ลูกจ้างกัมพูชาได้ทำการพิสูจท์สัญชาติเมื่อปี 2557 แต่ทางสถานทูตพึ่งติดต่อให้ไปรับเล่มพาสปอตเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมาค่ะ เมื่อได้รับพาสปอตแล้วจึงได้เดินทางไปพร้อมกับลูกจ้างที่ ตม.ไร่ขิง จ.นครปฐม เพราะตัวข้าพเจ้าพร้อมลูกจ้างทำงานอยู่ จ.นครปฐม จึงได้ไปดำเนินเรื่องที่นั่น

และเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ข้าพเจ้าได้ไปยื่นเรื่องการทำวีซ่าที่ ตม.ไร่ขิง จ.นครปฐม เมื่อยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่. ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจชื่อ วันเดือนปีเกิด ในพาสปอตกับบัตรสีชมพูว่าตรงกันหรือไม่ พอตรวจเช็คชื่อวันเดือนปีเกิดในพาสกับบัตรชมพูไม่ตรงกันจึงได้แจ้งกับข้าพเจ้ามาว่า"ให้ไปขอหนังสือรับรอวที่สถานทูตกัมพูชาจึงจะตีวีซ่าได้" และเมื่อข้าพเจ้าขอเอกสารจากสถานทูตได้แล้ว จึงนำมายื่นที่ ตม.ไร่ขิง จ.นครปฐม ในวันที่ 4 ก.ค 60 ผลปรากฎว่าทาง "เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าตีวีซ่าไม่ได้น่ะค่ะ เนื่องจากวันที่ออกพาสปอตเป็นวันที่ 21 JAN 2015 แต่หมดอายุในวันที่ 21 JAN 2025 คือทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงมาว่าพาสปอตออกมานานแล้วตั้งแต่ปี 2015 นานมาเป็น 2 ปีแล้วแต่ทำไมพึ่งมาตีวีซ่า" ข้าพเจ้าก็ชี้แจงไปว่า ทางสถานทูตกัมพูชาพึ่งติดต่อให้ไปรับเล่ม เมื่อต้นๆเดือน มิ.ย 60 ค่ะ จึงพึ่งนำมาตีวีซ่าในตอนนี้ค่ะ
  
ข้าพเจ้าก็ถามกลับเจ้าหน้าที่ ตม. ไปว่าแล้วตีวีซ่าไม่ได้จะทำยังไงค่ะ เค้าตอบกลับมาว่า ให้กลับไปทำเล่มที่บ้านมาใหม่ ถ้ายังไม่กลับไปทำเล่มก็ถือบัตรสีชมพูไปก่อน ข้าพเจ้าพร้อมลูกจ้างเมื่อฟังแล้วรู้สึกเครียดและหนักใจเป็นอย่างมากเราก็อยากให้เรียบร้อยทำให้ถูกต้องจะได้ไม่ต้องถูกจับหรือเสียค่าปรับ และเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกด้วยค่ะ. แล้วอย่างนี้ลูกจ้างจะทำการพิสูจน์สัญชาติและเสียเงินค่าทำพาสปอตไปทำไมค่ะ เงินที่เสียไปก็ไม่ใช่น้อยๆเกือบ 20000 บาท และกว่าจะได้เล่มพาสปอตมาก็เป็นระยะเวลานานมากๆเลยค่ะ  จะให้ลูกจ้างกับไปทำพาสที่บ้านมาใหม่มันก็ไม่ใช่น่ะค่ะ จะให้เสียเงินเพิ่มอีกทำไมค่ะ ในเมื่อมีพาสปอตเล่มนี้อยู่ในมือแล้วอีกทั้งยังไม่หมดอายุด้วยค่ะ แล้วจะทำใหม่ไปทำไมค่ะ ก็เท่ากับว่าถ้าไปทำใหม่ก็เสียเงิน 2 ต่อเลยน่ะค่ะเนี่ย มันไม่คุ้มเลยน่ะค่ะได้มายังไม่ได้ใช่ไม่ทันไรก็จะใช้ไม่ได้แล้วเหรอค่ะ เจ้าหน้าที่ตม.เค้าไม่สงสารและเห็นใจแรงงานเสียเลยค่ะแทนที่เค้ามาอาศัยอยู่บ้านเรา จะช่วยๆกันกับมาเจอปัญหาแบบนี้ที่ตม.แล้วเค้าจะทำยังไงค่ะ ไม่ใช่แค่ลูกจ้างข้าพเจ้าคนเดียวที่พึ่งรับเล่มลูกจ้างนายจ้างคนอื่นๆก็พึ่งรับเล่มที่สถานทูตกัมพูชาเหมือนกันค่ะและมีจำนวนเยอะด้วย แล้วจะแก้ไขกันอย่างไรค่ะ
   หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ที่ตม.ก็ได้คืนเล่มพาสให้ลูกจ้างข้าพเจ้าไป พอเอาเล่มพาสมาดูคือเค้าตีวีซ่าไปแล้วแล้วก็ทำการ ประทับคำว่า Cancel ลงไปในตัวพาสปอตทีหลัง เพราะก่อนหน้านั้นที่จะประทับคำว่า cancel ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกข้าพเจ้ากับลูกจ้างไปคุยว่ามันตีไม่ได้น่ะ ข้าพเจ้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่า "รู้ว่าตีวีซ่าไม่ได้ ตีวีซ่าให้ไม่ได้แล้วคุณจะตีประทับตรา ลงรายมือชื่อ ในเล่มพาสไปทำไมค่ะแล้วก็มาประทับคำว่า ยกเลิก แบบนี้ข้าพเจ้าจะเอาพาสไปตีวีซ่าที่ ตม. ที่อื่นได้อย่างไรค่ะเนี่ย

พอสอบถามเจ้าหน้าที่ไปว่า ตีวีซ่าที่อื่น เช่น กรุงเทพได้ไหม เค้าตอบว่าตีได้ น้องไม่ต้องซีเรียส  พอได้ยินคำที่เค้าพูดก็ค่อยโล่งใจหน่อย ก็รีบให้ลูกจ้างเดินทางไปตม.กรุงเทพค่ะ พอไปถึงจุดหมาย เจ้าหน้าที่ ตม.กรุงเทพแจ้งมาว่า ไม่ตีวีซ่าให้น่ะค่ะเหตุผลเพราะ ทางตม.ไร่ขิง นครปฐมตีเสียมาแล้วค้ะ เค้าไม่ตีวีซ่าให้ค่ะ  เล่มนี้ใช้ไม่ได้แล้วเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตม.ไร่ขิง นครปฐม ตีเสียไปแล้วต้องกลับบ้านไปทำมาใหม่ ถ้าเป็นเล่มเปล่าๆ เค้าจะตีให้อยู่ เพราะเค้ารับตีวีซ่าพาสปอตกัมพูชาเล่มแบบนี้อยู่ค่ะ เพราะทางแม่ ป้า ของลูกจ้างข้าพเจ้าก็ไปตีวีซ่าที่เขตนี้มาค่ะเค้าก็ตีวีซ่าให้น่ะค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งๆที่เล่มพาสปอต วันที่ออกบัตรกับวันที่หมดอายุก็ระบุเหมือนกันค่ะ ข้าพเจ้าก็แปลกใจว่าทำไม ตม.ไร่ขิงถึงไม่ตีวีซ่าให้ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลยค่ะ.  อ้าวแล้วอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบค่ะ  ข้าพเจ้ารูสึกหนักใจและเครียดเป็นอย่างมากค่ะ ทำอะไรไม่ได้เลย มีหนทางแก้ไขและช่วยเหลือข้าพเจ้าไหมค่ะ ที่จะสามารถเอาเล่มไปตีวีซ่าได้ค่ะ มันไม่มีความยุติธรรมต่อแรงงานเลยค่ะ

ที่แจ้งไปเพราะว่าสงสารลูกจ้างค่ะ อยากให้ได้รับความยุติธรรมค่ะ  อยากให้มีหน่วยงานมาช่วยเหลือกับปัญหาที่ข้าพเจ้าได้แจ้งไปข้างต้นค่ะ
สามารถติดต่อได้ที่อีเมลล์ meawkung1905@gmail.com ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
วรรณภา