เกรดตก ท้อมาก ไม่อยากเรียนแล้ว ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ



อยากมาขอคำแนะนำจากหลายๆคน เพราะตอนนี้เราท้อมาก หมดกำลังใจสุดๆ ปัญหาของเราอาจดูเหมือนปัญหาทั่วไปของเด็กวัยเรียน แต่สำหรับเรามันเป็นปัญหาใหญ่มากจริงๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เราไม่เคยเครียดเรื่องการเรียนเลย



เข้าเรื่องนะคะ เรา "เกรดตก" ค่ะ



เราเป็นเด็กเรียนดี เกรดสวยมากมาตลอดตั้งแต่ประถม-ม.ต้น



แต่พอขึ้นม.ปลาย เกรดเราทุเรสลงมาก จากหน้ามือเป็นหลังฝ่าเท้าเลยก็ว่าได้ ม.ต้นเกรดเราจะอยู่ที่ 3.92 เทอมสุดท้ายปล่อยเกรดหน่อยลงมาเหลือ 3.87



เราเป็นเด็กหัวดี(ไม่ได้จะอวยตัวเองนะคะ)แต่หัวดีจริงๆ เราไม่อ่านหนังสือเราก็ทำข้อสอบได้ คะแนนออกมาดีด้วย บางทีเราคิดว่าเราทำไม่ได้เลย แต่ผลออกมาเรากลับได้เกือบเต็มอะไรแบบนี้ 




ทำให้เรากลายเป็นเด็กขี้เกียจ เกียจคร้านจะอ่านหนังสือ ส่งงานก็ส่งเลทบ้าง วันสุดท้ายค่อยมานั่งปั่นส่งบ้าง เพราะค่อนข้างมีหัวทางศิลปะ ทำวันสุดท้ายก็ออกมาสวยกว่า หรือพอๆกับคนที่ตั้งใจทำงาน3วันประมาณนี้ค่ะ




ส่วนในคาบก็จะตั้งใจเรียนบ้าง ไม่เข้าใจก็จะถามเพื่อนสนิทที่เรียนเก่งๆตลอด จนเราติดนิสัยพึ่งพาเพื่อนคนนี้ ทำให้คิดว่า เรียนไปก็ไม่รู้เรื่อง ไว้ถามเพื่อนเอาดีกว่า 




ทำให้หลังๆเราไม่ตั้งใจเรียนเลยช่วงม.3 ในคาบแทบจะนั่งวาดรูปกับดูนาฬิกาว่าเมื่อไหร่จะหมดเวลาอยู่ตลอด




เราเป็นเด็กที่ชอบภาษามาก โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ภาษาอื่นก็ชอบเหมือนกัน ค่อนข้างจะหลงใหลในภาษาทีเดียว และมีหัวด้านศิลป์กับคอมด้วย จะชอบโดนเลือกให้ช่วยงานที่เกี่ยวกับฝ่ายออกแบบ ตกแต่งเสมอๆ




นั่นทำให้เราตัดสินใจว่า ม.ปลายเราควรจะเลือกเรียนศิลป์-ภาษาดีมั้ยนะ (ม.ต้นเรียนวิทย์-คณิตค่ะ) เราทั้งปรึกษารุ่นพี่ที่รู้จัก พ่อแม่ และเพื่อน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เรียนวิทย์-คณิตเถอะ" ในเมื่อหัวเราดี เกรดถึง เรียนวิทย์-คณิตมีทางเลือกมากกว่าคนเรียนศิลป์-ภาษานะ ลองนึกถึงเวลาไม่รู้จะเรียนอะไรถ้าเรียนสายวิทย์ก็ยังได้เลือกมากกว่าเวลาจะเข้ามหา'ลัย




โอเคค่ะ ในเมื่อทุกคนอวยสายวิทย์ วิทย์ก็วิทย์วะ




ปรากฏว่าตอนจะสอบเลื่อนชั้นคะแนนเราดันติดคนมีสิทธิ์สอบสายวิทย์ห้องกิ๊ฟด้วย ตอนแรกตั้งใจจะไปลองสอบเล่นๆ ปรากฏว่าเราดันติดขึ้นมาซะงั้น จากอยากเรียนภาษากลายเป็นต้องไปเรียนสายวิทย์กิ๊ฟอีกต่างหาก พอรู้ว่าตัวเราสอบติดห้องกิ๊ฟได้ทุกคนก็พากันดันเราเข้าแบบจริงจัง




พอมาม.4 เราได้เข้ามาเรียนห้องกิ๊ฟ อยู่กับเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ สังคมที่มีแต่เด็กเรียน พากันเรียนและการแข่งขันสูงมาก เพื่อนในห้องเรียนเสริม เรียนพิเศษพวกกวดวิชาอะไรแบบนี้กันแทบทุกคน เราเป็นหนึ่งในเด็กที่ไม่เรียนค่ะ ส่วนตัวแล้วไม่ชอบ เรามองว่ามันเป็นการเรียนที่เกินความจำเป็นมากเกินพอดี เพราะแค่มาเรียน6วัน(รร.บังคับเรียนวันเสาร์ด้วย)ก็เยอะแล้ว แค่นี้ก็จะเรียนไม่ไหวอยู่แล้ว เราจึงไม่คิดที่จะเรียนพิเศษเลยค่ะ พ่อแม่ก็ไม่ได้บังคับอะไร




เราก็ใช้ชีวิตแบบเดิมค่ะ เรียนๆเล่นๆ ไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่เหมือนตอนม.ต้น ตอนเรียนก็ชอบวาดรูป วิชาที่ไม่ชอบก็ไม่ค่อยจะสนใจ(โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ เกลียดมาก) สุดท้ายก็เรียนไม่รู้เรื่องค่ะ จะถามเพื่อนที่อยู่ข้างๆก็ไม่ค่อยกล้าเพราะไม่รู้จัก บางทีถามกลายเป็นเพื่อนก็ไม่รู้เรื่องกว่าเราอีก พังพินาศย่อยยับสุดๆ




ผลที่ตามมาคือ สอบตก แล้วเราดูจะเป็นคนดวงดีมาก ตกแต่ละวิชาหน่วยกิตเน้นๆแน่นๆทั้งนั้น 1.5 เอย 2.0 เอย พวกที่ตกก็ คณิตทั้งหลักทั้งเสริม(เรียนไม่รู้เรื่องเลย) ฟิสิกส์ ชีวะ อยากจะบ้าไม่อยากพบอยากเจอกับมันอีกเลยโดยเฉพาะเลขกับฟิสิกส์เนี่ย ยิ่งเรียนยิ่งงง แล้วเรียนทีครั้งละ 3-4คาบ สัปดาห์นึงต้องเรียนประมาณ6คาบต่อวิชาพวกนี้




เกรดเทอมแรกออกมาตามยถากรรมเลยค่ะ 3.32




ช็อกค่ะ ช็อกไม่พออายเพื่อนด้วย เพราะเพื่อนในห้องเกรดดีงามกันทุกคน 3.50+ทั้งนั้น เสียหน้าจนอยากจะมุดดินหนี ไม่เลวร้ายไปกว่านี้เพราะยังมีภาษาคอยช่วยคอยดันคอยค้ำจุนเราอยู่ ถึงแม้หน่วยกิตภาษาจะสู้พวกฟิสิกส์ไม่ได้ก็เถอะ




อายค่ะ จนเริ่มทนไม่ไหวละ ต้องทำอะไรซักอย่าง มองดูคะแนนเพื่อนกับคะแนนตัวเองแล้วมันสมเพชมาก ยิ่งเวลาครูคณิตบอกคะแนนเพื่อนๆจะชอบไปรุมดูกัน ข้อเขียนนี่ยิ่งแล้วใหญ่คะแนนเหลือแค่เศษเลขเบาบางทั้งๆที่เพื่อนๆทำได้กัน แต่เราจะได้เปรียบในเรื่องภาษาหน่อย เพราะดูเพื่อนๆในห้องไม่ชอบภาษากันเลย แต่ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้




เราฮึดขึ้นมานิดหน่อยตอนเทอม2เราเริ่มขวนขวายอ่านหนังสือมากขึ้น พยายามทำความเข้าใจกับอะไรที่ไม่รู้เรื่องถึงแม้ว่าสุดท้ายจะไม่รู้เรื่องอยู่ดี ตอนเรียนก็อยากจะถามเพื่อนที่นั่งข้างๆ แต่เพื่อนก็ดูตั้งใจเรียนมากจนไม่อยากรบกวน บางครั้งเพื่อนก็หวงความรู้เราก็เลยต้องพึ่งพาตัวเองไปให้ได้




อาจจะดูสะเปะสะปะไปบ้าง แต่เพราะความพยายามเกรดเทอม2ก็เพิ่มขึ้นมาหน่อยเป็น 3.50





จบม.4มาขึ้นม.5ปัจจุบันนั่นเอง เราเริ่มต้นใหม่ เราพยายามทำความเข้าใจในบทเรียน เลือกที่นั่งดีๆกับเพื่อนดีๆ เริ่มทำแพลนเนอร์วางแผนเคลียร์งานจะได้ไม่มีงานค้าง เริ่มทำสมุดสรุปแต่วิชาก่อนสอบ เริ่มค้นพบว่าตัวเองอ่านหนังสือเอาแล้วไม่รู้เรื่องเลย แต่ถ้าได้จดจะเข้าหัวมากกว่า





อุปสรรคของเราคือครูที่มาสอนชุดใหม่แต่ละคนในปีนี้ สอนไม่รู้เรื่องกว่าครูชุดเก่าซะอีก....





ความยิ้มมาเยือนแล้ว กอดเข่าร้องไห้หนักมากเลยค่ะ สอนไม่รู้เรื่อง ข้อสอบยาก ให้คะแนนยากมาก ผิดนิดผิดหน่อยตัด0เลย ไม่ช่วยเลย ถึงแม้เราจะสับเพร่าเองก็ตาม เรายอมรับในส่วนนี้ แต่เราทำได้นะ แค่มีบางส่วนที่มันผิดก็ตัด0เลย ชีวะก็จำเยอะมาก มากๆ สอบที่ผ่านมาเราต้องอ่านหนังสือทั้งหมด50กว่าหน้าซึ่งทุกหน้าออกสอบ




เราก็สู้มันค่ะ อย่าไปยอม สอบกลางภาคที่ผ่านมาเราอ่านเราทบทวนเยอะ เจอข้อสอบก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ภาษานี่ชิวเลยค่ะ ทำได้สบายมาก มั่นใจว่าเต็มแน่ๆ





เราตกค่ะ ตกอีกแล้ว คณิตเจ้าเก่าเจ้ากรรมเจ้าประจำเจ้าเดิม 14/30 ทั้งหลักทั้งเสริม แค่คะแนนเดียวจะผ่าน พระเจ้า วิทย์ก็เกือบไปไม่รอดดีที่ยังมีคะแนนเก็บช่วย ฟิสิกส์บอกลาเลยค่ะไม่อยากพูดถึง ชีวะคะแนนแบบผ่านครึ่งมา5คะแนน เคมีเราตกค่ะทั้งๆที่เรามั่นใจมากว่าเราทำได้แต่ครูให้คะแนนโหดมากค่ะ เราคงโดนตัดเพราะคิดเลขผิดหน่วยผิดเอย ผิดหวังที่สุดคือภาษา เรามั่นใจมากว่าต้องเต็ม สรุปคะแนนออกมากลางๆ 15/20 เศร้ามาก ทั้งๆที่มั่นใจแท้ๆ




ร้องไห้เลยค่ะ ความพยายามทั้งหมดแทบไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แค่นี้เราก็เหนื่อยมากแล้ว ท้อมาก ยิ่งเรียนยิ่งปวดหัวไม่มีความสุขเลย เศร้า เพื่อนได้คะแนนดีกันหมด มีเราดูเป็นหมาหัวเน่าทั้งๆที่อยู่ห้องกิ๊ฟ บางทีก็อยากตายเลย ไม่อยากเรียนอยากจะหนีออกไปทำสิ่งที่อยากทำ กลุ้มใจมากคะแนนไม่ดีเลย




ทำยังไงดีคะ เราเครียดมากจริงๆ พอรู้ว่าต้องมาลุ้นว่าจะตกอีกกี่ตัวก็ยิ่งหดหู่มากๆ ไม่อยากให้ใครมองว่าเราโง่ ทั้งๆที่มั่นใจมากคะแนนกลับแย่สุดๆ อยากย้ายไปเรียนภาษาไม่อยากเรียนอะไรที่เป็นวิทย์-คณิตแล้วจริงๆ




สุดท้ายนี้เราขอฝากเรื่องของเราเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ต้องเลือกเรียนระหว่างสิ่งที่ดีกว่ากับสิ่งที่เรารัก เลือกสิ่งที่รักเถอะค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจแบบเรา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่