"พอ-ศอ-สอง-พัน-ห้า-ร้อย-สี่-สิบ" หรือเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤติทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ที่คนทั่วไปเรียกว่า "วิกฤติต้มยำกุ้ง" ส่งผลกระทบต่อคนไทยนับหลายล้านคนที่ประกอบธุรกิจ จนรัฐบาลในขณะนั้นต้องออกมาตรการและรณรงค์ให้คนไทย "ไทยช่วยไทย กินของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทย ร่วมใจประหยัด" ดังที่ขึ้นคำขวัญตามหน้าจอโทรทัศน์ทุกช่อง

แม้แต่วงการเพลงไทยก็ไม่นิ่งเฉย เพราะในช่วงปีนั้นถือว่าเป็นปีทองของ "เพลงลูกทุ่ง" เลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่การขุดของเก่ามาทำใหม่ หากแต่มีเพลงใหม่หลายบทเพลงที่กลายเป็นเพลงดังขวัญใจคนไทยเรื่อยมาตลอดกาล ประกอบกับการเกิดสถานีวิทยุระบบ เอฟ.เอ็ม. ที่เปิดเพลงลูกทุ่งตลอด 24 ชม. ต่อวัน ภายใต้ความคิดริเริ่มของ วิทยา ศุภพรโอกาส ในชื่อ "ลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม." จนได้รับความนิยมจากผู้ฟังเป็นอันดับ 1 อย่างไม่มีใครคาดคิด ทำให้ข้อจำกัดของเพลงลูกทุ่งและคำครหาต่อเพลงลูกทุ่งหมดไป วงการเพลงลูกทุ่งกลับมากู้หน้าและมีชีวิตชีวาขึ้นทันตาเห็น

เราก็เลยขอแนะนำผลงานเพลงลูกทุ่งที่เริ่มโด่งดังในช่วงปี 2540 ว่ามีเพลงใดบ้างที่เรียกว่าเป็นที่สุดแห่งความทรงจำในยุคนั้น

นักร้องร่างอวบที่มีชื่อจริงว่า จันทร์เพ็ญ คงประกอบ แต่คนทั่วไปรู้จักชื่อ "อาภาพร นครสวรรค์" ออกเทปมาหลายชุดก็ไม่สมหวังสักที จนมาถึงอัลบั้มชุดที่ 9 เธออาจจะต้องเตรียมอำลาวงการลูกทุ่ง...แต่ที่ไหนได้ บทเพลงเพลงหนึ่งที่มีจังหวะสนุก ๆ เนื้อหาแกมประชดประชันแบบเปิดใจให้เลย กลายเป็นเพลงดังแห่งปีของสาวฮายทันที โดยมีชื่อเพลงว่า "เลิกแล้วค่ะ"

ขณะที่เพลง เลิกแล้วค่ะ กำลังโด่งดัง...เพื่อนรักที่เป็นนักร้องปักษ์ใต้อย่าง "เอกชัย ศรีวิชัย" ผู้เคยฝากผลงานเพลงแนวซึ้งอย่าง พี่มีแต่ให้ และ รักเก่าที่บ้านเกิด จนประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ก็ได้ออกมาท้าทายวงการลูกทุ่ง ด้วยการนำเอาศิลปะเพลงพื้นบ้านทางภาคกลางมาใส่เนื้อร้องให้เกิดความร่วมสมัย ซึ่งเพลงนำอย่าง "หมากัด" ก็กลายเป็นเพลงเด่นเพลงดังของเขาไปอีกเพลง

ทางด้านนักร้องรุ่นใหญ่ "สดใส รุ่งโพธิ์ทอง" ที่เคยมีบทเพลงอันลือลั่นอย่าง รักจางที่บางปะกง กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งด้วยบทเพลงที่ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทยเดิม และก็สมกับการรอคอย เพลง "รักน้องพร" จากการแต่งคำร้องของ เกียรติ เฉลิมชัย ก็กระหึ่มไปทั่วทุกมุมทุกบ้าน จนมีเพลงร้องแก้ตามมาอีกหลายเวอร์ชั่น

ส่วนค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่างแกรมมี่ ที่มี "ก๊อต-จักรพรรณ์ อาบครบุรี" (ก๊อท-จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ) มายืนหล่อขับกล่อมเพลงลูกทุ่งกว่าร้อยเพลงในโปรเจ็กต์หัวแก้วหัวแหวน ก็ได้เวลาทำเพลงที่เป็นเพลงใหม่ทันที พร้อมเปิดตัวด้วยความเว่อร์วังอลังการของชุดแต่งกายนักร้องและหางเครื่อง เพื่อให้สมกับที่เขาเป็นเจ้าชายลูกทุ่ง มีเพลงนำร่องอย่าง เศรษฐกิจหารสอง ที่มีเนื้อหาอ้างถึงกระแสวิกฤติต้มยำกุ้งพอดี แต่เพลงที่เรียกว่าโด่งดังสุด ๆ นั่นคือ "รักคุณยิ่งกว่าใคร" กับท่อนเด็ดอย่าง "ปิดจมูกไม่ให้ได้กลิ่น ปิดหูไม่ให้ได้ยินเสียงใคร" ก็ติดหูคนฟังให้เคลิ้มตามเช่นกัน

ฟากพระเอกลิเกที่ผันตัวมาเป็นนักร้องชื่อก้องในนาม "ไชยา มิตรชัย" ที่ตอนเริ่มเข้าสู่วงการเพลงก็ทำเพลงช่วยเหลือเด็กกำพร้ามาตลอด แต่พอออกอัลบั้มที่เรียกว่าเป็นอัลบั้มแจ้งเกิดระดับชาติจริง ๆ ในชื่อชุด "ไม่ธรรมดา" ที่มีเพลง กระทงหลงทาง และ ไม่ธรรมดา นอกจากที่เขาจะเป็นขวัญใจแม่ยกแล้ว ก็ยังเป็นขวัญใจชาวบ้านทุกถิ่นฐานที่ติดตามฟังเพลงและดูข่าวอันลือลั่นสนั่นวงการ จนเขารอดตัวมาได้และจะยังคงร้องรำทำเพลงต่อไปโดยสวัสดิภาพ  


นักร้องอีกคนที่ออกเทปมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พอเธอเป็นสาวแล้ว "ยุ้ย ญาติเยอะ" หรือ จริยา ปรีดากูล ก็ซบค่ายโฟร์เอสอีกแล้วครับท่าน ออกผลงานเพลงไว้ตั้งมากมายหลายชุด แต่เพลงแนวสนุกสนานที่โด่งดังสุดขีดของเธอก็คือ "พกเมียมาด้วยเหรอ" เป็นที่ติดปากและติดหูเรื่อยมา จนเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ถูกใช้ในการร้องเพลงประกอบการเต้นและในการประกวดดนตรีที่มีการเต้นอยู่บ่อย ๆ

ส่วนสุดยอดนักร้องเสียงเสน่ห์ที่มีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง ซ้อนกัน และมากมายอย่างอาแอ๊ว "ยอดรัก สลักใจ" ในปี 2540 มีผลงานเพลงที่เด่นสุด ๆ อย่าง "ผิดไหมที่ไม่แก่" มาตอกย้ำเรื่องวัยของเขา แต่เขามั่นใจว่ายังดูไม่แก่จริง ๆ ยังคงทำหน้าที่รับใช้แฟนเพลงต่อไป แม้จะมีดาวดวงใหม่มาแซงความนิยมก็ตามทีเถอะ

ทางด้านนักร้องคนใหม่...ที่แม้จะไม่ใหม่ในวงการ แต่ใหม่แค่ชื่อก็มี ดุษฎี ดอกรัก ที่กลับมาออกเทปอีกครั้งในนาม "รุ่ง สุริยา" กับบทเพลง "วอนพ่อตากสิน" เพลงเทิดทูนสุดซึ้งที่อยู่ในดวงใจของมิตรรักแฟนเพลงตลอดมา ก่อนที่เขาจะโด่งดังตามมาติด ๆ กับเพลงติงนัง สมกับเป็นสุภาพบุรุษลูกทุ่งร่างกะทัดรัดเลยจริง ๆ

ส่วนนักร้องหญิงที่มีประสบการณ์โชกโชนอีกคนหนึ่งอย่าง "ธิดา ดวงดาว" มากับเพลงเต้นรำสนุกสนานอย่าง รำวงด๊าวด่าว แต่เพลงที่เป็นที่รู้จักกว่าไหน ๆ ก็คือเพลง "กอดฉันก่อนลา" กับท่อนเด็ด "มันยุติธรรมกันดีอยู่หรือ..." พร้อมกับเสียงไวโอลินที่บาดหัวใจคนฟังทั้งประเทศ

และที่เหนือความคาดหมาย ก็คือนักร้องหน้าใหม่ที่มีอาชีพรับใช้ประชาชน "จ่าหลอย เฮนรี่" กับบทเพลงที่เอาใจคนอกหักคาวงเล่าอย่าง "น้ำตามดแดง" เพลงเศร้าสไตล์อีสานที่ติดชาร์ตและขายยาวแบบน้ำซึมบ่อทราย จนมีการนำไปขับร้องตามคาราโอเกะ ไนท์คลับ ผับ บาร์ จนเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ถ้าจะนับเพลง "สั่งนาง" ของ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย และ "มีเมียแล้วไม่เอา" ของ ดาว มยุรี ที่ดังตั้งแต่ปีกลายและดังข้ามปี รวมถึงเพลงเก่าที่มีการนำมาขับขานใหม่อย่างเช่น "รอยแผลเป็น" ซึ่งขับร้องโดย คัฑลียา มารศรี ก็น่าจะถูกจัดให้เป็นเพลงดังแห่งปี 2540 เช่นกัน แต่ในที่นี้ เราคัดเลือกเพียงบทเพลงเด่น ๆ ที่เริ่มวางจำหน่ายและขายดีในรอบปี 2540 ตามระบบธุรกิจอุตสาหกรรมเพลงไทย ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งใหม่ และยังเป็นเพลงที่เป็นตำนานให้คนทุกรุ่นทุกสมัยได้มาร่วมสัมผัสกัน

เพราะในปี 2540 มันมีอะไรที่ดีไปกว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ได้อย่างเรื่องของเพลง โดยเฉพาะ "เพลงลูกทุ่ง" เพลงที่เข้าถึงชาวบ้านได้ง่ายกว่า ใช้งบการผลิตและจำหน่ายที่ประหยัดกว่าเพลงแนวอื่น ๆ และเป็นเพลงที่มีเนื้อหาดีมีคุณค่าไม่ด้อยไปกว่าเพลงแนวอื่น ๆ

ขอจงมีความสุขกับการรำลึกบทเพลงเหล่านี้ สวัสดี.