สวัสดีเพื่อนๆ ชาว pantip ห้องบลูแพลนเน็ต ห่างหายไปนานถึง 2 ปี ไม่มีเวลามารีวิวเลยแต่ยังคงเที่ยวเรื่อยๆ นะคะ อิอิ ถ้ามีเวลาจะพยายามมาอัพเดทเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่มีแผนกำลังจะเดินทางกันอยู่ อ่ะๆ เกริ่นมานานละ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ในกระทู้นี้จะมารีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก!!! และนอกจากจะเป็นครั้งแรกแล้ว ยังเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของ จขกท และสะมี ^^ อีกด้วย (เที่ยวแต่ในประเทศ T_T) สำหรับประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่หลายคนใฝ่ฝัน จขกท ก็เช่นกัน จึงได้มีการวางแผนล่วงหน้ายาวนาน เก็บข้อมูลจากเพื่อนๆ ในพันทิปนี่ล่ะ จากหัวข้ออย่างที่บอก วางแผนนานมากกกกกกกกกกกก ข้อมูลแน่นมากกกกกกกกกกกกกกก รายละเอียดแผนที่วางไว้ตามนี้เลยจ๊ะ
29 มี.ค.60
- 9.00 น. ถึงสนามบินนาริตะ
- ออกจากสนามบินเดินทางเข้าที่พักฝากกระเป๋า
- เที่ยววัด Asakusa
- ถ่ายรูป Tokyo Sky Tree
- ตึก Yodobashi (ดูกล้อง)
- กินอาหารเย็น ทะเลเผา ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น Isomaru suisan Otsuka Kitaguchi-Shop ใกล้ที่พัก
- เดินกลับที่พัก นอน!!
30 มี.ค.60
- นั่งรถบัสไป Kawaguchiko ชมความงามฟูจิซัง
- ซื้อตั๋วนั่งรถบัสเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบ Kawaguchiko
- นอนค้าง 1 คืน
31 มี.ค.60
- นั่งรถไฟไป Chureito Pagoda (เจดีย์แดง 5 ชั้น)
- 5 แยกชิบูย่า และ สุนัขฮาจิโกะ
- ช๊อปปิ้ง & อาหารเย็น ย่านชิบูย่า
- กลับที่พัก นอน!!
1 เม.ย.60
- พระราชวังอิมพีเรียล
- ศาลเจ้าเมจิ
- เมืองโอไดบะ
2 เม.ย.60
- ถ่ายรูปซากุระ สวน Ueno
- เดินเที่ยว ซื้อของฝาก ตลาด Ameyoko
แต่ช้าก่อน...ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว แผนที่วางไว้ พังพินาศ จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเที่ยวกันเลยจ้า
29 มี.ค.60
เวลาประมาณ 9 โมงเช้า เครื่องบินเที่ยว TZ292 สายการบินนกน้อย Scoot ก็พาเรา 2 คน ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ลงจอดที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในตอนนั้นตื่นเต้นมาก ว้าวุ่นมากมายหลายสิ่ง ด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงเลย ของเราทั้งคู่ ว่าเราจะรอดกันมั้ยนะทริปนี้ แผนที่วางไว้จะเป็นยังไง
ในส่วนของการเขียนใบ ตม.เข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น เราคงจะไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว เพราะมีหลายๆ กระทู้ที่ละเอียดมากๆ ได้เขียนไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้น ณ จุดๆ นี้ จขกท ขอข้ามไปเลยแล้วกัน ส่วนการผ่าน ตม. ของ จขกท นั้นก็ไม่มีอะไรมาก เค้าก็ถามว่ามากัน 2 คนหรอ มาจากที่ไหน แค่นี้เลย ก็ปล่อยผ่าน……พอผ่าน ตม. มาเรียบร้อย จขกท ก็เดินตามรีวิวที่เคยอ่านๆ มาเลยจ้า ตามรูปรถไฟไป เพื่อนั่งรถไฟเข้าเมือง การเดินทางครั้งนี้ จขกท เลือกใช้บริการของ KEISEI Skyliner ที่เป็นเคาท์เตอร์สีน้ำเงินนั่นเอง ไปซื้อตั๋ว 2 ที่นั่ง เพื่อไปลงที่สถานี Nippori
ได้ตั๋วมาล๊าวววว ไปกันเล้ยยยยย
บรรยากาศในรถก็ประมาณนี้ค่ะ
ตามแผนของเราเราจะเอากระเป๋าไปเก็บที่ที่พักก่อน แล้วค่อยออกมาเที่ยว ซึ่งที่พักอยู่แถวสถานี Otsuka ที่เป็นสาย JR Yamanote Line นั่นเอง เราก็จะนั่ง KEISEI Skyliner ไปลงสถานี Nippori และต่อด้วย JR Yamanote Lineไปยังสถานี Otsuka หลังจากต่อรถไฟมา 2 ต่อแล้ว ก็ถึงสถานี Otsuka แล้ว โรงแรมที่ จขกท พัก ชื่อ Toyoko Inn Tokyo Yamanote-sen Otsuka-eki Kita-guchi No.2 โดยออกทางออก North Exit แล้วก็งงๆ แปบนึง ไปทางไหนต่อทีนี้ ก็เปิด Google Maps เดินไป ไม่ยากเลย แปบเดียวก็ถึงล้าววววววววววว ถือว่าเดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ดีงามข่ะ จขกท พักที่นี่ 3 คืน คือ คืนแรก 29 มี.ค.60 , 31 มี.ค.60 และ 1 มี.ค.60 ในส่วนของคืนที่ 2 (30 มี.ค.60) เราไปค้างกันที่ฟูจิ 1 คืน พอเราจ่ายเงินค่าที่พักเรียบร้อยทั้งหมด 3 คืน ราคารวมอยู่ที่ 26,271 เยน (8,144 บาท) ยังไม่สามารถเข้าที่พักได้ เราก็ฝากกระเป๋าเดินทางเค้าไว้ก่อน เพื่อไปเที่ยวก่อน เด๋วค่อยกลับมาตอนมืดๆ
ในส่วนของที่พักโรงแรม Toyoko Inn Tokyo Yamanote-sen Otsuka-eki Kita-guchi No.2 ก็ตามรูปเลยจ้า (รกไปหน่อย ขอภัย)
หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อย เป้าหมายแรก เที่ยววัด Asakusa บรรยากาศในวัดก็ตามภาพเลยค่ะ คนจะแน่นไปไหน แต่ก็ยังพอมีวิวสวยๆ ได้เก็บภาพมาบ้าง ^^
หลังจากเดินเก็บภาพกันชุ่มฉ่ำแล้วในวัด เราก็เดินออกมาทางเดิมค่ะ เพื่อไปเก็บภาพ Tokyo Sky Tree กันตามแผนนั้น จริงๆ แล้วเราต้องนั่งรถไฟไปดูใกล้ๆ นะ แต่ทว่า ดูจากเวลาแล้ว สงสัยจะไม่ทันการ เอาแค่พอเห็นไกลๆ แล้วกันเนาะ >.<
ต่อๆๆๆ ตามแผนเดิมความจริงเราต้องไปตึก Yodobashi (ดูกล้อง) แต่คิดไปคิดมา เปลี่ยนใจกะทันหันไปเมืองโอไดบะ ที่อยู่วันที่ 3 ก่อนดีกว่า จากการพิจารณาการขึ้นรถไฟ จะได้ไม่ย้อนไปย้อนมา พอมาถึงเมืองโอไดบะนั้น ก็ใกล้จะมืดเต็มทีแระ เวลาประมาณ 5 โมงเย็นเอง และอากาศหนาวมากๆ จริงๆ แล้วที่นี่ตามรีวิวที่ จขกท เคยอ่านๆ มา ที่สวยๆ ทั้งนั้นเลย แต่ๆๆๆ เดินไม่ไหวแล้วจริงๆ มันหนาวมากๆ และเสื้อกันหนาวที่มีก็ช่างบางเสียเหลือเกิน คือแบบว่าไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ ดูอากาศมา บอกว่า 10 องศา ขึ้นไป ก็คิดว่าคงเย็นๆ ชิวๆ เนาะแต่เอาเข้าจริง ลมพัดตึ้งงงงงงงง สะท้านไปถึงทรวงใน ความตั้งใจที่จะมาเมืองนี้ก็อยากจะมาหา กันดั้มยักษ์ ห้าง DiverCity Tokyo Plaza แต่...มันไม่อยู่แล้ว จริงๆ ก่อนมาก็ได้ข่าวมาแล้วว่าเค้าจะยกเลิกแล้ว ก็เลยมาเจอห้าง ห้าง DiverCity Tokyo Plaza ในวันที่กันดั้มยักษ์ไม่อยู่แล้ว T_T
สุดท้ายท้ายสุดของวันแรก เรานั่งรถไฟกลับมาที่พัก และกินอาหารเย็น ทะเลเผา ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น ชื่อร้าน Isomaru suisan Otsuka Kitaguchi-Shop เปิด 24 ชม.!!! ดูเอาแล้วกัน ใกล้ที่พักขนาดไหน
ในการกินปิ้งย่างในครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก จขกท และคุณสา ก็สั่งทุกเมนูเลยจ้า หอยสั่งมาทุกหอย มันปูสั่งมาหลายตัวเลย ฟินมากๆ กินคู่กับเบียร์สด และเหล้า ที่มี ทุกเมนูเลยจ้า 555+
เอาล่ะ อิ่มหนำสำราญกันแล้ว สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...
30 มี.ค.60
ตามแผนของเราในวันนี้ เราจะนั่งรถบัสไปชมความงามของฟูจิซัง ที่ใฝ่ฝันที่ทะเลสาบ Kawaguchiko และนอนค้างที่นี่ 1 คืน จขกท ได้จองที่พักผ่าน booking.com ไว้แล้วสำหรับการจองรถบัสไปทะเลสาบนั้น สามารถจองล่วงหน้าผ่านเวปได้ ซึ่ง จขกท ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี อ่านหลายรีวิวมากๆ ขั้นตอนการจองก็นี่เลยค่ะ
http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/highway-bus-shinjuku-kawaguchiko.htmlแต่ถึงกระนั้นแล้ว จขกท ก็ยังไม่ได้จองล่วงหน้ามา 555 เนื่องจากช้าเกินไป เราต้องจองรอบที่เช้าที่สุดเพื่อไปถึงทะเลสาบให้เร็วที่สุด จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ แต่ จขกท ดันเปิดเวปจอง ก่อนวันเดินทาง เพียง 4 วัน รอบรถบัสที่เราจะจองนั้นนนนนนน มีแต่รอบบ่ายจ้า วั้ยต่ายแล้ววววววววววเพราะเหตุนั้น จขกท จึงไม่ได้วางแผนต่อ ว่าจะไปอย่างไรดี รู้แต่ว่า ถ้าจองรถบัสไม่ได้ ก็ต้องรถไฟแล้วล่ะ แต่ๆๆๆ ดูนี่สิคะ คุณผู้ชมมมม ดูค่ารถไฟ ต่อคน!!! จากที่พักไป เบ็ดเสร็จรวมแล้ว คนละ 2,630 เยน ไปกลับก็ 5 พันกว่าเยนต่อคนแล้ว 2 คน ก็เป็นหมื่นเยนนนน ด้วยความงก ประกอบกับ จขกท ก็มีปรึกษาเพื่อนไว้บ้าง เพื่อนก็แนะนำให้ซื้อ JR Pass ไปเลย แบบ 3 วัน
ซึ่งหน้าตาจากที่หาข้อมูลมาก็ประมาณนี้เลย JR TOKYO Wide Pass
แต่ๆๆๆ ไอ้เจ้า JR TOKYO Wide Pass มันหาซื้อได้ที่ไหนล่ะ งงแปป จขกท รู้แต่ว่า ต้องไปเริ่มต้นที่สถานี SHINJUKU แต่จากการอ่านรีวิวมานั้นนน เป็นสถานีที่ใหญ่มากหลงค่ะ ต้องหลงแน่ๆ หลงอย่างเดียวไม่ว่า ต้องลากกระเป๋าเดินทาง 29 นิ้ว เดินไปเดินมาอยู่สถานีนี้นานเกือบ 3 ชม. 555+ เนื่องจากที่พักที่ จขกท พักคืนแรก และจะกลับไปพักอีก 2 คืนนั้น เค้าไม่รับฝากกระเป๋า เพราะพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงต้องลากของทั้งหมดไปด้วย ซึ่งตอนแรกก็กะว่าจะฝากไว้ในตู้ตามสถานี แต่พอเจอสถานี SHINJUKU แล้ว คาดว่า ถ้ากลับมาหากระเป๋าตัวเองไม่เจอแน่ๆ เอาวะ ลากไปด้วยถึง Kawaguchiko แม่มเลยยยย แต่คนที่น่าสงสารคือคนลาก ซึ่งก็คือคุณสา นั่นเองงงงงงง
[CR] รีวิว เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก!!! แผนที่วางไว้พังไม่เป็นท่า คิดสดๆ วันต่อวัน รวดเดียวจบ...
สวัสดีเพื่อนๆ ชาว pantip ห้องบลูแพลนเน็ต ห่างหายไปนานถึง 2 ปี ไม่มีเวลามารีวิวเลยแต่ยังคงเที่ยวเรื่อยๆ นะคะ อิอิ ถ้ามีเวลาจะพยายามมาอัพเดทเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่มีแผนกำลังจะเดินทางกันอยู่ อ่ะๆ เกริ่นมานานละ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ในกระทู้นี้จะมารีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก!!! และนอกจากจะเป็นครั้งแรกแล้ว ยังเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของ จขกท และสะมี ^^ อีกด้วย (เที่ยวแต่ในประเทศ T_T) สำหรับประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่หลายคนใฝ่ฝัน จขกท ก็เช่นกัน จึงได้มีการวางแผนล่วงหน้ายาวนาน เก็บข้อมูลจากเพื่อนๆ ในพันทิปนี่ล่ะ จากหัวข้ออย่างที่บอก วางแผนนานมากกกกกกกกกกกก ข้อมูลแน่นมากกกกกกกกกกกกกกก รายละเอียดแผนที่วางไว้ตามนี้เลยจ๊ะ
29 มี.ค.60
- 9.00 น. ถึงสนามบินนาริตะ
- ออกจากสนามบินเดินทางเข้าที่พักฝากกระเป๋า
- เที่ยววัด Asakusa
- ถ่ายรูป Tokyo Sky Tree
- ตึก Yodobashi (ดูกล้อง)
- กินอาหารเย็น ทะเลเผา ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น Isomaru suisan Otsuka Kitaguchi-Shop ใกล้ที่พัก
- เดินกลับที่พัก นอน!!
30 มี.ค.60
- นั่งรถบัสไป Kawaguchiko ชมความงามฟูจิซัง
- ซื้อตั๋วนั่งรถบัสเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบ Kawaguchiko
- นอนค้าง 1 คืน
31 มี.ค.60
- นั่งรถไฟไป Chureito Pagoda (เจดีย์แดง 5 ชั้น)
- 5 แยกชิบูย่า และ สุนัขฮาจิโกะ
- ช๊อปปิ้ง & อาหารเย็น ย่านชิบูย่า
- กลับที่พัก นอน!!
1 เม.ย.60
- พระราชวังอิมพีเรียล
- ศาลเจ้าเมจิ
- เมืองโอไดบะ
2 เม.ย.60
- ถ่ายรูปซากุระ สวน Ueno
- เดินเที่ยว ซื้อของฝาก ตลาด Ameyoko
แต่ช้าก่อน...ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว แผนที่วางไว้ พังพินาศ จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเที่ยวกันเลยจ้า
29 มี.ค.60
เวลาประมาณ 9 โมงเช้า เครื่องบินเที่ยว TZ292 สายการบินนกน้อย Scoot ก็พาเรา 2 คน ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ลงจอดที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในตอนนั้นตื่นเต้นมาก ว้าวุ่นมากมายหลายสิ่ง ด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงเลย ของเราทั้งคู่ ว่าเราจะรอดกันมั้ยนะทริปนี้ แผนที่วางไว้จะเป็นยังไง
ในส่วนของการเขียนใบ ตม.เข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น เราคงจะไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว เพราะมีหลายๆ กระทู้ที่ละเอียดมากๆ ได้เขียนไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้น ณ จุดๆ นี้ จขกท ขอข้ามไปเลยแล้วกัน ส่วนการผ่าน ตม. ของ จขกท นั้นก็ไม่มีอะไรมาก เค้าก็ถามว่ามากัน 2 คนหรอ มาจากที่ไหน แค่นี้เลย ก็ปล่อยผ่าน……พอผ่าน ตม. มาเรียบร้อย จขกท ก็เดินตามรีวิวที่เคยอ่านๆ มาเลยจ้า ตามรูปรถไฟไป เพื่อนั่งรถไฟเข้าเมือง การเดินทางครั้งนี้ จขกท เลือกใช้บริการของ KEISEI Skyliner ที่เป็นเคาท์เตอร์สีน้ำเงินนั่นเอง ไปซื้อตั๋ว 2 ที่นั่ง เพื่อไปลงที่สถานี Nippori
ได้ตั๋วมาล๊าวววว ไปกันเล้ยยยยย
บรรยากาศในรถก็ประมาณนี้ค่ะ
ตามแผนของเราเราจะเอากระเป๋าไปเก็บที่ที่พักก่อน แล้วค่อยออกมาเที่ยว ซึ่งที่พักอยู่แถวสถานี Otsuka ที่เป็นสาย JR Yamanote Line นั่นเอง เราก็จะนั่ง KEISEI Skyliner ไปลงสถานี Nippori และต่อด้วย JR Yamanote Lineไปยังสถานี Otsuka หลังจากต่อรถไฟมา 2 ต่อแล้ว ก็ถึงสถานี Otsuka แล้ว โรงแรมที่ จขกท พัก ชื่อ Toyoko Inn Tokyo Yamanote-sen Otsuka-eki Kita-guchi No.2 โดยออกทางออก North Exit แล้วก็งงๆ แปบนึง ไปทางไหนต่อทีนี้ ก็เปิด Google Maps เดินไป ไม่ยากเลย แปบเดียวก็ถึงล้าววววววววววว ถือว่าเดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ดีงามข่ะ จขกท พักที่นี่ 3 คืน คือ คืนแรก 29 มี.ค.60 , 31 มี.ค.60 และ 1 มี.ค.60 ในส่วนของคืนที่ 2 (30 มี.ค.60) เราไปค้างกันที่ฟูจิ 1 คืน พอเราจ่ายเงินค่าที่พักเรียบร้อยทั้งหมด 3 คืน ราคารวมอยู่ที่ 26,271 เยน (8,144 บาท) ยังไม่สามารถเข้าที่พักได้ เราก็ฝากกระเป๋าเดินทางเค้าไว้ก่อน เพื่อไปเที่ยวก่อน เด๋วค่อยกลับมาตอนมืดๆ
ในส่วนของที่พักโรงแรม Toyoko Inn Tokyo Yamanote-sen Otsuka-eki Kita-guchi No.2 ก็ตามรูปเลยจ้า (รกไปหน่อย ขอภัย)
หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อย เป้าหมายแรก เที่ยววัด Asakusa บรรยากาศในวัดก็ตามภาพเลยค่ะ คนจะแน่นไปไหน แต่ก็ยังพอมีวิวสวยๆ ได้เก็บภาพมาบ้าง ^^
หลังจากเดินเก็บภาพกันชุ่มฉ่ำแล้วในวัด เราก็เดินออกมาทางเดิมค่ะ เพื่อไปเก็บภาพ Tokyo Sky Tree กันตามแผนนั้น จริงๆ แล้วเราต้องนั่งรถไฟไปดูใกล้ๆ นะ แต่ทว่า ดูจากเวลาแล้ว สงสัยจะไม่ทันการ เอาแค่พอเห็นไกลๆ แล้วกันเนาะ >.<
ต่อๆๆๆ ตามแผนเดิมความจริงเราต้องไปตึก Yodobashi (ดูกล้อง) แต่คิดไปคิดมา เปลี่ยนใจกะทันหันไปเมืองโอไดบะ ที่อยู่วันที่ 3 ก่อนดีกว่า จากการพิจารณาการขึ้นรถไฟ จะได้ไม่ย้อนไปย้อนมา พอมาถึงเมืองโอไดบะนั้น ก็ใกล้จะมืดเต็มทีแระ เวลาประมาณ 5 โมงเย็นเอง และอากาศหนาวมากๆ จริงๆ แล้วที่นี่ตามรีวิวที่ จขกท เคยอ่านๆ มา ที่สวยๆ ทั้งนั้นเลย แต่ๆๆๆ เดินไม่ไหวแล้วจริงๆ มันหนาวมากๆ และเสื้อกันหนาวที่มีก็ช่างบางเสียเหลือเกิน คือแบบว่าไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ ดูอากาศมา บอกว่า 10 องศา ขึ้นไป ก็คิดว่าคงเย็นๆ ชิวๆ เนาะแต่เอาเข้าจริง ลมพัดตึ้งงงงงงงง สะท้านไปถึงทรวงใน ความตั้งใจที่จะมาเมืองนี้ก็อยากจะมาหา กันดั้มยักษ์ ห้าง DiverCity Tokyo Plaza แต่...มันไม่อยู่แล้ว จริงๆ ก่อนมาก็ได้ข่าวมาแล้วว่าเค้าจะยกเลิกแล้ว ก็เลยมาเจอห้าง ห้าง DiverCity Tokyo Plaza ในวันที่กันดั้มยักษ์ไม่อยู่แล้ว T_T
สุดท้ายท้ายสุดของวันแรก เรานั่งรถไฟกลับมาที่พัก และกินอาหารเย็น ทะเลเผา ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น ชื่อร้าน Isomaru suisan Otsuka Kitaguchi-Shop เปิด 24 ชม.!!! ดูเอาแล้วกัน ใกล้ที่พักขนาดไหน
ในการกินปิ้งย่างในครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก จขกท และคุณสา ก็สั่งทุกเมนูเลยจ้า หอยสั่งมาทุกหอย มันปูสั่งมาหลายตัวเลย ฟินมากๆ กินคู่กับเบียร์สด และเหล้า ที่มี ทุกเมนูเลยจ้า 555+
เอาล่ะ อิ่มหนำสำราญกันแล้ว สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...
30 มี.ค.60
ตามแผนของเราในวันนี้ เราจะนั่งรถบัสไปชมความงามของฟูจิซัง ที่ใฝ่ฝันที่ทะเลสาบ Kawaguchiko และนอนค้างที่นี่ 1 คืน จขกท ได้จองที่พักผ่าน booking.com ไว้แล้วสำหรับการจองรถบัสไปทะเลสาบนั้น สามารถจองล่วงหน้าผ่านเวปได้ ซึ่ง จขกท ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี อ่านหลายรีวิวมากๆ ขั้นตอนการจองก็นี่เลยค่ะ http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/highway-bus-shinjuku-kawaguchiko.htmlแต่ถึงกระนั้นแล้ว จขกท ก็ยังไม่ได้จองล่วงหน้ามา 555 เนื่องจากช้าเกินไป เราต้องจองรอบที่เช้าที่สุดเพื่อไปถึงทะเลสาบให้เร็วที่สุด จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ แต่ จขกท ดันเปิดเวปจอง ก่อนวันเดินทาง เพียง 4 วัน รอบรถบัสที่เราจะจองนั้นนนนนนน มีแต่รอบบ่ายจ้า วั้ยต่ายแล้ววววววววววเพราะเหตุนั้น จขกท จึงไม่ได้วางแผนต่อ ว่าจะไปอย่างไรดี รู้แต่ว่า ถ้าจองรถบัสไม่ได้ ก็ต้องรถไฟแล้วล่ะ แต่ๆๆๆ ดูนี่สิคะ คุณผู้ชมมมม ดูค่ารถไฟ ต่อคน!!! จากที่พักไป เบ็ดเสร็จรวมแล้ว คนละ 2,630 เยน ไปกลับก็ 5 พันกว่าเยนต่อคนแล้ว 2 คน ก็เป็นหมื่นเยนนนน ด้วยความงก ประกอบกับ จขกท ก็มีปรึกษาเพื่อนไว้บ้าง เพื่อนก็แนะนำให้ซื้อ JR Pass ไปเลย แบบ 3 วัน
ซึ่งหน้าตาจากที่หาข้อมูลมาก็ประมาณนี้เลย JR TOKYO Wide Pass
แต่ๆๆๆ ไอ้เจ้า JR TOKYO Wide Pass มันหาซื้อได้ที่ไหนล่ะ งงแปป จขกท รู้แต่ว่า ต้องไปเริ่มต้นที่สถานี SHINJUKU แต่จากการอ่านรีวิวมานั้นนน เป็นสถานีที่ใหญ่มากหลงค่ะ ต้องหลงแน่ๆ หลงอย่างเดียวไม่ว่า ต้องลากกระเป๋าเดินทาง 29 นิ้ว เดินไปเดินมาอยู่สถานีนี้นานเกือบ 3 ชม. 555+ เนื่องจากที่พักที่ จขกท พักคืนแรก และจะกลับไปพักอีก 2 คืนนั้น เค้าไม่รับฝากกระเป๋า เพราะพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงต้องลากของทั้งหมดไปด้วย ซึ่งตอนแรกก็กะว่าจะฝากไว้ในตู้ตามสถานี แต่พอเจอสถานี SHINJUKU แล้ว คาดว่า ถ้ากลับมาหากระเป๋าตัวเองไม่เจอแน่ๆ เอาวะ ลากไปด้วยถึง Kawaguchiko แม่มเลยยยย แต่คนที่น่าสงสารคือคนลาก ซึ่งก็คือคุณสา นั่นเองงงงงงง