"บันทึกคำให้การของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร จากกำเนิดถึงอวสาน รสช." โดย วาสนา นาน่วม สำนักพิมพ์มติชน

กระทู้คำถาม
http://www.rimkhobfabooks.com/media/catalog/product/cache/1/image/9df78eab33525d08d6e5fb8d27136e95/9/7/978-974-02-1001-6.jpg




จากความรุนแรงระหว่าง 17-20 พฤษภาคม 2535
นายกรัฐมนตรี  พล.อ.สุจินดา  คราประยูร   จึงเสนอแนวคิดให้ป๋าพาเข้าเฝ้าพร้อมกับ พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง
เพื่อยุติความขัดแย้ง  และหาทางออกให้บ้านเมือง

บรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลาย   ที่ตอนนั้นอยู่ในอำนาจของ จปร.5  ทั้งสิ้น  
ยังไม่อยากยอมแพ้  อยากสู้ต่อ

"หลวงตาจันทร์"  ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านโหราศาสตร์ของ รสช.  ก็แนะนำให้สู้ต่อ
เพราะดูดวงแล้ว  เห็นว่าหากสู้ต่อ  ก็จะชนะ

แต่ พล.อ.สุจินดา  ไม่ฟังคำทัดทาน   นำเสนอแนวคิดถึงป๋าเปรมในทันที
และเหตุการณ์ทั้งหมดก็คลี่คลาย  ยุติความรุนแรงได้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ และพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบมิได้



พล.อ.สุจินดา  รู้ว่า  ขณะนั้น กำลังมีความพยายามจะทำการรัฐประหารโค่น รสช.
โดยผู้ที่จะทำการรัฐประหารก็คือ พล.อ.พัลลภ  ปิ่นมณี  แกนนำ จปร.7  ซึ่งได้รับคำบัญชาจาก พลเอก ป.

แต่การรัฐประหารไม่เกิด   เพราะ พล.อ.สุจินดา  ยอมเจรจายุติความขัดแย้งเสียก่อน
ซึ่งหาก พล.อ.สุจินดาไม่ยอมแพ้   เลือดคงนองแผ่นดิน



พล.อ.พัลลภ   เล่าว่า

"ตอนนั้นผมหลบอยู่ในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะไม่รู้ว่าฝ่าย พล.อ.สุจินดาจะเอายังไงแน่  ก็ต้องเตรียมสู้

  มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งคือ พลเอก ป. ส่งลูกรัก คือ พลเอก อ. มาพบผมที่รามคำแหง  บอกว่าให้เตรียมพร้อม
  บอกว่า ถ้า พล.อ.สุจินดาไม่ยอม  เขามีกองกำลังให้แล้ว 5 กองพัน  จากนาวิกโยธิน (นย.)  3 กองพัน
  และจากทหารเสือฯ ร 21 รอ. อีก 2 กองพัน รออยู่ที่บางนา  บอกให้ผมนำกำลังทำการรัฐประหาร

  พลเอก ป. ท่านฝากถามมาว่า  ผมทำได้ไหม  ผมบอกไปว่า ทำได้อยู่แล้ว  แต่จะตายกันเละเลย
  
  พลเอก อ. นำคำตอบของผมไปเรียนให้ พลเอก ป. ทราบ     สิ่งที่เป็นคำสั่งกลับมาคือ
  ป. ท่านบอกว่า  เสียเท่าไรก็ยอมเสีย"


พลเอกพัลลภ  เล่าต่อว่า

"ตอนนั้น  ผมไปอยู่ที่ตึกคณะรัฐศาสตร์  โดยมีนักศึกษาช่วยดูแลความปลอดภัยให้
  แต่ผมก็ไม่ประมาท  ผมเอาระเบิดไปวางไว้ด้านนอกร้ัวประมาณ 200 เมตร  ถ้าใครเข้ามาก็ระเบิด
  พร้อมเอาถังน้ำมันไปวางไว้รอบ ๆ   พร้อมที่จะจุดระเบิด"



วางแผนและซุ่มอยู่ในรามคำแห่ง 3 วัน
ในที่สุด  การรัฐประหารล้มสุจินดาก็ไม่เกิดขึ้น  เพราะพลเอกสุจินดายอมลาออกก่อน

หากไม่แล้ว  การรัฐประหารเกิดขึ้นแน่   จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้
แต่ที่แน่ ๆ   ตายเยอะแน่นอน



พลเอกสุจินดายอมลาออก   แม่ทัพนายกองทั้งหลายก็จำต้องยอมแพ้ไปด้วย
ยอมรับผิดชอบต่อความรุนแรง  

พลเอกอิสระพงษ์  หนุนภักดี  ผบ.ทบ.   ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกลาโหม
พลเอกเกษตร  โรจนนิล  ผบ.ทอ.  ถูกเด้งไปเป็นจเรทหารทั่วไป

นั่นคือจุดอวสานของ รสช.


ซึ่งแตกต่างเหลือเกินกับเหตุการณ์ปี 53
ที่แม้จะตายเกือบร้อยศพ  บาดเจ็บสองพัน  แต่รัฐบาลและผู้นำกองทัพก็ยังไม่มีอะไรขีดข่วน


  


คุณวัชรานนท์  มีอะไรข้องใจไหมครับ ?
รู้สึกว่ามีอะไรไม่ "สุด" อีกหรือเปล่า ?
อมยิ้ม01
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่