การวิเคราพห์กราฟเทคนิค เป็นเพียงการดูแนวโน้มระยะสั้น ระยะกลาง ของราคาหุ้นหรือดัชนี ที่เคลื่อนไหวไปตามสภาพเศรษฐกิจหรือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์  การที่จะทำนายภาพระยะยาว โดยใช้กราฟ จะไม่มีทางเป็นไปได้หรือโอกาสถูกมีต่ำมาก นอกจากเอากราฟเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วมาขีดเส้นต่างๆ และหาเหตุผลในประกอบ ในภายหลัง ... การที่ดัชนีจะปรับตัวลงไปแถว 500 จุด ได้นั้น นั่นหมายถึงประเทศไทยต้องเกิดเหตุการณ์วิกฤติที่รุนแรงกว่าตัมยำกุ้งเมื่อ 20 ปีที่แล้วมาเสียอีก ...  องค์ประกอบที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบนั้น มีแค่ไหน? ...  ประเทศไทยจะ  Fix ค่าเงินบาทเหมือนในอดีตอีกหรือ ?  ..ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้   ส่วน ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยขณะนี้ยังมีมากกว่าอเมริกาเสียอีก  บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แต่ละปีทำกำไรได้ปีละหลายแสนล้านบาท   ดังนั้น สัญญารเตือนถึงโอกาสการเกิดวิกฤติที่ดูง่ายที่สุดคือ ให้ดูผลกำไรรวมของบริษัทในตลาดหุ้นว่า ยังทำกำไรได้เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้าหรือเทียบกับปีก่อนหน้าอยู่หรือไม่  หากยังกำไรเพิ่มอยู่  ตลาดหุ้นจะลงรุนแรง ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะจะมีเงินไหลเข้ามาซื้อหุ้นเหล่านั้นแทนเพราะผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆในระยะยาว .....ดังนั้น  การวิเคราะห์ จึงควรมีข้อมูล หรือพิจารณาถึงโอกาสที่จะเป็นไปได้ด้วยว่า มันเป็นไปได้หรือไม่  ไม่ใช่สักแต่ขีดๆ วาดๆ ตามใจตัวเอง หรือที่ตัวเราอยากจะเห็น นะครับ ....