หวนคิดคำนึงถึงตอนที่ฉันยังเป็นเด็กๆ
ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าบทความนี้มิได้ดักแก่แต่อย่างใด
เพียงแค่นำเรื่องราวที่ฝังอยู่ในความทรงจำส่วนลึกบางส่วน ย้ำว่าบางส่วน มาทำบทความให้อ่านกันเท่านั้นเองครับ
ประกอบกับความลุ่มหลงส่วนตัวที่ชอบรถแนวนี้เนื่องจากมันคล่องตัวและมีกำลังพอฟัดพอเหวี่ยงในแต่ละรุ่นได้
ว่ากันด้วยเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีจำหน่ายในบ้านเรามาอย่างยาวนานหลายยุค หลายสมัย จนถึงปัจจุบัน
มีมอเตอร์ไซค์อยู่บางแบบ ที่เรียกได้ว่ามันคือเอกลักษณ์เฉพาะ หรือถ้าเอาแบบบ้านๆก็เรียกกันว่ารถทรงกระเทยนั่นเอง
บทความนี้จะเรียกว่าเจาะก็คงจะมิได้ เอาเป็นว่า เอาเท่าที่พอจะจำได้และนึกออกมาบอกเล่ากันเป็นค่ายๆไปละกันครับ
และถ้าใครมีรุ่นไหนที่นึกออก ก็ช่วยๆกันบอกมาในบทความด้วยนะครับ
บางรุ่นนี่ผมเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน =_=
โดยในบทความนี้จะยกเป็นชื่อของรุ่นนั้นๆมาแบบไม่ได้แยกย่อย
เริ่มจากค่ายคนบ้านามว่า Suzuki กันก่อนเน๊าะ
1-sprinter
โอ้วววว แม่สาวน้อยรูปร่างอรชรเป็นหนักหนา แม้ว่าจะผ่านร้อนผ่านฝนมามากมายแค่ไหนรถกระเทยที่ยังคงมีให้เราเห็นอยู่ได้เรื่อยตามท้องถนน
ซึ่งในช่วงยุคสมัยนั้นวัยรุ่นๆนี่กรี๊ดกร๊าดคันเป็นแถวๆ ถ้าใครมีไว้ในครอบครอง
และจนถึงตอนนี้เราก็ยังมีโอกาสได้พบเห็นผู้ที่ยังใช้รุ่นนี้ ขับขี่ผ่านหน้าผ่านตาเราอยู่บ่อยครั้ง ทรงสมัยคลาสสิคจริงๆ
2-akira
สำหรับตัวนี้นับว่าเป็นยุคเรเนอร์ซองค์ของซูซูกิเลยก็แทบจะว่าได้ครับ รุ่งเรื่องจนอยู่ลำดับยอดขายต้นๆติดตลาดได้หลายปีในสมัยนั้น
คู่ปรับที่มีอยู่น้อยทำให้เจ้าอากิร่าจัดว่าเป็นกระเทยที่ถูกจดจำได้มากที่สุดของซูซูกิก็ว่าได้
ส่วนการแยกย่อยรุ่นนั้นไม่ขอเจาะจงไปนะครับเพราะเจ้ารุ่นนี้ก็ซอยรุ่นถี่อยู่นะเออ
และเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการจูนการปรับแต่งจากหลากหลายสำนักในช่วงนั้น
เอาเป็นว่าจำง่ายๆกับเจ้ารุ่นนี้น่าจะเป็นคำกล่าวนี้ "เจ้าแสงสว่างแห่งความเร็ว"
3-stinger
น่าจะเป็นรักนั้นแผ่วปลายไปแล้วเมื่อรุ่นนี้ออกมาในช่วงท้ายๆของยุคสองจังหวะโดยเครื่องยนต์นั้นได้รับการปรับปรุงมาจากอากิร่าเดิมนั่นเอง
แต่เมื่อมีพบย่อมมีจากรุ่นนี้ทำออกมาจำหน่ายได้ไม่นานมากนัก คนรักสองจังหวะก็ต้องอกหักกันเป็นแถบ
ด้วยเทคโนโลยี ค่าไอเสียนู่นนี่นั่น ที่เข้ามาแทนที ทำให้ค่อยๆจางหายไปจากท้องถนนบ้านเรา
ซึ่งถ้าสังเกตุด้วยสายตาเรากลับพบเห็นอากิร่ากับสปริ๊นเตอร์ได้ง่ายกว่าด้วยซ้ำไป ถถถถ
กับวลีใบปิดที่ว่า "ดีไซน์ร้อนแรง...ลีลาดุดัน...ท้าใจคนจริง"
4-RAIDER
เมื่อสิ้นสุดยุคสองจังหวะ ก็มีสี่จังหวะเข้ามาแทนที่ โดยการลงสังเวียนของทางค่ายคนบ้า ส่งเรดเดอร์มาขึ้นเวที
แต่ก็ยังไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้างมากนัก
เพราะในช่วงเดียวกันนั้น ก็มีเจ้าอื่นเป็นตัวเลือก ประกอบกับถ้าให้บอกกันตรงๆในยุคนั้นถือว่าเปิดตัวออกมาราคาค่อนข้างแรง
แต่ก็มีเรื่องราวของรุ่นนี้อยู่มากมายเช่นไทยเราเคยส่งรถซูซูกิเรดเดอร์ไปช่วยกองกำลัง UN ด้วยนะเออ นี่มันสายถึกชัดๆ
และที่น่าชื่นมื่นคือในปัจจุบันเป็นรถทรงกระเทยเพียงค่ายเดียวที่ยังมีวางจำหน่าย แม้จะเปลี่ยนรูปร่างเปลี่ยนเทคโนโลยีไปตามกาลเวลา
แต่ตราของเรดเดอร์ก็เป็นรถทรงกระเทยหัวโต ที่ขึ้นโชว์อยู่ในหัวและห้วงความคิดของหลายๆท่านเป็นแน่
และคำติดหูคู่กับรุ่นนี้ก็คงจะเป็น "สายพันธ์สปอร์ต" แม้ว่าจะเปลี่ยนโฉมมาแล้วรุ่นสู่รุ่น ก็ยังมีกลุ่มคนที่ยังสนใจเลือกมาใช้งานกันอยู่ทั่วไป
ผมก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นครับ ^___^
มาที่ค่ายรถทรงกระเทยค่ายต่อไปกันบ้างครับ เดี๋ยวอารมณ์จะค้างกันเสียก่อน
ค่ายต่อมาที่เราจะกล่าวถึงคือค่ายเขียว หรือ KAWASAKI นั่นเองครับ
แม้จะมีรถทรงกระเทยออกมาไม่มากมายนัก แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่ตกหลุมรักกระเทยจากค่ายนี้
อาจเป็นเพราะขุมพลังและเอกลักษณ์รวมถึงรูปร่างหน้าตาของมันที่ทำให้มีภาพจำเกี่ยวกับกระเทยค่ายนี้กันอย่างมากมาย
เช่นเดิมนะครับ จะไม่เจาะลึกชี้ชัด แค่งัดห้วงความคิดขึ้นมาเล่าสู่กันอ่าน
1-Cosmo
เจ้ารุ่นนี้ซอยย่อยออกมาได้ถึงสามรุ่น จะเป็นตัวแรกแบบธรรดา แล้วมาตัว R จบที่ Super R นับว่าเป็นกระเทยยุคแรกๆที่ใครเห็นเป็นต้องโดนสะกด
แม้บางเสียงจะบอกว่ารูปร่างมันแปลกแหวกแนว แต่หลายๆเสียงก็บอกว่ามันคือจรวดแห่งอวกาศชัดๆในยุคนั้น
ยิ่งเป็นตัวแฟริ่งครบๆบอกได้เลยว่าสุโค่ย!!
2-Tuxedo
พอเริ่มมาถึงช่วงก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ค่ายเขียวก็เปิดตัวรถรุ่นนี้ออกมา
มีเสียงเล่าลือหนาหูว่า มันคือกระเทยที่ควบคุมได้แม่นยำมากที่สุดในเวลานั้น
และทักซิโด้เนี่ยได้ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกับเซเลอร์มูน เดี๋ยวๆๆๆ คนละทักแล้วววว กลับมาๆ
เอาใหม่เจ้าทักซิโด้เนี่ย มีทั้งแบบสี่เกียร์ และ ห้าเกียร์ ความแรงก็เป็นประเด็นนึงที่หน้าจับตา แต่ความนิ่งของมันนี่ได้รับคำชมมาให้ได้ยินเสมอ
ใครเจอรุ่นนี้หวังที่จะตามในโค้งยุคนั้นเรียกได้ว่าหืดขึ้นคอกันเลยครับ แถมกวาดรางวัลมามากมายในสนามแข่งมาการันตีอีก
3-Raptor
รุ่นนี้จอนนี่กับหลุยส์ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์นะครับ ถถถ
จริงๆแล้วมันก็คือทักซิโด้อัพเกรดนั่นแหล่ะครับ แต่กลับหาดูและเห็นในชีวิตได้ยากกว่า
อาจเป็นเพราะความแตกต่างเพียงเล็กน้อยและในช่วงนั้นคนก็ยังมีภาพจำเกี่ยวกับทักซิโด้มากกว่าแหล่ะมั้ง
ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำให้ค่ายเขียวต้องหาทางแก้เกมส์ทางการตลาดที่ซบเซาลงไปในช่วงนั้นเลย
แต่ส่วนตัวผมชอบมิติตัวรถของรถรุ่นนี้มากกว่าแฮะ
4-Leo
อีกหนึ่งรุ่นที่ยอดขายเป็นกอบเป็นกำค่ายเขียวกลับมาผงาดชูชันได้อีกหน
ตัวรถที่ทำให้หลายๆคนตกหลุมรักได้ง่าย เป็นอีกรุ่นที่มีรุ่นซอยย่อยออกมาอีกหลายตัว
กระเทยที่ทรงเรียบง่ายแต่ร้ายลึกรุ่นนี้ก็มีดีกรีที่ไม่น้อยไปกว่ารุ่นพี่ๆเลยแม้แต่น้อย ที่รัดของที่เป็นแบบตะของัดข้างเบาะมันเท่ห์เสียนี่กะไร
ยิ่งมาเป็นตัว SR ที่มีกันสะบัดติดมาให้จากโรงงาน แถมเป็นดิสเบรคคู่ด้วยนะ ตอนเห็นครั้งแรกผมนี่เผลอร้อง อู้หูววว กันเลย
และจำได้คร่าวๆว่าตัว LEO จะมีอยู่รุ่นนึงที่ปรับแต่งพอร์ตมาให้เลย แต่อันนี้ผมเองก็ไม่ใจนะครับว่ารุ่นไหน เกิดไม่ค่อยจะทันจริงๆ ฮี่ๆ
และก็เหมือนจะเป็นกระเทยรุ่นสุดท้ายของค่ายนี้ก่อนที่กระแสจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
มาถึงรอบของค่าย YAMAHA กันบ้าง หรือเรียกกันอีกอย่าว่าค่าย ส้อมเสียง นั่นแล
ค่ายนี้เป็นอีกหนึ่งค่าย ที่มีรถทรงกระเทยโดนใจคนวัยเราอย่างมากมายครับ เชื่อว่าหลายๆคนก็เคยคิดที่จะครอบครอง
ไม่รุ่นใดก็รุ่นนึงกันบ้างแหล่ะ
1-Bell
Bell 80จัดว่าเป็นกระเทยรุ่นแรกที่จำหน่ายในบ้านเราของค่ายนี้กันเลยทีเดียว และพื้นเพไม่ธรรดานะครับ สายคลาสสิคคงรู้จัก Y80 กันดี
ซึ่งเจ้ารุ่นนี้ก็ต่อยอดมาจาก Y80นี่แหล่ะ แถมยังเปลี่ยนระบบจากทองขาวมาเป็นCDIเสียด้วย ที่เจ๋งไปกว่านั้น นี้ก็มีขายเฉพาะประเทศไทยซะด้วย
หลังจากวางจำหน่ายได้พักใหญ่ การพัฒนาที่ไมหยุดนิ่งก็ส่งเจ้า Bell 100 ออกมาสู่ตลาด ซึ่งทิ้งช่วงห่างกันนานระยะนึงกันเลยครับ
แต่การมาของ Bell 100 ก็ทำให้รถทรงกระเทยของยามาฮ่ากลับมาคึกคักกันได้อีกครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ
ซีรี่ย์สุดท้ายของรถตระกูล Bell ก็มาจบที่ Bell R ยัดความสปอร์ตและเร้าใจในการเข้าเกียร์เพิ่มมากขึ้นด้วยชุดคลัชมือ
แม้ว่ามันจะยังเป็นแค่คลัชหลอกก็ตาม แต่แค่นี้มันก็หล่อมากๆแหล่ววว
2-ZR
รหัสสั้นตัวจี๊ด ที่โดนกล่าวขานถึงกันอยู่เนืองๆ "มาวัดใจกัน" คำโปรยที่อยู่บนหน้าโบชัวร์ก็ยั่วยวนให้หลายๆคนไปวัดด้วยจริงๆ
กับพลังที่เพิ่มมากขึ้น มาเป็น 120cc แค่นี้ในตอนนั้นก็เหมือนมันจะบินแล้วครับ
แถมยังว่ากันว่าเป็นรถทรงกระเทยที่ให้ท่วงท่าการขับขี่ได้กระชับและแม่นยำมากที่สุดตัวนึงด้วยเช่นกันแต่ก็มีเมื่อยๆบ้าง
3-JR
นี่แหล่ะยุคผมเลย ฮ่าๆๆๆ ช่วงนั้นกระแสรถกระเทยแข่งขันกันดุเดือดมาก เจ้า JR ก็มากอบกู้สถานะการณ์ได้อย่างไม่เป็นรองเจ้าอื่นๆ
แถมความแรงที่ถูกต่อยอดจากเดิมมา ทำให้ช่างมือทองสองจังหวะเติบโตมาในช่วงนั้นอย่างมากมาย เสียงท่อที่เป็นเอกลักษณ์เมือขับผ่าน
เสียงหวานๆยังดังวิ้งๆอยู่ในห้วงความคิดจนถึงตอนนี้จริงๆ เป็นรุ่นที่น่าจะพบเห็นได้ง่าย
และบ่อยที่สุดเท่าที่ยังคงสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบันทั้งตัวธรรมดาและตัวS
4-tiara
เจ้าตัวนี้ทำตลาดออกมาไม่นานนัก ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ไม่ค่อยเห็นใครขับกันสักเท่าไหร่นักแต่ถ้าเจออย่าเผลอไปตามนะครับ
โดนทิ้งได้ง่ายกันเลย กับเกียร์ที่มาถึงหก ทำให้ขึ้นชกกับค่ายต่างๆได้แบบไม่ยากเย็น
5-speed
รุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นสุดท้ายของทางค่ายยามาฮ่าที่มาจำหน่ายในไทยกับรถทรงกระเทย
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เทคโนโลยี่ช่วงท้ายของสองจังหวะถูกใส่มาแบบจัดเต็ม
ถ้าใครยังจำรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์ช่วงยุคนั้นได้จะเห็นเจ้ารุ่นนี้ขึ้นสู่โพเดี้ยมอยู่เสมอ แต่ก็นั่นแหล่ะครับ
เวลาผันผ่าน เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ทำให้เจ้ารุ่นนี้ออกมาผาดโผนได้ไม่นาน ก็ถึงคราที่ต้องอำลาและหายหน้าจากท้องตลาดจักรยานยนต์บ้านเรา
เหลือไว้เพียงภาพจำ และเห็นคนขับผ่านอยู่บ้าง ซึ่งรุ่นนี้ผมว่ามันสวยสุดละนะ เสียดายความสวยงามของมันจริงๆ
ตัวอักษรไม่พอละ ต่อที่ย่อหน้าต่อไปละกันครับ
ถ้าใจดีกดบวกให้เบาๆ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วครับ^^
รถทรงกระเทยคุ้นๆเคยๆกันอยู่
ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าบทความนี้มิได้ดักแก่แต่อย่างใด
เพียงแค่นำเรื่องราวที่ฝังอยู่ในความทรงจำส่วนลึกบางส่วน ย้ำว่าบางส่วน มาทำบทความให้อ่านกันเท่านั้นเองครับ
ประกอบกับความลุ่มหลงส่วนตัวที่ชอบรถแนวนี้เนื่องจากมันคล่องตัวและมีกำลังพอฟัดพอเหวี่ยงในแต่ละรุ่นได้
ว่ากันด้วยเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีจำหน่ายในบ้านเรามาอย่างยาวนานหลายยุค หลายสมัย จนถึงปัจจุบัน
มีมอเตอร์ไซค์อยู่บางแบบ ที่เรียกได้ว่ามันคือเอกลักษณ์เฉพาะ หรือถ้าเอาแบบบ้านๆก็เรียกกันว่ารถทรงกระเทยนั่นเอง
บทความนี้จะเรียกว่าเจาะก็คงจะมิได้ เอาเป็นว่า เอาเท่าที่พอจะจำได้และนึกออกมาบอกเล่ากันเป็นค่ายๆไปละกันครับ
และถ้าใครมีรุ่นไหนที่นึกออก ก็ช่วยๆกันบอกมาในบทความด้วยนะครับ
บางรุ่นนี่ผมเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน =_=
โดยในบทความนี้จะยกเป็นชื่อของรุ่นนั้นๆมาแบบไม่ได้แยกย่อย
เริ่มจากค่ายคนบ้านามว่า Suzuki กันก่อนเน๊าะ
1-sprinter
โอ้วววว แม่สาวน้อยรูปร่างอรชรเป็นหนักหนา แม้ว่าจะผ่านร้อนผ่านฝนมามากมายแค่ไหนรถกระเทยที่ยังคงมีให้เราเห็นอยู่ได้เรื่อยตามท้องถนน
ซึ่งในช่วงยุคสมัยนั้นวัยรุ่นๆนี่กรี๊ดกร๊าดคันเป็นแถวๆ ถ้าใครมีไว้ในครอบครอง
และจนถึงตอนนี้เราก็ยังมีโอกาสได้พบเห็นผู้ที่ยังใช้รุ่นนี้ ขับขี่ผ่านหน้าผ่านตาเราอยู่บ่อยครั้ง ทรงสมัยคลาสสิคจริงๆ
2-akira
สำหรับตัวนี้นับว่าเป็นยุคเรเนอร์ซองค์ของซูซูกิเลยก็แทบจะว่าได้ครับ รุ่งเรื่องจนอยู่ลำดับยอดขายต้นๆติดตลาดได้หลายปีในสมัยนั้น
คู่ปรับที่มีอยู่น้อยทำให้เจ้าอากิร่าจัดว่าเป็นกระเทยที่ถูกจดจำได้มากที่สุดของซูซูกิก็ว่าได้
ส่วนการแยกย่อยรุ่นนั้นไม่ขอเจาะจงไปนะครับเพราะเจ้ารุ่นนี้ก็ซอยรุ่นถี่อยู่นะเออ
และเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการจูนการปรับแต่งจากหลากหลายสำนักในช่วงนั้น
เอาเป็นว่าจำง่ายๆกับเจ้ารุ่นนี้น่าจะเป็นคำกล่าวนี้ "เจ้าแสงสว่างแห่งความเร็ว"
3-stinger
น่าจะเป็นรักนั้นแผ่วปลายไปแล้วเมื่อรุ่นนี้ออกมาในช่วงท้ายๆของยุคสองจังหวะโดยเครื่องยนต์นั้นได้รับการปรับปรุงมาจากอากิร่าเดิมนั่นเอง
แต่เมื่อมีพบย่อมมีจากรุ่นนี้ทำออกมาจำหน่ายได้ไม่นานมากนัก คนรักสองจังหวะก็ต้องอกหักกันเป็นแถบ
ด้วยเทคโนโลยี ค่าไอเสียนู่นนี่นั่น ที่เข้ามาแทนที ทำให้ค่อยๆจางหายไปจากท้องถนนบ้านเรา
ซึ่งถ้าสังเกตุด้วยสายตาเรากลับพบเห็นอากิร่ากับสปริ๊นเตอร์ได้ง่ายกว่าด้วยซ้ำไป ถถถถ
กับวลีใบปิดที่ว่า "ดีไซน์ร้อนแรง...ลีลาดุดัน...ท้าใจคนจริง"
4-RAIDER
เมื่อสิ้นสุดยุคสองจังหวะ ก็มีสี่จังหวะเข้ามาแทนที่ โดยการลงสังเวียนของทางค่ายคนบ้า ส่งเรดเดอร์มาขึ้นเวที
แต่ก็ยังไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้างมากนัก
เพราะในช่วงเดียวกันนั้น ก็มีเจ้าอื่นเป็นตัวเลือก ประกอบกับถ้าให้บอกกันตรงๆในยุคนั้นถือว่าเปิดตัวออกมาราคาค่อนข้างแรง
แต่ก็มีเรื่องราวของรุ่นนี้อยู่มากมายเช่นไทยเราเคยส่งรถซูซูกิเรดเดอร์ไปช่วยกองกำลัง UN ด้วยนะเออ นี่มันสายถึกชัดๆ
และที่น่าชื่นมื่นคือในปัจจุบันเป็นรถทรงกระเทยเพียงค่ายเดียวที่ยังมีวางจำหน่าย แม้จะเปลี่ยนรูปร่างเปลี่ยนเทคโนโลยีไปตามกาลเวลา
แต่ตราของเรดเดอร์ก็เป็นรถทรงกระเทยหัวโต ที่ขึ้นโชว์อยู่ในหัวและห้วงความคิดของหลายๆท่านเป็นแน่
และคำติดหูคู่กับรุ่นนี้ก็คงจะเป็น "สายพันธ์สปอร์ต" แม้ว่าจะเปลี่ยนโฉมมาแล้วรุ่นสู่รุ่น ก็ยังมีกลุ่มคนที่ยังสนใจเลือกมาใช้งานกันอยู่ทั่วไป
ผมก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นครับ ^___^
มาที่ค่ายรถทรงกระเทยค่ายต่อไปกันบ้างครับ เดี๋ยวอารมณ์จะค้างกันเสียก่อน
ค่ายต่อมาที่เราจะกล่าวถึงคือค่ายเขียว หรือ KAWASAKI นั่นเองครับ
แม้จะมีรถทรงกระเทยออกมาไม่มากมายนัก แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่ตกหลุมรักกระเทยจากค่ายนี้
อาจเป็นเพราะขุมพลังและเอกลักษณ์รวมถึงรูปร่างหน้าตาของมันที่ทำให้มีภาพจำเกี่ยวกับกระเทยค่ายนี้กันอย่างมากมาย
เช่นเดิมนะครับ จะไม่เจาะลึกชี้ชัด แค่งัดห้วงความคิดขึ้นมาเล่าสู่กันอ่าน
1-Cosmo
เจ้ารุ่นนี้ซอยย่อยออกมาได้ถึงสามรุ่น จะเป็นตัวแรกแบบธรรดา แล้วมาตัว R จบที่ Super R นับว่าเป็นกระเทยยุคแรกๆที่ใครเห็นเป็นต้องโดนสะกด
แม้บางเสียงจะบอกว่ารูปร่างมันแปลกแหวกแนว แต่หลายๆเสียงก็บอกว่ามันคือจรวดแห่งอวกาศชัดๆในยุคนั้น
ยิ่งเป็นตัวแฟริ่งครบๆบอกได้เลยว่าสุโค่ย!!
2-Tuxedo
พอเริ่มมาถึงช่วงก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ค่ายเขียวก็เปิดตัวรถรุ่นนี้ออกมา
มีเสียงเล่าลือหนาหูว่า มันคือกระเทยที่ควบคุมได้แม่นยำมากที่สุดในเวลานั้น
และทักซิโด้เนี่ยได้ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกับเซเลอร์มูน เดี๋ยวๆๆๆ คนละทักแล้วววว กลับมาๆ
เอาใหม่เจ้าทักซิโด้เนี่ย มีทั้งแบบสี่เกียร์ และ ห้าเกียร์ ความแรงก็เป็นประเด็นนึงที่หน้าจับตา แต่ความนิ่งของมันนี่ได้รับคำชมมาให้ได้ยินเสมอ
ใครเจอรุ่นนี้หวังที่จะตามในโค้งยุคนั้นเรียกได้ว่าหืดขึ้นคอกันเลยครับ แถมกวาดรางวัลมามากมายในสนามแข่งมาการันตีอีก
3-Raptor
รุ่นนี้จอนนี่กับหลุยส์ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์นะครับ ถถถ
จริงๆแล้วมันก็คือทักซิโด้อัพเกรดนั่นแหล่ะครับ แต่กลับหาดูและเห็นในชีวิตได้ยากกว่า
อาจเป็นเพราะความแตกต่างเพียงเล็กน้อยและในช่วงนั้นคนก็ยังมีภาพจำเกี่ยวกับทักซิโด้มากกว่าแหล่ะมั้ง
ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำให้ค่ายเขียวต้องหาทางแก้เกมส์ทางการตลาดที่ซบเซาลงไปในช่วงนั้นเลย
แต่ส่วนตัวผมชอบมิติตัวรถของรถรุ่นนี้มากกว่าแฮะ
4-Leo
อีกหนึ่งรุ่นที่ยอดขายเป็นกอบเป็นกำค่ายเขียวกลับมาผงาดชูชันได้อีกหน
ตัวรถที่ทำให้หลายๆคนตกหลุมรักได้ง่าย เป็นอีกรุ่นที่มีรุ่นซอยย่อยออกมาอีกหลายตัว
กระเทยที่ทรงเรียบง่ายแต่ร้ายลึกรุ่นนี้ก็มีดีกรีที่ไม่น้อยไปกว่ารุ่นพี่ๆเลยแม้แต่น้อย ที่รัดของที่เป็นแบบตะของัดข้างเบาะมันเท่ห์เสียนี่กะไร
ยิ่งมาเป็นตัว SR ที่มีกันสะบัดติดมาให้จากโรงงาน แถมเป็นดิสเบรคคู่ด้วยนะ ตอนเห็นครั้งแรกผมนี่เผลอร้อง อู้หูววว กันเลย
และจำได้คร่าวๆว่าตัว LEO จะมีอยู่รุ่นนึงที่ปรับแต่งพอร์ตมาให้เลย แต่อันนี้ผมเองก็ไม่ใจนะครับว่ารุ่นไหน เกิดไม่ค่อยจะทันจริงๆ ฮี่ๆ
และก็เหมือนจะเป็นกระเทยรุ่นสุดท้ายของค่ายนี้ก่อนที่กระแสจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
มาถึงรอบของค่าย YAMAHA กันบ้าง หรือเรียกกันอีกอย่าว่าค่าย ส้อมเสียง นั่นแล
ค่ายนี้เป็นอีกหนึ่งค่าย ที่มีรถทรงกระเทยโดนใจคนวัยเราอย่างมากมายครับ เชื่อว่าหลายๆคนก็เคยคิดที่จะครอบครอง
ไม่รุ่นใดก็รุ่นนึงกันบ้างแหล่ะ
1-Bell
Bell 80จัดว่าเป็นกระเทยรุ่นแรกที่จำหน่ายในบ้านเราของค่ายนี้กันเลยทีเดียว และพื้นเพไม่ธรรดานะครับ สายคลาสสิคคงรู้จัก Y80 กันดี
ซึ่งเจ้ารุ่นนี้ก็ต่อยอดมาจาก Y80นี่แหล่ะ แถมยังเปลี่ยนระบบจากทองขาวมาเป็นCDIเสียด้วย ที่เจ๋งไปกว่านั้น นี้ก็มีขายเฉพาะประเทศไทยซะด้วย
หลังจากวางจำหน่ายได้พักใหญ่ การพัฒนาที่ไมหยุดนิ่งก็ส่งเจ้า Bell 100 ออกมาสู่ตลาด ซึ่งทิ้งช่วงห่างกันนานระยะนึงกันเลยครับ
แต่การมาของ Bell 100 ก็ทำให้รถทรงกระเทยของยามาฮ่ากลับมาคึกคักกันได้อีกครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ
ซีรี่ย์สุดท้ายของรถตระกูล Bell ก็มาจบที่ Bell R ยัดความสปอร์ตและเร้าใจในการเข้าเกียร์เพิ่มมากขึ้นด้วยชุดคลัชมือ
แม้ว่ามันจะยังเป็นแค่คลัชหลอกก็ตาม แต่แค่นี้มันก็หล่อมากๆแหล่ววว
2-ZR
รหัสสั้นตัวจี๊ด ที่โดนกล่าวขานถึงกันอยู่เนืองๆ "มาวัดใจกัน" คำโปรยที่อยู่บนหน้าโบชัวร์ก็ยั่วยวนให้หลายๆคนไปวัดด้วยจริงๆ
กับพลังที่เพิ่มมากขึ้น มาเป็น 120cc แค่นี้ในตอนนั้นก็เหมือนมันจะบินแล้วครับ
แถมยังว่ากันว่าเป็นรถทรงกระเทยที่ให้ท่วงท่าการขับขี่ได้กระชับและแม่นยำมากที่สุดตัวนึงด้วยเช่นกันแต่ก็มีเมื่อยๆบ้าง
3-JR
นี่แหล่ะยุคผมเลย ฮ่าๆๆๆ ช่วงนั้นกระแสรถกระเทยแข่งขันกันดุเดือดมาก เจ้า JR ก็มากอบกู้สถานะการณ์ได้อย่างไม่เป็นรองเจ้าอื่นๆ
แถมความแรงที่ถูกต่อยอดจากเดิมมา ทำให้ช่างมือทองสองจังหวะเติบโตมาในช่วงนั้นอย่างมากมาย เสียงท่อที่เป็นเอกลักษณ์เมือขับผ่าน
เสียงหวานๆยังดังวิ้งๆอยู่ในห้วงความคิดจนถึงตอนนี้จริงๆ เป็นรุ่นที่น่าจะพบเห็นได้ง่าย
และบ่อยที่สุดเท่าที่ยังคงสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบันทั้งตัวธรรมดาและตัวS
4-tiara
เจ้าตัวนี้ทำตลาดออกมาไม่นานนัก ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ไม่ค่อยเห็นใครขับกันสักเท่าไหร่นักแต่ถ้าเจออย่าเผลอไปตามนะครับ
โดนทิ้งได้ง่ายกันเลย กับเกียร์ที่มาถึงหก ทำให้ขึ้นชกกับค่ายต่างๆได้แบบไม่ยากเย็น
5-speed
รุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นสุดท้ายของทางค่ายยามาฮ่าที่มาจำหน่ายในไทยกับรถทรงกระเทย
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เทคโนโลยี่ช่วงท้ายของสองจังหวะถูกใส่มาแบบจัดเต็ม
ถ้าใครยังจำรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์ช่วงยุคนั้นได้จะเห็นเจ้ารุ่นนี้ขึ้นสู่โพเดี้ยมอยู่เสมอ แต่ก็นั่นแหล่ะครับ
เวลาผันผ่าน เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ทำให้เจ้ารุ่นนี้ออกมาผาดโผนได้ไม่นาน ก็ถึงคราที่ต้องอำลาและหายหน้าจากท้องตลาดจักรยานยนต์บ้านเรา
เหลือไว้เพียงภาพจำ และเห็นคนขับผ่านอยู่บ้าง ซึ่งรุ่นนี้ผมว่ามันสวยสุดละนะ เสียดายความสวยงามของมันจริงๆ
ตัวอักษรไม่พอละ ต่อที่ย่อหน้าต่อไปละกันครับ
ถ้าใจดีกดบวกให้เบาๆ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วครับ^^