เครื่องจักรสีแดง “Red Machine” กำลังจะกลับมา

เครื่องจักรสีแดง “Red Machine” คือสมญานามของ ลิเวอร์พูล ในอดีต เป็นเครื่องหมายการค้าของเหล่า เดอะ ค็อป กล่าวถึงทีมที่เปิดเกมรุก สนุก ดุดัน มาเป็นระลอกไม่หมด ดั่งเครื่องจักรที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ต่อเนื่อง
          
          ลิเวอร์พูล ในยุคใหม่ภายใต้การจัดการของ เจอร์เก้น คล็อป เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน นั้นก็ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิม เป็นทีมเล่นเกมรุก บุกเข้าใส่คู่แข่ง อย่างไม่ลดละ อย่างที่ได้เห็น ลิเวอร์พูล ยามเล่นกับยอดทีมก็ไม่เคยกลัวเกรง เปิดหน้าแลกอย่างสนุก สุดมัน เป็นเสน่ห์ดึงดูดกองเชียร์ให้ตามลุ้นทุกเกมทุกนัดไป
          
          จากการเสริมทีมล่าสุดของ เดอะ ค็อป ในการบรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญากับ โมฮัมเม็ด ซาล่าห์ มาด้วยค่าตัวราว 39 ล้านปอนด์ เป็นสถิติสูงสุดของสโมสร นั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ของ เจอร์เก้น คล็อป ที่จะยก ซ่อม เคาะ สตาร์ทเครื่องจักรสีแดงให้ติดขึ้นมาอีกครั้ง

          โมฮัมเม็ด ซาล่าห์ วัย 25 ปี ลงสนามช่วย โรม่า ยอดทีมจากกรุงโรม ต้นสังกัดเก่า 31 เกม ทำได้ถึง 15 ประตู กับอีก 11 แอสซิสท์ ปั้นเพื่อนร่วมทีม เอดิน เซโก้ ให้คว้าตำแหน่งดาวซัลโว 29 ประตูในซีรีย์ อา โดยทั้งคู่ระเบิดฟอร์มช่วย หมาป่าแห่งกรุงโรม จบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ อย่างสมศักดิ์ศรี ยิงรวมได้ถึง 90 ประตู มากกว่าแชมป์เปี้ยนอย่าง ม้าลาย ยูเวนตุส (77 ประตู) เสียอีก ดังนั้นข้อครหาในเรื่องความคุ้มค่ากับเม็ดเงินกว่า 39 ล้านปอนด์ คงคลายความกังวลใจให้กับแฟนบอลได้อย่างดี

          หากลองมองย้อนไปปัญหาใหญ่ของ ลิเวอร์พูล คือการไม่สามารถรักษานักเตะคนสำคัญของทีมได้เลย นับตั้งแต่ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ที่ย้ายไปร่วมทีมคู่แข่ง เชลซี ในฤดูกาล 2011 อย่างเจ็บแสบ เท่านั้นไม่พอ เดอะ ค็อป ยังต้องช้ำในซ้ำสองที่ทีมพลาดแชมป์อย่างเหลือเชื่อในปี 2013 ไม่พอยังต้องมาเสีย หลุยส์ ซัวเรส หนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดของสโมสรให้แก่ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลถัดไป   ถ้าหากได้มีโอกาสลงเล่นพร้อมกัน ดาวเตะทั้งสองอาจจะช่วยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้

          ทว่าฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล สามารถจบฤดูกาลได้ที่อันดับ 4 คว้าตั๋วไปแชมป์เปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องผ่านเกมเพลย์ ออฟ ก่อนก็ตาม นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่บรรดานักเตะตัวหลักของทีมยังเชื่อมั่นในตัวของ เจอร์เก้น คล็อป หัวเรือใหญ่อยู่ แม้ว่าได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่นอกเกาะอังกฤษอย่างไม่ขาดสาย ไม่มีใครปฎิเสธว่าการซื้อใจ และรักษาดาวดังของทีมเอาไว้ นับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างทีมให้ยิ่งใหญ่ ตรงจุดนี้ ลิเวอร์พูล ได้ทำสำเร็จแล้ว

          เครื่องจักรสีแดงกำลังจะเริ่มทำงานได้อีกครั้ง ไม่ใช่ความฝันลมๆแล้งๆอย่างแน่นอน เมื่อพิจรณาจากสถิติของฤดูกาลที่แล้ว อย่างละเอียดถี่ถ้วน

         เริ่มจาก
         หน้าเป้า
         โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่ อายุ 25 ปี ลงเล่น 35 เกม ทำได้ 11 ประตู 7 แอสซิสท์

         เพลย์เมคเกอร์
         ฟิลิปเป้ คูติญโญ่ อายุ 25 ปี ลงเล่น 31 เกม ทำได้ 13 ประตู 7 แอสซิสท์

         ตัวรุกฝั่งซ้าย  
         ซาดิโอ้ มาเน่ อายุ 25 ปี ลงเล่น 27 เกม ทำได้ 13 ประตู 5 แอสซิสท์

         ตัวรุกฝั่งขวา
         โมฮัมเม็ด ซาล่าห์ อายุ 25 ปี ลงเล่น 31 เกม ทำได้ 15 ประตู 11 แอสซิสท์

         งานสุดท้าย ที่อาจจะเรียกได้ว่าโหดหิน ยากยิ่งกว่ายาก ของ เจอร์เก้น คล็อป ก็คือการปรับจูนให้ทั้งสี่ สามารถทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากจะเปรียบ เจอร์เก้น คล็อป เป็นนายช่างใหญ่ผู้ยกเครื่องจักรสีแดงให้กลับมาทำงานอีกครั้ง สี่สหายวัยเบญจเพศก็คงไม่ต่างจากนายช่างเล็กที่คอยรับงานต่อจากนายช่างใหญ่นั่นเอง

         ส่วนกองเชียร์ชาวเดอะ ค็อป ก็คือเชื้อเพลิงสำคัญในการหล่อเลี้ยงเครื่องจักรให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องราบลื่น จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปคงไม่ได้ หากได้เชื้อเพลิงที่ดีมีคุณภาพ เครื่องจักรก็จะพากองเชียร์ บินสูงไปยังเป้าหมายดังคาดหวัง

         12 สิงหา แฟนบอลจะได้รู้กัน

         ที่มา TingSanam
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่