ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มิถุนา 2560 ที่ผ่านมา ได้ไปรับน้องหมาพันธุ์เฟรนบลูด๊อก อายุ45วัน มาเลี้ยง ซึ่งเป็นวันที่น้องฉีดวัคซีนเข็มแรกพอดี น้องก็ร่าเริง แข็งแรง ขี้เล่นเป็นปกติ
พอมาที่บ้านก็เลี้ยงแบบปกติทุกอย่าง ไม่ให้ออกข้างนอกเลย เลี้ยงแต่ในห้อง เราเปลี่ยนแค่อาหาร เพราะก่อนจะไปรับน้องกินอาหารF1 สูตรลูกสุนัข เราเปลี่ยนให้น้องกิน RoyalCanin สูตรลูกสุนัข น้องก็กินปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นปกติ จนมาถึงคืนวันที่ 29 มิถุนา 2560 น้องดูซึม ไม่ค่อยเล่น ตอนแรกก็คิดว่าคงเหนื่อย จนง่วง... สักพักน้องอึเป็นก้อนปนเหลว สีเหลือง ซึ่งกลิ่นแรงมาก
กลิ่นเหมือนกับสุนัขที่เป็นโรคลำไส้อักเสบ เราจำกลิ่นนี้ได้แม่นเพราะเมื่อ 5 ปีก่อน
ลูกหมาของเรา เป็นลำไส้อักเสบ ตาย 5 ตัว ตอนนั้นเราพาไปรักษาที่คลินิคแห่งหนึ่ง
ซึ่งหมอได้ฉีดเซรั่มให้เข็มละ 3500 ในใจตอนนั้นคิดว่าเสียเท่าไหนก็ยอม
สุดท้ายก็ไม่รอดสักตัว !!!
เราเลยซีเรียสกับโรคนีมาก
เราจึงตัดสินใจพาน้องไปหาหมอ
เช้าก่อนไปหาหมอ 30 มิถุนา 2560 น้องอึเหลว สีเหลือง อีกครั้ง!!
พอถึงคลินิคผลตรวจอีพบว่าน้องเป็นลำไส้อักเสบจริงๆ
ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจมาก น้ำตาคลอ เพราะรู้อยู่แล้วว่าโรคนี้ยิ่งถ้าเป็นในลูกหมายิ่งลำบาก
โรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้เพียงรักษาตามอาการ
หมอบอกแค่ว่าตอบไม่ได้ว่ารอดมั้ย ตอบได้แค่ 50:50 ดูอาการวันต่อวัน
เลยตัดสินใจให้น้องแอดมิดที่คลินิค เจาะน้ำเกลือ อยู่ในห้องปลอดเชื้อ
ตอนนั้นความหวังลิบหลี่มาก คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้น้องรอด
เลยลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต จนไปเจอกับชือ
หมอชูศักดิ์ ที่มีหลายๆกระทู้พูดถึง
พอได้เบอร์หมอมาก็รีบโทรคุย หมอให้ส่งรูปน้อง รูปอึ อาการล่าสุดให้ดูในไลน์
พอคุยเสร็จหมอบอกว่าโชคดีที่รู้เร็ว อาการน้องเลยยังไม่รุนแรงมาก
ตอนนั้นตัดสินใจไปรับน้องกลับมาดูแลที่บ้านเอง
เพราะคิดว่าไหนๆก็ 50:50 แล้ว. ขอรับน้องกลับมาอยู่ดูแลใกล้ๆดีกว่า
ไม่อยากให้เค้ารู้สีกโดดเดี่ยว กลัวเค้าเครียด
ซึ่งเราก็ได้พูดคุยกับหมอที่คลินิคแล้ว ว่าขอรับน้องกลับ
หมอจึงได้ให้ยากลับมาทานด้วย
แต่ยาที่ได้จากคลินิคมา ไม่ได้เปิดใช้แม้แต่ขวดเดียว!!!!!!!!!!!!!!!!!
ปรึกษาหมอชูศักดิ์ หมอเลยบอกให้ป้อนโยเกิร์ตน้องทุกๆครึ่งชั่วโมง จำนวน 1cc ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
หลังจากกินโยเกิร์ต น้องเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น ซึมน้อยลง
อึของน้องในแต่ละวัน
ปล.วันที่ 2 กรกฎา จะเห็นได้ว่าน้องอ้วก (หมอชูศักดิ์ย้ำมาก ว่าอย่าให้อ้วก)
เพราะก่อนหน้านั้นน้องผอมจากเดิมมาก
ผอมจนเห็นซี่โครง
เราก็อดสงสารไม่ได้
เลยแอบให้โยเกิร์ตเกินจำนวนที่กำหนด
วิธีนี้ไม่แนะนำมากๆ เพราะความใจอ่อนอาจทำให้อาการน้องแย่ลง
หลังจากนั้นมาได้ทำตามคำแนะนำหมอชูศักดิ์เคร่งครัด
ปล2. วันที่ 3 กรกฎา เราให้อาหารสำหรับสุนัขที่ป่วย ยี่ห้อ royal canin เพิ่ม ด้วย (ตามคำแนะนำหมอ)
อึของน้องเริ่มดีขึ้น เป็นก้อนมากขึ้น
ปล3.วันที่ 9 กรกฎา ให้น้องกินบัตเตอร์เค้กแล้วนะ สีอึอ่อนลง 😁
วันนี้ครบ 8 วันแล้ว น้องอาการดีขึ้นมาก จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ขอบคุณ
หมอชูศักดิ์มากๆครับ หมอน่ารักมาก
ทักไลน์ไปตอบเร็วมากๆๆๆๆๆๆ โทรคุยถามอาการทุกวัน
การรักษาครั้งนี้เสียเงินไม่กี่บาทถ้าเทียบกับรักษาคลินิคทั่วไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง
อยากฝากไว้สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มแรก สำคัญมากๆ ถ้าดีก็โชคดี ถ้าไม่ดีก็โชคร้าย
ปล4. ถ้ารู้แบบนี้ เมื่อ 5 ปีก่อน ไม่พาหมาพวกนั้นไปฉีดยาเข็มละ 3500 หรอก
เสียทั้งเงิน เสียทั้งหมา
ปล5.ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ความคิดเห็นส่วนตัว
สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล และตัวน้องหมาเอง
เมื่อหมาฉันเป็นลำไส้อักเสบ ไวรัสพาโว.......แต่รอด!!
พอมาที่บ้านก็เลี้ยงแบบปกติทุกอย่าง ไม่ให้ออกข้างนอกเลย เลี้ยงแต่ในห้อง เราเปลี่ยนแค่อาหาร เพราะก่อนจะไปรับน้องกินอาหารF1 สูตรลูกสุนัข เราเปลี่ยนให้น้องกิน RoyalCanin สูตรลูกสุนัข น้องก็กินปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นปกติ จนมาถึงคืนวันที่ 29 มิถุนา 2560 น้องดูซึม ไม่ค่อยเล่น ตอนแรกก็คิดว่าคงเหนื่อย จนง่วง... สักพักน้องอึเป็นก้อนปนเหลว สีเหลือง ซึ่งกลิ่นแรงมาก
กลิ่นเหมือนกับสุนัขที่เป็นโรคลำไส้อักเสบ เราจำกลิ่นนี้ได้แม่นเพราะเมื่อ 5 ปีก่อน
ลูกหมาของเรา เป็นลำไส้อักเสบ ตาย 5 ตัว ตอนนั้นเราพาไปรักษาที่คลินิคแห่งหนึ่ง
ซึ่งหมอได้ฉีดเซรั่มให้เข็มละ 3500 ในใจตอนนั้นคิดว่าเสียเท่าไหนก็ยอม
สุดท้ายก็ไม่รอดสักตัว !!!
เราเลยซีเรียสกับโรคนีมาก
เราจึงตัดสินใจพาน้องไปหาหมอ
เช้าก่อนไปหาหมอ 30 มิถุนา 2560 น้องอึเหลว สีเหลือง อีกครั้ง!!
พอถึงคลินิคผลตรวจอีพบว่าน้องเป็นลำไส้อักเสบจริงๆ
ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจมาก น้ำตาคลอ เพราะรู้อยู่แล้วว่าโรคนี้ยิ่งถ้าเป็นในลูกหมายิ่งลำบาก
โรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้เพียงรักษาตามอาการ
หมอบอกแค่ว่าตอบไม่ได้ว่ารอดมั้ย ตอบได้แค่ 50:50 ดูอาการวันต่อวัน
เลยตัดสินใจให้น้องแอดมิดที่คลินิค เจาะน้ำเกลือ อยู่ในห้องปลอดเชื้อ
ตอนนั้นความหวังลิบหลี่มาก คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้น้องรอด
เลยลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต จนไปเจอกับชือ หมอชูศักดิ์ ที่มีหลายๆกระทู้พูดถึง
พอได้เบอร์หมอมาก็รีบโทรคุย หมอให้ส่งรูปน้อง รูปอึ อาการล่าสุดให้ดูในไลน์
พอคุยเสร็จหมอบอกว่าโชคดีที่รู้เร็ว อาการน้องเลยยังไม่รุนแรงมาก
ตอนนั้นตัดสินใจไปรับน้องกลับมาดูแลที่บ้านเอง
เพราะคิดว่าไหนๆก็ 50:50 แล้ว. ขอรับน้องกลับมาอยู่ดูแลใกล้ๆดีกว่า
ไม่อยากให้เค้ารู้สีกโดดเดี่ยว กลัวเค้าเครียด
ซึ่งเราก็ได้พูดคุยกับหมอที่คลินิคแล้ว ว่าขอรับน้องกลับ
หมอจึงได้ให้ยากลับมาทานด้วย
แต่ยาที่ได้จากคลินิคมา ไม่ได้เปิดใช้แม้แต่ขวดเดียว!!!!!!!!!!!!!!!!!
ปรึกษาหมอชูศักดิ์ หมอเลยบอกให้ป้อนโยเกิร์ตน้องทุกๆครึ่งชั่วโมง จำนวน 1cc ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
หลังจากกินโยเกิร์ต น้องเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น ซึมน้อยลง
อึของน้องในแต่ละวัน
ปล.วันที่ 2 กรกฎา จะเห็นได้ว่าน้องอ้วก (หมอชูศักดิ์ย้ำมาก ว่าอย่าให้อ้วก)
เพราะก่อนหน้านั้นน้องผอมจากเดิมมาก ผอมจนเห็นซี่โครง
เราก็อดสงสารไม่ได้ เลยแอบให้โยเกิร์ตเกินจำนวนที่กำหนด
วิธีนี้ไม่แนะนำมากๆ เพราะความใจอ่อนอาจทำให้อาการน้องแย่ลง
หลังจากนั้นมาได้ทำตามคำแนะนำหมอชูศักดิ์เคร่งครัด
ปล2. วันที่ 3 กรกฎา เราให้อาหารสำหรับสุนัขที่ป่วย ยี่ห้อ royal canin เพิ่ม ด้วย (ตามคำแนะนำหมอ)
อึของน้องเริ่มดีขึ้น เป็นก้อนมากขึ้น
ปล3.วันที่ 9 กรกฎา ให้น้องกินบัตเตอร์เค้กแล้วนะ สีอึอ่อนลง 😁
วันนี้ครบ 8 วันแล้ว น้องอาการดีขึ้นมาก จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ขอบคุณหมอชูศักดิ์มากๆครับ หมอน่ารักมาก
ทักไลน์ไปตอบเร็วมากๆๆๆๆๆๆ โทรคุยถามอาการทุกวัน
การรักษาครั้งนี้เสียเงินไม่กี่บาทถ้าเทียบกับรักษาคลินิคทั่วไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง
อยากฝากไว้สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มแรก สำคัญมากๆ ถ้าดีก็โชคดี ถ้าไม่ดีก็โชคร้าย
ปล4. ถ้ารู้แบบนี้ เมื่อ 5 ปีก่อน ไม่พาหมาพวกนั้นไปฉีดยาเข็มละ 3500 หรอก
เสียทั้งเงิน เสียทั้งหมา
ปล5.ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ความคิดเห็นส่วนตัว
สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล และตัวน้องหมาเอง