มันมาอีกแล้วววว พวกแก๊งสกิมมิ่งตัวแสบ จับไม่ได้ไล่ไม่ทันกันเลย และมิจฉาชีพพวกนี้คงไม่หมดไปง่ายๆ 😤😤😤
แม้ธนาคารจะเฝ้าระวังอย่างดี แต่มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
เพราะตู้ ATM บ้านเรามีเยอะมาก (บางจุดไม่คิดว่าจะมีก็ดันมี) กว่า 55,272 แห่ง
จะปล่อยให้ธนาคารเฝ้าระวังอย่างเดียวก็ไม่ชัวร์ว่าจะไปเจอแจ็คพ็อตวันไหน
เพราะฉะนั้นเราเอง ที่เป็นเจ้าของบัตร ATM และเจ้าของเงินในบัญชี ก็ต้องพยายามดูแลตัวเองไปด้วย
ถ้าเห็นตู้ ATM อันไหนดูแปลกๆ ไป เห็นแล้วผิดสังเกต หรือ พวกตู้ ATM ในมุมอับ หลีกเลี่ยงได้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะมิจฉาชีพอาจจะเอาอุปกรณ์สกิมมิ่ง หรือ อุปกรณ์ดูดข้อมูลในบัตร ATM มาติดตั้งไว้ก็ได้
แต่วิธีที่ง่ายๆ ที่สุด คือ ตอนกดรหัส ATM ให้เอามือบังแป้นกดเอาไว้ อย่าให้ใครเห็น เพราะถ้าพวกมันได้ไปแต่ข้อมูล แต่ไม่ได้รหัส ก็ทำอะไรเราไม่ได้
อันนี้คนตัวใหญ่จะได้เปรียบ เพราะบังได้มิด 555 จริงๆ แค่เอามือบังก็พอแล้ว แต่ต้องบังให้ครบทุกมุม เพราะเมื่อก่อนพวกแก๊งสกิมมิ่งจะติดกล้องแอบดูด้านข้าง แต่เดี๋ยวนี้เขาพัฒนามาติดไว้ด้านบนแป้นกดตัวเลข ให้เห็นแบบจะๆ กันเลย
และถ้าไม่จำเป็นอย่าเก็บเงินไว้ในบัญชีที่ใช้บัตร ATM มากเกินไป แค่ให้พอใช้จ่ายสะดวกก็พอแล้ว เพราะดอกเบี้ยก็แทบจะไม่มี แทนที่จะเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ก็อาจจะโยกไปไว้ในเงินฝากประจำ หรือ กองทุนรวมตลาดเงิน ที่มีความเสี่ยงไม่มาก พอจะใช้ทดแทนบัญชีเงินฝากได้
แต่ถ้าพลาดท่าเสียที ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพไปแล้ว ต้องรีบแจ้งธนาคารโดยด่วนเลย อย่างแรก ต้องโทรไปอายัด ATM กันก่อน (ถ้ายังมีเงินเหลืออยู่บ้าง 😭) เรียบร้อยแล้วก็ไปทำเรื่องที่สาขาที่เปิดบัญชี
หลังจากธนาคารได้รับเรื่องแล้วจะใช้เวลาสอบสวนข้อผิดพลาดไม่เกิน 30 วัน (ตามประกาศของแบงก์ชาติ)
และ ดอกจัน* ตัวโตๆ ไว้เลยว่า ถ้าเราถูกแก๊งสกิมมิ่งดูดเงินออกไปจริงๆ ธนาคารก็จะชดเชยค่าเสียหายให้ ที่สำคัญ ให้ดอกเบี้ยด้วยจ้าาาา
*สนใจอ่านประกาศแบงก์ชาติเพิ่มเติมตามไปที่นี่ได้เลย อ่านประกาศแล้ว อย่าลืมไปส่องเอกสารแนบท้ายด้วย เพราะเนื้อๆ เน้นๆ อยู่ตรงนั้น... นักสืบดอกจัน ไปส่องมาแล้ววว
https://www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2551/ThaiPDF/25510316.pdf
นักสืบดอกจัน : ไขคำตอบ...ธนาคารต้องรับผิดชอบมั้ย ถ้าเงินหายเพราะแก๊งสกิมมิ่ง?
มันมาอีกแล้วววว พวกแก๊งสกิมมิ่งตัวแสบ จับไม่ได้ไล่ไม่ทันกันเลย และมิจฉาชีพพวกนี้คงไม่หมดไปง่ายๆ 😤😤😤
แม้ธนาคารจะเฝ้าระวังอย่างดี แต่มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
เพราะตู้ ATM บ้านเรามีเยอะมาก (บางจุดไม่คิดว่าจะมีก็ดันมี) กว่า 55,272 แห่ง
จะปล่อยให้ธนาคารเฝ้าระวังอย่างเดียวก็ไม่ชัวร์ว่าจะไปเจอแจ็คพ็อตวันไหน
เพราะฉะนั้นเราเอง ที่เป็นเจ้าของบัตร ATM และเจ้าของเงินในบัญชี ก็ต้องพยายามดูแลตัวเองไปด้วย
ถ้าเห็นตู้ ATM อันไหนดูแปลกๆ ไป เห็นแล้วผิดสังเกต หรือ พวกตู้ ATM ในมุมอับ หลีกเลี่ยงได้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะมิจฉาชีพอาจจะเอาอุปกรณ์สกิมมิ่ง หรือ อุปกรณ์ดูดข้อมูลในบัตร ATM มาติดตั้งไว้ก็ได้
แต่วิธีที่ง่ายๆ ที่สุด คือ ตอนกดรหัส ATM ให้เอามือบังแป้นกดเอาไว้ อย่าให้ใครเห็น เพราะถ้าพวกมันได้ไปแต่ข้อมูล แต่ไม่ได้รหัส ก็ทำอะไรเราไม่ได้
อันนี้คนตัวใหญ่จะได้เปรียบ เพราะบังได้มิด 555 จริงๆ แค่เอามือบังก็พอแล้ว แต่ต้องบังให้ครบทุกมุม เพราะเมื่อก่อนพวกแก๊งสกิมมิ่งจะติดกล้องแอบดูด้านข้าง แต่เดี๋ยวนี้เขาพัฒนามาติดไว้ด้านบนแป้นกดตัวเลข ให้เห็นแบบจะๆ กันเลย
และถ้าไม่จำเป็นอย่าเก็บเงินไว้ในบัญชีที่ใช้บัตร ATM มากเกินไป แค่ให้พอใช้จ่ายสะดวกก็พอแล้ว เพราะดอกเบี้ยก็แทบจะไม่มี แทนที่จะเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ก็อาจจะโยกไปไว้ในเงินฝากประจำ หรือ กองทุนรวมตลาดเงิน ที่มีความเสี่ยงไม่มาก พอจะใช้ทดแทนบัญชีเงินฝากได้
แต่ถ้าพลาดท่าเสียที ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพไปแล้ว ต้องรีบแจ้งธนาคารโดยด่วนเลย อย่างแรก ต้องโทรไปอายัด ATM กันก่อน (ถ้ายังมีเงินเหลืออยู่บ้าง 😭) เรียบร้อยแล้วก็ไปทำเรื่องที่สาขาที่เปิดบัญชี
หลังจากธนาคารได้รับเรื่องแล้วจะใช้เวลาสอบสวนข้อผิดพลาดไม่เกิน 30 วัน (ตามประกาศของแบงก์ชาติ)
และ ดอกจัน* ตัวโตๆ ไว้เลยว่า ถ้าเราถูกแก๊งสกิมมิ่งดูดเงินออกไปจริงๆ ธนาคารก็จะชดเชยค่าเสียหายให้ ที่สำคัญ ให้ดอกเบี้ยด้วยจ้าาาา
*สนใจอ่านประกาศแบงก์ชาติเพิ่มเติมตามไปที่นี่ได้เลย อ่านประกาศแล้ว อย่าลืมไปส่องเอกสารแนบท้ายด้วย เพราะเนื้อๆ เน้นๆ อยู่ตรงนั้น... นักสืบดอกจัน ไปส่องมาแล้ววว
https://www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2551/ThaiPDF/25510316.pdf