เรื่องย่อคร่าว ๆ ก็คือสองสาว เคท กับ ลิซ่า ไปเที่ยวทัวร์ชมฉลามแบบใกล้ชิดโดยเอาตัวเข้าไปอยู่ในกรง แล้วก็ค่อย ๆ หย่อนกรงลึกลงไปกลางทะเลเพื่อชมฉลามแบบใกล้ชิด แต่ที่นี้ดันเกิดเหตุไม่ขาดฝัน เมื่อสายสลิงดันขาด เลยทำให้กรงหล่นลงไปที่พื้นทะเล ด้วยระดับความลึกถึง 47 เมตร แถมอากาศในถังอ๊อกซิเจน ก็หมดไปเรื่อย ๆ
+ หนังโฟกัสไปที่การเอาตัวรอดของตัวละครจริง ๆ ที่ต้องพยามเอาตัวเองออกจากกรงขัง แล้วก็ต้องหาทางพยามติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่บนเรือที่ผิวน้ำให้มาช่วยให้เร็วที่สุด
+ หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึก Real สมจริง ไม่มีอภินิหาร ไม่มีการทำตัวเห็นฮีโร่ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเทียบกับหนังฉลามอย่างเรื่อง The Shallow (2016) เรื่องนั้นฉากสู้กับฉลามตอนสุดท้ายผมว่านางเอกมันเก่งเวอร์ไปหน่อย ดูโอเวอร์เหนือจริงเกินไป
+
47 Meters Down ตัวละครจะไม่พยามทำตัวเป็นฮีโร่ ไม่พยามฝืนหาเรื่องต่อสู้กับฉลาม เพราะแค่ลำพังสองสาวพยามสงบสติอารมณ์ หายใจช้า ๆ เพื่อให้อากาศในถังอ๊อกซิเจนค่อย ๆ หมดช้า ๆ ยังยากเลย (ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งหายใจแรง อากาศในถังอ๊อกซิเจนยิ่งหมดเร็ว)
+ ฉลามในเรื่องนี้ มีการเคลื่อนไหวแบบเป็นธรรมชาติของฉลามจริง ๆ ไม่ใช่ฉลามกลายพันธุ์ ไม่ใช่ฉลามปรุงแต่งสมองให้ฉลาดกว่าปกติ ไม่พยามจู่โจมคนแบบโอเวอร์เหมือนหนังฉลามเรื่องอื่น ๆ คือ ด้วยธรรมชาติของฉลามมันจะจู่โจมเพราะมันเห็นเหยื่อจริง ๆ หรือไล่ตามเหยื่อเพราะได้กลิ่นเลือด
+ ฉลามในเรื่อง ออกมาพอประมาณ แต่ก็ไม่บ่อยมาก ยังถือว่ามีค่าตัวแพงอยู่ แต่ฉากฉลามโผล่ออกมาแต่ละทีนี่ "ตุ้งแช่" แทบทุกฉาก (เตรียมกรี๊ดไว้ได้เลย) และขอบอกเลยว่า ฉลามตัวใหญ่มากกก (แต่ไม่โอเวอร์)
+ บรรยากาศในเรื่องค่อนข้างกดดัน เพราะทั้งเรื่องอยู่ในทะเลลึก ฉากก็จะมืด ๆ อาศัยเพียงไฟฉายส่องไปส่องมา แต่ไอ้ฉากส่องไฟฉายนี่แหละที่โคตรลุ้น เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรโผล่ออกมา หรือ ฉลามมันโผล่มาตอนไหน คือ เดาไม่ได้จริง ๆ
+ อย่างใน The Shallow เนี่ย คือ เราจะเห็นนางเอกอยู่บนโขดหิน แล้วก็เห็นฉลามว่ายไปมา แต่ในเรื่อง 47 Meters Down เนี่ย ตัวละครและคนดูไม่มีทางรู้เลยว่า ฉลามมันจะโผล่มาตอนไหน เพราะในทะเลมันมืดมาก วังเวง น่ากลัว อ๊อกซิเจนก็จะหมด กว่าจะรู้ตัวอีกที ฉลามก็อาจจะพุ่งกระโจนมาตรงหน้าแล้ว
+ ดนตรีในเรื่อง บางฉากจะค่อนข้างเร็ว ๆ แรง ๆ เร้าอารมณ์ ถึงแม้ฉากนั้นอาจจะไม่มีฉลามโผล่ออกมา แต่ดนตรีก็ทำให้รู้สึกลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร และก็ลุ้นว่า "ฉลามแมร่งจะโผล่มาตอนไหนวะ โคตรกดดัน"
+ CG ในเรื่อง สมจริงมาก ฉลามนี่แทบดูไม่ออกว่า CG หรือของจริง จนหลาย ๆ ฉากผมนึกว่านี่เอานักแสดงไปเล่นกับฉลามจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย
+ ฉากจบในเรื่อง บอกตรง ๆ ว่าอึ้ง ผมไม่คิดว่า ผกก. จะกล้าใช้ฉากจบแบบนั้น แต่เมื่อผมดูถึงมูลเหตุที่ทำให้เกิดฉากจบแบบนั้น ผมก็รู้สึกว่า ก็สมเหตุ สมผลดี (อยากรู้ว่า อึ้ง ยังไง ต้องไปดูในโรงเอาเองครับ)
+ ถ้า The Shallow ทำให้คุณขวัญผวากับฉลามมาแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ 47 Meters Down ตื่นเต้น ลุ้นระทึกพอ ๆ กัน (วัดโดยรวมทั้งเรื่อง)
+ สรุปโดยรวมทั้งเรื่อง ผมชอบนะ ชอบมาก ให้คะแนน 8/10 เรตเดียวกับ The Shallow แต่ผมให้ 47 Meters Down ดีกว่านิดหน่อยตรงที่ หนังทำออกมาได้สมจริง ไม่โอเวอร์ คือ ดูแล้วแบบเป็นการเอาตัวรอดของมนุษย์จริง ๆ ไม่มีการไปบ้าพลังฝืนสู้กับฉลาม ไม่มีการใช้พลังมิตรภาพเอาตัวรอดได้แบบปาฏิหาริย์
+ อย่าเอา 47 Meters Down ไปเปรียบเทียบกับ Deep Blue See เพราะเรื่องนั้นมันกลายเป็นตำนานไปแล้ว และโดยส่วนตัวผมคิดว่า Deep Blue See เป็นหนังแอ็คชั่นสู้กับฉลาม มากกว่าที่จะเป็นหนังเอาตัวรอด (และหนังแมร่งโอเวอร์โคตร ๆ)
- ผมว่าช่วงท้ายเรื่อง มันอาจจะเนือย ๆ นิดนึง แต่โดยรวมก็ถือว่า ลุ้นระทึก เกือบทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบ
47 Meters Down ผมแนะนำให้ไปดูในโรงครับ (ส่วนตัวผมอยากให้เรื่องนี้ฉายในระบบ IMAX 3D จะเสียวว่านี้มาก)
หนังเข้าไทย 13 กรกฎาคมนี้ ผมก็ว่าจะไปดูในโรงซ้ำอีกรอบเหมือนกันครับ
การันตีว่า ตื่นเต้น ลุ้นระทึก คุ้มค่าบัตรแน่นอนครับ (ใครดูเรื่องนี้แล้วยังหลับได้นี่ ผมซูฮกเลยครับ)
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
[รีวิว] .. 47 METERS DOWN : ดิ่งลึกเฉียดนรก
เรื่องย่อคร่าว ๆ ก็คือสองสาว เคท กับ ลิซ่า ไปเที่ยวทัวร์ชมฉลามแบบใกล้ชิดโดยเอาตัวเข้าไปอยู่ในกรง แล้วก็ค่อย ๆ หย่อนกรงลึกลงไปกลางทะเลเพื่อชมฉลามแบบใกล้ชิด แต่ที่นี้ดันเกิดเหตุไม่ขาดฝัน เมื่อสายสลิงดันขาด เลยทำให้กรงหล่นลงไปที่พื้นทะเล ด้วยระดับความลึกถึง 47 เมตร แถมอากาศในถังอ๊อกซิเจน ก็หมดไปเรื่อย ๆ
+ หนังโฟกัสไปที่การเอาตัวรอดของตัวละครจริง ๆ ที่ต้องพยามเอาตัวเองออกจากกรงขัง แล้วก็ต้องหาทางพยามติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่บนเรือที่ผิวน้ำให้มาช่วยให้เร็วที่สุด
+ หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึก Real สมจริง ไม่มีอภินิหาร ไม่มีการทำตัวเห็นฮีโร่ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเทียบกับหนังฉลามอย่างเรื่อง The Shallow (2016) เรื่องนั้นฉากสู้กับฉลามตอนสุดท้ายผมว่านางเอกมันเก่งเวอร์ไปหน่อย ดูโอเวอร์เหนือจริงเกินไป
+ 47 Meters Down ตัวละครจะไม่พยามทำตัวเป็นฮีโร่ ไม่พยามฝืนหาเรื่องต่อสู้กับฉลาม เพราะแค่ลำพังสองสาวพยามสงบสติอารมณ์ หายใจช้า ๆ เพื่อให้อากาศในถังอ๊อกซิเจนค่อย ๆ หมดช้า ๆ ยังยากเลย (ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งหายใจแรง อากาศในถังอ๊อกซิเจนยิ่งหมดเร็ว)
+ ฉลามในเรื่องนี้ มีการเคลื่อนไหวแบบเป็นธรรมชาติของฉลามจริง ๆ ไม่ใช่ฉลามกลายพันธุ์ ไม่ใช่ฉลามปรุงแต่งสมองให้ฉลาดกว่าปกติ ไม่พยามจู่โจมคนแบบโอเวอร์เหมือนหนังฉลามเรื่องอื่น ๆ คือ ด้วยธรรมชาติของฉลามมันจะจู่โจมเพราะมันเห็นเหยื่อจริง ๆ หรือไล่ตามเหยื่อเพราะได้กลิ่นเลือด
+ ฉลามในเรื่อง ออกมาพอประมาณ แต่ก็ไม่บ่อยมาก ยังถือว่ามีค่าตัวแพงอยู่ แต่ฉากฉลามโผล่ออกมาแต่ละทีนี่ "ตุ้งแช่" แทบทุกฉาก (เตรียมกรี๊ดไว้ได้เลย) และขอบอกเลยว่า ฉลามตัวใหญ่มากกก (แต่ไม่โอเวอร์)
+ บรรยากาศในเรื่องค่อนข้างกดดัน เพราะทั้งเรื่องอยู่ในทะเลลึก ฉากก็จะมืด ๆ อาศัยเพียงไฟฉายส่องไปส่องมา แต่ไอ้ฉากส่องไฟฉายนี่แหละที่โคตรลุ้น เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรโผล่ออกมา หรือ ฉลามมันโผล่มาตอนไหน คือ เดาไม่ได้จริง ๆ
+ อย่างใน The Shallow เนี่ย คือ เราจะเห็นนางเอกอยู่บนโขดหิน แล้วก็เห็นฉลามว่ายไปมา แต่ในเรื่อง 47 Meters Down เนี่ย ตัวละครและคนดูไม่มีทางรู้เลยว่า ฉลามมันจะโผล่มาตอนไหน เพราะในทะเลมันมืดมาก วังเวง น่ากลัว อ๊อกซิเจนก็จะหมด กว่าจะรู้ตัวอีกที ฉลามก็อาจจะพุ่งกระโจนมาตรงหน้าแล้ว
+ ดนตรีในเรื่อง บางฉากจะค่อนข้างเร็ว ๆ แรง ๆ เร้าอารมณ์ ถึงแม้ฉากนั้นอาจจะไม่มีฉลามโผล่ออกมา แต่ดนตรีก็ทำให้รู้สึกลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร และก็ลุ้นว่า "ฉลามแมร่งจะโผล่มาตอนไหนวะ โคตรกดดัน"
+ CG ในเรื่อง สมจริงมาก ฉลามนี่แทบดูไม่ออกว่า CG หรือของจริง จนหลาย ๆ ฉากผมนึกว่านี่เอานักแสดงไปเล่นกับฉลามจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย
+ ฉากจบในเรื่อง บอกตรง ๆ ว่าอึ้ง ผมไม่คิดว่า ผกก. จะกล้าใช้ฉากจบแบบนั้น แต่เมื่อผมดูถึงมูลเหตุที่ทำให้เกิดฉากจบแบบนั้น ผมก็รู้สึกว่า ก็สมเหตุ สมผลดี (อยากรู้ว่า อึ้ง ยังไง ต้องไปดูในโรงเอาเองครับ)
+ ถ้า The Shallow ทำให้คุณขวัญผวากับฉลามมาแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ 47 Meters Down ตื่นเต้น ลุ้นระทึกพอ ๆ กัน (วัดโดยรวมทั้งเรื่อง)
+ สรุปโดยรวมทั้งเรื่อง ผมชอบนะ ชอบมาก ให้คะแนน 8/10 เรตเดียวกับ The Shallow แต่ผมให้ 47 Meters Down ดีกว่านิดหน่อยตรงที่ หนังทำออกมาได้สมจริง ไม่โอเวอร์ คือ ดูแล้วแบบเป็นการเอาตัวรอดของมนุษย์จริง ๆ ไม่มีการไปบ้าพลังฝืนสู้กับฉลาม ไม่มีการใช้พลังมิตรภาพเอาตัวรอดได้แบบปาฏิหาริย์
+ อย่าเอา 47 Meters Down ไปเปรียบเทียบกับ Deep Blue See เพราะเรื่องนั้นมันกลายเป็นตำนานไปแล้ว และโดยส่วนตัวผมคิดว่า Deep Blue See เป็นหนังแอ็คชั่นสู้กับฉลาม มากกว่าที่จะเป็นหนังเอาตัวรอด (และหนังแมร่งโอเวอร์โคตร ๆ)
- ผมว่าช่วงท้ายเรื่อง มันอาจจะเนือย ๆ นิดนึง แต่โดยรวมก็ถือว่า ลุ้นระทึก เกือบทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบ
47 Meters Down ผมแนะนำให้ไปดูในโรงครับ (ส่วนตัวผมอยากให้เรื่องนี้ฉายในระบบ IMAX 3D จะเสียวว่านี้มาก)
หนังเข้าไทย 13 กรกฎาคมนี้ ผมก็ว่าจะไปดูในโรงซ้ำอีกรอบเหมือนกันครับ
การันตีว่า ตื่นเต้น ลุ้นระทึก คุ้มค่าบัตรแน่นอนครับ (ใครดูเรื่องนี้แล้วยังหลับได้นี่ ผมซูฮกเลยครับ)
ขอบคุณทุกความเห็นครับ