กรมการขนส่งทางบกลุยยกเลิกใช้ป้ายแดงปี 60 หวังแก้ปัญหาใช้รถไม่จดทะเบียน จนรัฐขาดรายได้ และนำไปใช้ก่ออาชญากรรม เผยขั้นตอนการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายต้องนำเสนอ ครม. เพื่อเห็นชอบก่อนดำเนินการตามขั้นตอนการออกกฎหมาย พร้อมลุยถก ผู้ผลิตรถดีลเลอร์ ไฟแนนซ์ หาช่องซื้อรถปุ๊บได้ทะเบียนปั๊บ

“รถป้ายแดง” จะกลายเป็นตำนานในอีกปีสองปีข้างหน้านี้แล้ว ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้แถลงว่า ขณะนี้กรมขนส่งทางบกกำลังเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย โดยรวม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 เป็นฉบับเดียวกัน เพื่อผลักดันให้มีการยกเลิกการใช้ทะเบียนรถยนต์ป้ายแดงโดยเร็วที่สุด ขณะนี้ร่างแก้ไขกฎหมายอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจร่างจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากผ่านก็จะมีการเสนอให้ ครม.ให้ความเห็นชอบ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาออกเป็นกฎหมายโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป คาดว่ากระบวนกฎหมายทั้งหมดจะเสร็จสิ้น และยกเลิกการใช้ป้ายแดงในปี 60

“ปัจจุบันกรมขนส่งทางบกมีการอนุญาตให้ใช้ป้ายแดง 163,200 ป้าย เพื่อใช้หมุนเวียนกัน แต่ตอนนี้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะกรมยังไม่เลิกใช้ป้ายแดงทันที โดยอยู่ในช่วงมีแนวคิดและแก้ไขกฎหมายอยู่ ต้องอาศัยเวลาอีกระยะหนึ่ง หากมีการผ่านกฎหมายก็ต้องมีการออกกฎหมายลูกเพื่อบังคับใช้อีกและจะมีการแจ้งให้รู้ล่วงหน้า ที่สำคัญหากมีการยกเลิกป้ายแดงแล้ว กรมจะกำหนด ขั้นตอนจดทะเบียนรถใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนรับรถยนต์ที่ซื้อ พร้อมได้ใบคู่มือจดทะเบียน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและแผ่นป้ายทะเบียนไปในคราวเดียวกัน” นายธีระพงษ์กล่าว

อธิบดีกรมการขนส่งกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ขนส่งทางบก ขอยกเลิกใช้ป้ายแดง เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้ป้ายแดงผิดวัตถุประสงค์จำนวนมาก โดยกฎหมายเดิมบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2473 ระบุให้กรมการขนส่งทางบกออกป้ายแดงให้ใช้เฉพาะเป็นเครื่องหมายพิเศษแก่บริษัทจำหน่ายรถ นำไปใช้ติดรถเพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าหรือนำรถไปซ่อมแซม และใช้ได้ช่วงหลังพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมกับต้องมีสมุดคู่มือประจำรถและใบอนุญาตให้ใช้รถ แต่ขณะนี้กลับมีการนำรถป้ายแดงมาใช้ โดยไม่จด ทะเบียนและเสียภาษีประจำปีให้ถูกต้อง บางรายใช้ป้ายแดงนานหลายเดือน เกินกว่ากำหนด 30 วัน เพื่อต้องการแสดงความโก้เก๋ว่าเป็นรถใหม่ หรือเพื่อรอการขอสินเชื่อ หรือเพื่อรอหมายเลขทะเบียนประมูล หรือรอหมวดตัวอักษรที่ชื่นชอบ โดยการกระทำแบบนี้นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีรถประจำปี และยากต่อการติดตามตรวจสอบกรณีรถสูญหายหรือนำไปก่ออาชญากรรมด้วย

นายธีระพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างรอการพิจารณาทางกฎหมาย ขนส่งทางบกจะหารือร่วมกับบริษัทผู้จำหน่ายรถ ตัวแทนจำหน่ายรถ (ดีลเลอร์) สถาบันการให้สินเชื่อรถยนต์ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณารายละเอียดแนวทางในการจดทะเบียนรถใหม่ รวมถึงกำหนดแนวทางการใช้เครื่องหมายแสดงการใช้รถระหว่างการขนย้ายกรณีพิเศษ โดยเฉพาะกรณีที่ต้องใช้รถ เพื่อจัดส่งไปยังผู้แทนจำหน่ายรถ ผู้ซื้อรถ หรือสถานที่ที่รอการส่งรถ ที่ไม่สามารถขนส่งโดยใช้รถบรรทุกรถได้ เช่น แชซซีรถโดยสารหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือรถเฉพาะกิจที่ติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่

“กรมขนส่งทางบกยืนยันว่าจะพิจารณาขั้นตอนอย่างรอบคอบ เพื่อให้กฎหมายและแนวทางปฏิบัติมีความชัดเจน ไม่สร้างความสับสนให้แก่ประชาชน และหากการแก้ไขกฎหมายเสร็จ และมีผลใช้บังคับจะสามารถแก้ไขปัญหาการใช้รถผิดกฎหมายไม่จด ทะเบียนและมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีรถประจำปี และป้องกันปัญหานำรถไปก่ออาชญากรรมแล้วหลบหนี” อธิบดีกรมการขนส่งกล่าว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.thairath.co.th/content/511975