กระทู้นี้จะขอมารีวิว
ประสบการณ์ครั้งแรก ของการเดินทางไปฮ่องกง โดยสายการบิน Emirate ชั้น Business Class
พอดีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเราไปเจอบริษัททัวร์ ที่รับจองตั๋วเครื่องบินให้ในราคาที่ถูกกว่าปกติ แถมจัดโปรแกรมเที่ยวให้ฟรี ราคาตั๋วที่ได้มาประมาณ 14,000 หน่อยๆ จากปกติราคา 26,000++ แหน่ะ และยิ่งเป็น Top 10 สายการบินที่ดีสุดในโลกแล้วนั้น เอาเงินเราไปเลยจ้า 5555 ไม่เวิ้อเว่อให้เสียเวลาแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าจะคุ้มกับราคาที่เราเสียไปไหม
มาถึงสุวรรณภูมิ ก้ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน EK จะอยู่ตรงประตูทางออก 9 แถว T
หลังจากเช็คอินที่เคาน์เตอร์ โหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว (สำหรับ Business Class สามารถโหลดได้สูงสุด 40 กิโลกรัมค่ะ) นอกจากตั๋วเครื่องบินที่พี่แอร์กราวด์ให้มาแล้ว เค้ายังให้ใบ Premium Lane คือสามารถเข้าช่องทางพิเศษเพื่อเข้าไปสแกนตัวและสัมภาระ โดยไม่ต้องต่อแถวยาวค่ะ
หลังผ่านจุดตรวจและสแกนกระเป๋าเรียบร้อยแล้วได้เวลาเข้าสู่ Lounge Emirate (Gate E ชั้น 3) แล้วจ้า
เข้ามาด้านในแล้ว ภายในจะแบ่งเป็นมุมต่างๆค่ะ โซนอาหาร(บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ), มุมนั่งชิวๆจิบกาแฟเบาๆ หรือท่องอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ (คือเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนก็พอ 5555)
ถึงเวลา Boarding Time แล้ว เราไปขึ้นเครื่องบินกันเลยดีกว่าค่ะ ส่วนนี้จะเป็นที่นั่งโซนตรงกลาง จะเป็นที่นั่งคู่ค่ะ เราเลือกนั่งโซนนี้เพราะเดินทางไปกับคุณแฟนสองคน ^^
ที่นั่งริมหน้าต่างส่วนตัวมากๆคะ
แอบแนบแผนที่นั่งมาฝากคะ สำหรับผู้ที่เดินทางคนเดียวเราแนะนำให้นั่งฝั่งริมหน้าต่างที่นั่งด้านใน (แถว A หรือ K ) จะค่อนข้างส่วนตัวกว่าแถวด้านนอก (B หรือ J) เพราะด้านข้างที่นั่งจะเป็นเค้าเตอร์บาร์ ถ้านั่งแถว A หรือ K จะให้ความรู้สึกเหมือนนั่งห้องส่วนตัวมากกว่าไม่มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาคะ
สิ่งที่แอร์จัดเตรียมไว้บนที่นั่งมีหมอน หูฟัง ผ้าปิดตาและถุงเท้า ส่วนผ้าห่มเค้าจะไม่วางไว้ให้ แต่เราสามารถรีเควสขอกับทางพี่แอร์ได้เลย
บาร์ด้านข้างที่นั่ง พื้นที่ค่อนข้างกว้างคะ
มีเครื่องดื่มบริการอยู่ในบาร์ส่วนตัวเลยคะ
มีปุ่มไฟและปุ่มปรับระดับเบาะที่นั่งสามารถปรับได้ 3 ระดับ ในรูปขวามือด้านบน (ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายรูปเบาะตอนปรับระดับมาให้ชมคะ)
เจ้าเครื่องนี้มาเพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อต้องการนอนเล่น
หรือจะนั่งดูจอใหญ่ด้านหน้าก็ได้นะคะ
เครื่องดื่ม และของว่างมากมายให้บริการตลอดเส้นทางจริงๆ
ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทานที่บาร์ดูบ้างคะ พื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว พี่แอร์น่ารักและเป็นกันเองสุดๆ เลยขอถ่ายรูปกับคุณแฟนตรงนี้สักหน่อย
ได้เวลาเสิร์ฟอาหารแล้ว.. ด้านขวามือเป็นเมนูสเต็กปลา และซ้ายมือเป็นเมนูสเต็กไก่ซอสหอยนางรม บนเครื่องจะมีเมนูอาหารให้เลือก 3 เมนูค่ะ อีกเมนูจะเป็นเมนูสลัดผัก สำหรับใครที่รักสุขภาพหรืออยากทานก็สั่งเอา แต่เรามากันแค่สองคน เลยไม่ได้สั่งมา
รสชาติอาหารโดยรวมก็ถือว่าทานได้ โอเค ออกแนวอาหารของฝั่งโซนแขกหน่อยๆ แต่ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศ
เวลาหลับ และไม่ต้องการให้ใครรบกวน หรือต้องการให้พี่แอร์เค้าปลุกเรียกทานอาหาร หรือเรียกตอนเค้าจะขายของ (สินค้าปลอดภาษี) ก็แปะสติ๊กเกอร์ได้ที่บนเบาะที่นั่ง
ก่อนกลับพี่แอร์น่ารักมาก ถ่ายโพลารอยด์ให้ด้วย ได้มา 3 รูปค่ะ
สรุปโดยรวมความฟินและความอยากกลับไปใช้บริการอีกเต็ม 10 เราให้ 9 จ้า (ในใจให้ 10 เลยแต่ อีก 1 ขอเก็บไว้ให้ทุกคนไปลองกันเองค่ะ) คือพี่แอร์ที่นี่เราประทับใจมาก มาช่วยถ่ายรูปให้เราเป็นสิบๆรูป นางก็ยิ้มตลอด คอยเดินมาคอยไถ่มาบริการตลอด จนเราเกรงใจ ถึงขนาดเราต้องแกล้งหลับดีกว่า ให้พี่แอร์ได้พักบ้าง 555
เรื่องความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาตั๋วที่ได้มาเราว่าเกินคุ้มค่ะ ถ้าแลกมากับการบริการที่น่าประทับใจอย่างนี้ ถ้ามีโอกาสคงได้กลับไปให้บริการอีกแน่นอนค่ะ แต่ถ้าไม่ลดราคาเราต้องขอคิดดูอีกทีก่อนน้า (แฮร่ๆ รอช่วงโปรก่อน)
ขอบคุณสำหรับการติดตาม จบแล้วจ้าาาาาา
ปล. ราคานี้เราจองผ่าน
http://bpluxurytravel.com/ ค่ะ สำหรับราคา ที่เราได้มาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จองนะคะ บางช่วงที่ตั๋วลด บริษัทก็จะให้ราคาถูกมาก ช่วงที่ไม่ลดบริษัทก็ให้ราคาพิเศษที่ถูกกว่าเวปไซด์อื่นๆค่ะ ประเด็นสำคัญเลย คือทีมงานดูแลดี เค้าจัดทำโปรแกรมเส้นทางการเดินทางให้ฟรีตลอดทริปซะด้วย
[CR] ++ ปริ่มมาก Emirate Business Class ไปฮ่องกงกับตั๋วราคาถูก ++
พอดีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเราไปเจอบริษัททัวร์ ที่รับจองตั๋วเครื่องบินให้ในราคาที่ถูกกว่าปกติ แถมจัดโปรแกรมเที่ยวให้ฟรี ราคาตั๋วที่ได้มาประมาณ 14,000 หน่อยๆ จากปกติราคา 26,000++ แหน่ะ และยิ่งเป็น Top 10 สายการบินที่ดีสุดในโลกแล้วนั้น เอาเงินเราไปเลยจ้า 5555 ไม่เวิ้อเว่อให้เสียเวลาแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าจะคุ้มกับราคาที่เราเสียไปไหม
มาถึงสุวรรณภูมิ ก้ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน EK จะอยู่ตรงประตูทางออก 9 แถว T
หลังจากเช็คอินที่เคาน์เตอร์ โหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว (สำหรับ Business Class สามารถโหลดได้สูงสุด 40 กิโลกรัมค่ะ) นอกจากตั๋วเครื่องบินที่พี่แอร์กราวด์ให้มาแล้ว เค้ายังให้ใบ Premium Lane คือสามารถเข้าช่องทางพิเศษเพื่อเข้าไปสแกนตัวและสัมภาระ โดยไม่ต้องต่อแถวยาวค่ะ
หลังผ่านจุดตรวจและสแกนกระเป๋าเรียบร้อยแล้วได้เวลาเข้าสู่ Lounge Emirate (Gate E ชั้น 3) แล้วจ้า
เข้ามาด้านในแล้ว ภายในจะแบ่งเป็นมุมต่างๆค่ะ โซนอาหาร(บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ), มุมนั่งชิวๆจิบกาแฟเบาๆ หรือท่องอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ (คือเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนก็พอ 5555)
ถึงเวลา Boarding Time แล้ว เราไปขึ้นเครื่องบินกันเลยดีกว่าค่ะ ส่วนนี้จะเป็นที่นั่งโซนตรงกลาง จะเป็นที่นั่งคู่ค่ะ เราเลือกนั่งโซนนี้เพราะเดินทางไปกับคุณแฟนสองคน ^^
ที่นั่งริมหน้าต่างส่วนตัวมากๆคะ
แอบแนบแผนที่นั่งมาฝากคะ สำหรับผู้ที่เดินทางคนเดียวเราแนะนำให้นั่งฝั่งริมหน้าต่างที่นั่งด้านใน (แถว A หรือ K ) จะค่อนข้างส่วนตัวกว่าแถวด้านนอก (B หรือ J) เพราะด้านข้างที่นั่งจะเป็นเค้าเตอร์บาร์ ถ้านั่งแถว A หรือ K จะให้ความรู้สึกเหมือนนั่งห้องส่วนตัวมากกว่าไม่มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาคะ
สิ่งที่แอร์จัดเตรียมไว้บนที่นั่งมีหมอน หูฟัง ผ้าปิดตาและถุงเท้า ส่วนผ้าห่มเค้าจะไม่วางไว้ให้ แต่เราสามารถรีเควสขอกับทางพี่แอร์ได้เลย
บาร์ด้านข้างที่นั่ง พื้นที่ค่อนข้างกว้างคะ
มีเครื่องดื่มบริการอยู่ในบาร์ส่วนตัวเลยคะ
มีปุ่มไฟและปุ่มปรับระดับเบาะที่นั่งสามารถปรับได้ 3 ระดับ ในรูปขวามือด้านบน (ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายรูปเบาะตอนปรับระดับมาให้ชมคะ)
เจ้าเครื่องนี้มาเพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อต้องการนอนเล่น
หรือจะนั่งดูจอใหญ่ด้านหน้าก็ได้นะคะ
เครื่องดื่ม และของว่างมากมายให้บริการตลอดเส้นทางจริงๆ
ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทานที่บาร์ดูบ้างคะ พื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว พี่แอร์น่ารักและเป็นกันเองสุดๆ เลยขอถ่ายรูปกับคุณแฟนตรงนี้สักหน่อย
ได้เวลาเสิร์ฟอาหารแล้ว.. ด้านขวามือเป็นเมนูสเต็กปลา และซ้ายมือเป็นเมนูสเต็กไก่ซอสหอยนางรม บนเครื่องจะมีเมนูอาหารให้เลือก 3 เมนูค่ะ อีกเมนูจะเป็นเมนูสลัดผัก สำหรับใครที่รักสุขภาพหรืออยากทานก็สั่งเอา แต่เรามากันแค่สองคน เลยไม่ได้สั่งมา
รสชาติอาหารโดยรวมก็ถือว่าทานได้ โอเค ออกแนวอาหารของฝั่งโซนแขกหน่อยๆ แต่ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศ
เวลาหลับ และไม่ต้องการให้ใครรบกวน หรือต้องการให้พี่แอร์เค้าปลุกเรียกทานอาหาร หรือเรียกตอนเค้าจะขายของ (สินค้าปลอดภาษี) ก็แปะสติ๊กเกอร์ได้ที่บนเบาะที่นั่ง
ก่อนกลับพี่แอร์น่ารักมาก ถ่ายโพลารอยด์ให้ด้วย ได้มา 3 รูปค่ะ
สรุปโดยรวมความฟินและความอยากกลับไปใช้บริการอีกเต็ม 10 เราให้ 9 จ้า (ในใจให้ 10 เลยแต่ อีก 1 ขอเก็บไว้ให้ทุกคนไปลองกันเองค่ะ) คือพี่แอร์ที่นี่เราประทับใจมาก มาช่วยถ่ายรูปให้เราเป็นสิบๆรูป นางก็ยิ้มตลอด คอยเดินมาคอยไถ่มาบริการตลอด จนเราเกรงใจ ถึงขนาดเราต้องแกล้งหลับดีกว่า ให้พี่แอร์ได้พักบ้าง 555
เรื่องความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาตั๋วที่ได้มาเราว่าเกินคุ้มค่ะ ถ้าแลกมากับการบริการที่น่าประทับใจอย่างนี้ ถ้ามีโอกาสคงได้กลับไปให้บริการอีกแน่นอนค่ะ แต่ถ้าไม่ลดราคาเราต้องขอคิดดูอีกทีก่อนน้า (แฮร่ๆ รอช่วงโปรก่อน)
ขอบคุณสำหรับการติดตาม จบแล้วจ้าาาาาา
ปล. ราคานี้เราจองผ่าน http://bpluxurytravel.com/ ค่ะ สำหรับราคา ที่เราได้มาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จองนะคะ บางช่วงที่ตั๋วลด บริษัทก็จะให้ราคาถูกมาก ช่วงที่ไม่ลดบริษัทก็ให้ราคาพิเศษที่ถูกกว่าเวปไซด์อื่นๆค่ะ ประเด็นสำคัญเลย คือทีมงานดูแลดี เค้าจัดทำโปรแกรมเส้นทางการเดินทางให้ฟรีตลอดทริปซะด้วย