คือเเบบเก็บมานานเเล้ว เเต่ไม่เคยบอกใคร คือเรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่ทำอะไรเป็นตัวของตัวเองทุกอย่าง เราเล่นวงดนตรีเล่นเป็นวงในโรงเรียนเลย ซึ่งเราจะเป็นคนเล่นตำเเหน่งคอร์ดกีต้าซึ่งมันเป็นตำเเหน่งที่เราชอบมาก เรารักมันจริงๆ เเล้วเราก็เป็นผู้หญิงคนเดียวในวง นอกนั้นผู้ชายหมด พวกเราเป็นเพื่อนกัน ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องในวงของเราไม่ว่าอายุจะห่างกันกี่ปี เราให้ความสำคัญกับพวกเขาเท่าๆกันว่าเป็นทั้งเพื่อนเเละครอบครัวเดียวกันเพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมานาน
พวกผู้ชายในวงจะชอบหยอกเเกล้งเราเล่นเอ็นดูเราบ่อยๆตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องกวนตีนกันบ้าง งอนกันบ้างงอเเงเเต่ก็ตามง้อกันจนหาย เอาเข้าจริงๆพวกผู้ชายในวงเเต่ละคนเริ่มเข้ามาให้ความรู้สึกดีๆกับเราทำให้เราดูเหมือนมีค่า เหมือนเป็นฮาเร็มชายหลายๆคนเเล้วผู้หญิงคนเดียวเลย เเต่ก็ไม่ขนาดนั้นนะ555
เราเคยเล่นเป็นวงได้ดีกันมาตลอด ตอนวงจะเเตกเราก็ช่วยกันฝ่าร้อนฝ่าหนาวไปด้วยกันจนพ้น จนวงกลับคืนมาได้
บอกเลยช่วงเวลาหลายๆปีมานั้น โครตรู้สึกดีที่มีผู้ชายหลายๆคนมารุมหยอกรุมเเกล้งเราคนเดียว ( ทำไมกูเเรดจังวะ555 ) รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ๆพวกเขา ได้จับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกันกับทุกๆคน
เเต่..จนกระทั่งวันนึงพวกเขารับคนเข้ามาในวงอีกเพราะมีหลายคนที่ออกวงของเราไปมาก จนเหลือเรากับรุ่นพี่เเล้วก็รุ่นน้องที่สนิทอีกไม่กี่คนที่ยังอยู่ต่อด้วยกัน รู้ไหม..ตอนเเรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไร จนกระทั่งได้รับรู้ถึงสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนเเปลงไปหลายๆอย่าง
คนที่รับเข้ามานั้นเป็นผู้หญิง...เป็นรุ่นพี่ที่อายุเยอะกว่าเรา1-2ปี ร้องเพลงเพราะมาก กีต้าก็สุดยอด หน้าตาสวย หุ่นดี ใสๆน่ารักๆ นิสัยดีมากเลยด้วย มีมิตรสัมพันธ์ดี คุยกันได้กับทุกคนที่ไม่รู้จัก เป็นคนที่สวยมากเเล้วก็เป็นคนที่ดังในโรงเรียนในเรื่องความน่ารักหน้าตาดีใครๆก็รู้จัก ถ้ามีให้โหวตดาวโรงเรียน
พูดได้เต็มปากเลยว่าอยู่เฉยๆก็ชนะเเล้ว
เป็นคนที่หาจุดบกพร่องข้อเสียไม่ได้เลยด้วย พี่เเกไม่เคยมีประวัติไม่ดีเลยซักครั้ง ทำอะไรก็น่ารักไปหมด เหมือนนางฟ้าส่งมาเกิดอ่ะ เป็นเทพธิดาที่หาที่ไหนได้ยากจริงๆ เเล้วนางเเคร์เรามากเว้ย ให้คำปรึกษาเราทุกอย่าง เอ็นดูเรา ไอ้ตัวเราก็ชอบนางมากเพราะเป็นคนที่คุยด้วยเเล้วสนุก นางใจดีกับเรามาก ไม่เคยทำไม่ดีให้เราเสียใจเลยซักครั้งเหมือนได้พี่สาวมาคนนึงอ่ะ เดินไปไหนมาไหนกับเเกก็มีเเต่คนอิจฉาอ่ะ ว่าเเบบ
"เฮ้ยยเเกรร อยากเดินข้างๆเเบบนั้นกับพี่เค้าบ้างอ่าาาาา กรี๊ดดๆ อิจอ่ะะ ได้เดินกับพี่เค้าด้วยย " (ฮุๆ อิจฉาล่ะซี่ คือบางทีเเกล้งเดินเข้าไปนัวเนียกับพี่เเกไปกอดเเขน ไปกอดคอเเก ให้คนที่เขามองอิจฉากันเล่น สะใจเบาๆอุอิ
)
ตัวติดกันเป็นตังเมจนจะได้เป็นคู่จิ้นยูริ เลสเบี้ยนกันไปซะเเล้ว
จนนานๆเข้ารับรู้ถึงสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนเเปลงไป พวกผู้ชายในวงเริ่มให้ความสำคัญกับเราน้อยลง... พวกเขาเริ่มไปเเกล้งไปหยอกพี่สาวมากขึ้น ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไปสนิทกันเเบบนั้นตั้งเเต่เมื่อไหร่ เเต่เราก็เเบบอืมชั่งเถอะคิดไปเองมั้ง
หลายวันเข้า พวกในวงได้ว่าเเผนกันว่าจะเปลี่ยนตำเเหน่งใหม่กระทันหัน ซึ่งเราได้เปลี่ยนตำเเหน่งกับพี่สาว จากที่เคยเป็นกีต้าคอร์ดเราได้เป็นกีต้าโซโล่เเทน ซึ่งเราตกใจมากเพราะเราไม่เคยโซโล่กีต้าใฟมาก่อน เราเถียงว่าเราเล่นไม่ได้ เเต่พวกเขาให้เหตุผลเรามาว่า พี่สาวอ่ะเป็นนักร้องเเล้วนักร้องต้องเป็นคนตีคอร์ดกีต้าซึ่งพี่เเกก็เล่นกีต้าคอร์ดได้ดีเลยด้วย วงอยากให้เราฝึกโซโล่ด้วย เขาก็บอกว่าเพื่อตัวของเราให้เราเก่งขึ้น เเล้วก็เพื่อวงด้วย เพราะขาดมือโซโล่ไป
ดูเหมือนบรรยากาศตอนนั้นจะจริงจังด้วย เราเลยต้องเสียสละจากมือคอร์ดไปเป็นมือโซโล่เเทน เราต้องฝึกใหม่ทุกๆอย่าง เราทั้งให้รุ่นพี่สอน ให้ครูสอนเรา เเต่เราทำสุดความสามารถเเล้วเขาบอกว่าเราทำไม่ถูกซักอย่างทั่งๆที่เเบบเอาจากความรู้สึกเลยเราพยายามมากเลยเว้ย เราต้องอดทนในหลายๆเรื่องทั้งเรื่องโดนว่าทั้งเรื่องวง ข้อตำหนิต่างๆจนจะรับเเทบไม่ไหว เราร้องไห้ระบายกับเพื่อนที่สนิทที่สุดว่าเราเหนื่อย เราท้อ เราร้องไห้ระบายกับเเม่ ทั้งเพื่อนกับเเม่ก็ให้กำลังใจเราทุกอย่าง เรารู้สึกดีที่มีพวกเขา
เเต่ไม่ว่าจะเริ่มใหม่ยังไงเหมือนความสำคัญในตัวของเราเริ่มลดลง พี่สาวเริ่มเข้ามาทำหน้าที่เเทนตัวของเรามากขึ้น เป็นคนที่โดนหยอกโดนเเกล้งมากกว่าเรา เป็นมือคอร์ดดีกว่าเรา เเล้วก็เป็นคนที่พวกผู้ชายในวงรุมล้อมมากกว่าเราไม่เหมือนเเต่ก่อน
ถ้าวันไหนคุยกันเป็นวงสนทนาใหญ่ ในวงสนทนานั้นเรามักจะเป็นส่วนเกิน เราเริ่มไม่ได้คุยกับผู้ชายในวงเลย เพราะพี่สาวจะเป็นเเกนนำคุยสนุกมากกว่าเรา เป็นคนที่น่าเอ็นดูกว่าเรา ถ้าเราถอยออกไปจากวงสนทนานั้นคงเเทบไม่มีใครอยากหันมามองหาเราด้วยซ้ำเหมือนเราเป็นอากาศอ่ะ เเล้ววันนึงเริ่มมีรุ่นพี่คนนึงเข้ามาเป็นมือโซโล่กีต้าให้ ตอนนั้นหน้าที่ของเราเริ่มหายไป ไม่มีใครบอกให้เรามาโซโล่กีต้าด้วยซ้ำถ้าเราไม่เข้าไปพูดเองว่าเราต้องโซโล่กีต้าเพลงนี้นะ...
เหมือนโดนเเย่งไปทุกอย่าง ตัวเราเริ่มหายไปอย่างเงียบๆ ถึงจะมีนัดซ้อม วง ถึงจะมีคนชวนเราไปซ้อมด้วย เเต่เหมือนเข้าไปเป็นส่วนเกิน เหมือนไปเป็นตัวถ่วงวงที่เราโซโล่กีต้าไม่ได้อ่ะ สุดท้ายตอนที่คนอื่นเล่นดนตรีกันอย่างสนุกสนานเราทำได้เพียงเเค่นั่งดูพวกเขาเล่นซ้อมวงจนจบ...
พวกเขาคงจะลืมไปเเล้วว่าเรานั่งอยู่ตรงนี้ ถ้าตอนนั้นเดินออกไปตอนนั้น คงไม่มีใครออกไปหาอ่ะ คงปล่อยให้เดินกลับบ้านไปเลยยังได้ พวกเขาดูสนุกมากตอนได้คุยหยอกล้อกับพี่สาว มีความสุขที่ได้เล่นดนตรีด้วยกันโดยที่ไม่มีเรา เราน้ำตาตกในอ่ะเอาจริงๆ จุกลูกคอทุกครั้งเวลาจะพูดซักอย่างออกไป เราเก็บกดอยากออกจากวง เราพยายามที่จะโวยวายทุกอย่างเพื่อที่จะออกจากวงให้ได้เราหงุดหงิดเราเศร้าเราเสียใจ เเต่พวกเขาดันไม่อยากให้เราออก รู้ทั้งรู้ว่าเราไม่มีประโยชน์จะเก็บไว้ทำซากอะไร เเล้วที่น่าตกใจที่สุดคือ
เมือ่ตอนที่พี่สาวไม่ได้มาซ้อมวง หลายวัน เราได้กลับไปเป็นมือคอร์ดเหมือนเดิม มาเเทนตัวพี่สาวที่ไม่มา เเล้วทุกอย่างมันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนให้ความสำคัญกับเราเหมือนเดิม คุยหยอกล้อเรา เเกล้งเรา ใส่ใจเราคนเดียว เเคร์เราเหมือนทุกครั้งก่อนที่พี่สาวจะเข้ามา .......
บอกเลยเเทนที่จะรู้สึกดีขึ้นเเต่กับรู้สึกเเย่ที่สุด เพราะเหมือนเป็นเเค่ตัวเเทนของพี่สาว ตัวเราจะมีค่าก็เเค่ตอนที่คนสำคัญในวงไม่อยู่ เป็นเเค่ตัวสำรองที่ใช้เเล้วทิ้งพอสำคัญขึ้นมา ก็เก็บขึ้นมาใช้ได้ใหม่... โดนเปรียบเทียบกับพี่สาวอยู่บ่อยๆนั้นคือสิ่งที่เพิ่มเข้ามาจากคำพูดของพวกเขา เเต่พวกเขาคิดเเค่เพียงว่า "เเค่ล้อเล่นเอง อย่าซีเรียสดิ "
โทษนะ กูไม่อยากฟังคำล้อเล่นพวกนั้นเว้ย!!! กูมันก็เป็นเเค่หมาหัวเน่า ที่พวกไม่ได้สนใจใยดี! กูเคยเป็นเเค่ลูกหมาในวันนั้นให้พวกมารักมาเอ็นดู เเต่พอลูกหมาที่โตเเล้ว คงไม่มีใครอยากเอ็นดูกูเเล้วล่ะ พวกก็คงต้องไปเอ็นดูลูกหมาตัวใหม่อ่ะ ความรู้สึกดีๆคำพูดดีๆพวกนั้นที่พวกเราสร้างกันมาคืออะไรวะ!! หรือพูดเพียงเพราะเเค่กูสำคัญกับพวกในตอนนั้น ทำไมต้องเข้ามาทำให้รู้สึกดีเเล้วจากไปทำให้อีกคนนึงรู้สึกเหมือนกันด้วยอ่ะ ไม่เเฟร์เลยเว้ย
กูก็มีหัวใจนะ กูก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน! ถ้าเราไม่มีประโยชน์ตั้งเเต่เเรก ทำไมต้องมาทำดีให้ความหวังลมๆเเล้งๆด้วย กูก็เสียใจเป็นเว้ย
สิ่งที่เราทำได้ตอนนั้นก็เเค่คิดเสียใจอยู่ข้างใน เเต่พอพี่สาวกลับมา มันก็วนหลูปกลับไปเหมือนเดิม เป็นภาพที่พวกเขานั่งรุมล้อมพี่สาวคุยกันสนุกสนานเเล้วก็เดินกลับบ้านด้วยกันทุกคนโดยที่มีพี่สาวเดินตรงกลาง ส่วนเราทำได้เเค่สะพายกระเป๋าเดินตามหลัง ดูพวกเขาคุยหัวเราะกัน พอเราหยุดเดิน เเล้วเงยหน้ามองเเผ่นหลังพวกเขา ที่เริ่มเดินห่างเราไปเรื่อยๆ ทิ้งเราไว้ข้างหลังคนเดียว ไม่มีใครเเม้จะหันมามองเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นเข่าเเทบทรุด เเต่เราทำไม่ได้เพราะอยู่ข้างถนน เราเอามือปาดน้ำตาที่เริ่มไหล เเต่ยิ่งปาดยิ่งร้องออกมาหนักกว่าเดิม ไม่มีใครรู้ว่าเราร้องไห้ ไม่มีใครหันมามองเลย ถึงจะมีคนถามเราก็ต้องเงยหน้า พร้อมกับฝืนยิ้ม เเล้วพูดว่า อืม..ไม่ได้เป็นอะไรหรอก
.............................ไม่ได้เป็นอะไร.......
จริงๆนะ....
เป็นได้เเค่คนที่มีค่า เมื่อตอนคนที่สำคัญไม่อยู่สินะ... เราเป็นได้เเค่นั้นจริงๆงั้นหรอ...ฮึก..
เขียนไปร้องไห้ไป
รู้สึกเป็นคนที่ไม่สำคัญอีกต่อไป
พวกผู้ชายในวงจะชอบหยอกเเกล้งเราเล่นเอ็นดูเราบ่อยๆตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องกวนตีนกันบ้าง งอนกันบ้างงอเเงเเต่ก็ตามง้อกันจนหาย เอาเข้าจริงๆพวกผู้ชายในวงเเต่ละคนเริ่มเข้ามาให้ความรู้สึกดีๆกับเราทำให้เราดูเหมือนมีค่า เหมือนเป็นฮาเร็มชายหลายๆคนเเล้วผู้หญิงคนเดียวเลย เเต่ก็ไม่ขนาดนั้นนะ555 เราเคยเล่นเป็นวงได้ดีกันมาตลอด ตอนวงจะเเตกเราก็ช่วยกันฝ่าร้อนฝ่าหนาวไปด้วยกันจนพ้น จนวงกลับคืนมาได้
บอกเลยช่วงเวลาหลายๆปีมานั้น โครตรู้สึกดีที่มีผู้ชายหลายๆคนมารุมหยอกรุมเเกล้งเราคนเดียว ( ทำไมกูเเรดจังวะ555 ) รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ๆพวกเขา ได้จับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกันกับทุกๆคน
เเต่..จนกระทั่งวันนึงพวกเขารับคนเข้ามาในวงอีกเพราะมีหลายคนที่ออกวงของเราไปมาก จนเหลือเรากับรุ่นพี่เเล้วก็รุ่นน้องที่สนิทอีกไม่กี่คนที่ยังอยู่ต่อด้วยกัน รู้ไหม..ตอนเเรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไร จนกระทั่งได้รับรู้ถึงสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนเเปลงไปหลายๆอย่าง
คนที่รับเข้ามานั้นเป็นผู้หญิง...เป็นรุ่นพี่ที่อายุเยอะกว่าเรา1-2ปี ร้องเพลงเพราะมาก กีต้าก็สุดยอด หน้าตาสวย หุ่นดี ใสๆน่ารักๆ นิสัยดีมากเลยด้วย มีมิตรสัมพันธ์ดี คุยกันได้กับทุกคนที่ไม่รู้จัก เป็นคนที่สวยมากเเล้วก็เป็นคนที่ดังในโรงเรียนในเรื่องความน่ารักหน้าตาดีใครๆก็รู้จัก ถ้ามีให้โหวตดาวโรงเรียน
พูดได้เต็มปากเลยว่าอยู่เฉยๆก็ชนะเเล้ว
เป็นคนที่หาจุดบกพร่องข้อเสียไม่ได้เลยด้วย พี่เเกไม่เคยมีประวัติไม่ดีเลยซักครั้ง ทำอะไรก็น่ารักไปหมด เหมือนนางฟ้าส่งมาเกิดอ่ะ เป็นเทพธิดาที่หาที่ไหนได้ยากจริงๆ เเล้วนางเเคร์เรามากเว้ย ให้คำปรึกษาเราทุกอย่าง เอ็นดูเรา ไอ้ตัวเราก็ชอบนางมากเพราะเป็นคนที่คุยด้วยเเล้วสนุก นางใจดีกับเรามาก ไม่เคยทำไม่ดีให้เราเสียใจเลยซักครั้งเหมือนได้พี่สาวมาคนนึงอ่ะ เดินไปไหนมาไหนกับเเกก็มีเเต่คนอิจฉาอ่ะ ว่าเเบบ
"เฮ้ยยเเกรร อยากเดินข้างๆเเบบนั้นกับพี่เค้าบ้างอ่าาาาา กรี๊ดดๆ อิจอ่ะะ ได้เดินกับพี่เค้าด้วยย " (ฮุๆ อิจฉาล่ะซี่ คือบางทีเเกล้งเดินเข้าไปนัวเนียกับพี่เเกไปกอดเเขน ไปกอดคอเเก ให้คนที่เขามองอิจฉากันเล่น สะใจเบาๆอุอิ )
ตัวติดกันเป็นตังเมจนจะได้เป็นคู่จิ้นยูริ เลสเบี้ยนกันไปซะเเล้ว
จนนานๆเข้ารับรู้ถึงสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนเเปลงไป พวกผู้ชายในวงเริ่มให้ความสำคัญกับเราน้อยลง... พวกเขาเริ่มไปเเกล้งไปหยอกพี่สาวมากขึ้น ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไปสนิทกันเเบบนั้นตั้งเเต่เมื่อไหร่ เเต่เราก็เเบบอืมชั่งเถอะคิดไปเองมั้ง
หลายวันเข้า พวกในวงได้ว่าเเผนกันว่าจะเปลี่ยนตำเเหน่งใหม่กระทันหัน ซึ่งเราได้เปลี่ยนตำเเหน่งกับพี่สาว จากที่เคยเป็นกีต้าคอร์ดเราได้เป็นกีต้าโซโล่เเทน ซึ่งเราตกใจมากเพราะเราไม่เคยโซโล่กีต้าใฟมาก่อน เราเถียงว่าเราเล่นไม่ได้ เเต่พวกเขาให้เหตุผลเรามาว่า พี่สาวอ่ะเป็นนักร้องเเล้วนักร้องต้องเป็นคนตีคอร์ดกีต้าซึ่งพี่เเกก็เล่นกีต้าคอร์ดได้ดีเลยด้วย วงอยากให้เราฝึกโซโล่ด้วย เขาก็บอกว่าเพื่อตัวของเราให้เราเก่งขึ้น เเล้วก็เพื่อวงด้วย เพราะขาดมือโซโล่ไป
ดูเหมือนบรรยากาศตอนนั้นจะจริงจังด้วย เราเลยต้องเสียสละจากมือคอร์ดไปเป็นมือโซโล่เเทน เราต้องฝึกใหม่ทุกๆอย่าง เราทั้งให้รุ่นพี่สอน ให้ครูสอนเรา เเต่เราทำสุดความสามารถเเล้วเขาบอกว่าเราทำไม่ถูกซักอย่างทั่งๆที่เเบบเอาจากความรู้สึกเลยเราพยายามมากเลยเว้ย เราต้องอดทนในหลายๆเรื่องทั้งเรื่องโดนว่าทั้งเรื่องวง ข้อตำหนิต่างๆจนจะรับเเทบไม่ไหว เราร้องไห้ระบายกับเพื่อนที่สนิทที่สุดว่าเราเหนื่อย เราท้อ เราร้องไห้ระบายกับเเม่ ทั้งเพื่อนกับเเม่ก็ให้กำลังใจเราทุกอย่าง เรารู้สึกดีที่มีพวกเขา
เเต่ไม่ว่าจะเริ่มใหม่ยังไงเหมือนความสำคัญในตัวของเราเริ่มลดลง พี่สาวเริ่มเข้ามาทำหน้าที่เเทนตัวของเรามากขึ้น เป็นคนที่โดนหยอกโดนเเกล้งมากกว่าเรา เป็นมือคอร์ดดีกว่าเรา เเล้วก็เป็นคนที่พวกผู้ชายในวงรุมล้อมมากกว่าเราไม่เหมือนเเต่ก่อน
ถ้าวันไหนคุยกันเป็นวงสนทนาใหญ่ ในวงสนทนานั้นเรามักจะเป็นส่วนเกิน เราเริ่มไม่ได้คุยกับผู้ชายในวงเลย เพราะพี่สาวจะเป็นเเกนนำคุยสนุกมากกว่าเรา เป็นคนที่น่าเอ็นดูกว่าเรา ถ้าเราถอยออกไปจากวงสนทนานั้นคงเเทบไม่มีใครอยากหันมามองหาเราด้วยซ้ำเหมือนเราเป็นอากาศอ่ะ เเล้ววันนึงเริ่มมีรุ่นพี่คนนึงเข้ามาเป็นมือโซโล่กีต้าให้ ตอนนั้นหน้าที่ของเราเริ่มหายไป ไม่มีใครบอกให้เรามาโซโล่กีต้าด้วยซ้ำถ้าเราไม่เข้าไปพูดเองว่าเราต้องโซโล่กีต้าเพลงนี้นะ...
เหมือนโดนเเย่งไปทุกอย่าง ตัวเราเริ่มหายไปอย่างเงียบๆ ถึงจะมีนัดซ้อม วง ถึงจะมีคนชวนเราไปซ้อมด้วย เเต่เหมือนเข้าไปเป็นส่วนเกิน เหมือนไปเป็นตัวถ่วงวงที่เราโซโล่กีต้าไม่ได้อ่ะ สุดท้ายตอนที่คนอื่นเล่นดนตรีกันอย่างสนุกสนานเราทำได้เพียงเเค่นั่งดูพวกเขาเล่นซ้อมวงจนจบ...
พวกเขาคงจะลืมไปเเล้วว่าเรานั่งอยู่ตรงนี้ ถ้าตอนนั้นเดินออกไปตอนนั้น คงไม่มีใครออกไปหาอ่ะ คงปล่อยให้เดินกลับบ้านไปเลยยังได้ พวกเขาดูสนุกมากตอนได้คุยหยอกล้อกับพี่สาว มีความสุขที่ได้เล่นดนตรีด้วยกันโดยที่ไม่มีเรา เราน้ำตาตกในอ่ะเอาจริงๆ จุกลูกคอทุกครั้งเวลาจะพูดซักอย่างออกไป เราเก็บกดอยากออกจากวง เราพยายามที่จะโวยวายทุกอย่างเพื่อที่จะออกจากวงให้ได้เราหงุดหงิดเราเศร้าเราเสียใจ เเต่พวกเขาดันไม่อยากให้เราออก รู้ทั้งรู้ว่าเราไม่มีประโยชน์จะเก็บไว้ทำซากอะไร เเล้วที่น่าตกใจที่สุดคือ
เมือ่ตอนที่พี่สาวไม่ได้มาซ้อมวง หลายวัน เราได้กลับไปเป็นมือคอร์ดเหมือนเดิม มาเเทนตัวพี่สาวที่ไม่มา เเล้วทุกอย่างมันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนให้ความสำคัญกับเราเหมือนเดิม คุยหยอกล้อเรา เเกล้งเรา ใส่ใจเราคนเดียว เเคร์เราเหมือนทุกครั้งก่อนที่พี่สาวจะเข้ามา .......
บอกเลยเเทนที่จะรู้สึกดีขึ้นเเต่กับรู้สึกเเย่ที่สุด เพราะเหมือนเป็นเเค่ตัวเเทนของพี่สาว ตัวเราจะมีค่าก็เเค่ตอนที่คนสำคัญในวงไม่อยู่ เป็นเเค่ตัวสำรองที่ใช้เเล้วทิ้งพอสำคัญขึ้นมา ก็เก็บขึ้นมาใช้ได้ใหม่... โดนเปรียบเทียบกับพี่สาวอยู่บ่อยๆนั้นคือสิ่งที่เพิ่มเข้ามาจากคำพูดของพวกเขา เเต่พวกเขาคิดเเค่เพียงว่า "เเค่ล้อเล่นเอง อย่าซีเรียสดิ "
โทษนะ กูไม่อยากฟังคำล้อเล่นพวกนั้นเว้ย!!! กูมันก็เป็นเเค่หมาหัวเน่า ที่พวกไม่ได้สนใจใยดี! กูเคยเป็นเเค่ลูกหมาในวันนั้นให้พวกมารักมาเอ็นดู เเต่พอลูกหมาที่โตเเล้ว คงไม่มีใครอยากเอ็นดูกูเเล้วล่ะ พวกก็คงต้องไปเอ็นดูลูกหมาตัวใหม่อ่ะ ความรู้สึกดีๆคำพูดดีๆพวกนั้นที่พวกเราสร้างกันมาคืออะไรวะ!! หรือพูดเพียงเพราะเเค่กูสำคัญกับพวกในตอนนั้น ทำไมต้องเข้ามาทำให้รู้สึกดีเเล้วจากไปทำให้อีกคนนึงรู้สึกเหมือนกันด้วยอ่ะ ไม่เเฟร์เลยเว้ย
กูก็มีหัวใจนะ กูก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน! ถ้าเราไม่มีประโยชน์ตั้งเเต่เเรก ทำไมต้องมาทำดีให้ความหวังลมๆเเล้งๆด้วย กูก็เสียใจเป็นเว้ย
สิ่งที่เราทำได้ตอนนั้นก็เเค่คิดเสียใจอยู่ข้างใน เเต่พอพี่สาวกลับมา มันก็วนหลูปกลับไปเหมือนเดิม เป็นภาพที่พวกเขานั่งรุมล้อมพี่สาวคุยกันสนุกสนานเเล้วก็เดินกลับบ้านด้วยกันทุกคนโดยที่มีพี่สาวเดินตรงกลาง ส่วนเราทำได้เเค่สะพายกระเป๋าเดินตามหลัง ดูพวกเขาคุยหัวเราะกัน พอเราหยุดเดิน เเล้วเงยหน้ามองเเผ่นหลังพวกเขา ที่เริ่มเดินห่างเราไปเรื่อยๆ ทิ้งเราไว้ข้างหลังคนเดียว ไม่มีใครเเม้จะหันมามองเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นเข่าเเทบทรุด เเต่เราทำไม่ได้เพราะอยู่ข้างถนน เราเอามือปาดน้ำตาที่เริ่มไหล เเต่ยิ่งปาดยิ่งร้องออกมาหนักกว่าเดิม ไม่มีใครรู้ว่าเราร้องไห้ ไม่มีใครหันมามองเลย ถึงจะมีคนถามเราก็ต้องเงยหน้า พร้อมกับฝืนยิ้ม เเล้วพูดว่า อืม..ไม่ได้เป็นอะไรหรอก .............................ไม่ได้เป็นอะไร.......
จริงๆนะ....
เป็นได้เเค่คนที่มีค่า เมื่อตอนคนที่สำคัญไม่อยู่สินะ... เราเป็นได้เเค่นั้นจริงๆงั้นหรอ...ฮึก..
เขียนไปร้องไห้ไป