#ดูไม่ดู #รีวิวหนังใหม่ #ไม่มีสปอย #อยากชวนใครไปดูแท็กคนนั้นเลย
...
เรื่อง 2.22 เวลาเฉียดตาย
...
เคยไหมที่คุณมีความรู้สึกกับภาพเหตุการณ์ที่คุณกำลังเห็น แล้วมันเหมือนกับเราเคยเจอหรือผ่านเหตุการณ์นั้นมาก่อน แอดคนนึงแหละที่เคยเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้บ่อยนะ ซึ่งก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือว่ามันคืออะไร
หนังเรื่อง 2.22 เล่าถึงเห็นการณ์ของ Dylan (รับบทโดย Michiel Huisman) หนุ่มผู้ที่ทำหน้าที่จัดการจราจรของรันเวย์ในสนามบิน ที่วันดีคืนดีในเวลา 2.22 ก็ได้รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่ทำให้เห็นภาพนิมิต และก็เห็นเหตุการณ์คล้ายๆเดิมๆซ้ำทุกวันในเวลา 2.22 จนทำให้เขาต้องใช้ความสามารถที่มีหาสาเหตุว่าเหตุการณ์นี้ที่มันเกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่
...
หนังได้ใช้ไอเดียเกี่ยวกับ 'เวลา' มานำเสนอเป็นจุดหลักของเรื่อง ควบคู่ไปกับเรื่องราวความรักระหว่างพระเอกและนางเอก ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างดีในแง่ของการนำเสนอ
สิ่งที่แอดชอบก็คือ ช่วงเวลาในหนังนอกจากเวลา 2.22 ที่เป็นจุดเด่นของหนังแล้ว ช่วงเวลาอื่นๆในแต่ละวันของพระเอกก็สำคัญไม่แพ้กัน ทุกๆเหตุการณ์มันสามารถโยงไปสู่คำตอบของปริศนาของเรื่องนี้ได้ ซึ่งมันก็ทำให้เราได้ลุ้นและคิดตามว่ามันคืออะไร ที่สำคัญคือหนังมันจะค่อยๆคลายปมปริศนามาทีละนิดๆ โดยไม่บอกโต้งๆทีเดียวนี่แหละมันจึงทำให้หนังน่าติดตาม และไม่ทำให้คนดูอึดอัดเกินไป
...
แต่ข้อเสียของหนังที่แอดว่าหนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ก็คือ ทุกๆจุดพีคของหนังในเรื่องมันยังดูไม่สุดยังไงชอบกล ในทุกๆการคลายปมปริศนาในแต่ละครั้ง มันยังดูไม่เป็นไฮไลท์พอที่จะทำให้มันน่าจดจำ ซึ่งแอดมองว่าด้วยการที่หนังมีไอเดียเกี่ยวกับเวลาที่ดีอยู่แล้ว ก็น่าที่จะใส่ลูกเล่นหรือไฮไลท์ที่มันน่าสนใจมามากกว่านี้ได้อีก(แอดเลยรู้สึกผิดหวังหน่อยๆ เพราะนึกว่าจะพีคกว่านี้จากการที่ได้ดูตัวอย่างหนังไป)
...
นอกจากเรื่องของเวลาแล้ว เรื่องราวความรักของพระเอกนางเอกก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน มันเหมือนกับเราได้ดูหนังรักผสมกับหนังทริลเลอร์ที่ทำออกมาได้กลมกล่อมใช้ได้เชียวแหละ การแสดงของ Michiel Huisman และ Teresa Palmer ในเรื่องนี้ก็ทำได้ดีดูเหมาะสมและเคมีเข้ากันมาก ฉากน่ารักกุ๊กกิ๊กนี้ดูไปยิ้มไปอ่ะ อาจจะเป็นเพราะที่ความโคตรหล่อและโคตรสวยของทั้งสองคนด้วยแหละ ถึงทำให้หนังมันน่าดูขึ้นในแต่ละฉากที่ทั้งคู่ออกมา(โดยเฉพาะ Michiel Huisman นะ คนอะไรจะมาหล่อ หุ่นดี สมาร์ทได้ขนาดนี้ สมแล้วกับการที่ได้เป็นหนุ่มหน้าหล่อในปี 2016)
...
สรุป : ถือว่าเป็นหนังที่กลมกล่อมกำลังพอดีระหว่างเรื่องของความรักและการไขปริศนา หนังยังมีไอเดียที่น่าสนใจและสามารถทำออกมาได้ดีในระดับนึง แต่ก็ยังพีคไม่สุดทั้งๆที่ควรจะทำได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การรับชมอยู่ดี
...
ฟันธง ดูไม่ดู : เป็นอีกเรื่องที่น่าจะโดนใจสาวกหนัง Thriller ไม่มากก็น้อยแน่นอน ดูเถอะครับ แค่พล็อตเรื่องมันก็น่าดูแล้ว คุ้มค่าตั๋วแน่นอน
(6.5/10)
...
ฝาก #กดไลค์ #กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ และ เพื่อที่จะไม่พลาดการรีวิวหนังใหม่ๆจากเราด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/dodmoviereview
...
ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะครับ รักทุกท่านครับ
[CR] Review เรื่อง 2.22 #ดูไม่ดู #รีวิวหนังใหม่ #ไม่มีสปอย
#ดูไม่ดู #รีวิวหนังใหม่ #ไม่มีสปอย #อยากชวนใครไปดูแท็กคนนั้นเลย
...
เรื่อง 2.22 เวลาเฉียดตาย
...
เคยไหมที่คุณมีความรู้สึกกับภาพเหตุการณ์ที่คุณกำลังเห็น แล้วมันเหมือนกับเราเคยเจอหรือผ่านเหตุการณ์นั้นมาก่อน แอดคนนึงแหละที่เคยเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้บ่อยนะ ซึ่งก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือว่ามันคืออะไร
หนังเรื่อง 2.22 เล่าถึงเห็นการณ์ของ Dylan (รับบทโดย Michiel Huisman) หนุ่มผู้ที่ทำหน้าที่จัดการจราจรของรันเวย์ในสนามบิน ที่วันดีคืนดีในเวลา 2.22 ก็ได้รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่ทำให้เห็นภาพนิมิต และก็เห็นเหตุการณ์คล้ายๆเดิมๆซ้ำทุกวันในเวลา 2.22 จนทำให้เขาต้องใช้ความสามารถที่มีหาสาเหตุว่าเหตุการณ์นี้ที่มันเกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่
...
หนังได้ใช้ไอเดียเกี่ยวกับ 'เวลา' มานำเสนอเป็นจุดหลักของเรื่อง ควบคู่ไปกับเรื่องราวความรักระหว่างพระเอกและนางเอก ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างดีในแง่ของการนำเสนอ
สิ่งที่แอดชอบก็คือ ช่วงเวลาในหนังนอกจากเวลา 2.22 ที่เป็นจุดเด่นของหนังแล้ว ช่วงเวลาอื่นๆในแต่ละวันของพระเอกก็สำคัญไม่แพ้กัน ทุกๆเหตุการณ์มันสามารถโยงไปสู่คำตอบของปริศนาของเรื่องนี้ได้ ซึ่งมันก็ทำให้เราได้ลุ้นและคิดตามว่ามันคืออะไร ที่สำคัญคือหนังมันจะค่อยๆคลายปมปริศนามาทีละนิดๆ โดยไม่บอกโต้งๆทีเดียวนี่แหละมันจึงทำให้หนังน่าติดตาม และไม่ทำให้คนดูอึดอัดเกินไป
...
แต่ข้อเสียของหนังที่แอดว่าหนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ก็คือ ทุกๆจุดพีคของหนังในเรื่องมันยังดูไม่สุดยังไงชอบกล ในทุกๆการคลายปมปริศนาในแต่ละครั้ง มันยังดูไม่เป็นไฮไลท์พอที่จะทำให้มันน่าจดจำ ซึ่งแอดมองว่าด้วยการที่หนังมีไอเดียเกี่ยวกับเวลาที่ดีอยู่แล้ว ก็น่าที่จะใส่ลูกเล่นหรือไฮไลท์ที่มันน่าสนใจมามากกว่านี้ได้อีก(แอดเลยรู้สึกผิดหวังหน่อยๆ เพราะนึกว่าจะพีคกว่านี้จากการที่ได้ดูตัวอย่างหนังไป)
...
นอกจากเรื่องของเวลาแล้ว เรื่องราวความรักของพระเอกนางเอกก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน มันเหมือนกับเราได้ดูหนังรักผสมกับหนังทริลเลอร์ที่ทำออกมาได้กลมกล่อมใช้ได้เชียวแหละ การแสดงของ Michiel Huisman และ Teresa Palmer ในเรื่องนี้ก็ทำได้ดีดูเหมาะสมและเคมีเข้ากันมาก ฉากน่ารักกุ๊กกิ๊กนี้ดูไปยิ้มไปอ่ะ อาจจะเป็นเพราะที่ความโคตรหล่อและโคตรสวยของทั้งสองคนด้วยแหละ ถึงทำให้หนังมันน่าดูขึ้นในแต่ละฉากที่ทั้งคู่ออกมา(โดยเฉพาะ Michiel Huisman นะ คนอะไรจะมาหล่อ หุ่นดี สมาร์ทได้ขนาดนี้ สมแล้วกับการที่ได้เป็นหนุ่มหน้าหล่อในปี 2016)
...
สรุป : ถือว่าเป็นหนังที่กลมกล่อมกำลังพอดีระหว่างเรื่องของความรักและการไขปริศนา หนังยังมีไอเดียที่น่าสนใจและสามารถทำออกมาได้ดีในระดับนึง แต่ก็ยังพีคไม่สุดทั้งๆที่ควรจะทำได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การรับชมอยู่ดี
...
ฟันธง ดูไม่ดู : เป็นอีกเรื่องที่น่าจะโดนใจสาวกหนัง Thriller ไม่มากก็น้อยแน่นอน ดูเถอะครับ แค่พล็อตเรื่องมันก็น่าดูแล้ว คุ้มค่าตั๋วแน่นอน
(6.5/10)
...
ฝาก #กดไลค์ #กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ และ เพื่อที่จะไม่พลาดการรีวิวหนังใหม่ๆจากเราด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/dodmoviereview
...
ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะครับ รักทุกท่านครับ