คือพ่อของเราเคยทำไร่อ้อย โดยมีเถ้าแก่ลงทุนให้เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเช่าที่ทำไร่อ้อย พ่อเราก็ส่งอ้อยปกติอยู่ทุกปีทำไปได้ประมาณ 3ปี ทางเถ้าแก่บอกว่าไม่มีทุนให้แล้วนะ แล้วพ่อเราก็มาคิดไตร่ตรองคือทำอ้อยส่งให้เถ้าแก่เท่าไรทำไมหนี้ไม่หมดซักที จนพ่อเราตัดสินใจหยุดทำ ณ ตอนนั้นพ่อเราเช็คกับเถ้าแก่ว่าหนี้เหลือเท่าไร เถ้าแก่บอกว่าประมาณ 240,000 พ่อเราก็คิดว่าเดี๋ยวจะทยอยหาเงินใช้หนี้ ด้วยความลำบากของชาวไร่ชาวสวนเวลาผ่านไประยะนึง เจ้าหนี้มาบอกพ่อเราว่าจะฟ้อง ด้วยความที่พ่อเราไม่รู้กฏหมายอะไร เถ้าแก่บังคับให้พ่อเราเซ็นยอมรับภาระหนี้เป็นเงินเอาต้นเอาดอกมาบวกกันเป็นจำวน 450,000 และผ่านมาได้ระยะนึงด้วยความที่พ่อเราป่วยเส้นเลือดในสมองที่เชื่อมกับตาแตก ต้องรักษาตัว เจ้าหนี้ไปฟ้องบังคับคดีเป็นเงิน 600,000 จะยึดบ้านพ่อเรา พวกเราก็ติดต่อเข้าไปขอตกลงตัวเงิน เถ้าแก่บอกว่าจะเอา 800,000 มีทั้งดอกอีกนิดหน่อยมีทั้งค่าเสียหายในการดำเนินการ เราก็บอกว่าเรายอมรับใช้หนี้นะแต่ขอลดดอกให้เราหน่อย เรามีให้ 500,000 เถ้าแก่ไม่ยอมไปฟ้องบังคับคดี ทางพ่อเราก็กลัวไม่มีที่อยู่จ้างทนายสู้คดีเพราะคิดว่าทนายรู้กฏหมายจะช่วยเราได้บ้าง ปรากฏว่าทางพ่อน่าจะเจอทนายไม่ดี โดนทนายแนะนำในทางที่ไม่ดี ทำให้ตอนนี้พ่อเราถูกนำบ้านขายทอดตลาด ทางพ่อก็ขอเข้าไปคัดค้านการขายเพราะพ่อเราไม่ได้รับหมายการขายเพราะพาแม่ไปหาหมอ แม่เราเป็นมะเร็งเต้านม (สุดท้ายแล้วตอนนี้พ่อเราเปลี่ยนทนาย และมาเช็คอีกทีคือ เจ้าหนี้ฟ้องยึดที่ดินเลขที่......บ้านเลขที่.......แต่ในที่ดินมีบ้าน 2 หลังคนละเลขที่คนละเจ้าบ้าน เราอยากทราบว่าบ้านเลขที่ที่ไม่ใช่ของพ่อเราอีกหลังจะโดนยึดไปด้วยหรือเปล่า เพราะในใบฟ้องระบุแค่ที่ดินเลขที่......และบ้านเลขที่......โดยไม่ระบุถึงอีกหลัง รบกวนผู้เชี่ยวชาญกฏหมายตอบด้วยนะคะ เราร้อนใจมาก และอีกคำถามเราอยากรู้ว่าเราจะติดต่อทนายสงกรานต์ได้อย่างไร่ค่ะ ขอบคุณนะคะ)