังสร้างอยู่ และน่าจะเป็นบัสสต๊อปสำหรับนักท่องเที่ยวอีกไม่นาน
ระหว่างทางก็มองดูความวุ่นวายอย่างลงตัวของประเทศนี้ก็เพราะเลนรถบ้านเค้าจะสลับกับไทยเราโดยใช้เลนขวาเป็นหลัก แต่!!!!!!!รถบ้านเค้ามีพวงมาลัยอยู่ทั้งทางซ้าย และขวา เนื่องจากรถยนต์ส่วนใหญ่เกินครึ่งหนึ่งของรถที่ใช้ในประเทศเป็นรถมือสองที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น พวงมาลัยจึงอยู่ด้านขวาเหมือนไทย แต่ขับเลนขวา…แปลกที่สุดในอาเซียน ลองนึกถึงคนที่เป็นกระเป๋ารถเมล์ซึ่งรถเมล์คันนี้มีพวงมาลัยด้านขวา แล้วเด็กเก็บตังค์ต้องเรียกลูกค้ารายทางอย่างทุลักทุเล เห็นแล้วบอกเลยเป็นความวุ่นวายที่ลงตัวจริงๆ
เดินทางต่อมาจนถึงเจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยรอบทั้ง 4 ทิศ ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดม สัมมาสมพุทธเจ้า (ทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้า ในอดีต 3 พระองค์คือ 1.พระพุทธเจ้า โกนาคมโน (ทิศใต้) 2.พระพุทธเจ้า กกุสันโธ (ทิศตะวันออก) 3.พระพุทธเจ้า มหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) ด้วยความที่ว่าเป็นพุทธสถานที่สร้างโดยผู้หญิง ทำให้รายละเอียดต่างๆ ดูอ่อนช้อย และงดงาม ขนาดประตูทางเข้าที่นี่ยังเป็นสีชมพู
ที่เมืองบาโกแห่งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวคนละ 10,000 Ks จ่ายครั้งเดียวเที่ยวได้ 4 ที่คือเจดีย์ไจ๊ปุ่น เจดีย์ชเวมอดอร์ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว และวังบุเรงนอง
และหากต้องการจะซื้อระฆังเพื่อไปแขวนที่พระธาตุอินทร์แขวนก็จะแนะนำให้ซื้อที่นี่จะถูกกว่าด้านบน
ก่อนถึงตัวเมืองนั่งคุยกับอังกอร์ได้ความว่าในอดีตเมืองบาโกแห่งนี้ และมัณฑะเลย์เป็นเมืองที่ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะหลัก
ชื่อสินค้า:
airasia DMK-RGN , มาม่า
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวฮ่องกง - VVIP แต่ไม่อาจเปิดเผยหน้าตาได้
เที่ยวฮ่องกง - VVIP แต่ไม่อาจเปิดเผยหน้าตาได้ . ตามไปมูไหว้ขอพรเทพกวนอู ที่ฮ่องกง: บูชาเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ขอพรธุรกิจและบริวาร วัดกวนไท (Kwan Tai Temple)&
สมาชิกหมายเลข 5822800
+++ มิงกาลาบา สักการะ 4 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ตอน 2 +++
ใครเสิร์ชมาเจอ รบกวนเข้าไปอ่านตาม link ด้านล่างครับ มิงกาลาบา สักการะ 4 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ตอน 1 เที่ยววัดในย่างกุ้งพร้อมเก็บหนึ่งมหาบูชา (เจดีย์ชเวดากอง) http://athlons.blogspot.com/2013/0
Athlons-Thunderbird
เคยได้ยินแต่ กิเลสปรินิพพาน และขันธปรินิพพาน ธาตุปรินิพพาน มีด้วยหรือ?
การปรินิพพาน 3 อย่างในพระพุทธศาสนา: กิเลสปรินิพพาน, ขันธปรินิพพาน และธาตุปรินิพพาน ในพระพุทธศาสนา "ปรินิพพาน" หมายถึงการดับทุกข์โดยสิ้นเชิง ซึ่ง
tonight8
ฤกษ์ที่แท้จริงของอาณาจักรทวารวดีหรือนครปฐมปัจจุบัน
ลบเพื่อความสงบสุข
สมาชิกหมายเลข 4538493
”พระพุทธเมตตา“ พระพุทธปฏิมาล้ำค่าที่งามล้ำเลิศในแดนพุทธภูมิ
องค์หลวงพ่อพระพุทธเมตตา สร้างขึ้นประมาณปีพุทธศักราช ๑๑๐๐ โดยสร้างขึ้นจากหินแกรนิตสีดำ และถูกนำมาประดิษฐานไว้ภายในพระมหาเจดีย์พุทธคยา ณ สถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อถึงปีพุทธศัก
Honeymile
พม่าประเทศเพื่อนบ้าน Myanmar🇲🇲✨
ครั้งนี้เราจะมารีวิว การไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านของเรากันนั้นก็คือ ...... พม่านั้นเอง MYANMAR {วันแรก} กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง-สิเรียม เจดีย์เยเลพญา-พระพุทธไลยาสน์เจ๊าทัตยี-เจดีย์โปตาทาวน์ -เทพทันใจ
สมาชิกหมายเลข 1293216
Do is on Myanmar [THAI Smile : Explore to the City of Gold Package] Part II
มิงกะลาบาครับ มาต่อกับตอนที่สองของทริปสักการะ 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ผ่าน 3 เมืองของประเทศเมียนมาร์กับไทยสมายล์กันครับ ตอนที่แล้วเราไปขอพรพระนั่งสี่ทิศที่เจดีย์ไจ๊ปุ่นที่ไม่ว่าจะทําอะไรแห่งหนใดจะพบแต่ค
DO is On The WAY
เปิดมติมหาเถรสมาคม สั่ง ‘พระอาจารย์ต้น’ แก้ไขแนวคิด-การเผยแพร่ ต้องยึดพระไตรปิฎก
มติมหาเถรสมาคม สั่งให้พระอาจารย์ต้นแก้ไขปรับปรุงวิธีการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนและแนวคิดต่างๆ ให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักวิชาการทางพระพุทธศาสนา พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และมติของบูรพาจารย์ ประเด็นที่
สมาชิกหมายเลข 7572607
รีวิวเที่ยวพม่าด้วยตนเอง 3 วัน 2 คืน >> อัพเดทล่าสุด พฤษภาคม 2567 >> พม่าไม่น่ากลัว >> Yangon on May 2024
รีวิวเที่ยวพม่าด้วยตนเอง 3 วัน 2 คืน >> อัพเดทล่าสุด พฤษภาคม 2567 >> พม่าไม่น่ากลัว >> Yangon on May 2024 กระทู้ที่ 3 ขอรีวิวและจะอัพเดทความเปลี่ยนแปลงให้ด้วยค่ะ เนื่องจากไปพม่ากฎร
สมาชิกหมายเลข 4917378
+++ มิงกาลาบา สักการะ 4 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ตอน 3 +++
ใครเสิร์ชมาเจอ รบกวนเข้าไปอ่านตาม link ด้านล่างครับ มิงกาลาบา สักการะ 4 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ตอน 1 เที่ยววัดในย่างกุ้งพร้อมเก็บหนึ่งมหาบูชา (เจดีย์ชเวดากอง) http://athlons.blogspot.com/2013/0
Athlons-Thunderbird
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สายการบิน
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยววัด
ประเทศพม่า
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2.1 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิวพม่า สักการะ 3 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชเวดากอง-ชเวมอดอร์-พระธาตุไจทีโย #นอกใจไทยแลนด์3D/2N #alongtheway
หลังจากการเปิดประเทศของพม่า หรือเมียนมาร์เมื่อกลางทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ชาวต่างชาติเข้าไปเที่ยวพม่าเพิ่มขึ้น และยังเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบก และทางทะเลในเชิงอุตสาหกรรมปิโตรเลียม รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โดยจุดขายสำคัญของประเทศนี้คือ สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นประเทศที่เคร่งในเรื่องศาสนามากประเทศหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็คือการถอดเกิบเข้าวัด
การเตรียมตัวเราก็จองที่พักไว้ทั้งสองคืนทั้งในย่างกุ้ง และบนไจทีโย รวมถึงติดต่อรถเช่าพร้อมผู้นำทางท้องถิ่น
การแลกเงินต้องเป็นแบงค์ใหม่เท่านั้น รอบนี้ไปแลกบริษัทสีเขียวที่สเปลล์-ฟิวเจอร์ใกล้ประตู B5 ที่จริงจะแลกเป็นเงินจ๊าด Ks ด้วยแต่สาขานี้ไม่มีต้องติดต่อก่อนล่วงหน้า เมื่อถึงคิวเลงแนะนำว่าให้แลกแบงค์ $100 เท่านั้น แต่เอาเข้าจริงขอให้เป็นแบงค์ใหม่รับหมด (ก็แบงค์ใหญ่ $50,$100 เรตแพงกว่า $10,$20 ถึง 10 สต.)
Day 1/3 ตื่นเช้ามาก็มุ่งหน้าไปดอนเมือง ผ่านตม.มาได้ก็หาเสบียงติดมือไปนิดหน่อยแล้วไปนั่งรอหน้าเกท ได้เวลาทะยานผ่านน่านฟ้าฝั่งตะวันตกของประเทศ ระหว่างนั้นก็กรอกฟอร์มตม.ขาเข้าประเทศพม่ารวมใบถึงฟอร์มเช็คทรัพย์สินเข้าประเทศอย่างเช่น อัญมณี หรือนำเงินมาเกิน $10,000 ต้องชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่ด่านตม. จากนั้นเหล็กลอยฟ้าก็ค่อยๆลดระดับเพดานบินลงมาจอดยังสนามบินมิงกาลาดง ณ.กรุงย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศพม่า ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาในการบินมาที่นี่พอๆกับยืนเข้าแถวรอตรวจเอกสารเข้าประเทศเลยทีเดียว เชื่อเหอะ! และเวลาที่พม่าจะช้ากว่าเมืองไทย 0.5 ชม.
เมื่อผ่านตม.มาได้ก็เจอไกด์ของเราชื่ออังกอร์ (AK) คนๆนี้เป็นที่รู้จักของคนไทยเพราะใช้บริการกันเยอะเท่าที่ดูในรีวิว บ้างก็เรียกอังโกะ จากนั้นก็ไปแลกตังค์จาก USD เป็น Ks เราลองยื่น $50 ก็แลกได้ต่างกับที่บริษัทแลกเงินที่สเปลล์บอกไว้ แล้วต่อด้วยซื้อซิม ที่พม่ามี 3 ค่ายหลัก คือ Ooredoo Telenor MPT แต่เราเลือก Ooredoo เพราะ AK แนะนำมา
จากนั้นก็เริ่มทริปนี้โดยจุดหมายแรกคือ เจดีย์เยเลพญา ที่ Thanlyin หรือ สิเรียมห่างจากย่างกุ้ง 45 km อดีตเคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิรวดีโดย AK พาเราไปที่นั่นโดยน้องแต๊กของเค้าใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไปสิเรียมชั่วโมงกว่าก็มาถึงหน้าท่าเรือ ซื้อดอกไม้ ซื้อตั๋วลงเรือ แล้วก็มาถึงเกาะกลางแม่น้ำเด็กเรือจะให้ถอดแตะไว้ในเรือ แล้วลงเรือไปไหว้สักการะพระจกบาตร หรือพระอุปคุป และชมบรรยากาศโดยรอบ นั่งเรือลำเดิมกลับมาฝั่งท่าเรือ แล้วมุ่งหน้ากลับมาในเมืองย่างกุ้ง
ก่อนข้ามฝั่งกลับมายังตัวเมืองย่างกุ้งก็ต้องข้ามแม่น้ำบาโกกันหน่อยเพื่อไปเจดีย์โบตาทาวน์ โดยทุกครั้งที่เข้ามายังบูชาสถานที่พม่าต้องถอดรองเท้า และจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมบูชาสถานสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่เจดีย์โบตาทาวน์แห่งนี้มี่โกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุ ประดิษฐานสถานไว้ใจกลางเจดีย์
หากเข้าไปด้านในตัวเจดีย์จะมีทางเดินทางเดียวเพื่อความเป็นระเบียบ ระหว่างทางจะมีผนังแผ่นทองคำกั้นด้วยกระจก และมีมุมนั่งฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
ทว่าเจดีย์แห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นที่รู้จักคือ นัตโบโบยี หรือเทพทันใจนั่นเอง
วิธีการไหว้เทพทันใจจะถวายด้วยมะพร้าว หรือกล้วยนากสีแดงและเงินบริจาค จากนั้นยกพานเครื่องไหว้อธิฐานแล้วนำธนบัตร 2 ใบม้วนแล้วใส่ไปที่อุ้งมือท่าน แล้วเข้าไปยืนให้หน้าผากของเราแตะกับนิ้วมือของท่าน แล้วอธิฐานขอพรเพียงข้อเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วก็ดึงธนบัตรกลับมา 1 ใบไว้เป็นเงินขวัญถุงโดยพับเก็บไว้ และAK ก็นำใบไม้มาให้เราเก็บไว้ร่วมกับธนบัตร ซึ่งAK บอกว่าเป็นใบไม้มงคลที่ชื่อ “ใบไม้แห่งชัยชนะ” ซึ่งท่านอองซานจะนำมาเหน็บที่เส้นผมด้วย
หากข้ามมาอีกฟากของถนนก็จะเป็น"เทพกระซิบ"สังเกตเห็นบางอย่างสีแดงๆ บนผิวถนนเมื่อจอดติดไฟแดงอยู่ที่แยกซึ่งนั่นก็คือ “น้ำหมาก” นั่นเองระหว่างทางก็เจอรถบัสคันซึ่งไม่จอดรับผู้โดยสารเหมือนแท็กซี่ไทยที่บอกว่าแก๊สจะหมด จะรีบไปส่งรถ แต่ต่างคนก็มีเหตุผลในสิ่งที่ทำลงไปเสมอ!
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เจดีย์สุเล่ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้งคล้ายกับจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ศูนย์เหมือนอนุสาวรีย์ชัยฯบ้านเรา บริเวณใกล้กันก็มีอนุสรณ์สถานกลางสวนอีกด้วย รวมถึงโบสถ์คริสตจักร และอาคารสถานที่ราชการในแบบอังกฤษ และที่ย่างกุ้งอดีตเมืองหลวงแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้ขับมอเตอร์ไซด์ในเมืองนี้เลยอากาศวันนี้ร้อนมากสถานีต่อไปเลยให้พี่อังกอร์พาไปนั่งกินกาแฟเย็นที่ทะเลสาบกันดอร์จี
แล้วไปสักการะพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตยี หรือพระตาหวาน ดวงตาของท่านเป็นแก้ว โดยเฉพาะเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ จึงกลายเป็นพระนอนที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในพม่า และบริเวณพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการแล้วแวะมาอีกฟากถนนไม่ห่างกันมากจะเป็นหลวงพ่องาทัตยี แกะสลักจากหินอ่อนขนาดใหญ่ ประดับด้วยเครื่องประดับที่ทำมาจากโลหะสีทองลวดลายละเอียดงดงาม มีฉากหลังเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ตั้งอยู่ภายในอาคารโครงเหล็กในวัดงาทัตยี
ตกเย็นหลังจาก CI เข้าที่พักเสร็จก็เดินไปสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า โดยเชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมพระมหาเจดีย์แห่งนี้คือช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก
รวมถึงไฮไลท์การชมจากดาดฟ้าที่พักก็สวยไปอีกแบบ
Day 2/3 พี่อังกอร์ก็มารับที่โรงแรมตามเวลานัดหมายเพื่อเดินทางขึ้นเหนือไปเมืองบาโก ที่เรารู้จักกันอีกชื่อคือ เมืองหงสาวดี และปลายทางของวันนี้อยู่ที่หมู่บ้านบนเขาที่ชื่อ “ไจทีโย” ระหว่างทางก็แวะที่สุสานของทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
อีกที่ซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกลกำลังสร้างอยู่ และน่าจะเป็นบัสสต๊อปสำหรับนักท่องเที่ยวอีกไม่นาน
ระหว่างทางก็มองดูความวุ่นวายอย่างลงตัวของประเทศนี้ก็เพราะเลนรถบ้านเค้าจะสลับกับไทยเราโดยใช้เลนขวาเป็นหลัก แต่!!!!!!!รถบ้านเค้ามีพวงมาลัยอยู่ทั้งทางซ้าย และขวา เนื่องจากรถยนต์ส่วนใหญ่เกินครึ่งหนึ่งของรถที่ใช้ในประเทศเป็นรถมือสองที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น พวงมาลัยจึงอยู่ด้านขวาเหมือนไทย แต่ขับเลนขวา…แปลกที่สุดในอาเซียน ลองนึกถึงคนที่เป็นกระเป๋ารถเมล์ซึ่งรถเมล์คันนี้มีพวงมาลัยด้านขวา แล้วเด็กเก็บตังค์ต้องเรียกลูกค้ารายทางอย่างทุลักทุเล เห็นแล้วบอกเลยเป็นความวุ่นวายที่ลงตัวจริงๆ
เดินทางต่อมาจนถึงเจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยรอบทั้ง 4 ทิศ ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดม สัมมาสมพุทธเจ้า (ทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้า ในอดีต 3 พระองค์คือ 1.พระพุทธเจ้า โกนาคมโน (ทิศใต้) 2.พระพุทธเจ้า กกุสันโธ (ทิศตะวันออก) 3.พระพุทธเจ้า มหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) ด้วยความที่ว่าเป็นพุทธสถานที่สร้างโดยผู้หญิง ทำให้รายละเอียดต่างๆ ดูอ่อนช้อย และงดงาม ขนาดประตูทางเข้าที่นี่ยังเป็นสีชมพู ที่เมืองบาโกแห่งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวคนละ 10,000 Ks จ่ายครั้งเดียวเที่ยวได้ 4 ที่คือเจดีย์ไจ๊ปุ่น เจดีย์ชเวมอดอร์ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว และวังบุเรงนอง
และหากต้องการจะซื้อระฆังเพื่อไปแขวนที่พระธาตุอินทร์แขวนก็จะแนะนำให้ซื้อที่นี่จะถูกกว่าด้านบน
ก่อนถึงตัวเมืองนั่งคุยกับอังกอร์ได้ความว่าในอดีตเมืองบาโกแห่งนี้ และมัณฑะเลย์เป็นเมืองที่ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะหลัก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น