ผมทำงานออกต่างจังหวัดบ่อยครับ ส่วนแฟนทำงานอยู่ที่บริษัท และพักอยู่หอ ช่วงไหนงานผมเสร็จเราก็จะได้กลับมาเจอกัน แต่เราก็คุยโทรศัพท์ และไลน์หากันตลอดทุกครั้งที่ผมออกไปทำงาน เราคบกันได้หกปีกว่าแล้วครับ ซึ่งผมก็เชื่อใจแฟนผมเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมมีปัญหากับแฟนถึงขั้นทะเลาะกันบ่อยครั้ง บ่อยครั้งก็มาจากความงี่เง่า เจ้าอารมณ์ของผมบ้าง เรื่องนู่นนี่นั่นสารพัด แต่เธอก็ไม่เคยไปไหน เราไม่คุยกันสามสี่วัน แต่เธอก็จะทักไลน์มาหาผมตลอดจนเราดีกัน ก็เป็นแบบนี้มาตลอดที่คบกันน่ะครับ
พอดีช่วงนี้ผมไม่ได้ออกไซต์งานต่างจังหวัด ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม เราเลยมีเวลาอยู่ด้วยกัน ก็ไปรับไปส่งเค้าที่ทำงานตามปกติ ไปเที่ยวกันเวลาหยุดเหมือนคู่รักทั่วไป
แต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เราทะเลาะกันหลายครั้ง สามวันทะเลาะกันทีก็ว่าได้ ถึงขั้นรุนแรงมากเพราะผมไม่พอใจที่เธอไปคุยกับแฟนของน้องที่ทำงานด้วยกันว่าอยากคบทอม ซึ่งวันนั้นเราไปสังสรรค์กันที่บ้านน้องคนนี้ครับ ผมก็เมามากเลยต่อว่าเธอไปอย่างแรง ด้วยความเมาเลยพูดจา-ดันเธอไปว่า "อยากไปก็ไป เก็บข้าวของออกไปหามันเลย" ครับ ผมไล่เธอออกจากห้องเลย ขนเสื้อผ้าเธอไปกองไว้หน้าห้อง หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยพูดกับเธอแบบเช้ามาออกไปทำงาน เย็นไปหาเหล้ากินจนเมาละค่อยกลับหอ แล้วหลังจากวันนั้นเธอก็โทรไปหาพี่ที่ทำงานที่เดียวกับเธอเพื่อขอไปอาศัยอยู่หอของพี่คนนั้น เธอไม่กลับมานอนหอเลยเกือบสามวัน สุดท้ายผมก็ตามไปง้อจนเธอกลับมา เราก็กลับมาอยู่ด้วยกันตามปกติอีกครั้ง
จนมาถึงวันที่ 10 มิ.ย. เธอขอให้แม่ของเธอเอามอเตอร์ไซด์มาส่งให้ใช้ไปทำงาน เพราะช่วงนี้ผมก็เข้าออฟฟิศทุกวัน เวลางานเราไม่ตรงกันเลยลำบากกับการเดินทางครับ (เรามีมอเตอร์ไซด์คันเดียวครับ ปกติผมไม่ค่อยได้อยู่หอผมเลยให้แฟนใช้แทน) ผมก็เลยไม่ได้ไปรับไปส่งเธอเหมือนก่อน แม่กับน้องของเธอดูมีท่าทีเย็นชากับผมมากท่านแทบไม่คุยกับผมเลยตลอดเวลาที่ท่านมาอยู่ในห้องผม และผมสังเกตุว่าแฟนผมเปลี่ยนไป มือถือของเธอเธอจะไม่วางทิ้งไว้เหมือนเดิม เธอจะเอาติดตัวไปด้วยตลอด เธอเริ่มมีเรื่องพิมพ์ในไลน์บ่อยขึ้น เวลาใครโทรมาเธอจะเดินออกไปรับโทรศัพท์นอกห้อง ผมถามเธอทีไรเธอจะตอบว่าเพื่อนทั้งนั้นที่ติดต่อมา และเธอจะดูอารมณ์เสียใส่ผมตลอด (ก่อนหน้านี้ที่เราทะเลาะกัน ทุกครั้งพ่อแม่แฟนผมจะโทรมาต่อว่าผมบ่อยมาก แบบถ้าอยู่กันไม่ได้ก็เลิกกันซะ ประมาณสามครั้งครับที่ผู้ใหญ่พูดแบบนั้น ผมเข้าใจว่าท่านคงทราบจากแฟนผม)
จนวันที่ 13-15 มิ.ย. ผมมีประชุมที่แม่สอด เลยต้องเดินทางไปอยู่ที่นั่นสามวัน ผมเริ่มรู้สึกแปลกกับแฟนมาก ผมโทรไปถามว่าอยู่ไหน เธอจะตอบว่าอยู่กับเพื่อน วันนี้นอนกับเพื่อนไม่เข้าหอ แล้วเธอจะกดวางสายตลอด ไลน์ไปตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีก็ตอบเชิงไล่ผมออกไปจากชีวิตเธอ ต่อว่าผมสารพัด ปิดเครื่องใส่ผมเลยก็มี
แต่อยู่ๆวันที่ 15 มิ.ย. เป็นวันเกิดผมเธอก็โทรมาอวยพรวันเกิดตอนเช้าเลย แต่ก็เหมือนเดิมครับตอนเย็นเธอก็ตัดสายบ้าง ปิดเครื่องใส่บ้าง ต่อว่าผมอีกเหมือนเดิม
วันที่ 16 มิ.ย. ผมเดินทางกลับ เธอก็โทรมาบอกวันนี้มีเซอร์ไพรซ์ผม พอผมมาถึงหอเธอก็พาผมไปร้านเหล้าร้านนึงและจัดเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังให้ผม เราก็อยู่กันสองคนเหมือนทุกครั้งครับ ผมก็คิดว่าเธอคงหายงอนผมแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร
วันที่ 17 มิ.ย. ผมไปบ้านน้องที่ทำงานด้วยกันอีกครั้ง ก็ดื่มกันสักพัก แฟนผมก็ขอตัวไปงานเลี้ยงกับเพื่อน ผมขอไปด้วยเธอก็ปัดแบบเลี่ยงๆว่าเป็นงานของบริษัทไปไม่ได้ เลิกงานแล้วจะกลับมา ผมเลยให้เธอไป แต่พอเที่ยงคืนเธอไม่กลับผมเลยโทรไป ปรากฎว่าเธอเป็นแบบเมื่ออาทิตย์ก่อนอีกแล้ว ผมถามอะไรไม่ตอบ ด่าว่าผม พูดจาประชดประชันเหมือนเดิม แล้วก็ตัดสายทิ้งไป
ผมเลยเข้าเฟสเธอครับ คราวนี้ผมเลยได้รู้ว่าเธอกำลังแอบคบกับทอมตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. ในข้อความที่แชทกัน เธอพูดว่าเลิกกับผมแล้ว ไล่ผมออกหอแล้ว และจะย้ายหอไปอยู่ด้วยกันกับทอมคนนี้ เธอรับปากทอมว่าจะลบรูปผมออกจากเฟสเธอให้หมด จะบล็อกผมทุกทางเพื่อให้ทอมคนนี้สบายใจ และเธอก็ทำจริงๆครับ คือทุกคำพูดที่ได้อ่านมันจุกอย่างบอกไม่ถูกครับ
ผมเลยแคปทุกข้อความที่เค้าพูดกันไว้ แล้วผมก็ส่งข้อความไปหาทอมคนนี้ว่าทำไมแอบมาคบกันทั้งๆที่ผมยังอยู่ ทอมมันก็ตีโพยตีพายว่าแฟนผมไปหลอกมันว่าผมเลิกกันแล้ว จนถึงหกโมงกว่าแฟนผมเธอก็กลับมาที่หอ แล้วมาอาละวาดใส่ผม ว่าผมทำให้เธอกับทอมคนนั้นต้องมีปัญหากันทำไม เธอว่าผมไปต่อว่าทอมคนนั้นทำไม ห้ามผมไปทำอะไรทอมคนนั้นเด็ดขาด ผมนี่น้ำตาไหลเลยครับ ก็นั่งถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป แฟนผมเธอก็บอกผมทั้งน้ำตาว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวมาตลอด นานๆทีถึงจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน เธอเหงาที่บางครั้งผมทำงานจนไม่มีเวลาคุยกับเธอ เธอเลยต้องหาใครที่คุยกับเธอได้ เธอบอกว่าผมเป็นคนที่ทำให้เธอกลัวผู้ชายไปแล้ว พ่อแม่ของเธอบอกให้เธอเลิกกับผมซะ ห้ามผมไปบ้านเธออีก ผมนั่งฟังเธอพูดต่อว่าๆผมไม่ดีสารพัดทั้งน้ำตา ผมอ้อนวอนให้เธออยู่กับผมแล้วเลิกทำแบบนี้ซะ จนเธอเลิกโวยวายแล้วบอกว่าเธอยังรักผมอยู่และจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เธอจะกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิมแล้ว
วันที่ 19-23 ผมได้ไปทำโปรเจคท์ๆนึงที่ อ.ฝาง ก่อนไปทำงานเธอไม่สบายผมก็เลยพาเธอไปโรงบาลก่อน เราก็คุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ จนมาถึงตอนเย็นเธอมีอาการปวดหัวหนักมาก จนได้นอนพักที่โรงบาลถึงสามวันสามคืน ระหว่างนั้นเราก็ไลน์ และโทรหากันตลอดเหมือนทุกครั้ง
จนคืนที่สามแฟนผมเธอบอกว่าถ้าเธอยังคุยกับทอมคนนั้นตอนนี้ก็คงมีคนมาเฝ้าเธอที่โรงบาลเธอคงไม่ได้อยู่คนเดียวแบบนี้ ทำให้ผมโมโหแล้วถามว่า "ยังแอบคุยกันอยู่ใช่ไหม?" เธอก็เริ่มพาลใส่ผมอีกครั้งแล้วก็ปิดเครื่องไปเลย ผมถึงได้รู้สาเหตุที่เธอเข้าโรงบาลเพราะความเครียด ไม่ใช่ว่าเธอกำลังป่วยเลย เธอเครียดที่ต้องเลือกระหว่างผมกับทอมคนนั้นเองจนร่างกายไม่ไหว
วันที่ 23 มิ.ย. ผมเดินทางกลับหอ ส่วนแฟนผมเธอขอออกโรงบาล เรามาเจอกันแต่เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยครับ เธอบอกให้ผมออกไปจากชีวิตเธอ แล้วเธอก็โทรหาทอมคนนั้น พร้อมกับแต่งตัวออกไปหากันและหายไปเลยทั้งคืน
วันที่ 24 มิ.ย. เธอกลับมาที่ห้องผมก็ถามเธอไปว่าตกลงเราจะคบกันแบบนี้ใช่ไหม จะมีกันสามคนแบบนี้ใช่ไหม เธอตอบว่า ยังรักผม ยังอยากให้ผมอยู่กับเธอ แต่เธอขอเวลาพิสูจน์อะไรบางอย่างเกี่ยวกับทอมคนนี้ เพราะเธอก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับทอมคนนี้ แต่ช่วงนี้ขอให้ผมอย่าโทร อย่าส่งอะไรไปตอนที่เธออยู่ด้วยกัน บอกผมว่าห้ามคิดมาก ให้ผมเลิกนั่งเศร้าแล้วกินข้าวเหมือนเดิม แล้วเธอจะกลับมาเป็นคนเดิม แต่เธอก็แชทไลน์ คุยโทรศัพท์กับทอมคนนั้นทั้งๆที่ผมอยู่ข้างๆเธอ ผมต้องเงียบ ต้องทนฟังเธอหยอกล้อกันเหมือนไม่ได้มีผมอยู่ตรงนี้เลย ผมก็ไม่รู้ว่าผมทนได้ยังไง ตกเย็นเธอก็บอกผมว่า คืนนี้จะไปเที่ยวกับทอม แล้วก็จะนอนที่นู่นเลยไม่ต้องรอนะ อืม...ไปเหมือนเดิมครับ ไปเที่ยวกับทอมคนนี้นี่แหละ ส่วนผมก็อยู่ที่ห้องนั่งทำหน้าเศร้าเหมือนเดิม
วันที่ 25 มิ.ย. เธอกลับมาหอ บอกผมว่าให้ผมรอนะวันนี้จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เธอขอยืมเงินผมพันนึงเพื่อเป็นค่าเดินทาง ผมเลยถามว่าจะกลับยังไง เธอตอบมาแบบผมสะอึกเลยครับ ว่าทอมคนนั้นขอไปส่งที่บ้าน แล้วเธอก็ออกไปเลย จนเย็นก็ไม่กลับมา จนผมได้รู้ว่าเธอนอนค้างคืนที่บ้านกับทอมคนนั้นโดยที่พ่อแม่เธอก็รู้เห็นเป็นใจทุกอย่าง (เออ ลืมบอกไปครับ ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. พ่อกับแม่เธอลบผมออกจากไลน์ และไม่โทรมาเลยทั้งๆที่ปกติท่านจะโทรหาผมทุกอาทิตย์)
วันจันทร์ที่ผ่านมาเธอกลับมาเกือบเย็นมาอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงาน เธอก็คุยกับผมปกติ ชวนผมออกไปทานข้าวด้วยก่อนเธอจะไปทำงาน
วันอังคารเธอเลิกงานกลับมานอนที่หอกับผม เธอให้ผมไปรับที่เดิมเวลาเธอนั่งรถบริษัทกลับมา เธอชวนผมไปหาซื้อของกินแล้วก็พูดแบบเดิมว่าเป็นห่วงผม ไม่อยากให้ผมคิดมาก ขอเวลาผมอีกหน่อยนะ
เช้าวันนี้เธอกลับเข้าห้องครับ แต่เธอดูอารมณ์เสียมาก เธอซื้อของกินมาให้ผม เธอนั่งทำกับข้าว ซักผ้าให้ผม แต่พอ 8:30 น. เธอก็ถือกุญแจรถสวมเสื้อแขนยาว แล้วบอกกับผมว่าวันนี้ทานข้าวด้วย แล้วเดินออกจากห้องไป ซึ่งผมก็รู้ว่าเธอไปไหน
ตลอดเวลาที่คบกันมา ผมยอมรับว่าผมก็ทำไม่ดีกับเธอมาเยอะ แต่ผมรักเธอมากนะครับ ผมถึงเชื่อที่เธอบอกผมทุกอย่างในตอนนี้ ทั้งๆที่เธอกำลังทำเหมือนกับผมไม่มีตัวตนอยู่เลย เธออยู่กับผมแต่บอกพ่อแม่ว่าอยู่คนเดียว เธอคุยกับอีกคน แต่ก็ยังห่วงผม ยังดีกับผมทุกอย่าง เธอจะอยู่ เธอจะไปผมไม่มีสิทธิ์พูดมีสิทธิ์ห้ามอะไรเลย คือผมต้องนั่งเงียบๆ นั่งดูว่าเธอกำลังจะทำอะไร เธอจะดี หรือเธอจะร้ายใส่ผมมาเกือบสองอาทิตย์ จนผมจากที่เป็นคนร่าเริงกลายเป็นคนไม่สุงสิงกับใครไปเลย
ผมควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีครับ ผมควรหยุดคิดมาก ทำตัวปกติแล้วอยู่ต่อเพื่อให้เธอกลับมาอย่างที่เธอบอกผม หรือผมควรออกไปจากชีวิตที่มีกันสามคนแบบนี้ได้แล้ว
ใครเคยเจอแบบผมบ้างขอให้ผมได้คุยด้วยในเวลาที่ผมอ่อนแอแบบนี้ด้วยนะครับ ผมสับสนจริงๆ
เมื่อแฟนนอกใจไปคบและมีอะไรกับทอม และยังอยากคบกับเราต่อ ผมควรทำยังไง?
พอดีช่วงนี้ผมไม่ได้ออกไซต์งานต่างจังหวัด ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม เราเลยมีเวลาอยู่ด้วยกัน ก็ไปรับไปส่งเค้าที่ทำงานตามปกติ ไปเที่ยวกันเวลาหยุดเหมือนคู่รักทั่วไป
แต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เราทะเลาะกันหลายครั้ง สามวันทะเลาะกันทีก็ว่าได้ ถึงขั้นรุนแรงมากเพราะผมไม่พอใจที่เธอไปคุยกับแฟนของน้องที่ทำงานด้วยกันว่าอยากคบทอม ซึ่งวันนั้นเราไปสังสรรค์กันที่บ้านน้องคนนี้ครับ ผมก็เมามากเลยต่อว่าเธอไปอย่างแรง ด้วยความเมาเลยพูดจา-ดันเธอไปว่า "อยากไปก็ไป เก็บข้าวของออกไปหามันเลย" ครับ ผมไล่เธอออกจากห้องเลย ขนเสื้อผ้าเธอไปกองไว้หน้าห้อง หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยพูดกับเธอแบบเช้ามาออกไปทำงาน เย็นไปหาเหล้ากินจนเมาละค่อยกลับหอ แล้วหลังจากวันนั้นเธอก็โทรไปหาพี่ที่ทำงานที่เดียวกับเธอเพื่อขอไปอาศัยอยู่หอของพี่คนนั้น เธอไม่กลับมานอนหอเลยเกือบสามวัน สุดท้ายผมก็ตามไปง้อจนเธอกลับมา เราก็กลับมาอยู่ด้วยกันตามปกติอีกครั้ง
จนมาถึงวันที่ 10 มิ.ย. เธอขอให้แม่ของเธอเอามอเตอร์ไซด์มาส่งให้ใช้ไปทำงาน เพราะช่วงนี้ผมก็เข้าออฟฟิศทุกวัน เวลางานเราไม่ตรงกันเลยลำบากกับการเดินทางครับ (เรามีมอเตอร์ไซด์คันเดียวครับ ปกติผมไม่ค่อยได้อยู่หอผมเลยให้แฟนใช้แทน) ผมก็เลยไม่ได้ไปรับไปส่งเธอเหมือนก่อน แม่กับน้องของเธอดูมีท่าทีเย็นชากับผมมากท่านแทบไม่คุยกับผมเลยตลอดเวลาที่ท่านมาอยู่ในห้องผม และผมสังเกตุว่าแฟนผมเปลี่ยนไป มือถือของเธอเธอจะไม่วางทิ้งไว้เหมือนเดิม เธอจะเอาติดตัวไปด้วยตลอด เธอเริ่มมีเรื่องพิมพ์ในไลน์บ่อยขึ้น เวลาใครโทรมาเธอจะเดินออกไปรับโทรศัพท์นอกห้อง ผมถามเธอทีไรเธอจะตอบว่าเพื่อนทั้งนั้นที่ติดต่อมา และเธอจะดูอารมณ์เสียใส่ผมตลอด (ก่อนหน้านี้ที่เราทะเลาะกัน ทุกครั้งพ่อแม่แฟนผมจะโทรมาต่อว่าผมบ่อยมาก แบบถ้าอยู่กันไม่ได้ก็เลิกกันซะ ประมาณสามครั้งครับที่ผู้ใหญ่พูดแบบนั้น ผมเข้าใจว่าท่านคงทราบจากแฟนผม)
จนวันที่ 13-15 มิ.ย. ผมมีประชุมที่แม่สอด เลยต้องเดินทางไปอยู่ที่นั่นสามวัน ผมเริ่มรู้สึกแปลกกับแฟนมาก ผมโทรไปถามว่าอยู่ไหน เธอจะตอบว่าอยู่กับเพื่อน วันนี้นอนกับเพื่อนไม่เข้าหอ แล้วเธอจะกดวางสายตลอด ไลน์ไปตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีก็ตอบเชิงไล่ผมออกไปจากชีวิตเธอ ต่อว่าผมสารพัด ปิดเครื่องใส่ผมเลยก็มี
แต่อยู่ๆวันที่ 15 มิ.ย. เป็นวันเกิดผมเธอก็โทรมาอวยพรวันเกิดตอนเช้าเลย แต่ก็เหมือนเดิมครับตอนเย็นเธอก็ตัดสายบ้าง ปิดเครื่องใส่บ้าง ต่อว่าผมอีกเหมือนเดิม
วันที่ 16 มิ.ย. ผมเดินทางกลับ เธอก็โทรมาบอกวันนี้มีเซอร์ไพรซ์ผม พอผมมาถึงหอเธอก็พาผมไปร้านเหล้าร้านนึงและจัดเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังให้ผม เราก็อยู่กันสองคนเหมือนทุกครั้งครับ ผมก็คิดว่าเธอคงหายงอนผมแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร
วันที่ 17 มิ.ย. ผมไปบ้านน้องที่ทำงานด้วยกันอีกครั้ง ก็ดื่มกันสักพัก แฟนผมก็ขอตัวไปงานเลี้ยงกับเพื่อน ผมขอไปด้วยเธอก็ปัดแบบเลี่ยงๆว่าเป็นงานของบริษัทไปไม่ได้ เลิกงานแล้วจะกลับมา ผมเลยให้เธอไป แต่พอเที่ยงคืนเธอไม่กลับผมเลยโทรไป ปรากฎว่าเธอเป็นแบบเมื่ออาทิตย์ก่อนอีกแล้ว ผมถามอะไรไม่ตอบ ด่าว่าผม พูดจาประชดประชันเหมือนเดิม แล้วก็ตัดสายทิ้งไป
ผมเลยเข้าเฟสเธอครับ คราวนี้ผมเลยได้รู้ว่าเธอกำลังแอบคบกับทอมตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. ในข้อความที่แชทกัน เธอพูดว่าเลิกกับผมแล้ว ไล่ผมออกหอแล้ว และจะย้ายหอไปอยู่ด้วยกันกับทอมคนนี้ เธอรับปากทอมว่าจะลบรูปผมออกจากเฟสเธอให้หมด จะบล็อกผมทุกทางเพื่อให้ทอมคนนี้สบายใจ และเธอก็ทำจริงๆครับ คือทุกคำพูดที่ได้อ่านมันจุกอย่างบอกไม่ถูกครับ
ผมเลยแคปทุกข้อความที่เค้าพูดกันไว้ แล้วผมก็ส่งข้อความไปหาทอมคนนี้ว่าทำไมแอบมาคบกันทั้งๆที่ผมยังอยู่ ทอมมันก็ตีโพยตีพายว่าแฟนผมไปหลอกมันว่าผมเลิกกันแล้ว จนถึงหกโมงกว่าแฟนผมเธอก็กลับมาที่หอ แล้วมาอาละวาดใส่ผม ว่าผมทำให้เธอกับทอมคนนั้นต้องมีปัญหากันทำไม เธอว่าผมไปต่อว่าทอมคนนั้นทำไม ห้ามผมไปทำอะไรทอมคนนั้นเด็ดขาด ผมนี่น้ำตาไหลเลยครับ ก็นั่งถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป แฟนผมเธอก็บอกผมทั้งน้ำตาว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวมาตลอด นานๆทีถึงจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน เธอเหงาที่บางครั้งผมทำงานจนไม่มีเวลาคุยกับเธอ เธอเลยต้องหาใครที่คุยกับเธอได้ เธอบอกว่าผมเป็นคนที่ทำให้เธอกลัวผู้ชายไปแล้ว พ่อแม่ของเธอบอกให้เธอเลิกกับผมซะ ห้ามผมไปบ้านเธออีก ผมนั่งฟังเธอพูดต่อว่าๆผมไม่ดีสารพัดทั้งน้ำตา ผมอ้อนวอนให้เธออยู่กับผมแล้วเลิกทำแบบนี้ซะ จนเธอเลิกโวยวายแล้วบอกว่าเธอยังรักผมอยู่และจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เธอจะกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิมแล้ว
วันที่ 19-23 ผมได้ไปทำโปรเจคท์ๆนึงที่ อ.ฝาง ก่อนไปทำงานเธอไม่สบายผมก็เลยพาเธอไปโรงบาลก่อน เราก็คุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ จนมาถึงตอนเย็นเธอมีอาการปวดหัวหนักมาก จนได้นอนพักที่โรงบาลถึงสามวันสามคืน ระหว่างนั้นเราก็ไลน์ และโทรหากันตลอดเหมือนทุกครั้ง
จนคืนที่สามแฟนผมเธอบอกว่าถ้าเธอยังคุยกับทอมคนนั้นตอนนี้ก็คงมีคนมาเฝ้าเธอที่โรงบาลเธอคงไม่ได้อยู่คนเดียวแบบนี้ ทำให้ผมโมโหแล้วถามว่า "ยังแอบคุยกันอยู่ใช่ไหม?" เธอก็เริ่มพาลใส่ผมอีกครั้งแล้วก็ปิดเครื่องไปเลย ผมถึงได้รู้สาเหตุที่เธอเข้าโรงบาลเพราะความเครียด ไม่ใช่ว่าเธอกำลังป่วยเลย เธอเครียดที่ต้องเลือกระหว่างผมกับทอมคนนั้นเองจนร่างกายไม่ไหว
วันที่ 23 มิ.ย. ผมเดินทางกลับหอ ส่วนแฟนผมเธอขอออกโรงบาล เรามาเจอกันแต่เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยครับ เธอบอกให้ผมออกไปจากชีวิตเธอ แล้วเธอก็โทรหาทอมคนนั้น พร้อมกับแต่งตัวออกไปหากันและหายไปเลยทั้งคืน
วันที่ 24 มิ.ย. เธอกลับมาที่ห้องผมก็ถามเธอไปว่าตกลงเราจะคบกันแบบนี้ใช่ไหม จะมีกันสามคนแบบนี้ใช่ไหม เธอตอบว่า ยังรักผม ยังอยากให้ผมอยู่กับเธอ แต่เธอขอเวลาพิสูจน์อะไรบางอย่างเกี่ยวกับทอมคนนี้ เพราะเธอก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับทอมคนนี้ แต่ช่วงนี้ขอให้ผมอย่าโทร อย่าส่งอะไรไปตอนที่เธออยู่ด้วยกัน บอกผมว่าห้ามคิดมาก ให้ผมเลิกนั่งเศร้าแล้วกินข้าวเหมือนเดิม แล้วเธอจะกลับมาเป็นคนเดิม แต่เธอก็แชทไลน์ คุยโทรศัพท์กับทอมคนนั้นทั้งๆที่ผมอยู่ข้างๆเธอ ผมต้องเงียบ ต้องทนฟังเธอหยอกล้อกันเหมือนไม่ได้มีผมอยู่ตรงนี้เลย ผมก็ไม่รู้ว่าผมทนได้ยังไง ตกเย็นเธอก็บอกผมว่า คืนนี้จะไปเที่ยวกับทอม แล้วก็จะนอนที่นู่นเลยไม่ต้องรอนะ อืม...ไปเหมือนเดิมครับ ไปเที่ยวกับทอมคนนี้นี่แหละ ส่วนผมก็อยู่ที่ห้องนั่งทำหน้าเศร้าเหมือนเดิม
วันที่ 25 มิ.ย. เธอกลับมาหอ บอกผมว่าให้ผมรอนะวันนี้จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เธอขอยืมเงินผมพันนึงเพื่อเป็นค่าเดินทาง ผมเลยถามว่าจะกลับยังไง เธอตอบมาแบบผมสะอึกเลยครับ ว่าทอมคนนั้นขอไปส่งที่บ้าน แล้วเธอก็ออกไปเลย จนเย็นก็ไม่กลับมา จนผมได้รู้ว่าเธอนอนค้างคืนที่บ้านกับทอมคนนั้นโดยที่พ่อแม่เธอก็รู้เห็นเป็นใจทุกอย่าง (เออ ลืมบอกไปครับ ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. พ่อกับแม่เธอลบผมออกจากไลน์ และไม่โทรมาเลยทั้งๆที่ปกติท่านจะโทรหาผมทุกอาทิตย์)
วันจันทร์ที่ผ่านมาเธอกลับมาเกือบเย็นมาอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงาน เธอก็คุยกับผมปกติ ชวนผมออกไปทานข้าวด้วยก่อนเธอจะไปทำงาน
วันอังคารเธอเลิกงานกลับมานอนที่หอกับผม เธอให้ผมไปรับที่เดิมเวลาเธอนั่งรถบริษัทกลับมา เธอชวนผมไปหาซื้อของกินแล้วก็พูดแบบเดิมว่าเป็นห่วงผม ไม่อยากให้ผมคิดมาก ขอเวลาผมอีกหน่อยนะ
เช้าวันนี้เธอกลับเข้าห้องครับ แต่เธอดูอารมณ์เสียมาก เธอซื้อของกินมาให้ผม เธอนั่งทำกับข้าว ซักผ้าให้ผม แต่พอ 8:30 น. เธอก็ถือกุญแจรถสวมเสื้อแขนยาว แล้วบอกกับผมว่าวันนี้ทานข้าวด้วย แล้วเดินออกจากห้องไป ซึ่งผมก็รู้ว่าเธอไปไหน
ตลอดเวลาที่คบกันมา ผมยอมรับว่าผมก็ทำไม่ดีกับเธอมาเยอะ แต่ผมรักเธอมากนะครับ ผมถึงเชื่อที่เธอบอกผมทุกอย่างในตอนนี้ ทั้งๆที่เธอกำลังทำเหมือนกับผมไม่มีตัวตนอยู่เลย เธออยู่กับผมแต่บอกพ่อแม่ว่าอยู่คนเดียว เธอคุยกับอีกคน แต่ก็ยังห่วงผม ยังดีกับผมทุกอย่าง เธอจะอยู่ เธอจะไปผมไม่มีสิทธิ์พูดมีสิทธิ์ห้ามอะไรเลย คือผมต้องนั่งเงียบๆ นั่งดูว่าเธอกำลังจะทำอะไร เธอจะดี หรือเธอจะร้ายใส่ผมมาเกือบสองอาทิตย์ จนผมจากที่เป็นคนร่าเริงกลายเป็นคนไม่สุงสิงกับใครไปเลย
ผมควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีครับ ผมควรหยุดคิดมาก ทำตัวปกติแล้วอยู่ต่อเพื่อให้เธอกลับมาอย่างที่เธอบอกผม หรือผมควรออกไปจากชีวิตที่มีกันสามคนแบบนี้ได้แล้ว
ใครเคยเจอแบบผมบ้างขอให้ผมได้คุยด้วยในเวลาที่ผมอ่อนแอแบบนี้ด้วยนะครับ ผมสับสนจริงๆ