•เมื่อฉันกลัวการไปอยู่มหาลัย•


•เมื่อฉันกลัวการไปอยู่มหาลัย•
สวัสดีคะ ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ ย้อนไปตอนดิฉันอายุ15 ปี เป็นเด็กต่างอำเภอค่ะ ดิฉันเป็นเด็กใฝ่เรียน การเรียนอยู่ระดับกลางๆ
เพื่อนได้ชวนดิฉันไปลองสอบเข้าโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในตัวเมืองของจังหวัด
ดิฉันก็เคยได้ยินมาว่าโรงเรียนนี้สอบเข้ายาก ถ้าใครได้เรียนที่นี่ จะมีโอกาสสอบเข้าจุฬา ธรรมศาสตร์ ได้ง่ายๆ ยอมรับว่าสนใจมากๆ แต่ก็เผื่อใจไว้ว่าคงไม่ติดหรอก และปรากฎว่าดิฉันสอบติด มันยิ่งทำให้ดิฉันอยากเข้าเรียนที่นี่มากๆ จึงขออนุญาติคุณแม่ แม่ก็คัดค้านเพราะค่าเรียนที่นี่ค่อนข้างแพง และครอบครัวเราก็ไม่ได้มีฐานะดีขนาดนั้น และอีกอย่างต้องไปพักอยู่ที่หอเกรงว่าจะดูแลตัวเองไม่ได้ แต่ดิฉันก็ดื้อรั้น ยกเหตุผลต่างๆนานามาอ้างว่ามันดีอย่างนั้นอย่างนี้ จนแม่ใจอ่อน
วันแรกที่เข้ามาเรียนตื้นเต้นดีค่ะ หลังจากทำกิจกรรมวันแรก ก่อนจะเข้านอน อาการมันมาเลยคะ มันคิดถึง มันอยากกลับบ้านมากๆเลยค่ะ
เป็นมาเรื่อยๆ เวลามันคิดถึงบ้าน มันอยากอยู่คนเดียวไม่อยากสุงสิงกับใคร มันเลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลย จนมันทำให้การเรียนเราเสีย เพราะเราไม่มีสมาธิจะไปจดจ่อกับสิ่งอื่น ยิ่งเรามีอาการโฮมซิกแล้วไม่มีเพื่อนในโรงเรียนประจำเลย อาการมันยิ่งดูแย่ไปกันใหญ่ ถึงขนาดนั้งร้องในห้องเรียน ดิฉันเคยเช็คดูในอินเทอร์เนตดูอาการตัวเอง มันคล้ายโรคซึมเศร้า ไม่กินข้าว หมกตัวอยู่คนเดียว ไม่อยากทำอะไร ตอนกลางดึกชอบสะดุ้งตื่นมาประมาณตีสี่ตีห้า แล้วก็มานั่งร้องไห้ในห้องน้ำคนเดียวเงียบๆ
เวลากินข้าวก็ต้องนั่งกินคนเดียว เวลาครูให้จับกลุ่ม เราจะเป็นคนสุดท้ายที่ไม่มีกลุ่มตลอด การไม่มีเพื่อนและเราก็มีอาการโฮมซิกมันดูเป็นอะไรที่หนักมากสำหรับเรา เราเลยตัดสินใจขอแม่ย้ายรร
แม่ก็สงสารเราที่เราเป็นอย่างนี้ คนเป็นแม่อะเนอะ สุดท้ายเราก็ได้ย้ายมาอยู่รร.เก่า ในเทอมถัดมา มันมีความสุขมาก เราได้กลับมาอยู่กับเพื่อน ครอบครัว และครูที่เข้าใจเรา แต่วันเวลามันก็ช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน อีกไม่กี่เดือนเราจะเข้ามหาลัยแล้ว ระยะทางจากมหาลัยมาบ้านดิฉันใช้เวลาสี่ชม.โดยประมาณ ช่วงปิดเทอมสี่เดือนกว่าๆ ดิฉันลองไปทำงานพาสทามโดยเช่าห้องอยู่กับเพื่อนสองคน
โดยเป้าหมายในการทำงานคือหาประสบการ์ณและฝึกอยู่คนเดียว โดยคิดว่าเราคงโตขึ้นมากกว่าตอนนั้นแล้ว อาการแบบนั้นมันคงจะไม่กลับมา แต่มันก็ล้มเหลวค่ะ อาการโฮมซิกมันกลับมาอีก จนเราต้องกลับบ้านทุกสัปดาห์ ทำได้แค่หนึ่งเดือนก็ออกจากงาน อาการมันบอกไม่ค่อยถูกค่ะ มันเหงา เศร้า คิดถึงคนที่บ้าน แมว และที่ๆเราเคยอยู่ เห็นภาพก็ร้องไห้ แค่คิดจะโทรหาคนที่บ้านยังจะร้องไห้เลยค่ะ ดิฉันก็รู้นะคะว่าเราไม่ควรไปจมอยู่กับความรู้สึกนั้น แต่มันก็ทำไม่ได้ค่ะ แม่เคยพาไปหาพระ ไปเข้าวัด ปฏิบัติธรรม มันก็ไม่หายค่ะ ตอนนี้จึงกังวลมากๆเลยค่ะ จะเข้ามหาลัยแล้ว แต่เรายังจัดการกับอาการแบบนี้ไม่ได้เลย ขนาดกลับมาอยู่ที่บ้านยังนอนคิดถึงความรู้สึกแบบนั้นอยู่ เลยกลัวที่จะเข้าไปอยู่มหาลัยมากๆเลยค่ะ
จึงอยากถามว่ามีใครเคยเป็นแบบดิฉันไหมค่ะ แล้วจัดการกับมันอย่างไรค่ะ ตอนนี้กังวลมากๆเลยค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนผมจะเข้ามหาลัย ผมก็กังวลมากเลยนะ ตลอดเวลา18ปี ผมจะนอนกับคนที่บ้านตลอด ไม่เคยนอนคนเดียวเลย แต่ผมต้องไปอยู่มหาลัยอยู่คนเดียว 3 วันแรกผมก็คิดถึงบ้านมากๆๆๆเลยนะ หลังจากนั้นผมก็พยายามปรับตัว ซักพักก็จะเจอเพื่อนเอง
ที่ผมอยากบอกคือไม่ต้องกังวลนะครับ เราไปอยู่เราก็ต้องปรับตัว เราจะได้เจอเพื่อนใหม่ๆแน่ๆ ถึงเราจะต้องอยู่คนเดียวจริงๆ ซักวันเราก็จะต้องเข้มแข็งขึ้น และใช้ชีวิตด้วยกำลังของตัวเองได้
การเปลี่ยนแปลงทำให้เราเติบโตขึ้นเสมอครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่