"Homecoming" ของ Spider-Man: สนุก, เฮฮา, รวดเร็ว, อารมณ์ขันล้นเหลือ (ไม่สปอยล์)

Spider-Man: Homecoming ของผกก. จอน วัตส์ ที่นำโดย ทอม ฮอลแลนด์ ทำออกมาได้สมกับความเป็นหนังที่ชูโรงโดยเด็กอายุ 15 ปี


หนังเต็มไปด้วยสีสันของความเป็นวัยรุ่น ชีวิตสมัยมัธยม การเริ่มเข้าวัยหนุ่มสาว เพื่อน ป็อปปี้เลิฟ รวมไปถึงเพื่อนแย่ๆ หรือ bully

หนังผสมผสานชีวิตของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ในวัยเด็กกะโปโลข้างต้นเข้ากับชีวิตซุปเปอร์ฮีโร่ที่เพิ่งค้นพบตัวเองในยุคปี 2017 แห่งโลกโซเชี่ยลมีเดียได้อย่างกลมกล่อมและดู "เรียล" หนังทำให้เราลืม cliche หรือภาพฉากหากินทั่วไปของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ไปได้เยอะและแทนที่ด้วยความสมจริง การเปลี่ยนชุด ภาพความเงอะๆ งะๆ ต่างๆ เราไม่ได้เห็นสไปดี้มาแบบเท่มาเลยแบบฮีโร่คนอื่นๆ แต่ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ถ้าคนธรรมดาแบบเราๆ ได้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ขึ้นมา มันจะเป็นยังไง โดยเฉพาะกับเด็กอายุ 15

หากจะพูดไป บางทีเราอาจจะได้เห็นความเก้ๆ กังๆ ของสไปเดอร์แมนมากกว่าความเทททททท่ อะไรแบบนั้นเสียอีกในหนังเรื่องนี้ แต่มันมาพร้อมกับความสมจริงและความตลกเฮฮา ทำให้มันเป็นหนังที่สนุก สนุกจริงๆ

สเกลของหนังไม่ใหญ่ เป็นหนึ่งในหนังฮีโร่ไม่กี่เรื่องในยุคนี้ที่ไม่ได้พูดถึงการยึดครองโลก, การยึดเมือง, การเข่นฆ่าคนนับล้าน, หรืออุดมการณ์ยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้น แต่เป็นการไล่จับโจรข้างบ้านที่บังเอิญว่าเรื่องราวทั้งหมดยืนอยู่บนฉากหลังของการมีตัวตนของ The Avengers และการบุกของต่างดาวซิททอรี่ที่ถล่มนิวยอร์คที่นำโดยโลกิ ซึ่งนั่น ได้ทำให้โจรธรรมดา ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย

เราจะได้เห็นตัวร้ายที่ดูสมจริงอีกเช่นกัน โจรที่เป็นคนธรรมดา ที่ไม่ได้พยายามจะเอาชนะอเวนเจอส์ หรือไม่อยากต้องเผชิญหน้าแม้แต่กับเอฟบีไอ และยังเป็นตัวร้ายที่มีส่วนผสมที่ไม่ได้เห็นในหนังซุปเปอร์ฮีโร่บ่อยๆ คือตัวร้ายที่ไม่ได้ร้ายกาจแบบดำมืดไปทั้งหมด แต่ก็เป็นมนุษย์โลกธรรมดา ที่มีขาวๆ ดำๆ ปนกันไป โอกาส เหตุผล และที่มาที่ไปของต้นกำเนิด The Vulture ตัวร้ายในเรื่องนี้มันดูมีเหตุผลใกล้ตัวคนธรรมดาแบบเราๆ ที่ทำให้เราเชื่อได้ว่า "เค้ามีจริงได้ว่ะ"

จุดพีคของหนังคืออะไรเหรอ อะไรคือจุดบีบคั้นที่สุดของหนัง? อย่างที่บอกว่า สเกลของ Spider-Man: Homecoming นั่นไม่ใหญ่ ไม่ใช่การต่อสู้กู้โลก ดังนั้นเราอาจไม่ได้เห็นเดิมพันยิ่งใหญ่มหาศาลอะไร ในมุมมองของคนอายุอย่างเราๆ แต่สำหรับเด็กอายุ 15 ที่ใฝ่ฝันและพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อเข้าร่วมทีม Avengers แล้ว เรื่องราวทั้งหมดในหนังนี่ อาจยิ่งใหญ่จนเกินจินตนาการก็เป็นได้

จุดพีคของหนัง เดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหนัง ไม่ใช่การปะทะเอาชนะกันระหว่างตัวดีกับตัวร้าย เป็น "ก้าวย่าง" ที่พระเอกต้องเลือกที่จะก้าวเดินไป

ซึ่งนั่น คือที่มาของคำว่า Homecoming หรือ "คืนสู่เหย้า" ที่อาจหมายถึงได้ทั้งการต้อนรับกลับมาของ "สไปดี้" อีกครั้งหลังจาก 2 รุ่นพี่ก่อนหน้านี้

หรือการได้กลับมาเป็น "Friendly Neighbourhood Spider-Man" ซึ่ง นี่คือสิ่งที่ผมเลือกจะเชื่อในความหมายของ "Homecoming"





อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่แรกว่า เราจะได้เห็นความสมจริงของชีวิตซุปเปอร์ฮีโร่ผ่านความโก๊ะ เก้ๆ กังๆ มะงุมมะงาหราของสไปดี้วัยรุ่นอยู่ไม่น้อยในหนัง แต่แน่นอนว่าฮีโร่ก็คือฮีโร่ ที่ยังมีความเท่ให้เห็นอยู่แน่นอน แต่อีกครั้ง ที่สิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าสไปเดอร์แมนคนนี้เท่ กลับไม่ใช่ความสามารถในการต่อสู้ (ซึ่งก็เก่งอยู่แล้ว) แต่เป็นสิ่งที่เราดูแล้วอดคิดไม่ได้ว่า "เด็กคนนี้มันได้ว่ะ"

เป็นได้ทั้งหนังคอมเมดี้วัยรุ่นวุ่นรักสมัยมัธยมที่สนุก เป็นได้ทั้งหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ครื้นเครง โปรดจงเข้าไปดูกันเถิด แล้วจะไม่ผิดหวัง


ตัดเกรด (ก่อนอื่น ออกตัวนิดนึง ว่าผมมีความลำเอียงในรสนิยมส่วนตัวที่เอียงไปทางความดาร์ค ความเครียดของชีวิต ความตาย ที่เรามักจะได้เห็นฝั่งดีซีทำ ซึ่งตรงข้ามกับมาเวลที่มีไม่มากนัก)

Spider-Man: Homecoming = B+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่