คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
เราว่าคนเรามันมีหลายมุมในตัวเองมากนะแต่สมัยรุกกี้ ปีก่อนและปีนี้ สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนไป ด้านที่เคยเห็นพอได้ออกสื่อเพิ่มขึ้น มันเลยได้เห็นหลายมุมมากขึ้น จากเมื่อก่อนเห็นยิ้มเก่ง ยิ้มง่ายยิ้มบ่อยเพราะตารางงานมันไม่ได้แพ็คขนาดนี้ ได้กินอิ่มนอนหลับเป็นเวลามากกว่า ที่สำคัญขนาดแจฮยอนไม่ใช่เมนเราก็ยังพอดูออกว่า มีอะไรน้องแสดงออกทางสีหน้าชัดพอสมควร จะดีใจ เสียใจ จะง่วง จะเบะจะบึ้ง จะหลับ (ดูตอนงานรับรางวัลมาม่าปลายปี) คือชัดมากเป็นคนแสดงออกอารมณ์ผ่านทางสีหน้าเกือบทั้งหมดแค่ไม่พูดออกมาโต้งๆ คือเก็บสีหน้าไม่เก่งแต่เป็นพวกพูดน้อยต่อยหนัก(แบบมีมารยาท) น้องแจเป็นคนนึงที่เราจะชอบฟังเค้าคุย เล่าเรื่องตัวเอง วิธีคิด อะไรที่ชอบ สนใจ ใส่ใจอะไรจะย้ำบ่อยๆ คำพูดกับการกระทำน้องตรงกันมากค่ะ อะไรไม่อยากตอบน้องจะเลี่ยงไม่ก็ไม่ตอบเท่าที่สังเกตนะ แต่ถ้าตอบนะ โอยยยย ถ้าเป็นคำตอบที่อยากฟังก็ดีไป ถ้าไม่อยากก็ 55555555555
อีกอย่างคือ ความคาดหวังต่างหากที่ทำให้รู้สึกว่าน้องเปลี่ยนไปรึเปล่า ถ้าเอาให้เห็นภาพ ใกล้ตัวอีกนิด เราขอยกแค่แทยง แจฮยอน มาร์คนะคะเพราะคู่อื่นไม่ได้ตาม
อาจจะคล้ายๆ กับที่แทยงคิดว่าน้องมาร์คเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลาทั้งที่ความจริงน้องโตมาก ไม่ยอมให้หอมแก้มเหมือนเดิม ไม่ก็นี่เลยเจ้าตัวตรงๆ ล่าสุด ที่แทยงออกมาเขียน Rolling paper ถึงแจว่า คิดว่าเข้าใจน้องดีที่สุดในวงแต่จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นที่เค้าคิดเองเออ เองก็ได้ นี่ขนาดแทยงนะ ที่เออ คงใกล้กว่าแฟนๆ อย่างเราแบบคูณร้อยเท่า คือนังรักน้องชายคนนี้ม๊ากกกก มากกจนเมนแทยงแบบโอนลี่แทยงต้องสัมผัสได้ ส่วนแจฮยอนนี่ต้องสังเกตอย่างที่บอกแต่แรก น้องมีมารยาทดีเข้าได้กับทุกคนแแหละ
ทั้งหมดคือความคาดหวัง ว่าทั้งหมดจะเป็นอย่างที่ตัวเองคิด ทั้งที่น้องก็อาจเป็นคนอย่างนั้นแต่แรกแต่เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กฝึกก็คงไม่ได้อยู่ใกล้กันเท่าตอนเดบิวที่ต้องย้ายมาอยู่หอร่วมกัน เจอหน้าเช้า กลางวัน เย็นวนไป
อีกอย่าง คนเราเนี่ย ยิ่งคลุกคลีกันถ้ายิ่งคลิกกันด้วย ความคาดหวังเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณอยู่แล้ว ยิ่งเป็นพวกเรียกร้องแบบแทยงด้วยนะ เออ จัดไปยาวๆ น้องบอกเองว่าชอบสกินชิปมากแต่พอเป็นลีดเดอร์ต้องเปลี่ยนบุคลิกยิ่งช่วงเดแรกๆ ที่มี หกเจ็ดคนโดนด่ากระหน่ำคงผ่านช่วงเวลานั้นค่อนข้างลำบาก น้องแจช่วยนังมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่ยังไม่มีโดยอง (น้องที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิท ให้ฟังเพลงที่นังแต่ง แล้วร้องไห้ด้วย) กับจอห์นนี่ (เพื่อนสนิทที่ไปงานจบการศึกษา/งานแต่งงานพี่สาว/เพื่อนที่อยากพาไปติดเกาะด้วย ถ้าเหลืออยู่คนเดียวจะเลือกใคร ) เข้ามา เสริม บางอย่างต้องคนชาติเดียวกันถึงจะรับรู้ความกดดันช่วงนั้น
แต่จะว่าไป พ้อยต์ของแทยงที่มีต่อมาร์คกับแจฮยอนต่างกันหน่อย กับน้องมาร์คเนี่ย ฟีลแบบใจหาย น้องโตมากไม่ยอมให้สกินชิปแบบเดิมแล้ว น่าจะใกล้เคียงกับเหตุการณ์ตอนนี้มากกว่า เออ น้องเปลี่ยนไปอ้ะ ซึ่งจริงๆ ก็ควรเปลี่ยน สงสารน้องมาร์คถ้านังยังจุ๊บออกสื่ออีก กับมาร์คนี่ออกแนวใจหายนิดๆ น้องโตแล้ว ต้องปล่อย ก็บ่นงุ้งงิ้งตามประสาคนขี้บ่น แต่ดูแล้วนังก็ไม่ได้แคร์นะ ยังคงคอนเซปต์หาโอกาสจุ๊บอยู่ดี 555555
แต่กับแจฮยอนเนี่ยไม่รู้อะไรยังไง แต่เราสังเกตว่านี่ล่ะ น้องรักคนนึงของนางเลย แต่คนละแบบกับมาร์คนะคะ แทยงจะไม่ใช่สไตล์พูดหวานแบบน้องแจ แต่จะใส่ใจทุกดีเทล เป็นคนละเอียดแล้วก็ค่อนข้างระวังความรู้สึกของน้องแจ มากพอสมควร แทยงเป็นเด็กซนๆ อ้ะ บางที ทำอะไรก็ ทำ โพล่งออกมาไม่สนใจอะไรก็มี ขึ้นกับความไฮเปอร์ช่วงนั้น อย่างตอนแนะนำให้เพื่อน พูดถึงน้องว่า pink pig แล้วแทยงรีบบอกแจฮยอนทันทีว่า พี่ขอโทษอ้ะที่พูดแบบนี้ งงกับนาง ไม่เข้าใจ หมูชมพูน่ารักจะตายยย แต่แจก็รีบบอกไม่เป็นไร ตบๆ พี่ทันที คือแจฮยอนนี่ไม่ใช่คนโกรธใครง่ายๆ เมมเบอร์ในวงก็เคยบอก ไม่พอใจอาจใช่ แต่ไม่ใช่คนเกรี้ยวกราด ตอน Rolling Paper ก็เหมือนกัน
แวบแรกอ่านตัวเกาผ่านๆ ก็อ้าว น้องแจเปลี่ยนไปเหรอ แต่พออ่านซ้ำกับการเขียนวนไปวนมาของเมนตัวเอง เอิ่ม คือพี่คะ พี่แมวต้องการอะไร ขนาดไหนเท่าไหร่จากน้องมันอีกอ้ะคะ คือน้องเค้าไม่เหมือนเธอ ที่บอกน้องทุกเรื่องตั้งแต่สะกดไฟต์ติ้งไม่เป็นยันบ่นกลางเวที หรือไปท้าวขา เล่นเกมส์จ้องตาน้องตอนซ้อม เหมือนคุยอะไรสักอย่างให้เคลียร์ กลับมาก็ยังจ้องอยู่เลย (คงคิดว่าไม่มีใครถ่ายได้สินะ จัดซะเต็ม) สรุปคือคนมีปัญหาอาจไม่ใช่ที่น้องก็ได้ เอาจริงๆ พี่น้องคลานตามมาแท้ๆ ก็ยังไม่เข้าใจกันทุกเรื่องเลยจ้าาา
จากข้อความคร่าวๆ มีฟีลนอยด์ตัวเองว่าทำไมไม่รู้ว่าน้องคิดอะไรยังไงมากกว่า อาจไม่ได้ดูง่ายเหมือนสมัยเด็กๆ ตอนเทรนล่ะมั้ง แต่ในทางกลับกันน้องดันดูตัวเองออกหมดจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นก่อนอื่นเลยนะ ถ้าคิดว่าอยากจะเข้าใจน้องมากที่สุดอย่างที่เขียนใน Rolling paper พี่แมวควรกลับไปอ่านก่อนว่าแจฮยอนเขียนถึงตัวเองว่าอะไร โดยส่วนตัวเราชอบ rolling paper มากค่ะเพราะน้องแต่ละคนมีเวลาได้คิดได้เขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากบอก แล้วให้เมมเบอร์แต่ละคนมาทายกันว่าใครเขียนว่าอะไร ซึ่งจากปสก สคริปต์จะทำออกมาได้ยากกว่าปกติ เพราะ ความไม่รู้ มันคือจุดขายของเกมส์นี้ และไม่ถูกชี้นำด้วยคำถามใดๆ จากคนสัมภาษณ์
แต่ทั้งหมดต้นเหตุเกิดจากความคาดหวังที่ต้องการจะให้อีกฝ่ายเป็นอย่างที่ตัวเองคิด แล้วก็ให้ความสำคัญกับฝ่ายตรงข้ามเป็นพิเศษ แบบพี่น้องนะ คือ ก่อนหน้าที่จะรู้ว่าแต่ละคนเขียนถึงกันว่าอะไร แฟนแอคของแจฮยอนกับแทยงออกมาช้าสุด แล้วมีผิดคิวกันเล็กน้อยกับการแปล ซึ่งตอนแรก เราโอเคกว่ามากถ้าข้อความที่แทยงเขียนถึง มันไม่ได้เขียนถึงแจฮยอน เพราะมันออกแนวๆ ให้ไปแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้สนใจเหมือนกำลังอ่านฟิคสักเรื่อง แต่ดันเป็นเรื่องจริงออกสื่อเพราะถ้าอ่านในส่วนของแทยงถึงน้องมันดูวนๆ งงๆ หน่วงๆ ประมาณนี้จริงๆ พอเห็นข้อความของแจฮยอนตอบถึงพี่นาง นี่เออ โอเคเลย รู้ล่ะ มันมีคนเยอะกว่าอยู่แถวนี้แหละ
แต่ส่วนตัวเราว่าแทยงเรียกร้องจากแจฮยอนเกินเบอร์มากกว่า แจฮยอนนี่สุดยอดของความเทคแคร์แล้วตั้งแต่โมเม้นต์ส่งขวดน้ำวุ่นวายในงานประกาศรางวัล ตามช่วยตลอดที่สนามบิน ถือนั่นโน่นนี่ให้ กวักมือดุ๊กดิ๊กเรียกให้มาต้องมาด้วยเหอะ นี่แม่หรือพี่ 5555
กลับมาที่เจ้าตัว เพราะเป็นตัวอย่างที่ดีสุด และเห็นชัดๆ กับเหตุการณ์ล่าสุด ที่ผ่านไปไม่กี่วัน แต่เดาว่า แทยงสะสม?? มาสักพักแล้ว พอไม่เป็นด้วยความที่ไม่ใช่คนที่คิดจะเก็บ พอครบรอบหนึ่งปีก็จัดเต็มใส่แจฮยอนซะเลยตรงๆ ฟ้องออกสื่อเลย
แต่ของพวกเราทำไม่ได้เหมือนแทยงก็มานั่งตั้งกระทู้สงสัยกันนี่แหละ ว่าสรุปน้องเปลี่ยนไปจริงไหม ก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน
ส่วนของแทยงเนี่ย แจฮยอนมีคำตอบให้แล้ว ตลกตรงที่น้องรู้น่ะ รู้ทุกอย่างว่าใครคิดยังไงกับตัวเองไม่งั้นคงไม่เขียนตอบออกมาชนกันพอดี เหมือนรอจะบอกอยู่แล้วเหมือนกันแนวๆ ถามกลับไปว่าพี่ต้องรู้สิ ไม่รู้เหรอว่า..............อะไรก็ว่าไป บลาๆๆๆๆๆ แต่คาดว่าคนพี่อาจจะรู้หรือไม่รู้ หรืออะไรของนางอยู่ ผลที่ตามมาคือจากที่ติดกันเป็นตังเมตั้งแต่สมัยรุกกี้อยู่แล้ว คราวนี้เลยมีโมเม้นต์หนักหน่วงมาก มาทั้งภาพเสียงจน เฮ้ยยย ใจเย็นนนนนนนนน
คือน้องแจฮยอนจะคอนเฟิร์มให้พี่นางหายฟุ้งซ่าน ถูกมะ!? แต่หารู้ไม่ว่าคนที่จะฟุ้งแทนไม่ใช่แทยง กลับเป็นคนนั่งตามอ่าน ตามดูนี่แหละ นึกว่าจะหมดแล้ว ยังได้ต่ออีก มีระแวงต่อด้วย ใครผ่านช่วงลิมิตเลสมา งงกันเป็นแถบๆ สองคนนี้ผีเข้าเหรอ
แต่คนที่กล้าแหย่แทยงจนเม้งออกสื่อ จนมีสบถเบาๆ ชักสีหน้ามาเต็มนี่เพิ่งเห็นกะตาคนเดียวนะ น้องชายสุดที่รักของนางนี่แหละ
น้องที่สุภาพมาก ไม่พูดขัดใครตรงๆ ออกสื่อ ตอบอะไรชอบเหมารวม จะได้ไม่โดนจับกับคู่ชิปไปทั่ว แต่อย่าให้แจฮยอนเป็นคนเริ่มพูดก่อนล่ะกัน เตรียมเก็บศพคนแถวนี้ได้เลย แทยงก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน
พิมพ์ไปก็ชักหมั่นไส้ + อิจฉาแจ (ไม่หน่อยล่ะ) ทำไมเมนเราถึงอะไรกับน้องเบอร์นั้นว้า แต่เอาจริงคนน้องก็ไม่เบาหรอก ตามทวงเครดิตตลอด คือต้องมีส่วนร่วมด้วยถ้าเป็นเรื่องของพี่น่ะ พูดง่ายๆ เป็นความสัมพันธ์แบบให้ไปให้กลับเต็มที่ทั้งคู่ ให้แล้วเรียกร้องเอาคืนด้วย
ดังนั้นในทุกกรณี ทุกๆ ความสัมพันธ์ คนมีปัญหาคือคนที่คาดหวังมากกว่าเสมอถ้าอีกฝ่ายมีรีแอคชั่นตอบกลับก็ดีไป ถ้าไม่ใช่อย่างที่ตัวเองต้องการมันก็จะหน่วงๆ อึนๆ แบบที่แทยงเป็นตอนแรก อันนี้ไม่ได้หมายถึงแค่สองคนนี้นะ แต่หมายถึงทั่วไปด้วยรวมถึงกองเชียร์ที่คอยลุ้นโมเม้นต์ต่างๆ ด้วยที่เชียร์คู่ชิปตัวเอง
ถ้าหมายถึงมาร์ค ก็ควรล่ะ น้อง swag boy ม๊ากกกก หนุ่มเว่อร์ สาวกรี๊ดตรึม คงยอมยากเหมือนตอนเต้น รีเพลย์สมัยนู้นล่ะ แต่กับแจฮยอน ถ้าไม่นับเรื่องทางกายภาพ น้องก็เป็นน้องเหมือนเดิม นิ่งบ้างไม่นิ่งบ้างแล้วแต่อารมณ์ ซึ่งงานช่วงนี้มันก็ไม่เอื้อให้อารมณ์ดีเท่าไหร่นะ
ส่วนคนอื่นต้องถามเมนคนอื่นค่ะ เราไม่ได้ตามเยอะก็พูดแค่ส่วนที่มองแล้วกัน มองโดยยึดแทยงเป็นหลัก ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เข้าใจได้ดีเท่าเมนแจฮยอนมอง
แต่นี่ว่าน้องอาจจะไม่ติดสกินชิปเหมือนปีก่อน ที่สกินกับหลายคนเยอะจริงๆ แต่ต้องดูไปเรื่อยๆ ว่าจะเหมือนเดิมไหม แล้วอีกอย่างคิดว่าน้องค่อนข้างเป็นเด็กไว้ตัวค่ะ ด้วยความที่เป็นหนุ่มป๊อปตั้งแต่เด็กด้วยมั้ง เลยไม่ค่อยอะไรกับคำชมง่ายๆ อย่างที่จอห์นนี่บอกแหละว่า แจฮยอนไม่ใช่เด็กที่จะเชื่อใจใครง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ได้เอง แต่บางครั้งมารยาทและหน้าที่ก็ต้องทำให้ปรับตัวกันไป โลกวงการบันเทิงมันก็แบบนี้แหละ
ถ้าไม่นับว่าหล่อขึ้น เพิร์ฟร้อง เต้นดีขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้นแจฮยอนก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมายขนาดนั้นในสายตาเรา
ก็ยังเป็นน้องแจที่มีมารยาท เว้นระยะห่างกับแฟนคลับได้ชัดเจน และให้ความสำคัญกับคนที่น้องรู้สึกดีเหมือนเดิม เยอะแยะเลยในวงน่ะ
ในบรรดา nct ทั้งหมดเราว่าแจฮยอนเป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองมากที่สุดแล้ว ตรงแค่ไหนก็ดูนังจะแทะเปลือกแตงโมต่อหน้ากล้องแล้วกันนะ แล้วก็เป็นเด็กยิ้มสวยจริงๆ ยิ้มแบบออกมาจากใจน่ะ แต่ถ้าไม่คิดจะยิ้มก็ไม่ยิ้มเลย
รูปตอนเด็กมองดอกไม้ ชอบของสวยๆ งามๆ ชอบกลิ่นหอม ติดกลิ่นเหมือนติดเทียนหอมล่ะมั้ง
ตอนถ่ายโฟโต้ชู้ต Cherry Bomb ไม่รู้ว่ามองอะไรเพราะภาพตัด แต่เป็นรอยยิ้มที่คล้ายกับตอนน้องยังเด็กมากๆ
ตอนทำอาหาร
ตอนทำรายการวิทยุกับจอห์นนี่
ตอนวิ่งไปหาพี่
ตอนเม้าท์แตกกับวินวิน เพื่อนซี้ 97 ไลน์ของนุ้ง
กับโดยองตอนเป็นเอ็มซี
วันเกิดกับพี่ๆ ที่รายการวิทยุ
อีกอย่างคือ ความคาดหวังต่างหากที่ทำให้รู้สึกว่าน้องเปลี่ยนไปรึเปล่า ถ้าเอาให้เห็นภาพ ใกล้ตัวอีกนิด เราขอยกแค่แทยง แจฮยอน มาร์คนะคะเพราะคู่อื่นไม่ได้ตาม
อาจจะคล้ายๆ กับที่แทยงคิดว่าน้องมาร์คเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลาทั้งที่ความจริงน้องโตมาก ไม่ยอมให้หอมแก้มเหมือนเดิม ไม่ก็นี่เลยเจ้าตัวตรงๆ ล่าสุด ที่แทยงออกมาเขียน Rolling paper ถึงแจว่า คิดว่าเข้าใจน้องดีที่สุดในวงแต่จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นที่เค้าคิดเองเออ เองก็ได้ นี่ขนาดแทยงนะ ที่เออ คงใกล้กว่าแฟนๆ อย่างเราแบบคูณร้อยเท่า คือนังรักน้องชายคนนี้ม๊ากกกก มากกจนเมนแทยงแบบโอนลี่แทยงต้องสัมผัสได้ ส่วนแจฮยอนนี่ต้องสังเกตอย่างที่บอกแต่แรก น้องมีมารยาทดีเข้าได้กับทุกคนแแหละ
ทั้งหมดคือความคาดหวัง ว่าทั้งหมดจะเป็นอย่างที่ตัวเองคิด ทั้งที่น้องก็อาจเป็นคนอย่างนั้นแต่แรกแต่เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กฝึกก็คงไม่ได้อยู่ใกล้กันเท่าตอนเดบิวที่ต้องย้ายมาอยู่หอร่วมกัน เจอหน้าเช้า กลางวัน เย็นวนไป
อีกอย่าง คนเราเนี่ย ยิ่งคลุกคลีกันถ้ายิ่งคลิกกันด้วย ความคาดหวังเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณอยู่แล้ว ยิ่งเป็นพวกเรียกร้องแบบแทยงด้วยนะ เออ จัดไปยาวๆ น้องบอกเองว่าชอบสกินชิปมากแต่พอเป็นลีดเดอร์ต้องเปลี่ยนบุคลิกยิ่งช่วงเดแรกๆ ที่มี หกเจ็ดคนโดนด่ากระหน่ำคงผ่านช่วงเวลานั้นค่อนข้างลำบาก น้องแจช่วยนังมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่ยังไม่มีโดยอง (น้องที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิท ให้ฟังเพลงที่นังแต่ง แล้วร้องไห้ด้วย) กับจอห์นนี่ (เพื่อนสนิทที่ไปงานจบการศึกษา/งานแต่งงานพี่สาว/เพื่อนที่อยากพาไปติดเกาะด้วย ถ้าเหลืออยู่คนเดียวจะเลือกใคร ) เข้ามา เสริม บางอย่างต้องคนชาติเดียวกันถึงจะรับรู้ความกดดันช่วงนั้น
แต่จะว่าไป พ้อยต์ของแทยงที่มีต่อมาร์คกับแจฮยอนต่างกันหน่อย กับน้องมาร์คเนี่ย ฟีลแบบใจหาย น้องโตมากไม่ยอมให้สกินชิปแบบเดิมแล้ว น่าจะใกล้เคียงกับเหตุการณ์ตอนนี้มากกว่า เออ น้องเปลี่ยนไปอ้ะ ซึ่งจริงๆ ก็ควรเปลี่ยน สงสารน้องมาร์คถ้านังยังจุ๊บออกสื่ออีก กับมาร์คนี่ออกแนวใจหายนิดๆ น้องโตแล้ว ต้องปล่อย ก็บ่นงุ้งงิ้งตามประสาคนขี้บ่น แต่ดูแล้วนังก็ไม่ได้แคร์นะ ยังคงคอนเซปต์หาโอกาสจุ๊บอยู่ดี 555555
แต่กับแจฮยอนเนี่ยไม่รู้อะไรยังไง แต่เราสังเกตว่านี่ล่ะ น้องรักคนนึงของนางเลย แต่คนละแบบกับมาร์คนะคะ แทยงจะไม่ใช่สไตล์พูดหวานแบบน้องแจ แต่จะใส่ใจทุกดีเทล เป็นคนละเอียดแล้วก็ค่อนข้างระวังความรู้สึกของน้องแจ มากพอสมควร แทยงเป็นเด็กซนๆ อ้ะ บางที ทำอะไรก็ ทำ โพล่งออกมาไม่สนใจอะไรก็มี ขึ้นกับความไฮเปอร์ช่วงนั้น อย่างตอนแนะนำให้เพื่อน พูดถึงน้องว่า pink pig แล้วแทยงรีบบอกแจฮยอนทันทีว่า พี่ขอโทษอ้ะที่พูดแบบนี้ งงกับนาง ไม่เข้าใจ หมูชมพูน่ารักจะตายยย แต่แจก็รีบบอกไม่เป็นไร ตบๆ พี่ทันที คือแจฮยอนนี่ไม่ใช่คนโกรธใครง่ายๆ เมมเบอร์ในวงก็เคยบอก ไม่พอใจอาจใช่ แต่ไม่ใช่คนเกรี้ยวกราด ตอน Rolling Paper ก็เหมือนกัน
แวบแรกอ่านตัวเกาผ่านๆ ก็อ้าว น้องแจเปลี่ยนไปเหรอ แต่พออ่านซ้ำกับการเขียนวนไปวนมาของเมนตัวเอง เอิ่ม คือพี่คะ พี่แมวต้องการอะไร ขนาดไหนเท่าไหร่จากน้องมันอีกอ้ะคะ คือน้องเค้าไม่เหมือนเธอ ที่บอกน้องทุกเรื่องตั้งแต่สะกดไฟต์ติ้งไม่เป็นยันบ่นกลางเวที หรือไปท้าวขา เล่นเกมส์จ้องตาน้องตอนซ้อม เหมือนคุยอะไรสักอย่างให้เคลียร์ กลับมาก็ยังจ้องอยู่เลย (คงคิดว่าไม่มีใครถ่ายได้สินะ จัดซะเต็ม) สรุปคือคนมีปัญหาอาจไม่ใช่ที่น้องก็ได้ เอาจริงๆ พี่น้องคลานตามมาแท้ๆ ก็ยังไม่เข้าใจกันทุกเรื่องเลยจ้าาา
จากข้อความคร่าวๆ มีฟีลนอยด์ตัวเองว่าทำไมไม่รู้ว่าน้องคิดอะไรยังไงมากกว่า อาจไม่ได้ดูง่ายเหมือนสมัยเด็กๆ ตอนเทรนล่ะมั้ง แต่ในทางกลับกันน้องดันดูตัวเองออกหมดจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นก่อนอื่นเลยนะ ถ้าคิดว่าอยากจะเข้าใจน้องมากที่สุดอย่างที่เขียนใน Rolling paper พี่แมวควรกลับไปอ่านก่อนว่าแจฮยอนเขียนถึงตัวเองว่าอะไร โดยส่วนตัวเราชอบ rolling paper มากค่ะเพราะน้องแต่ละคนมีเวลาได้คิดได้เขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากบอก แล้วให้เมมเบอร์แต่ละคนมาทายกันว่าใครเขียนว่าอะไร ซึ่งจากปสก สคริปต์จะทำออกมาได้ยากกว่าปกติ เพราะ ความไม่รู้ มันคือจุดขายของเกมส์นี้ และไม่ถูกชี้นำด้วยคำถามใดๆ จากคนสัมภาษณ์
แต่ทั้งหมดต้นเหตุเกิดจากความคาดหวังที่ต้องการจะให้อีกฝ่ายเป็นอย่างที่ตัวเองคิด แล้วก็ให้ความสำคัญกับฝ่ายตรงข้ามเป็นพิเศษ แบบพี่น้องนะ คือ ก่อนหน้าที่จะรู้ว่าแต่ละคนเขียนถึงกันว่าอะไร แฟนแอคของแจฮยอนกับแทยงออกมาช้าสุด แล้วมีผิดคิวกันเล็กน้อยกับการแปล ซึ่งตอนแรก เราโอเคกว่ามากถ้าข้อความที่แทยงเขียนถึง มันไม่ได้เขียนถึงแจฮยอน เพราะมันออกแนวๆ ให้ไปแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้สนใจเหมือนกำลังอ่านฟิคสักเรื่อง แต่ดันเป็นเรื่องจริงออกสื่อเพราะถ้าอ่านในส่วนของแทยงถึงน้องมันดูวนๆ งงๆ หน่วงๆ ประมาณนี้จริงๆ พอเห็นข้อความของแจฮยอนตอบถึงพี่นาง นี่เออ โอเคเลย รู้ล่ะ มันมีคนเยอะกว่าอยู่แถวนี้แหละ
แต่ส่วนตัวเราว่าแทยงเรียกร้องจากแจฮยอนเกินเบอร์มากกว่า แจฮยอนนี่สุดยอดของความเทคแคร์แล้วตั้งแต่โมเม้นต์ส่งขวดน้ำวุ่นวายในงานประกาศรางวัล ตามช่วยตลอดที่สนามบิน ถือนั่นโน่นนี่ให้ กวักมือดุ๊กดิ๊กเรียกให้มาต้องมาด้วยเหอะ นี่แม่หรือพี่ 5555
กลับมาที่เจ้าตัว เพราะเป็นตัวอย่างที่ดีสุด และเห็นชัดๆ กับเหตุการณ์ล่าสุด ที่ผ่านไปไม่กี่วัน แต่เดาว่า แทยงสะสม?? มาสักพักแล้ว พอไม่เป็นด้วยความที่ไม่ใช่คนที่คิดจะเก็บ พอครบรอบหนึ่งปีก็จัดเต็มใส่แจฮยอนซะเลยตรงๆ ฟ้องออกสื่อเลย
แต่ของพวกเราทำไม่ได้เหมือนแทยงก็มานั่งตั้งกระทู้สงสัยกันนี่แหละ ว่าสรุปน้องเปลี่ยนไปจริงไหม ก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน
ส่วนของแทยงเนี่ย แจฮยอนมีคำตอบให้แล้ว ตลกตรงที่น้องรู้น่ะ รู้ทุกอย่างว่าใครคิดยังไงกับตัวเองไม่งั้นคงไม่เขียนตอบออกมาชนกันพอดี เหมือนรอจะบอกอยู่แล้วเหมือนกันแนวๆ ถามกลับไปว่าพี่ต้องรู้สิ ไม่รู้เหรอว่า..............อะไรก็ว่าไป บลาๆๆๆๆๆ แต่คาดว่าคนพี่อาจจะรู้หรือไม่รู้ หรืออะไรของนางอยู่ ผลที่ตามมาคือจากที่ติดกันเป็นตังเมตั้งแต่สมัยรุกกี้อยู่แล้ว คราวนี้เลยมีโมเม้นต์หนักหน่วงมาก มาทั้งภาพเสียงจน เฮ้ยยย ใจเย็นนนนนนนนน
คือน้องแจฮยอนจะคอนเฟิร์มให้พี่นางหายฟุ้งซ่าน ถูกมะ!? แต่หารู้ไม่ว่าคนที่จะฟุ้งแทนไม่ใช่แทยง กลับเป็นคนนั่งตามอ่าน ตามดูนี่แหละ นึกว่าจะหมดแล้ว ยังได้ต่ออีก มีระแวงต่อด้วย ใครผ่านช่วงลิมิตเลสมา งงกันเป็นแถบๆ สองคนนี้ผีเข้าเหรอ
แต่คนที่กล้าแหย่แทยงจนเม้งออกสื่อ จนมีสบถเบาๆ ชักสีหน้ามาเต็มนี่เพิ่งเห็นกะตาคนเดียวนะ น้องชายสุดที่รักของนางนี่แหละ
น้องที่สุภาพมาก ไม่พูดขัดใครตรงๆ ออกสื่อ ตอบอะไรชอบเหมารวม จะได้ไม่โดนจับกับคู่ชิปไปทั่ว แต่อย่าให้แจฮยอนเป็นคนเริ่มพูดก่อนล่ะกัน เตรียมเก็บศพคนแถวนี้ได้เลย แทยงก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน
พิมพ์ไปก็ชักหมั่นไส้ + อิจฉาแจ (ไม่หน่อยล่ะ) ทำไมเมนเราถึงอะไรกับน้องเบอร์นั้นว้า แต่เอาจริงคนน้องก็ไม่เบาหรอก ตามทวงเครดิตตลอด คือต้องมีส่วนร่วมด้วยถ้าเป็นเรื่องของพี่น่ะ พูดง่ายๆ เป็นความสัมพันธ์แบบให้ไปให้กลับเต็มที่ทั้งคู่ ให้แล้วเรียกร้องเอาคืนด้วย
ดังนั้นในทุกกรณี ทุกๆ ความสัมพันธ์ คนมีปัญหาคือคนที่คาดหวังมากกว่าเสมอถ้าอีกฝ่ายมีรีแอคชั่นตอบกลับก็ดีไป ถ้าไม่ใช่อย่างที่ตัวเองต้องการมันก็จะหน่วงๆ อึนๆ แบบที่แทยงเป็นตอนแรก อันนี้ไม่ได้หมายถึงแค่สองคนนี้นะ แต่หมายถึงทั่วไปด้วยรวมถึงกองเชียร์ที่คอยลุ้นโมเม้นต์ต่างๆ ด้วยที่เชียร์คู่ชิปตัวเอง
ถ้าหมายถึงมาร์ค ก็ควรล่ะ น้อง swag boy ม๊ากกกก หนุ่มเว่อร์ สาวกรี๊ดตรึม คงยอมยากเหมือนตอนเต้น รีเพลย์สมัยนู้นล่ะ แต่กับแจฮยอน ถ้าไม่นับเรื่องทางกายภาพ น้องก็เป็นน้องเหมือนเดิม นิ่งบ้างไม่นิ่งบ้างแล้วแต่อารมณ์ ซึ่งงานช่วงนี้มันก็ไม่เอื้อให้อารมณ์ดีเท่าไหร่นะ
ส่วนคนอื่นต้องถามเมนคนอื่นค่ะ เราไม่ได้ตามเยอะก็พูดแค่ส่วนที่มองแล้วกัน มองโดยยึดแทยงเป็นหลัก ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เข้าใจได้ดีเท่าเมนแจฮยอนมอง
แต่นี่ว่าน้องอาจจะไม่ติดสกินชิปเหมือนปีก่อน ที่สกินกับหลายคนเยอะจริงๆ แต่ต้องดูไปเรื่อยๆ ว่าจะเหมือนเดิมไหม แล้วอีกอย่างคิดว่าน้องค่อนข้างเป็นเด็กไว้ตัวค่ะ ด้วยความที่เป็นหนุ่มป๊อปตั้งแต่เด็กด้วยมั้ง เลยไม่ค่อยอะไรกับคำชมง่ายๆ อย่างที่จอห์นนี่บอกแหละว่า แจฮยอนไม่ใช่เด็กที่จะเชื่อใจใครง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ได้เอง แต่บางครั้งมารยาทและหน้าที่ก็ต้องทำให้ปรับตัวกันไป โลกวงการบันเทิงมันก็แบบนี้แหละ
ถ้าไม่นับว่าหล่อขึ้น เพิร์ฟร้อง เต้นดีขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้นแจฮยอนก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมายขนาดนั้นในสายตาเรา
ก็ยังเป็นน้องแจที่มีมารยาท เว้นระยะห่างกับแฟนคลับได้ชัดเจน และให้ความสำคัญกับคนที่น้องรู้สึกดีเหมือนเดิม เยอะแยะเลยในวงน่ะ
ในบรรดา nct ทั้งหมดเราว่าแจฮยอนเป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองมากที่สุดแล้ว ตรงแค่ไหนก็ดูนังจะแทะเปลือกแตงโมต่อหน้ากล้องแล้วกันนะ แล้วก็เป็นเด็กยิ้มสวยจริงๆ ยิ้มแบบออกมาจากใจน่ะ แต่ถ้าไม่คิดจะยิ้มก็ไม่ยิ้มเลย
รูปตอนเด็กมองดอกไม้ ชอบของสวยๆ งามๆ ชอบกลิ่นหอม ติดกลิ่นเหมือนติดเทียนหอมล่ะมั้ง
ตอนถ่ายโฟโต้ชู้ต Cherry Bomb ไม่รู้ว่ามองอะไรเพราะภาพตัด แต่เป็นรอยยิ้มที่คล้ายกับตอนน้องยังเด็กมากๆ
ตอนทำอาหาร
ตอนทำรายการวิทยุกับจอห์นนี่
ตอนวิ่งไปหาพี่
ตอนเม้าท์แตกกับวินวิน เพื่อนซี้ 97 ไลน์ของนุ้ง
กับโดยองตอนเป็นเอ็มซี
วันเกิดกับพี่ๆ ที่รายการวิทยุ
แสดงความคิดเห็น
แจฮยอน Nct ดูเปลี่ยนไปเหรอคะ
(คำถามไร้สาระมาก ด่าได้นะคะแต่อย่าแรงคืออยากรู้จริงๆ ไม่ได้เป็นแฟน nct ตั้งแต่แรกด้วย)