เนื่องจากช่วงสองสามเดือนก่อนตอนเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน มีโปร ฯ ตั๋วเครื่องบินนกแอร์ราคาถูกออกมา เหล่าบรรดาคนนก ๆ ที่ไม่ค่อยมีสติจึงกดจองไปกระบี่ด้วยความมึน (เพราะง่วงนอน แต่ก็อยากเที่ยว) รวม ๆ แล้วไปกลับคนละประมาณ 1,500 บาท หลังจากนั้นเราจึงค่อยมาวางแผนการท่องเที่ยวกันอย่างจริงจังในเวลาไม่ถึง 1 เดือนก่อนออกเดินทาง เริ่มจากการหาที่พัก ซึ่งเรามีข้อจำกัดที่ว่าอยากได้แบบนอนได้ 3 คน อยู่ติดหาดอ่าวนาง และราคาถูก ซึ่งใช้วิธีไล่หาตาม website จองที่พักต่าง ๆ จนสุดท้ายจึงเลือกที่ balcony party hostel aonang ราคา 2 คืน สำหรับ 3 คน อยู่ที่ 1,571 บาทเท่านั้น ตกคนละ 262 บาทต่อคืนเท่านั้น ถือว่าโอเค ตอบโจทย์สุด ๆ จึงทำการจองที่นี่ไป ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้นไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน อันเนื่องมาจากเราเพิ่งคิดกันได้ว่าช่วงเดือน มิ.ย. ที่เราเดินทางไปถึงนั้นคือช่วงหน้าฝน การจะนังเรือออกไปดำน้ำนั้น ลืมไปได้เลยจ้ะ เอาเป็นว่าดูรีวิวเกาะต่าง ๆ
พร้อมราคาที่ขายจากทางหน้า website ไว้เป็นแนวทางแล้วกันนะคะ ว่าถ้ามีโอกาสได้นั่งเรือไปดำน้ำอยากจะไปเกาะไหน ราคาเท่าไหร่ แล้วเราไหวที่การนั่งเรือออกไปตั้งแต่เช้าตะลุย 4-5 เกาะ หรือว่าจะเลือกแบบเกาะเดียวชิล ๆ ดี พอถึงวันจริงค่อยเดินหาซื้อทัวร์ในแบบที่เราต้องการตรงแถวนั้นเอาเลยดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เสี่ยงเสียเงินฟรีเนอะ

ว่าแล้วหลังจากการจองตั๋วล่วงหน้าก็มาถึงวันเดินทางจริงเราเดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ และนี่ก็คือการเริ่มต้นการเดินทางสไตล์นกทริป ซึ่งแน่นอนค่ะราไม่ได้สปอนเซอร์จากนกแอร์แต่อย่างใด มันมาจากดวงนก ๆ ของพวกเราทั้ง 3 เนี่ยแหละค่ะ เริ่มมาจากการ Check in ที่นั่ง ซึ่งตอนที่เลือกนั้นมีที่ว่างเยอะมาก เราก็เลือกแบบชิล ๆ นั่ง 3 คนตรงที่ยังไม่ค่อยมีใครเลือกเยอะ ๆ

สรุปพอขึ้นไปเป็นแถวที่ไม่มีหน้าต่างจ้ะ.....ไม่ใช่ความผิดของใครค่ะ เป็นความดวงนกของพวกเราเอง 55555 เราออกเดินทางจากดอนเมืองเวลา 10.05 ไปถึงกระบี่ตอน 11.20 น. เราเลือกที่จะเดินทางไปอ่าวนางเลยแล้วค่อยไปหาของกินเอาดาบหน้า (ไม่มีการวางแผนใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะชีวิตนี้)

พวกเราจึงลากกระเป๋าออกมาหน้าสนามบิน เลี้ยวซ้ายไปขึ้นรถบัสที่จะวิ่งจอด 2 จุดคือในตัวเมืองกระบี่ และอ่าวนาง ด้วยราคาเข้าอ่าวนาง 150 บาทต่อคน
จริง ๆ แล้วควรแวะซื้อตั๋วในตึกสนามบินก่อนประตูทางออกก่อนนะคะ พวกเราลืมค่ะเห็นรถแล้วก็พุ่งเข้าใส่อย่างเดียวเลย

เมื่อขึ้นรถแล้วคุณพี่คนขับจะถามชื่อที่พักของผู้โดยสารทุกคน เพื่อที่จะส่งลงได้ตรงจุด และเราคือกลุ่มสุดท้ายที่ลงจากรถ คุณพี่คนขับจึงพอจะมีเวลาแนะนำว่านอกจากหาดนี้แล้วนั่ง 2 แถวไปหาดนพรัตน์ธาราที่อยู่ไม่ไกลจากนี้ได้นะ รถจอดส่งเราที่ตรงข้ามที่พักพอดี ซึ่งที่พักของเรานั้นเป็นแนว Hostel มีห้องหลายขนาด เราได้เลือกจองห้อง 3 เตียงไปเพื่อที่จะได้มีเฉพาะกลุ่มพวกเราอย่างเดียว ไม่อยากนอนรวมกับคนอื่น ไม่ว่ารังเกียจนะคะ แต่เพราะเกรงใจในความบ้า ๆ บอ ๆ ของพวกเราเองนี่แหละค่ะ Hostel ของเรานั้นตั้งอยู่ในโซนที่เรียกว่า "แหล่งบันเทิง" ของอ่าวนางเลยก็ว่าได้ ตัวที่พักอยู่บนชั้น 4 ส่วนชั้น 1 - 3 เป็นผับ และร้านเหล้าหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แนวนั่งชิล ยันคาบาเร่ต์โชว์ เชิญเลือกแวะนั่งดื่มกันได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ แม้กระทั่งชั้น 4 ที่เป็นที่พักเอง ก็มีร้านนั่งชิลอยู่ตรงดาดฟ้านะคะ เดินออกมาจากห้องก็แวะกินกันได้เลยค่ะ

* ที่นี่ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนนะคะ แต่เหมาะมาก ๆ กับผู้ที่ต้องการเที่ยว ดื่ม กิน และสนุกอย่างเต็มที่ค่ะ เพราะเสียงจากร้านต่าง ๆ จะดังจนถึงตี 1 หรือตี 2 โน่นแหละค่ะ

นี่คือห้องพักที่เราเลือกไว้นะคะ อยู่ริมสุดทางเดิน และติดกับห้องน้ำรวม ถือว่าสะดวกสบายและค่อนข้างไกลจากแหล่งกำเนิดเสียงสุด ๆ ค่ะ ภายในห้องจะมีแยกเตียงไว้คนละมุม ที่หัวเตียงมีลิ้นชักพร้อมกุญแจไขล็อคได้ และจะมีตู้สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางหรือของชิ้นใหญ่ส่วนตัวอื่น ๆ ได้ (แต่ควรนำกุญแจมาล็อคเองด้วยนะคะ) ตรงเตียงนอนจะมีปลั๊กไฟ 1 รู และดวงไฟหัวเตียงแยกให้เตียงละ 1 ชุด พร้อมหมอนและผ้าห่มบาง ๆ 1 ผื่น (ถ้าเป็นคนขี้หนาว จงเอาผ้าห่มมาเองจ้ะ เพราะแอร์หนาวมากกกก )

ห้องน้ำถือว่าสะอาด และไม่แออัด อาจจะเพราะช่วงที่เรามาเป็นช่วงโลวซีซัน คนเที่ยวน้อยก็ได้นะคะ แต่ก็ดีค่ะสบาย ๆ ไม่ต้องแย่งห้องน้ำกันค่ะ

ที่นี่ไม่มีบริการอาหารเช้านะคะ แต่จะมีคูปองแลกบาบีคิวได้คนละ 2 ไม้ เวลา 1 ทุ่มครึ่ง ถึง 2 ทุ่มครึ่ง
แล้วก็แลกช็อตได้คนละ 1 ช็อตที่บาร์บริเวณดาดฟ้าของ hostel ค่ะ

หลังจากเก็บของสักพักเราก็เลยออกมาเดินสำรวจหาของกินกัน อันนี้เรามีข้อมูลมาอยู่แล้วว่าอ่าวนางถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นราคาอาหารก็ค่อนข้างสูงหน่อย จึงได้เดินหาร้านในซอกในซอยที่ดูท่าทีแล้วน่าจะราคาเบา ๆ ทานแก้หิวกัน เราเดินออกจากที่พักเลี้ยวมาทางซ้ายจนไปสุดทางโค้งเราจึงเห็นว่ามีร้านน่าสนใจอยู่ในซอกนั้นเหล่านกที่หิวโหยทั้ง 3 จึงเลี้ยวเข้าทันทีค่ะ เพราะเดินจนหมดแรงแล้ว
เรามากัน 3 คนเลยสั่งเป็นกับข้าวไป 4 อย่างราคากลาง ๆ และรสชาติอร่อยมาก รวมแล้วมื้อนี้หมดไป 690 บาทถ้วน ใครมาอ่าวนางตามไปชิมกันได้นะคะ

หลังจากทานข้าวกลางวันในเวลาประมาณบ่าย 2 เรียบร้อย เราก็เลือกที่จะ ขึ้นมานอนตากแอร์เพราะเหนื่อย (ไม่รู้เหนื่อยอะไร) กันบนห้องพร้อมหาข้อมูลการเที่ยวในวันพรุ่งนี้ โดยวางแผนไว้ว่าถ้าฝนไม่ตกเราจะไปดำน้ำเอาแค่เกาะเดียวก็พอเดี๋ยวเหนื่อย แต่ถ้าฝนตกก็เช่ารถขับไปเที่ยวที่อื่น ๆ ในกระบี่แทนก็แล้วกัน

เรานอนพักกันจนถึงประมาณ 6 โมงเย็นซึ่งระหว่างนั้นฝนตกปรอย ๆ ตกบ้างหยุดบ้างจนคิดว่าอีกสักพักคงหยุดแล้วล่ะ พวกเราจึงตัดสินใจเดินออกมาหาอะไรกิน แน่นอนค่ะเราเป็นเหล่าคนดวงนกเมื่อเราเดินออกจากที่พักเพียงไม่ถึง 100 เมตร ฝนตกหนักค่ะ.....ยืนติดฝนอยู่นานจนตัดสินใจฝ่าฝนกลับโรงแรม มานั่งชิลที่ดาดฟ้าตั้งแต่ยังไม่ 1 ทุ่ม เพื่อรอบาบีคิวฟรีคนละ 2 ไม้ ระหว่างนั้นก็จัดเบียร์กันไปยาว ๆ จนถึงประมาณ 5 ทุ่ม บอกเลยค่ะว่าหมดแรง กลับมาอาบน้ำนอนและหลับไปท่ามกลางเสียงเพลงจากทุกผับในตึกตีกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

วันรุ่งขึ้นพวกเราเหล่านก ค่อยมาวางแผนชีวิตต่อค่ะ เพราะเรามาเที่ยวกันในสไตล์คนนก ๆ ไม่ควรวางแผนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะยังไงมันก็นก ฮ่า ๆ ๆ