สวัสดีครับผมพยายามจะเขียนให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ
ปัญหาแรกปัญหาการออกโควต้า ในปัจจุบันการออกโควต้าให้กับนายจ้าง ไม่ใช่ว่าเรายื่นเท่าไหร่และจะได้
แต่จะได้แค่ตามจำนวนลูกจ้างที่มีอยู่จริงเท่านั้น และท่านอาจจะไม่ได้โควต้า ตามจำนวนตามที่ท่านต้องการเพราะหากไม่ผ่านการพิจารณาอาจจะถูกปรับลดจำนวนลงก็ได้ หากท่านจะลดจะเพิ่มต้องมาทำเรื่องขอเพิ่มเท่านั้น มาอีกเรื่องของโควต้า คือ การขอโควต้ามีกำลังการออกต่อวันมีน้อยมาก
ทุกวันนี้ แต่ละเขตพื้นที่มีกำลังการออกโควต้าให้นายจ้าง แค่วันละ20-30โควต้าต่อวัน ในการทำงานปกติ
แต่ละโควต้ามีอายุ 1ปี ต้องต่อปีต่อปี
ถ้าคิดตัวเลขจริงๆ 1สัปดาห์ทำงาน5วัน 1ปีมี52สัปดาห์X5=260วัน ลดกับวันหยุดราชการ อีก24วันเหลือวันทำงาน236วัน
เอา 236x30เท่ากับแต่ละเขตจะออกโควต้าได้แค่7080โควต้าต่อปีแบบทำงานแบบเต็มลีมิต ภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมก็แย่งกันเอาเองนะจ๊ะ
นี่แค่เรื่องแรกครับ แค่นี้ก็เยี่ยวเหนียวแล้วขนานยังไม่ขึ้นมาบนดินกันทุกคน ทุกวันนี้ก็ต่อคิวกันยาวเหยียด
2กำลังการนำเข้า MOU ที่สามารถนำเข้าได้เพียงวันละ1000 คนทำให้แต่ละคนต้องใช้เวลา2-3เดือนในการที่จะสามารถเข้ามาทำงานในประเทศได้
ถ้าเป็นโรงงานที่ใช้กำลังคนน้อยแค่สองสามคนคงไม่กระทบเท่าไหร่ แต่มากกว่านี้เริ่มกระทบแล้ว
3ปัญหาเรื่องการบริหาร เล่มเวิร์คเพอร์มิตหมดคลัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เล่มเวิร์คเพอร์มิตหมดคลัง แต่เหมือนจะกลายเป็นปัญหาซ้ำซาก
นายจ้างหลายๆราย คงจะคุ้นชินกับการให้ลูกจ้างถือใบเสร็จแทนเล่มจริง เวลาเจอเจ้าหน้าที่ตรวจ ก็ยาวครับ เพราะมีแค่ใบเสร็จ เวลาจะปรับเปลี่ยนแก้ไขอะไรก็ลำบาก บางทีต่างด้าวต้องหยุดงานหลายรอบเพื่อมารับเล่มตามนัดแต่ไม่ได้ก็เลื่อนต่อไปจนเกิดความเบื่อหน่ายเริ่มมาไม่ตรงวันนัดเพราะคิดว่าต้องรอให้มันได้ซะก่อนจริงๆ กลายเป็นยิ่งสะสมปัญหาเข้าไปอีก อันนี้เป็นอีกปัญหานึงที่เป็นปัญหาซ้ำซ้อนเพิ่มการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเพราะแทนที่จะจบเคสได้ แต่ต้องมา เลื่อน กลายเป็นจบงานไม่ได้ เวลานายจ้างต้องแจ้งเปลี่ยนหรือเพิ่มสถานที่ทำงานมันก็ลำบากเพราะมีแค่ใบเสร็จ จึงต้องตะโกนถามไปที่ส่วนกลางดังๆว่าเMิงทำงานกันยังไง
4ความไม่ชัดเจนของตัวเอกสาร สมมุติเดือนนี้เราเคยยื่นเรื่องนี้ใช้เอกสารแบบนี้ถัดมาอีกเดือนเรายื่นเรื่องเดิม แต่ไปโหลดเอกสารจากเว็บไซต์ ก็แบบเดิมพอมาจริงๆ อ้าวเปลี่ยนแบบแล้ว ทำไมในเว็บมันไม่อับเดตตาม ทำให้ต้องนั่งเขียน เอกสารกันใหม่ อีก
ผมก็ยังนั่งสงสัยว่าเวลามีปัญหาแบบนี้ที รัฐบาลจะเปลี่ยนเอกสารให้เขียนกระชับและน้อยลงได้แต่พอกลับมาสถาณการ์ณปกติทำไมเอกสารเป็นปึกกลับมาให้เขียนอีกแล้ว แทนที่จะลดค่าใช้จ่ายลดเวลาได้
5ระเบิดเวลาอีกลูกที่กำลังจะเกิด
31มีนาคม2561 เหมือนจะเป็นอีกวันที่ระเบิด วีซ่า กำลังจะระเบิด ผมกำลังคำนวน ต่างด้าวในระบบ ว่ามันมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ แต่ที่แน่ๆเกิน1ล้านคน
ยังไม่รวมกับพวกที่จะลงทะเบียนรอบนี้แล้วจะไปหมดที่31มีนาคม2561ทั่วประเทศ
ผมกำลังพูดถึงอะไร กำลังพูดถึงกำลังการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องมาทำหน้าที่ตีวีซ่า
ปัจจุบัน มีพื้นที่เปิดให้ตีวีซ่าได้แค่3ที่ในเขตกทม ผมกำลังนึกภาพ แรงงานคนที่วีซ่าจะหมดพร้อมกัน หลายล้านคน แรงกดดันทางกฏหมายต่างๆที่จะเกิดณวันนั้นค่าปรับ อยู่เกินวีซ่าวันละ500ปรับไม่เกิน25000บาท ค่าปรับใช้แรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอณุญาติ ปรับ 4-8แสน ถ้ากฏหมายฉบับนี้ยังไม่ถูกแก้ ผมเห็นท่านอธิปบดีพูดชิลมากเลยครับว่าหมดแล้วก็ไปต่อได้ ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วครับ ไม่ชิลด้วย นะครับ ต้องตื่นกันแต่ตีสาม เพื่อที่ไปนั่งจองคิว แม้จะสามารถต่อวีซ่าได้ก่อนหมด30วันก็ตาม แต่ลองคำนวนตัวเลข แรงงานกับตัวเลขความสามารถในการออกวีซ่าดู จะเหลือตกค้าง อีกกี่คน ถึงเวลานั้น คงเป็นมหกรรม ที่น่าจะโกลาหล น่าดู ตัวเลข 1.3ล้านคน ที่จะหมดวีซ่าพร้อมกันวันที่31มีนาคม2561 และตัวเลขจากรายใหม่ที่จะให้นำไปขึ้นทะเบียนในตอนนี้ ไม่ไม่น้อยกว่า 2ล้านคนแน่ๆ และจะได้วีซ่าแค่31มีนาคม2561เหมือนกันซะด้วย เมื่อถึงวันนั้นแล้ว รัฐบาลจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง ที่จะต้องออกวีซ่า ไม่น้อยกว่าวันละ6หมื่นคนในเวลา1เดือน รัฐบาลได้มองเห็นปัญหาตรงนี้หรือไม่
ที่เขียนมาทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย แต่อยากให้ทราบถึงอีกแง่มุมนึงของปัญหา
แค่อยากให้คนทั่วไปทราบว่าการที่เราจะปฎิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฏหมาย มันก้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แค่อยากให้ทราบในสิ่งที่ไม่มีใครพยายามที่จะพูดถึงปัญหา
รู้กฏหมายพรบจัดการคนต่างด้าวแล้วอยากให้รองรับฟังปัญหาของฝั่งนายจ้างกันบ้างและระเบิดเวลาอีกลูกที่กำลังจะเกิด
ปัญหาแรกปัญหาการออกโควต้า ในปัจจุบันการออกโควต้าให้กับนายจ้าง ไม่ใช่ว่าเรายื่นเท่าไหร่และจะได้
แต่จะได้แค่ตามจำนวนลูกจ้างที่มีอยู่จริงเท่านั้น และท่านอาจจะไม่ได้โควต้า ตามจำนวนตามที่ท่านต้องการเพราะหากไม่ผ่านการพิจารณาอาจจะถูกปรับลดจำนวนลงก็ได้ หากท่านจะลดจะเพิ่มต้องมาทำเรื่องขอเพิ่มเท่านั้น มาอีกเรื่องของโควต้า คือ การขอโควต้ามีกำลังการออกต่อวันมีน้อยมาก
ทุกวันนี้ แต่ละเขตพื้นที่มีกำลังการออกโควต้าให้นายจ้าง แค่วันละ20-30โควต้าต่อวัน ในการทำงานปกติ
แต่ละโควต้ามีอายุ 1ปี ต้องต่อปีต่อปี
ถ้าคิดตัวเลขจริงๆ 1สัปดาห์ทำงาน5วัน 1ปีมี52สัปดาห์X5=260วัน ลดกับวันหยุดราชการ อีก24วันเหลือวันทำงาน236วัน
เอา 236x30เท่ากับแต่ละเขตจะออกโควต้าได้แค่7080โควต้าต่อปีแบบทำงานแบบเต็มลีมิต ภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมก็แย่งกันเอาเองนะจ๊ะ
นี่แค่เรื่องแรกครับ แค่นี้ก็เยี่ยวเหนียวแล้วขนานยังไม่ขึ้นมาบนดินกันทุกคน ทุกวันนี้ก็ต่อคิวกันยาวเหยียด
2กำลังการนำเข้า MOU ที่สามารถนำเข้าได้เพียงวันละ1000 คนทำให้แต่ละคนต้องใช้เวลา2-3เดือนในการที่จะสามารถเข้ามาทำงานในประเทศได้
ถ้าเป็นโรงงานที่ใช้กำลังคนน้อยแค่สองสามคนคงไม่กระทบเท่าไหร่ แต่มากกว่านี้เริ่มกระทบแล้ว
3ปัญหาเรื่องการบริหาร เล่มเวิร์คเพอร์มิตหมดคลัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เล่มเวิร์คเพอร์มิตหมดคลัง แต่เหมือนจะกลายเป็นปัญหาซ้ำซาก
นายจ้างหลายๆราย คงจะคุ้นชินกับการให้ลูกจ้างถือใบเสร็จแทนเล่มจริง เวลาเจอเจ้าหน้าที่ตรวจ ก็ยาวครับ เพราะมีแค่ใบเสร็จ เวลาจะปรับเปลี่ยนแก้ไขอะไรก็ลำบาก บางทีต่างด้าวต้องหยุดงานหลายรอบเพื่อมารับเล่มตามนัดแต่ไม่ได้ก็เลื่อนต่อไปจนเกิดความเบื่อหน่ายเริ่มมาไม่ตรงวันนัดเพราะคิดว่าต้องรอให้มันได้ซะก่อนจริงๆ กลายเป็นยิ่งสะสมปัญหาเข้าไปอีก อันนี้เป็นอีกปัญหานึงที่เป็นปัญหาซ้ำซ้อนเพิ่มการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเพราะแทนที่จะจบเคสได้ แต่ต้องมา เลื่อน กลายเป็นจบงานไม่ได้ เวลานายจ้างต้องแจ้งเปลี่ยนหรือเพิ่มสถานที่ทำงานมันก็ลำบากเพราะมีแค่ใบเสร็จ จึงต้องตะโกนถามไปที่ส่วนกลางดังๆว่าเMิงทำงานกันยังไง
4ความไม่ชัดเจนของตัวเอกสาร สมมุติเดือนนี้เราเคยยื่นเรื่องนี้ใช้เอกสารแบบนี้ถัดมาอีกเดือนเรายื่นเรื่องเดิม แต่ไปโหลดเอกสารจากเว็บไซต์ ก็แบบเดิมพอมาจริงๆ อ้าวเปลี่ยนแบบแล้ว ทำไมในเว็บมันไม่อับเดตตาม ทำให้ต้องนั่งเขียน เอกสารกันใหม่ อีก
ผมก็ยังนั่งสงสัยว่าเวลามีปัญหาแบบนี้ที รัฐบาลจะเปลี่ยนเอกสารให้เขียนกระชับและน้อยลงได้แต่พอกลับมาสถาณการ์ณปกติทำไมเอกสารเป็นปึกกลับมาให้เขียนอีกแล้ว แทนที่จะลดค่าใช้จ่ายลดเวลาได้
5ระเบิดเวลาอีกลูกที่กำลังจะเกิด
31มีนาคม2561 เหมือนจะเป็นอีกวันที่ระเบิด วีซ่า กำลังจะระเบิด ผมกำลังคำนวน ต่างด้าวในระบบ ว่ามันมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ แต่ที่แน่ๆเกิน1ล้านคน
ยังไม่รวมกับพวกที่จะลงทะเบียนรอบนี้แล้วจะไปหมดที่31มีนาคม2561ทั่วประเทศ
ผมกำลังพูดถึงอะไร กำลังพูดถึงกำลังการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องมาทำหน้าที่ตีวีซ่า
ปัจจุบัน มีพื้นที่เปิดให้ตีวีซ่าได้แค่3ที่ในเขตกทม ผมกำลังนึกภาพ แรงงานคนที่วีซ่าจะหมดพร้อมกัน หลายล้านคน แรงกดดันทางกฏหมายต่างๆที่จะเกิดณวันนั้นค่าปรับ อยู่เกินวีซ่าวันละ500ปรับไม่เกิน25000บาท ค่าปรับใช้แรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอณุญาติ ปรับ 4-8แสน ถ้ากฏหมายฉบับนี้ยังไม่ถูกแก้ ผมเห็นท่านอธิปบดีพูดชิลมากเลยครับว่าหมดแล้วก็ไปต่อได้ ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วครับ ไม่ชิลด้วย นะครับ ต้องตื่นกันแต่ตีสาม เพื่อที่ไปนั่งจองคิว แม้จะสามารถต่อวีซ่าได้ก่อนหมด30วันก็ตาม แต่ลองคำนวนตัวเลข แรงงานกับตัวเลขความสามารถในการออกวีซ่าดู จะเหลือตกค้าง อีกกี่คน ถึงเวลานั้น คงเป็นมหกรรม ที่น่าจะโกลาหล น่าดู ตัวเลข 1.3ล้านคน ที่จะหมดวีซ่าพร้อมกันวันที่31มีนาคม2561 และตัวเลขจากรายใหม่ที่จะให้นำไปขึ้นทะเบียนในตอนนี้ ไม่ไม่น้อยกว่า 2ล้านคนแน่ๆ และจะได้วีซ่าแค่31มีนาคม2561เหมือนกันซะด้วย เมื่อถึงวันนั้นแล้ว รัฐบาลจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง ที่จะต้องออกวีซ่า ไม่น้อยกว่าวันละ6หมื่นคนในเวลา1เดือน รัฐบาลได้มองเห็นปัญหาตรงนี้หรือไม่
ที่เขียนมาทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย แต่อยากให้ทราบถึงอีกแง่มุมนึงของปัญหา
แค่อยากให้คนทั่วไปทราบว่าการที่เราจะปฎิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฏหมาย มันก้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แค่อยากให้ทราบในสิ่งที่ไม่มีใครพยายามที่จะพูดถึงปัญหา